ฮาร์วีย์รู้สึกประทับใจกับการแสดงของเทรย์เขาเป็นคนที่ถูกคุกคามมาโดยตลอด เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นยังไง'จูเลียนน่าจะสั่งสอนให้เขามีความประพฤติที่ดีขึ้นมาได้'ประเทศ H เป็นประเทศที่มีมารยาท เนื่องจากเขาเป็นคนของฉัน ฉันไม่อาจปล่อยให้เขาข่มขู่ใครว่าจะขุดบรรพบุรุษขึ้นมาเผาได้...'หลังจากได้ยินคำพูดของเทรย์ เหล่าสาวกทั้งหมดก็นั่งคุกเขาหลังตรงด้วยความกลัวเอลเลนนั่งอ้าปากค้างอยู่ในรถปอร์เช่ 718 ในขณะที่เธอนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ในนั้นเป็นเวลานานเธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอเพิ่งเห็นกับตาไปเลยเธอกับอีเดนได้วางแผนกันมานานแล้ว พวกเขาถึงกับจ้างอาร์โลมาทำอวดเบ่งอยู่ในเวลานี้ด้วยเงินก้อนโตพวกเขาไม่เพียงแต่ต้องการให้ธุรกิจของฮาร์วีย์ปิดตัวลงเท่านั้น แต่พวกเขายังจะบีบบังคับให้เขามอบสูตรยาให้ด้วยแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้เลย อาร์โลและคนอื่น ๆ ต่างคุกเข่ากันแบบไม่มีการเตือนล่วงหน้าเอลเลนไม่เข้าใจถึงภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าเธอเลยแต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่คิดว่านี่จะเป็นฝีมือของฮาร์วีย์ เธอเอาแต่จ้องมองเคทีด้วยสีหน้าโกรธแค้น'เธอมีสิทธิ์อะไรถึงได้สวยและเก่งกาจมากกว่าฉัน?!'
"แกได้ยินไหม?” คุณยอร์กต้องการให้แกทายาในบริเวณที่เจ็บปวด!”เทรย์จ้องมองอาร์โลอย่างเย็นชาก่อนจะกระทืบลงบนข้อมือซ้ายของเขา“อ๊ากกก!”อาร์โลกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อมือของเขาหักเขาไม่กล้าดิ้นรนต่อสู้หลังจากนั้น ซึ่งเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคุกเข่าลงกับพื้นจากนั้นเทรย์ก็ทายาขี้ผึ้งลงบนมือของอาร์โลก่อนจะพันทับด้วยผ้าพันแผล“นี่คือวิธีการใช้ยาขี้ผึ้งนี้!”หลังจากได้ยินคำพูดของเทรย์ ดวงตาของอาร์โลและคนอื่น ๆ ต่างก็กระตุกอย่างบ้าคลั่ง บรรดาสาวกต่างตัวสั่นงันงกในขณะสวมรองเท้าบู๊ตอยู่พวกเขารู้สึกขวัญหนีดีฝ่อเมื่อมองเข้าไปในดวงตาของฮาร์วีย์พวกเขารู้ดีว่าแขนหนึ่งหรือสองแขนนั้นยังไม่พอที่จะใช้ยาขี้ผึ้งให้หมดหม้อ“เฮ้ เฮ้! คุณช่างใจร้ายใจดำจังเลยนะฮาร์วีย์!”เอลเลนรู้สึกเดือดดาลด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อเห็นฮาร์วีย์ใช้อำนาจในทางที่ผิดเธอได้วางแผนอะไร ๆ ไว้ตั้งหลายอย่าง เพื่ออยากจะเห็นฮาร์วีย์ต้องทนทุกย์ทรมานขนาดไหน แต่เธอไม่คาดคิดว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้จะกลัวเขาโดยที่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยเธอจับพวงมาลัยในขณะกัดฟันกรอดพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาอาฆาตแค้น“
อีวอนน์และเรย์ตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นโนเอมิมาปรากฏตัว“อ้า...ซีอีโอโมเรโน่ คุณหาข้อมูลได้เก่งจังเลยนะ ฉันไม่คิดว่าคุณจะสามารถหาข้อมูลตารางเที่ยวบินของเราได้อย่างถูกต้อง“น่าสนใจจริง"โนเอมิอวดรอยยิ้มจาง ๆ“ท้ายที่สุดแล้วลูกสาวของฉันเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลคอบบ์ค่ะ“นับเป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องรู้ว่าเมื่อไหร่คุณจะมาถึงนี่ เพื่อร่วมงานเฉลิมฉลองวันครบรอบของตระกูลคอบบ์อีวอนน์และเรย์มองหน้ากันก่อนจะแสดงสีหน้าชื่นชม“ในเมื่อคุณมาถึงแล้วก็ขอให้ฉันได้เลี้ยงอาหารคุณสักมื้อหนึ่งได้ไหมคะ?“คืนนี้ฉันขอเลี้ยงอาหารท้องถิ่นที่ดีที่สุด คุณว่าดีไหมคะ?”“ฉันต้องขอโทษด้วยซีอีโอโมเรโน่ พอดีเราต้องไปพบท่านประธานเดี๋ยวนี้เลย“ไว้โอกาสหน้าก็แล้วกันนะ"อีวอนนห์หันหลังกลับแล้วเดินจากไปเรย์เผยรอยยิ้มแสดงความขอโทษ ก่อนจะเดินตามหลังเธอไปโนเอมิไม่ได้โกรธเคืองอะไรหลังจากถูกปฏิเสธ แต่เธอกลับชะงักก่อนจะเผยให้เห็นสีหน้าที่แสดงความตกใจ'ท่านประธานเหรอ?'ชายในตำนานเองเหรอ?'เขามาที่เมืองนี้ด้วยเหรอ?!'ตระกูลคอบบ์ทรงอำนาจได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ?!'ในเวลานี้โนเอมิไม่เต็มใจที่จะให้ลูกสาวของเธอไปแต่งงานกับคนในต
เมื่อเวลาผ่านไปแขกก็เริ่มทยอยเข้ามามีรถเมอร์ซีเดส รถเฟอร์รารี่ และรถหรูอื่น ๆ แล่นเข้ามาคันแล้วคันเล่า ผู้คนที่เข้ามาในงานต่างดูหรูหราด้วยกันทั้งนั้นพวกเขาทุกคนแต่งตัวเนี๊ยบและสวมเครื่องประดับทั่วเรือนร่าง โดยเดินผ่านฝูงชนเข้ามาพร้อมแก้วทรงสูงในมือ ราวกับว่าพวกเขากำลังเข้ามาร่วมงานเลี้ยงระดับไฮเอนด์พวกเขาต่างพูดคุยกันเป็นครั้งคราวพร้อมกับหัวเราะดังลั่น ก่อนจะแสดงสีหน้าสนุกสนานเมื่อเห็นฮาร์วีย์และคนอื่น ๆเมื่อเทียบกับงานที่ดูหรูหราของพวกเขาแล้ว ก็มองไม่เห็นร้านของฮาร์วีย์เลย'น่าสงสารจัง...''ไม่มีนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์และหรือหนังสือพิมพ์เลย...''ไม่มีแขกชื่อดัง...''ไม่มีนางแบบคนดังมาโปรโมทร้านนี้เลย...'ถ้าไม่มีการแจกเงินหรือเครื่องดื่มให้ดื่มฟรีล่ะก็ แม้แต่คนธรรมดา ๆ ยังไม่อยากเดินเข้าไปในร้านนั้นเลยนอกจาก "ยาตัวอย่างแจกฟรี" ที่เขียนไว้บนป้ายแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าธุรกิจของฮาร์วีย์ได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้วเลยผู้คนต่างอดที่จะหัวเราะเมื่อเห็นภาพอันว่างเปล่านั้นไม่ได้'ตระกูลคอบบ์มีความแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลาเมื่อเทียบกับฮาร์วีย์ แต่เขาก็ยังคงพยายามที่จะท้าทายพวกเ
หลังจากเห็นการจัดงานที่ดูยอดเยี่ยมและเป็นระเบียบของตระกูลคอบบ์แล้ว เอลเลนก็อดที่จะหัวเราะใส่หน้าฮาร์วีย์ไม่ได้ เมื่อเธอมองกลับไปด้วยสีหน้าเย็นชา“ฉันซื้อกระเช้าดอกไม้ให้คุณก็ได้นะ แล้วจะซื้อยาขี้ผึ้งของคุณกล่องหนึ่ง เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้"ผู้คนที่อยู่ข้างหลังเอลเลนต่างหัวเราะกันคิกคักหลังจากได้ยินคำพูดของเอลเลน'คนบ้านนอกจากประเทศ H ทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณในการเปิดร้าน แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ?''ไม่มีลูกค้าเข้ามาแม้แต่คนเดียว! เขายังต้องพึ่งแม่เทพธิดาที่ทิ้งเขาไปคนนั้น ให้อวยพรเขาด้วยกระเช้าดอกไม้อีกนะ!''เมื่อมาถึงจุดนี้เขาก็แค่ดูน่าสมเพชเวทนาเท่านั้น!'ฮาร์วีย์จิบชาก่อนจะตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ ว่า "ไม่ต้องหรอก กระเช้าดอกไม้ของคุณไม่มีสิทธิ์ได้อยู่ที่นี่“เราไม่มีว่างสำหรับคุณที่นี่ด้วย"สีหน้าของเอลเลนเปลี่ยนไป“โอ้โห! ไม่มีที่ว่างสำหรับฉันเหรอ?!“เชิญเสแสร้งต่อไปเถอะ!“คุณคิดว่าคุณดูน่าประทับใจเพียงเพราะคุณรู้จักเทรย์เหรอ?!“คุณคิดว่าคุณเป็นราชาแห่งโลกใบนี้หรือไง?!“คุณไม่ใช่คนสำคัญของที่นี่เลย!เอลเลนปล่อยหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมกับทำสีหน้าเริงร่า“ในสถาน
ฮาร์วีย์หรี่ตามอง วันนี้เป็นวันสำคัญเขาจึงไม่อยากเสียเวลามาโต้เถียงกับเอลเลน“ดื่มน้ำแล้วพักผ่อนเยอะ ๆ ในขณะที่คุณยังสามารถทำได้" ฮาร์วีย์พูดในขณะมองไปที่เคทีและคนอื่น ๆ“เพราะเราจะไม่มีเวลาได้ทำอย่างนั้นเมื่อแขกเหรื่อมาถึงกันแล้ว"จากนั้นฮาร์วีย์ก็รินชาให้ตัวเองอีกหนึ่งถ้วยก่อนจะจิบชาเอลเลนและคนอื่น ๆ ต่างอึก ๆ อัก ๆ กันเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองฮาร์วีย์ด้วยความไม่เชื่อเป็นอย่างมากทุกคนต่างเผยให้เห็นรอยยิ้มสนุกสนานและห่างเหิน ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูตัวตลกอยู่พวกเขาเคยเห็นคนไร้ยางอายและน่าหัวเราะมามากมาย แต่ยากนักที่เจอคนแบบฮาร์วีย์!'ไม่เห็นมีลูกค้าสักคนเดียว บนพี้นที่ว่างก็ไม่มีกระเช้าดอกไม้วางอยู่สักใบเดียว แต่เขายังมีหน้ามาพูดจาแบบนั้น!''เขาไร้ยางอายได้ถึงขนาดไหนเนี่ย?!'“โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย! นี่มันมากเกินไปหน่อยแล้วนะคุณว่าไหม?”คุณย่าคอบบ์ อีเดน และวาเลรี่เดินเข้าไปพร้อมกับกลุ่มคนเมื่อเห็นเอลเลนและคนอื่น ๆพวกเขาทำเสียงเยาะเย้ยขึ้นมาทันทีที่เห็นฮาร์วีย์กำลังจิบชาอยู่“เธอกำลังจะสร้างตระกูลคอบบ์ตระกูลเดียวขึ้นมาในขณะที่มีสารรูปอย่างนี้น่ะเหรอเคที?“เธอต้องการให้ตระก
บรืน!เมื่อมีเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มขึ้น รถมายบัคก็ค่อย ๆ แล่นเข้ามาจอดบนถนนในขณะที่คุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ กำลังจะไปต้อนรับแขกที่เพิ่งเข้ามาใหม่พร้อมกับรอยยิ้ม พวกเขาก็รู้ตัวว่าไม่มีที่จอดรถเหลือสำหรับงานนี้แล้วรถมายบัคคันนั้นจึงเข้าไปจอดอยู่ตรงหน้าร้านของฮาร์วีย์หลังจากนั้นไม่นานชายและหญิงห้าคนก็เดินออกมาจากรถเสื้อผ้าของพวกเขาดูประณีตงดงามมาก การเคลื่อนไหวของพวกเขาแต่ละครั้งก็ทำให้เกิดรังสีออร่าของชนชั้นสูงเปล่งประกายออกมาผู้ที่เดินนำเข้ามาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอีวอนน์ส่วนเรย์ก็เดินตามหลังเธอมาติด ๆคุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ตัวแข็งทื่อ ก่อนจะแสดงสีหน้าที่ดูตกตะลึงเป็นอย่างมากมีการรายงานข่าวว่าอีวอนน์และเรย์เข้ามาอยู่ในเมืองนี้สองสามวัน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทุก ๆ คนถึงจำบุคคลสำคัญทั้งสองคนจากประเทศ H ได้แต่ยังไงก็ตามคุณย่าคอบบ์เชื่อว่าเธอและตระกูลของเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเชิญทั้งสองคนนั้นได้!พวกเขายังไม่คู่ควรที่จะทำอย่างนั้นเลย!'โนเอมิเป็นคนพาพวกเขามาที่นี่เหรอ?!'เมื่อได้ยินว่าตระกูลโมเรโน่เข้ากับบริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่นได้เป็นอย่างดี คุณย่าคอบบ์ก็คิดว่าโนเอมิเป็น
อีวอนน์และเรย์ไม่ได้ชายตามองโนเอมิด้วยซ้ำไป พวกเขารีบเดินผ่านเธอไปโดยไม่เสียเวลาตอบคำถามของเธอเลยเห็นได้ชัดว่าการทำเมินเฉยต่อคนแบบนั้นถือเป็นการเย้ยหยันอย่างเงียบ ๆเมื่อทั้งสองคนนั้นเดินเข้าไปหาฮาร์วีย์ อีวอนน์ก็เผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ ในขณะที่เรย์ก็แสดงสีหน้าให้ความเคารพ“นานแล้วนะ"ฮาร์วีย์และอีวอนน์โอบกอดกันเบา ๆแค่การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายและใบหน้าอันงดงามของอีวอนน์ก็ทำให้เอลเลนต้องเปลี่ยนสีหน้าได้แล้ว เมื่อมาถึงตอนนี้เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าจะต้องรู้สึกยังไงเธอไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงอย่างเคทีและอีวอนน์ถึงต้องให้ความเคารพฮาร์วีย์อย่างนั้นด้วย!ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นเพียงผู้ชายที่เธอทิ้งไป!ฮาร์วีย์เหลือบมองเรย์ก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า "คราวหน้าคุณน่าจะหาข้อมูลมาก่อนนะว่าจะต้องทำงานร่วมกับใคร“เพราะเราไม่อยากให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาวุ่นวายในธุรกิจของเรา"เรย์พยักหน้าเบา ๆ“คุณพูดถูกครับ ผมไม่สามารถหยุดยั้งใครบางคนไม่ให้เอาเปรียบคนอื่นด้วยชื่อบริษัทของเราได้ นั่นเป็นความผิดของผมเองครับ“นอกจากมาร่วมเฉลิมฉลองในการเปิดตัวธุรกิจของคุณแล้ว ผมก็มาที่นี่เพื่อเคลียร์ปัญหาบางอย่างด้ว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข