โนเอมิเหลือบมองลูกสาวหลังจากสัมผัสได้ถึงการจ้องมองด้วยสายตาอาฆาตแค้นของเธอ“เขาอาจดูสงบนิ่งนะเอลเลน...” เธออธิบายหลังจากหัวเราะออกมาเบา ๆ“แต่ตอนนี้เขาคงเหงื่อแตกพลั่ก ๆ อยู่เลยล่ะ“ฉันพนันได้เลยว่าสถานการณ์นี้ทำให้เขาตะลึงงันไปเลยล่ะ“ปลาซิวปลาสร้อยอย่างเขาทำได้แค่เสแสร้งแกล้งทำเท่านั้นแหละ!”อีเดนพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“ใช่แล้ว! คนเสแสร้งพวกนี้ทำอะไรไม่ได้หรอกนอกจากอวดเบ่งเท่านั้นแหละ!”เอลเลนรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นแต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเดือดดาล โดยแอบหวังว่าเขาจะกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นด้วยความโศกเศร้าในขณะนี้ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าอ้วนกลมและแดงก่ำได้ก้าวออกมาข้างหน้า โดยมีผู้คนนับสิบรายล้อมเขาไว้“สวัสดีครับคุณย่าคอบบ์! ซีอีโอโมเรโน่!“ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในวันครบรอบของคุณ!”ชายวัยกลางคนพยักหน้าเบา ๆ ต่อหน้าคุณย่าคอบบ์เป็นการทักทาย ราวกับว่าแค่การมาถึงของเขานี้ก็ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อตระกูลคอบบ์แล้ว“รองหัวหน้าโอลฟอร์ดเป็นคนที่มีงานยุ่งตลอด! เขาอุตส่าห์กลับมาจากการฮอลิเดย์ที่ประเทศหมู่เกาะ เพื่
"โอ้! เขาไม่ได้มาเพื่อตระกูลคอบบ์หรอกเหรอ?”อัลเลนหรี่ตาลงเล็กน้อย พร้อมกับแสดงความโกรธแค้นออกมาทางแววตาโนเอมิยิ้มก่อนจะกระซิบบอกที่ข้างหูอัลเลนอัลเลนเข้าใจในสถานการณ์ที่เป็นอยู่อย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็มองไปที่ใบหน้าทางด้านข้างของฮาร์วีย์เขารู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้าของฮาร์วีย์เป็นอย่างมาก แต่ก็นึกไม่ออกเพราะเขายืนอยู่ไกลเกินไปอัลเลนแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามในขณะที่หัวเราะอย่างเย็นชา“คนบ้านนอกจากประเทศ H กล้ามาท้าทายตระกูลคอบบ์ถึงถิ่นของเขาได้ยังไง?”อัลเลนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดหลังจากรู้ตัวว่าฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ทำเมินเฉยต่อเขา โดยไม่แสดงความเคารพเขาเลยคุณย่าคอบบ์กระแอมกระไอด้วยสีหน้าเศร้าหมองก่อนจะพูดว่า "รองผู้นำโอลฟอร์ด! ตระกูลของเราโชคร้ายมาก!“ลูกสาวที่เนรคุณของตระกูลเราไม่เพียงแต่ตัดขาดจากเราเท่านั้น แต่เธอยังเลี้ยงดูผู้ชายไว้ต่อสู้กับเราด้วยค่ะ!“ฉันขอโทษที่คุณต้องเห็นภาพอย่างนี้!“เขาขโมยสูตรยาของตระกูลคอบบ์ และผลิตยาปลอมขึ้นมาด้วย! นี่มันช่างไร้ยางอายสิ้นดี!” เอลเลนร้องบอก“หลอดเหลือดสมองของฉันเกือบแตกหลังจากที่เขาทำให้ฉันเดือดดาลเป็นอย่างมาก" โนเอมิพูดด้วยท่าทีเ
ฮาร์วีย์ไม่ได้ให้ความสนใจเลย เขาจิบชาอย่างสงบในขณะที่มองไปที่โนเอมิและคนอื่น ๆ“คุณรู้จักผู้คนมากมายเลยนะซีอีโอโมเรโน่ ช่างน่ากลัวจริง ๆ“คนธรรมดา ๆ ต้องคุกเข่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณแล้วใช่ไหม?“แต่ถึงอย่างนั้นคุณแน่ใจแล้วเหรอว่าจะท้าท้ายผมกับไอ้โง่เง่านั่น?”โนเอมิยิ้มอย่างสงบ“นี่ไม่ใช่การท้าทายนะฮาร์วีย์ นี่คือความยุติธรรม"อัลเลนนึกอะไรบางอย่างได้หลังจากได้ยินชื่อนั้น...แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมากเมื่อเห็นสาวงามที่อยู่ตรงหน้าเขา“แกพูดอะไรของแกเหรอไอ้สารเลว?" อัลเลนพูดด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย หลังจากหัวเราะอย่างเย็นชา“แกเพิ่งเรียกฉันว่าไอ้โง่เง่าเหรอ?“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? แกรู้ไหมว่าฉันทรงอำนาจขนาดไหน?“ฉันสามารถเปลี่ยนร้านสับปะรังเคของแกให้กลายเป็นเศษซากด้วยการออกคำสั่งเพียงคำเดียว!“คุกเข่าแล้วขอโทษเดี๋ยวนี้!“ถ้าไม่อย่างนั้นแกจะไม่มีโอกาสได้ขอโทษอีกแล้วนะ!”ผู้คนหลายสิบคนที่อยู่ด้านหลังอัลเลนต่างก้าวออกมาพร้อมกับบิดคอไปมา หลังจากได้ยินคำขู่ของเขาพวกเขาแสดงท่าทีดุร้ายราวกับว่าพวกเขาสามารถพังทลายร้านนี้ได้ทุกเมื่อฮาร์วีย์ทำเมินเฉยต่ออัลเลนอย่างมากในขณะที่เหลือบมองเอลเลน
คุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ตะลึงงัน!คงเป็นเรื่องยากสำหรับตระกูลคอบบ์ที่จะเสื่อมความนิยมหลังจากนี้!“หัวหน้าสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์มาถึงแล้ว!”“เทรย์ก็อยู่ที่นี่ด้วย!”“เรตต์และกาเอล แพดโลว์ก็อยู่ที่นี่!”“เชส สมิธก็อยู่ที่นี่!”“แม้แต่กอร์ดอน โมเรโน่ซึ่งเป็นตัวแทนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ก็อยู่ที่นี่!”การประกาศชื่อเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคนมีชื่อเสียงเริ่มมาถึงไล่ ๆ กันพวกแขกเหรื่อภายในงานอ้าปากค้างกันทันที พวกเขาไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียวท้ายที่สุดแล้วคนพวกนั้นเป็นตัวแทนของผู้มีอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ในเมืองนี้คนเหล่านี้แม้มาปรากฏตัวเพียงแค่คนเดียวก็สร้างความโกลาหลให้กับผู้คนได้แล้วนอกจากนี้ก็นับเป็นเรื่องที่น่าตกใจด้วยที่พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ เช่นนี้!คนอย่างโนเอมิและอัลเลนก็ไม่สามารถเทียบเทียมกับคนอย่างพวกเขาได้!แม้แต่อัลเลนก็ยังต้องยืดตัวตรงพร้อมกับทำสีหน้าให้ความเคารพ เมื่อได้ยินชื่อคนสำคัญเหล่านี้“คุณแอบทำเซอร์ไพรส์ฉันนะอัลเลน! ใจร้ายจริง ๆ!”หลังจากนิ่งเงียบไปครูหนึ่ง โนเอมิก็เข้าไปกอดแขนอัลเลนเงียบ ๆ
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”อัลเลนระเบิดหัวเราะออกมาหลังจากเห็นทุกคนทำสีหน้าตกใจจากนั้นเขาก็เดินไปหาเชสและคนอื่น ๆ อย่างให้ความเคารพ“ผู้อำนวยการมาถึงแล้ว!”“ผู้นำ! ดีใจที่ได้พบคุณที่นี่!”“ตัวแทนโมเรโน่! ช่างเป็นแขกผู้มีเกียรติจริง ๆ! คืนนี้เราต้องเมากันหน่อยแล้วล่ะ!”อัลเลนก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันนับเป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์จะมาปรากฏตัว แต่กอร์ดอนและเชสต่างก็เป็นบุคคลสำคัญอย่างมาก!ด้วยความที่พวกเขามีตัวตนที่สูงส่งมาก พวกเขาจึงไม่มีวันที่จะไปปรากฏตัวในงานเช่นนี้แต่ถึงกระนั้นอัลเลนก็ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แค่คำชมของโนเอมิก็ทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แล้วเขาก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างอาจหาญเพื่อโอ้อวดว่าได้รู้จักกับคนพวกนั้นผู้ควบคุมฯ ทำสีหน้าแปลก ๆ หลังจากเห็นอัลเลน กอร์ดอนทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา ในขณะที่เทรย์เผยให้รอยยิ้มจาง ๆ...ในทางตรงกันข้ามเชสกลับก้าวเท้าออกไปก่อนจะเหวี่ยงฝ่ามือไปข้างหน้าเพียะ!ได้ยินเสียงตบหน้าดังลั่น!อัลเลนยืนโซซัดโซเซจนเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น หลังจากเอนตัวเข้าไปเหมือนทำท่าจะตบมีรอยฝ่ามือสีแดงสดปรากฏอยู่บนใบหน้า
"เป็นอย่างนี้ได้ยังไง?“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”เอลเลนมีอาการตัวสั่นไปหมดเธอเพิ่งชื่นชมอัลเลนไปเมื่อกี้นี่เอง โดยหวังว่าอีเดนจะดำเนินรอยตามเขา...แต่เพียงประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นอัลเลนก็นอนกองอยู่กับพื้น และถูกโยนไปมาเหมือนกระสอบทรายเอลเลนรู้สึกรับไม่ได้แม้แต่อีเดนก็ยังตัวสั่นในขณะที่ใบหน้าดูซีดเผือด เขารู้สึกได้ว่าหัวใจกำลังวายในไม่กี่วินาทีนี้“เอาล่ะผู้นำสมิธ การมีเลือดไหลในวันเปิดร้านถือเป็นลางไม่ดีนะ"ในขณะที่ใบหน้าของอัลเลนดูบวมเป่งเหมือนหน้าหมูอยู่นั้น เขาไม่กล้าเปล่งเสียงออกมาแม้จะแค่พูดกับตัวเองมันไม่สำคัญหรอกว่าอัลเลนจะตายหรือเปล่า...แต่การที่มีใครเสียชีวิตย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจของฮาร์วีย์อย่างแน่นอนเอลเลนและคนอื่น ๆ หันกลับมาโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้มเริงร่าเมื่อเห็นฮาร์วีย์เป็นคนพูดออกมา“แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? แกไม่มีอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้นำสมิธ แก...”อีเดนเงียบเสียงไปก่อนที่จะทันได้พูดจบประโยคเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องกลับหยุดกะทันหันเชสผู้สูงส่งและทรงอำนาจปล่อยอัลเลนทันทีจากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ก่อนจะโค้งคำ
อัลเลนได้สติอย่างรวดเร็วแล้วคลานเข้าไปหาฮาร์วีย์ ก่อนที่จะร้องคำรามต่อหน้าเขา“ผมต้องขอโทษด้วยครับผู้ว่าการยอร์ก! ผมไม่รู้เรื่อง! ผมไม่รู้อะไรเลย!“ได้โปรดให้อภัยคนต่ำต้อยแล้วปล่อยผมไปเถอะครับ! แกล้งทำเป็นล้อผมเล่นอยู่ก็ได้!”จากนั้นอัลเลนก็ตบหน้าตัวเองไม่หยุด“ได้โปรด! ให้โอกาสผมด้วย!”ลูกน้องที่ไว้ใจได้ทั้งหมดของเขาต่างกระแทกเข่าลงกับพื้นด้วยความกลัวหลังจากเห็นภาพนั้นพวกเขาทั้งหมดเคยได้ยินข่าวเรื่องความสำเร็จของฮาร์วีย์มาแล้วด้วยจากนั้นคนทั้งหมดนั้นก็นั่งคุกเข่าหลังตรงอยู่ตรงหน้าร้านของฮาร์วีย์โนเอมิและคนอื่น ๆ ต่างตะลึงงัน ในขณะที่ดวงตาของพวกเขากระตุกอย่างบ้าคลั่งพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมอัลเลนกำลังจะให้บทเรียนกับฮาร์วีย์เมื่อตะกี๊นี้อยู่แท้ ๆ...แล้วจากนั้นก็ทำตัวเหมือนเป็นลูกแมวขี้กลัวขึ้นมาเลย'คุณกำลังล้อผมเล่นอยู่ใช่ไหม?!''ฮาร์วีย์ไม่ใช่คนบ้านนอกหรอกเหรอ?!''เขามีตัวตนอย่างอื่นอีกหรือเปล่า?!''เขาทำให้อัลเลนเป็นแบบนี้ได้ยังไง?!'เอลเลนรู้สึกเดือดดาลด้วยความโกรธทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นช่างแตกต่างที่เธอจินตนาการเอาไว้อย่างสิ้นเชิงเธอต้องการให้ฮาร์วีย์อยู่อย
คุณย่าคอบบ์มีสีหน้าเหมือนเธอได้ตายมาสามวันเต็มแล้วจากนั้นกอร์ดอนก็ก้าวออกมาพร้อมกับปล่อยหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่“ขอแสดงความยินดีกับการเปิดร้านของคุณด้วยครับฮาร์วีย์!“นี่คือของขวัญในนามของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ ผมหวังว่าคุณจะชอบนะครับ!”จากนั้นกอร์ดอนก็โบกมือ ก่อนที่สาวกสองสามคนขององค์กรแห่งนี้จะนำแผ่นป้ายสลักตัวอักษรออกมาแผ่นป้ายนี้มีคำสี่คำเขียนอยู่บนนั้น“น้ำอมฤตสีเงินของตระกูลคอบบ์!"นอกจากนี้ก็ยังมีลายเซ็นของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้อยู่ทางด้านล่างด้วยโดยไม่มีคำสัญญาหรือคำสั่งซื้อใด ๆ...เห็นได้ชัดว่าองค์กรแห่งนี้กำลังวางแผนที่จะซื้อยาขี้ผึ้งของฮาร์วีย์ทั้งหมด!ที่สำคัญกว่านั้นก็คือแผ่นป้ายนี้จะทำให้ไม่มีใครต่อต้านฮาร์วีย์ ถึงแม้ว่าธุรกิจนี้จะขยายออกไปในเมืองก็ตามเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ก็ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับเขาอย่างชัดเจน!ได้ผลประโยชน์อย่างไม่จบสิ้น!“อะไรกัน?!”โนเอมิและคนอื่น ๆ เริ่มเข้าใจถึงขอเท็จจริงนั้นเมื่อพวกเขาเห็นภาพที่เกิดขึ้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่โซซัดโซเลลงกับพื้นด้วยความไม่เชื่อสายตาสีหน้าของคุณย่าคอบบ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข