"ฉันไม่คิดว่าคุณจะให้ความใส่ใจฉันมากถึงขนาดนี้ ถึงได้นำคนสำคัญเหล่านี้มาที่นี่ได้!“น่าเสียดายที่ตัวตนและสถานะของพวกเขาสูงเกินไป“คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมีบริษัทของพวกเขาที่นี่ด้วยซ้ำไป! เพราะการกระทำอย่างนี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม!“เราสามารถบอกได้เลยว่าคนสองคนนี้มาที่นี่เพื่อการแสดงเท่านั้น!“อย่างน้อยก็ควรพูดออกมาตรง ๆ นะ! แค่พูดคำนั้นออกมาถ้าคุณไม่สามารถพาใครมาที่นี่ได้!“ไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง! ไม่มีใครรู้ว่าคุณต้องคุกเข่าให้พวกเขากี่ครั้งกว่าจะพาพวกเขามาถึงที่นี่ได้!“คุณเรียกแค่สิบห้าล้านดอลลาร์เองเหรอ? ทำไมไม่ขอขั้นต่ำสัก 1.5 พันล้านดอลลาร์ล่ะ?”เอเลนเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม“นอกจากสองคนนี้แล้ว ฉันรับประกันได้เลยว่าจะไม่มีใครมางานเปิดร้านของคุณเอีก!“ถ้ามีฉันจะกินป้ายพวกนี้ให้หมดเลย!”จากนั้นเอลเลนก็ชี้ไปที่ป้ายของฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเย้าแหย่โนเอมิเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย“เอลเลน! ลูกไม่ควรกล่าวหาเลขาซาเวียร์และซีอีโอเรย์อย่างนั้นน่ะ!“พวกเขาเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน!“ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ได้มาพบฮาร์วีย์แบบตัวเป็น ๆ หรอก ถึงแม้เขาจะลงทุนคุกเข่าจนหัวเข่าด้า
เอลเลนมีท่าทีภาคภูมิใจในขณะจ้องมองฮาร์วีย์สำหรับเอลเลนแล้ว ความร่ำรวยของคุณฟินลีย์นั้นมีมากมายมหาศาลเพื่อเทียบกับอีวอนน์และเรย์“ยินดีต้อนรับค่ะคุณฟินลีย์! ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์มาเยี่ยมเยียนพวกเรา!”โนเอมิและเอลเลนเดินตามมาพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนและรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้นท้ายที่สุดแล้วการรู้จักคุณฟินลีย์เอาไว้นับเป็นผลดีต่อสถานะของตนเองเมื่ออยู่ในเมืองนี้“โอ้ คุณย่าคอบบ์ ซีอีโอโมเรโน่ ยินดีด้วยนะครับ”คุณฟินลีย์รู้สึกรำคาญเล็กน้อยหลังจากถูกขวางทางเอาไว้ แต่เขาก็ยังยิ้มอย่างอ่อนโยนในแบบฉบับสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง“ทำผลงานให้ดีต่อไปนะครับ"คุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ระเบิดหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของคุณฟินลีย์“ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณนะคะ! มันมีความหมายต่อเรามากจริง ๆ!”“เอลเลน! อีเดน! มานี่เร็ว! คุณฟินลีย์มีของขวัญมาให้เราด้วย!” โนเอมิร้องบอกอย่างรวดเร็วหลังจากเห็นกล่องของขวัญในมือของเขา“ถ้าเขาถือไว้นาน ๆ จะสร้างความอับอายให้เขาได้!”เอลเลนและอีเดนเอื้อมมือไปรับกล่องขวัญอย่างตื่นเต้นเพราะยังไงก็ตามในสายตาของพวกเขานั้น แม้แต่เศษขยะจากคนในราชวงศ์ของจักรว
แม้แต่คนอย่างโนเอมิที่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ทุกเมื่อก็ยังสั่นสะท้านโดยสัญชาตญาณ เธอรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่กำลังจะบดขยี้เธอในเวลานี้ถ้าน้ำอมฤตสีเงินนั้นมีโอกาสไปขายในต่างประเทศได้จริง ก็จะสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับตระกูลคอบบ์คุณย่าคอบบ์ตัวสั่นเทา เธอเข้าใจในข้อเท็จจริงนั่นเป็นอย่างดี“เราได้ให้ความเคารพต่อคุณเป็นอย่างมาก! แต่ทำไมคุณถึงมาต่อสู้กับเราแบบนี้!” คุณยายคอยย์กรีดร้องขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ“ต่อสู้กับคุณเหรอ?”คุณฟินลีย์ตัวแข็งทื่อก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ“ผมไม่ได้สนใจที่จะทำแบบนั้นหรอกนะครับคุณย่าคอบบ์“ความโกรธแค้นของคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมด้วย"ท้ายที่สุดแล้วทำไมคนจากราชวงศ์ต้องมายุ่งรบกวนพวกเขาด้วยล่ะ?ในสายตาของเขาแล้วตระกูลคอบบ์ก็แค่ไม่มีสิทธิ์“คุณไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลยเหรอ?”น้ำเสียงของคุณย่าคอบบ์เริ่มเกรี้ยวกราดมากขึ้น“คุณใช้ชื่อเสียงและสถานะของคุณเพื่อช่วยไอ้คนสารเลวพวกนั้นได้ขายของในต่างประเทศ! แล้วจะมาบอกว่าไม่ได้ต่อสู้กับเราได้ยังไง?!“เราควรเป็นคนที่ได้สิทธิ์นั้นมากกว่านะ!“ฮาร์วีย์ทำยังไงถึงทำให้คุณทำแบบนั้นได้?!“เขาจ่ายเงินให้คุณ
จากนั้นฟินลีย์ก็บอกลูกน้องที่ไว้ใจได้ของเขาคนหนึ่ง ให้ไปเอายาขี้ผึ้งที่ฮาร์วีย์กับคนอื่น ๆ ได้เตรียมเอาไว้มาแล้วเขาก็ทายาเป็นชั้นบาง ๆ บนบาดแผลของเขาทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ายานั้นช่วยสมานแผลที่มีเลือดไหลซึมนั้นได้ทันที!กล้ามเนื้อที่บวมเป่งจากบาดแผลก็หดตัวลงทันทีด้วย!“เหลือเชื่อ! ช่างมหัศจรรย์จริง ๆ!ฟินลีย์ระเบิดหัวเราะออกมา“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกทหารและตำรวจเหล่านั้นถึงไม่มาลงนามในคำร้องนั้นก่อนหน้านี้!“นี่คือการช่วยชีวิตคนอย่างพวกเขา!”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็น จริง ๆ แล้วผลิตภัณฑ์ยาที่เขามอบให้ฟินลีย์ไปนั้นมีประสิทธิภาพเพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของสูตรดั้งเดิมเท่านั้นเห็นได้ชัดว่าผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบนั้นได้สงวนเอาไว้สำหรับคนของประเทศ Hเพราะท้ายที่สุดแล้วการผลิตยานี้ต้องทุ่มเทในการทำงานอย่างมากแต่ถึงกระนั้นจักรวรรดิก็ยังตกใจมากที่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ในขณะที่พวกเขาได้แต่เชื่อมั่นในยาปฏิชีวนะเท่านั้น“แก… แก...”เมื่อคุณย่าคอบบ์เห็นฟินลีย์สาธิตการใช้ยาขี้ผึ้งมหัศจรรย์ของฮาร์วีย์ต่อหน้าทุก ๆ คนแล้ว...เธอก็รู้สึกเดือดดาลด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอพูดอะไรไม่อ
"อ้อ! เรื่องราวเป็นอย่างนั้นเอง! เรานึกว่ายาขี้ผึ้งนั้นจะมีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจซะอีก!”“คุณฟินลีย์เป็นสุภาพบุรุษเหรอ...ไม่ใช่แล้ว! เขาใส่ใจกับชื่อเสียงของเขามากกว่าเรื่องอื่นใด! ทำไมเขาถึงทำเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ?!”“การทำแบบนั้นช่างขัดกับหลักการของเขามาก! นั่นคือสิ่งที่คุณเรียกว่าจิตวิญญาณของสุภาพบุรุษเหรอ?!“เรื่องนี้ช่างเป็นอะไรที่เลวทรามมาก! คุณฟินลีย์ลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อผู้ชายหน้าด้านคนนี้ ก็เพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณของเขา! แล้วใครจะเชื่อใจเขาได้อีกหลังจากนี้ล่ะ?!”ฝูงชนเริ่มซุบซิบนินทาหลังจากได้ยินคำพูดของสองแม่ลูก หลังจากนั้นสายตาที่จ้องมองฮาร์วีย์อย่างดูถูกเหยียดหยามก็แปรเปลี่ยนไปที่คุณฟินลีย์ทันทีคุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ เริ่มรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นเอลเลนถึงกับเชิดหน้าสวย ๆ ให้ฮาร์วีย์พร้อมกับทำสีหน้าหยิ่งผยอง ราวกับเธอเป็นเจ้าหญิงที่โดนตามใจ“หยุดเสแสร้งได้แล้วฮาร์วีย์!“เว้นแต่คุณจะแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมา เพื่อพิสูจน์ว่าคุณเก่งกาจกว่าอีเดนได้...“ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณปล้นชัยชนะด้วยการใช้เล่ห์เหลี่ยมแบบนี้หรอก!”ในความคิดของเอลเลนนั้น ร้านของฮาร์วีย
แต่อย่างไรก็ตามบุคคลสำคัญอย่างอัลเลน โอลฟอร์ดก็มีสถานะสูงกว่าฟินลีย์อัลเลนไม่เพียงแต่ทรงอำนาจอย่างน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น แต่แค่สายสัมพันธ์ของเขาเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวเขาได้แล้วว่ากันว่าแม้แต่เชส สมิธ ซึ่งเป็นผู้นำองค์กรแห่งนี้ยังให้ความเคารพเขาเลยก่อนหน้านี้เชสได้ประกาศว่าถ้าเขาได้รับมอบหมายให้ไปอยู่ที่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ หรือถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับเขา...อัลเลนก็จะเข้ามาทำหน้าที่แทนเขา!พูดง่าย ๆ ก็คือเขาเป็นผู้สืบทอดของเชส!เขามีอนาคตที่สดใสอย่างไม่น่าเชื่อ!ดวงตาของคุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ดูเป็นประกายก่อนจะรีบเข้าไปรุมล้อมขบวนรถนั้น“คุณทำเพื่อตระกูลของเราตั้งมากมายนะซีอีโอโมเรโน่! ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณ!”“เราจะจดจำเรื่องนี้ไปจนตลอดชีวิตของเราเลย!”“คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ เอลเลนจะกลายเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลเราไม่ช้าก็เร็ว!”คุณย่าคอบบ์แสดงความขอบคุณในขณะที่เธอก้าวไปข้างหน้าเธอยอมให้อีเดนได้แต่งงานกับเอลเลน ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเพียงลูกนอกสมรสก็ตามท้ายที่สุดแล้วเธอรู้ว่าโนเอมิมีลูกสาวเพียงคนเดียวทรัพย์สิน อำนาจ และสายสัมพันธ์ของเธ
โนเอมิเหลือบมองลูกสาวหลังจากสัมผัสได้ถึงการจ้องมองด้วยสายตาอาฆาตแค้นของเธอ“เขาอาจดูสงบนิ่งนะเอลเลน...” เธออธิบายหลังจากหัวเราะออกมาเบา ๆ“แต่ตอนนี้เขาคงเหงื่อแตกพลั่ก ๆ อยู่เลยล่ะ“ฉันพนันได้เลยว่าสถานการณ์นี้ทำให้เขาตะลึงงันไปเลยล่ะ“ปลาซิวปลาสร้อยอย่างเขาทำได้แค่เสแสร้งแกล้งทำเท่านั้นแหละ!”อีเดนพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“ใช่แล้ว! คนเสแสร้งพวกนี้ทำอะไรไม่ได้หรอกนอกจากอวดเบ่งเท่านั้นแหละ!”เอลเลนรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นแต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเดือดดาล โดยแอบหวังว่าเขาจะกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นด้วยความโศกเศร้าในขณะนี้ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าอ้วนกลมและแดงก่ำได้ก้าวออกมาข้างหน้า โดยมีผู้คนนับสิบรายล้อมเขาไว้“สวัสดีครับคุณย่าคอบบ์! ซีอีโอโมเรโน่!“ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในวันครบรอบของคุณ!”ชายวัยกลางคนพยักหน้าเบา ๆ ต่อหน้าคุณย่าคอบบ์เป็นการทักทาย ราวกับว่าแค่การมาถึงของเขานี้ก็ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อตระกูลคอบบ์แล้ว“รองหัวหน้าโอลฟอร์ดเป็นคนที่มีงานยุ่งตลอด! เขาอุตส่าห์กลับมาจากการฮอลิเดย์ที่ประเทศหมู่เกาะ เพื่
"โอ้! เขาไม่ได้มาเพื่อตระกูลคอบบ์หรอกเหรอ?”อัลเลนหรี่ตาลงเล็กน้อย พร้อมกับแสดงความโกรธแค้นออกมาทางแววตาโนเอมิยิ้มก่อนจะกระซิบบอกที่ข้างหูอัลเลนอัลเลนเข้าใจในสถานการณ์ที่เป็นอยู่อย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็มองไปที่ใบหน้าทางด้านข้างของฮาร์วีย์เขารู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้าของฮาร์วีย์เป็นอย่างมาก แต่ก็นึกไม่ออกเพราะเขายืนอยู่ไกลเกินไปอัลเลนแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามในขณะที่หัวเราะอย่างเย็นชา“คนบ้านนอกจากประเทศ H กล้ามาท้าทายตระกูลคอบบ์ถึงถิ่นของเขาได้ยังไง?”อัลเลนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดหลังจากรู้ตัวว่าฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ทำเมินเฉยต่อเขา โดยไม่แสดงความเคารพเขาเลยคุณย่าคอบบ์กระแอมกระไอด้วยสีหน้าเศร้าหมองก่อนจะพูดว่า "รองผู้นำโอลฟอร์ด! ตระกูลของเราโชคร้ายมาก!“ลูกสาวที่เนรคุณของตระกูลเราไม่เพียงแต่ตัดขาดจากเราเท่านั้น แต่เธอยังเลี้ยงดูผู้ชายไว้ต่อสู้กับเราด้วยค่ะ!“ฉันขอโทษที่คุณต้องเห็นภาพอย่างนี้!“เขาขโมยสูตรยาของตระกูลคอบบ์ และผลิตยาปลอมขึ้นมาด้วย! นี่มันช่างไร้ยางอายสิ้นดี!” เอลเลนร้องบอก“หลอดเหลือดสมองของฉันเกือบแตกหลังจากที่เขาทำให้ฉันเดือดดาลเป็นอย่างมาก" โนเอมิพูดด้วยท่าทีเ