"ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”อัลเลนระเบิดหัวเราะออกมาหลังจากเห็นทุกคนทำสีหน้าตกใจจากนั้นเขาก็เดินไปหาเชสและคนอื่น ๆ อย่างให้ความเคารพ“ผู้อำนวยการมาถึงแล้ว!”“ผู้นำ! ดีใจที่ได้พบคุณที่นี่!”“ตัวแทนโมเรโน่! ช่างเป็นแขกผู้มีเกียรติจริง ๆ! คืนนี้เราต้องเมากันหน่อยแล้วล่ะ!”อัลเลนก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันนับเป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์จะมาปรากฏตัว แต่กอร์ดอนและเชสต่างก็เป็นบุคคลสำคัญอย่างมาก!ด้วยความที่พวกเขามีตัวตนที่สูงส่งมาก พวกเขาจึงไม่มีวันที่จะไปปรากฏตัวในงานเช่นนี้แต่ถึงกระนั้นอัลเลนก็ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แค่คำชมของโนเอมิก็ทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แล้วเขาก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างอาจหาญเพื่อโอ้อวดว่าได้รู้จักกับคนพวกนั้นผู้ควบคุมฯ ทำสีหน้าแปลก ๆ หลังจากเห็นอัลเลน กอร์ดอนทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา ในขณะที่เทรย์เผยให้รอยยิ้มจาง ๆ...ในทางตรงกันข้ามเชสกลับก้าวเท้าออกไปก่อนจะเหวี่ยงฝ่ามือไปข้างหน้าเพียะ!ได้ยินเสียงตบหน้าดังลั่น!อัลเลนยืนโซซัดโซเซจนเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น หลังจากเอนตัวเข้าไปเหมือนทำท่าจะตบมีรอยฝ่ามือสีแดงสดปรากฏอยู่บนใบหน้า
"เป็นอย่างนี้ได้ยังไง?“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”เอลเลนมีอาการตัวสั่นไปหมดเธอเพิ่งชื่นชมอัลเลนไปเมื่อกี้นี่เอง โดยหวังว่าอีเดนจะดำเนินรอยตามเขา...แต่เพียงประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นอัลเลนก็นอนกองอยู่กับพื้น และถูกโยนไปมาเหมือนกระสอบทรายเอลเลนรู้สึกรับไม่ได้แม้แต่อีเดนก็ยังตัวสั่นในขณะที่ใบหน้าดูซีดเผือด เขารู้สึกได้ว่าหัวใจกำลังวายในไม่กี่วินาทีนี้“เอาล่ะผู้นำสมิธ การมีเลือดไหลในวันเปิดร้านถือเป็นลางไม่ดีนะ"ในขณะที่ใบหน้าของอัลเลนดูบวมเป่งเหมือนหน้าหมูอยู่นั้น เขาไม่กล้าเปล่งเสียงออกมาแม้จะแค่พูดกับตัวเองมันไม่สำคัญหรอกว่าอัลเลนจะตายหรือเปล่า...แต่การที่มีใครเสียชีวิตย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจของฮาร์วีย์อย่างแน่นอนเอลเลนและคนอื่น ๆ หันกลับมาโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้มเริงร่าเมื่อเห็นฮาร์วีย์เป็นคนพูดออกมา“แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? แกไม่มีอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้นำสมิธ แก...”อีเดนเงียบเสียงไปก่อนที่จะทันได้พูดจบประโยคเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องกลับหยุดกะทันหันเชสผู้สูงส่งและทรงอำนาจปล่อยอัลเลนทันทีจากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ก่อนจะโค้งคำ
อัลเลนได้สติอย่างรวดเร็วแล้วคลานเข้าไปหาฮาร์วีย์ ก่อนที่จะร้องคำรามต่อหน้าเขา“ผมต้องขอโทษด้วยครับผู้ว่าการยอร์ก! ผมไม่รู้เรื่อง! ผมไม่รู้อะไรเลย!“ได้โปรดให้อภัยคนต่ำต้อยแล้วปล่อยผมไปเถอะครับ! แกล้งทำเป็นล้อผมเล่นอยู่ก็ได้!”จากนั้นอัลเลนก็ตบหน้าตัวเองไม่หยุด“ได้โปรด! ให้โอกาสผมด้วย!”ลูกน้องที่ไว้ใจได้ทั้งหมดของเขาต่างกระแทกเข่าลงกับพื้นด้วยความกลัวหลังจากเห็นภาพนั้นพวกเขาทั้งหมดเคยได้ยินข่าวเรื่องความสำเร็จของฮาร์วีย์มาแล้วด้วยจากนั้นคนทั้งหมดนั้นก็นั่งคุกเข่าหลังตรงอยู่ตรงหน้าร้านของฮาร์วีย์โนเอมิและคนอื่น ๆ ต่างตะลึงงัน ในขณะที่ดวงตาของพวกเขากระตุกอย่างบ้าคลั่งพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมอัลเลนกำลังจะให้บทเรียนกับฮาร์วีย์เมื่อตะกี๊นี้อยู่แท้ ๆ...แล้วจากนั้นก็ทำตัวเหมือนเป็นลูกแมวขี้กลัวขึ้นมาเลย'คุณกำลังล้อผมเล่นอยู่ใช่ไหม?!''ฮาร์วีย์ไม่ใช่คนบ้านนอกหรอกเหรอ?!''เขามีตัวตนอย่างอื่นอีกหรือเปล่า?!''เขาทำให้อัลเลนเป็นแบบนี้ได้ยังไง?!'เอลเลนรู้สึกเดือดดาลด้วยความโกรธทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นช่างแตกต่างที่เธอจินตนาการเอาไว้อย่างสิ้นเชิงเธอต้องการให้ฮาร์วีย์อยู่อย
คุณย่าคอบบ์มีสีหน้าเหมือนเธอได้ตายมาสามวันเต็มแล้วจากนั้นกอร์ดอนก็ก้าวออกมาพร้อมกับปล่อยหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่“ขอแสดงความยินดีกับการเปิดร้านของคุณด้วยครับฮาร์วีย์!“นี่คือของขวัญในนามของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ ผมหวังว่าคุณจะชอบนะครับ!”จากนั้นกอร์ดอนก็โบกมือ ก่อนที่สาวกสองสามคนขององค์กรแห่งนี้จะนำแผ่นป้ายสลักตัวอักษรออกมาแผ่นป้ายนี้มีคำสี่คำเขียนอยู่บนนั้น“น้ำอมฤตสีเงินของตระกูลคอบบ์!"นอกจากนี้ก็ยังมีลายเซ็นของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้อยู่ทางด้านล่างด้วยโดยไม่มีคำสัญญาหรือคำสั่งซื้อใด ๆ...เห็นได้ชัดว่าองค์กรแห่งนี้กำลังวางแผนที่จะซื้อยาขี้ผึ้งของฮาร์วีย์ทั้งหมด!ที่สำคัญกว่านั้นก็คือแผ่นป้ายนี้จะทำให้ไม่มีใครต่อต้านฮาร์วีย์ ถึงแม้ว่าธุรกิจนี้จะขยายออกไปในเมืองก็ตามเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ก็ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับเขาอย่างชัดเจน!ได้ผลประโยชน์อย่างไม่จบสิ้น!“อะไรกัน?!”โนเอมิและคนอื่น ๆ เริ่มเข้าใจถึงขอเท็จจริงนั้นเมื่อพวกเขาเห็นภาพที่เกิดขึ้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่โซซัดโซเลลงกับพื้นด้วยความไม่เชื่อสายตาสีหน้าของคุณย่าคอบบ
"ฮาร์วีย์ ยอร์ก"เอลเลนตกตะลึงเมื่อเธอจ้องมองคนที่เธอไม่เคยให้การยอมรับนับถือเลย...ความไม่น่าเชื่อแวบเข้ามาในจิตใจของเธออีเดนเป็นหนึ่งในปรมาจารย์รุ่นเยาว์ที่โด่งดังที่สุดในเมืองนี้ แต่ถ้าเขาต้องการให้บุคคลสำคัญเหล่านั้นให้ความเคารพเขา และได้รับแผ่นป้ายนั้น...ก็คงเป็นเรื่องท้าทายอยู่เหมือนกันถึงแม้ว่าเขาจะทำได้จริง แต่เขาก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายสิบปีถึงจะทำอย่างนั้นได้!และด้วยความสามารถของอีเดนแล้ว เขาคงไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้สำเร็จหรอก!เว้นแต่ว่าเขาจะกลายเป็นเทพสงคราม...แต่เขาจะทำอย่างนั้นได้ยังไงในเมื่อเขาแทบจะต่อสู้อะไรไม่ได้เลย?ช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!เอลเลนเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเสียใจหลังจากตระหนักได้ถึงเรื่องทั้งหมดนี้“ท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์เป็นบุคคลสำคัญของที่นี่อย่างแท้จริง“เขาช่างแข็งแกร่งมากจนสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นเพียงตัวตลกสำหรับเขา“เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย เขาไม่โกรธไม่ใช่เพราะเขาอ่อนแอหรือไร้อำนาจ...“ที่เขาทำอย่างนี้ก็เพราะไม่มีอะไรที่ดูสำคัญในสายตาของเขาเลย!“ฉันคิดว่าเขาเป็นแค่คนขี้แพ้ เป็นคนบ้านนอกจากประเทศอื่น...“ฉันคิดว่าเขาจะต้อง
ช่างน่าละอายเสียจริง ๆ คุณย่าคอบบ์ไล่เคทีออกจากตระกูลไป เพื่อเปิดโอกาสให้อีเดนได้ขึ้นสู่อำนาจ นี่นับเป็นการทิ้งโอกาสดี ๆ สำหรับตระกูลนี้ในการที่จะได้พบกับความเจริญรุ่งเรืองอนาคตของตระกูลได้สูญสลายไปแล้ว พวกเขาได้ไปสร้างความเคืองขุ่นอย่างมากให้กับผู้ทรงอำนาจ ที่จะช่วยจัดการในเรื่องนี้ไปซะแล้วทุกคนต่างมองคุณย่าคอบบ์โดยสัญชาตญาณด้วยสายตารังเกียจและเหยียดหยามพวกเขาอยากรู้ว่าเธอจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรคุณย่าคอบบ์จับไม่เท้าอย่างเกรี้ยวกราดในขณะกัดฟันกรอดเธอรู้ดีว่าไม่มีทางที่จะได้หลุดรอดออกจากสถานการณ์นี้ไปได้บอกได้เลยว่าตระกูลนี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทนต่อความอัปยศอดสู ในขณะที่ฮาร์วีย์และเคทีต่างได้รับความชื่นชมยินดีเธอยากจะเป็นเทพสงครามแล้วตบฮาร์วีย์ลงไปกองกับพื้นซะเหลือเกิน“คุณย่าคอบบ์คะ...เคทีเดินออกมาจากทางด้านหลังของฮาร์วีย์ด้วยท่าทีสบาย ๆ“ตอนนี้คุณย่ารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองหรือยัง?”ดวงตาของคุณย่าคอบบ์กระตุกอย่างบ้าคลั่ง เธอเริ่มตีโพยตีพายราวกับว่านี่คือนี่คือฟางเส้นสุดท้ายของเธอแล้ว“ใครเป็นย่าของแก?!“แกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลนี้แล้ว
'เข้าข้างความยุติธรรมเหรอ?''ทำในสิ่งที่ถูกต้องเหรอ?'ตระกูลคอบบ์แทบจะกระอักออกมาเป็นเลือดหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น“ล้อเล่นกันใช่ไหม'ก่อนที่ตระกูลคอบบ์จะทันได้พูดอะไรอีก กาเอลก็พูดออกมาด้วยท่าทีอันชอบธรรม“พวกคุณช่างไร้ยางอายกันจังที่หวังจะโยกย้ายทรัพย์สินของเคทีออกไปอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่ผมได้ยื่นฟ้องเธอ!“แต่คนยุติธรรมอย่างผมจะไม่มีวันอยู่ฝ่ายเดียวกับจอมวายร้ายอย่างคุณหรอก!“ผมทำเป็นตกลงที่จะร่วมมือกับพวกคุณ และผมยังทำให้พวกคุณเชื่อด้วยว่าผมโดนฮาร์วีย์ทำร้ายจริง ๆ!“คุณติดกับดักของผมแล้วล่ะ และนั่นคือตอนที่ผมถอนฟ้องเคที และคืนทรัพย์สินของเธอกลับไป!“หลังจากนั้นก็มีการจัดเตรียมกระบวนการทั้งหมดนี้ขึ้นมา!”ฮาร์วีย์ทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเหลือบมองไปที่กาเอลจริง ๆ แล้ว เขามาขอร้องที่จะมาเป็นลูกน้องของฮาร์วีย์ แต่เขากลับทำตัวสูงส่งและทรงอำนาจในตลอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงก็เป็นไปตามคาด...ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะเปิดเผยเรื่องราวของเขาหรอก เขาจะไม่เป็นอะไรตราบใดที่ผลที่ออกมานั้นยังคงเหมือนเดิมคุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของกาเอลเค
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณย่าคอบบ์เริ่มรู้สึกสิ้นหวังอย่างมากแล้วสิ่งที่เธอไม่ควรพูดล้วนหลั่งไหลออกมาจากปากของเธอ'เขาไม่มีอำนาจแต่ยังอยากให้ตระกูลต้องล่มสลายเหรอ?'ช่างตลกสิ้นดี!'ในจิตใจอันเฉียบแหลมของเธอนั้น เทพสงครามยังไม่มีความหมายอะไรกับเธอเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนแปลกหน้าล่ะโนเอมิและอัลเลนรู้สึกโล่งอกหลังจากได้ยินคำพูดของคุณย่าคอบบ์ท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์ไม่มีทางจะบดขยี้ตระกูลคอบบ์ได้ไม่ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตามตระกูลคอบบ์ยังคงเป็นหนึ่งในสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่อยู่ดี!ผู้สืบทอดของตระกูลคอบบ์คนต่อไปก็ยังถูกกำหนดให้เป็นอีเดนอยู่!พวกเขาโดนดูหมิ่นดูแคลนอยู่ในเวลานี้แล้วจะยังไงล่ะ?สิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวก็คือทรัพย์สินพวกนั้น!“อย่างนั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์อวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะดีดนิ้ว“ดูเหมือนว่าคุณจะพูดถูกนะครับผู้อาวุโสคอบบ์“คนที่วางยาพิษคุณก็คือคนที่คุณรักมากที่สุด!”มีเสียงของคนเหนื่อยล้าดังขึ้นจากภายในร้าน“จิตใจของผู้หญิงมักจะชั่วร้ายที่สุดได้เสมอ...”จูเลียนและไอรีนเข็นรถเข็นที่มีผู้สูงอายุคนหนึ่งนั่งอยู่ออกมาเคทีรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นคน ๆ นั้น“คุณปู