หลังจากเห็นการจัดงานที่ดูยอดเยี่ยมและเป็นระเบียบของตระกูลคอบบ์แล้ว เอลเลนก็อดที่จะหัวเราะใส่หน้าฮาร์วีย์ไม่ได้ เมื่อเธอมองกลับไปด้วยสีหน้าเย็นชา“ฉันซื้อกระเช้าดอกไม้ให้คุณก็ได้นะ แล้วจะซื้อยาขี้ผึ้งของคุณกล่องหนึ่ง เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้"ผู้คนที่อยู่ข้างหลังเอลเลนต่างหัวเราะกันคิกคักหลังจากได้ยินคำพูดของเอลเลน'คนบ้านนอกจากประเทศ H ทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณในการเปิดร้าน แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ?''ไม่มีลูกค้าเข้ามาแม้แต่คนเดียว! เขายังต้องพึ่งแม่เทพธิดาที่ทิ้งเขาไปคนนั้น ให้อวยพรเขาด้วยกระเช้าดอกไม้อีกนะ!''เมื่อมาถึงจุดนี้เขาก็แค่ดูน่าสมเพชเวทนาเท่านั้น!'ฮาร์วีย์จิบชาก่อนจะตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ ว่า "ไม่ต้องหรอก กระเช้าดอกไม้ของคุณไม่มีสิทธิ์ได้อยู่ที่นี่“เราไม่มีว่างสำหรับคุณที่นี่ด้วย"สีหน้าของเอลเลนเปลี่ยนไป“โอ้โห! ไม่มีที่ว่างสำหรับฉันเหรอ?!“เชิญเสแสร้งต่อไปเถอะ!“คุณคิดว่าคุณดูน่าประทับใจเพียงเพราะคุณรู้จักเทรย์เหรอ?!“คุณคิดว่าคุณเป็นราชาแห่งโลกใบนี้หรือไง?!“คุณไม่ใช่คนสำคัญของที่นี่เลย!เอลเลนปล่อยหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมกับทำสีหน้าเริงร่า“ในสถาน
ฮาร์วีย์หรี่ตามอง วันนี้เป็นวันสำคัญเขาจึงไม่อยากเสียเวลามาโต้เถียงกับเอลเลน“ดื่มน้ำแล้วพักผ่อนเยอะ ๆ ในขณะที่คุณยังสามารถทำได้" ฮาร์วีย์พูดในขณะมองไปที่เคทีและคนอื่น ๆ“เพราะเราจะไม่มีเวลาได้ทำอย่างนั้นเมื่อแขกเหรื่อมาถึงกันแล้ว"จากนั้นฮาร์วีย์ก็รินชาให้ตัวเองอีกหนึ่งถ้วยก่อนจะจิบชาเอลเลนและคนอื่น ๆ ต่างอึก ๆ อัก ๆ กันเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองฮาร์วีย์ด้วยความไม่เชื่อเป็นอย่างมากทุกคนต่างเผยให้เห็นรอยยิ้มสนุกสนานและห่างเหิน ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูตัวตลกอยู่พวกเขาเคยเห็นคนไร้ยางอายและน่าหัวเราะมามากมาย แต่ยากนักที่เจอคนแบบฮาร์วีย์!'ไม่เห็นมีลูกค้าสักคนเดียว บนพี้นที่ว่างก็ไม่มีกระเช้าดอกไม้วางอยู่สักใบเดียว แต่เขายังมีหน้ามาพูดจาแบบนั้น!''เขาไร้ยางอายได้ถึงขนาดไหนเนี่ย?!'“โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย! นี่มันมากเกินไปหน่อยแล้วนะคุณว่าไหม?”คุณย่าคอบบ์ อีเดน และวาเลรี่เดินเข้าไปพร้อมกับกลุ่มคนเมื่อเห็นเอลเลนและคนอื่น ๆพวกเขาทำเสียงเยาะเย้ยขึ้นมาทันทีที่เห็นฮาร์วีย์กำลังจิบชาอยู่“เธอกำลังจะสร้างตระกูลคอบบ์ตระกูลเดียวขึ้นมาในขณะที่มีสารรูปอย่างนี้น่ะเหรอเคที?“เธอต้องการให้ตระก
บรืน!เมื่อมีเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มขึ้น รถมายบัคก็ค่อย ๆ แล่นเข้ามาจอดบนถนนในขณะที่คุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ กำลังจะไปต้อนรับแขกที่เพิ่งเข้ามาใหม่พร้อมกับรอยยิ้ม พวกเขาก็รู้ตัวว่าไม่มีที่จอดรถเหลือสำหรับงานนี้แล้วรถมายบัคคันนั้นจึงเข้าไปจอดอยู่ตรงหน้าร้านของฮาร์วีย์หลังจากนั้นไม่นานชายและหญิงห้าคนก็เดินออกมาจากรถเสื้อผ้าของพวกเขาดูประณีตงดงามมาก การเคลื่อนไหวของพวกเขาแต่ละครั้งก็ทำให้เกิดรังสีออร่าของชนชั้นสูงเปล่งประกายออกมาผู้ที่เดินนำเข้ามาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอีวอนน์ส่วนเรย์ก็เดินตามหลังเธอมาติด ๆคุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ตัวแข็งทื่อ ก่อนจะแสดงสีหน้าที่ดูตกตะลึงเป็นอย่างมากมีการรายงานข่าวว่าอีวอนน์และเรย์เข้ามาอยู่ในเมืองนี้สองสามวัน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทุก ๆ คนถึงจำบุคคลสำคัญทั้งสองคนจากประเทศ H ได้แต่ยังไงก็ตามคุณย่าคอบบ์เชื่อว่าเธอและตระกูลของเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเชิญทั้งสองคนนั้นได้!พวกเขายังไม่คู่ควรที่จะทำอย่างนั้นเลย!'โนเอมิเป็นคนพาพวกเขามาที่นี่เหรอ?!'เมื่อได้ยินว่าตระกูลโมเรโน่เข้ากับบริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่นได้เป็นอย่างดี คุณย่าคอบบ์ก็คิดว่าโนเอมิเป็น
อีวอนน์และเรย์ไม่ได้ชายตามองโนเอมิด้วยซ้ำไป พวกเขารีบเดินผ่านเธอไปโดยไม่เสียเวลาตอบคำถามของเธอเลยเห็นได้ชัดว่าการทำเมินเฉยต่อคนแบบนั้นถือเป็นการเย้ยหยันอย่างเงียบ ๆเมื่อทั้งสองคนนั้นเดินเข้าไปหาฮาร์วีย์ อีวอนน์ก็เผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ ในขณะที่เรย์ก็แสดงสีหน้าให้ความเคารพ“นานแล้วนะ"ฮาร์วีย์และอีวอนน์โอบกอดกันเบา ๆแค่การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายและใบหน้าอันงดงามของอีวอนน์ก็ทำให้เอลเลนต้องเปลี่ยนสีหน้าได้แล้ว เมื่อมาถึงตอนนี้เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าจะต้องรู้สึกยังไงเธอไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงอย่างเคทีและอีวอนน์ถึงต้องให้ความเคารพฮาร์วีย์อย่างนั้นด้วย!ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นเพียงผู้ชายที่เธอทิ้งไป!ฮาร์วีย์เหลือบมองเรย์ก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า "คราวหน้าคุณน่าจะหาข้อมูลมาก่อนนะว่าจะต้องทำงานร่วมกับใคร“เพราะเราไม่อยากให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาวุ่นวายในธุรกิจของเรา"เรย์พยักหน้าเบา ๆ“คุณพูดถูกครับ ผมไม่สามารถหยุดยั้งใครบางคนไม่ให้เอาเปรียบคนอื่นด้วยชื่อบริษัทของเราได้ นั่นเป็นความผิดของผมเองครับ“นอกจากมาร่วมเฉลิมฉลองในการเปิดตัวธุรกิจของคุณแล้ว ผมก็มาที่นี่เพื่อเคลียร์ปัญหาบางอย่างด้ว
"ฉันไม่คิดว่าคุณจะให้ความใส่ใจฉันมากถึงขนาดนี้ ถึงได้นำคนสำคัญเหล่านี้มาที่นี่ได้!“น่าเสียดายที่ตัวตนและสถานะของพวกเขาสูงเกินไป“คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมีบริษัทของพวกเขาที่นี่ด้วยซ้ำไป! เพราะการกระทำอย่างนี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม!“เราสามารถบอกได้เลยว่าคนสองคนนี้มาที่นี่เพื่อการแสดงเท่านั้น!“อย่างน้อยก็ควรพูดออกมาตรง ๆ นะ! แค่พูดคำนั้นออกมาถ้าคุณไม่สามารถพาใครมาที่นี่ได้!“ไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง! ไม่มีใครรู้ว่าคุณต้องคุกเข่าให้พวกเขากี่ครั้งกว่าจะพาพวกเขามาถึงที่นี่ได้!“คุณเรียกแค่สิบห้าล้านดอลลาร์เองเหรอ? ทำไมไม่ขอขั้นต่ำสัก 1.5 พันล้านดอลลาร์ล่ะ?”เอเลนเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม“นอกจากสองคนนี้แล้ว ฉันรับประกันได้เลยว่าจะไม่มีใครมางานเปิดร้านของคุณเอีก!“ถ้ามีฉันจะกินป้ายพวกนี้ให้หมดเลย!”จากนั้นเอลเลนก็ชี้ไปที่ป้ายของฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเย้าแหย่โนเอมิเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย“เอลเลน! ลูกไม่ควรกล่าวหาเลขาซาเวียร์และซีอีโอเรย์อย่างนั้นน่ะ!“พวกเขาเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน!“ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ได้มาพบฮาร์วีย์แบบตัวเป็น ๆ หรอก ถึงแม้เขาจะลงทุนคุกเข่าจนหัวเข่าด้า
เอลเลนมีท่าทีภาคภูมิใจในขณะจ้องมองฮาร์วีย์สำหรับเอลเลนแล้ว ความร่ำรวยของคุณฟินลีย์นั้นมีมากมายมหาศาลเพื่อเทียบกับอีวอนน์และเรย์“ยินดีต้อนรับค่ะคุณฟินลีย์! ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์มาเยี่ยมเยียนพวกเรา!”โนเอมิและเอลเลนเดินตามมาพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนและรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้นท้ายที่สุดแล้วการรู้จักคุณฟินลีย์เอาไว้นับเป็นผลดีต่อสถานะของตนเองเมื่ออยู่ในเมืองนี้“โอ้ คุณย่าคอบบ์ ซีอีโอโมเรโน่ ยินดีด้วยนะครับ”คุณฟินลีย์รู้สึกรำคาญเล็กน้อยหลังจากถูกขวางทางเอาไว้ แต่เขาก็ยังยิ้มอย่างอ่อนโยนในแบบฉบับสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง“ทำผลงานให้ดีต่อไปนะครับ"คุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ระเบิดหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของคุณฟินลีย์“ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณนะคะ! มันมีความหมายต่อเรามากจริง ๆ!”“เอลเลน! อีเดน! มานี่เร็ว! คุณฟินลีย์มีของขวัญมาให้เราด้วย!” โนเอมิร้องบอกอย่างรวดเร็วหลังจากเห็นกล่องของขวัญในมือของเขา“ถ้าเขาถือไว้นาน ๆ จะสร้างความอับอายให้เขาได้!”เอลเลนและอีเดนเอื้อมมือไปรับกล่องขวัญอย่างตื่นเต้นเพราะยังไงก็ตามในสายตาของพวกเขานั้น แม้แต่เศษขยะจากคนในราชวงศ์ของจักรว
แม้แต่คนอย่างโนเอมิที่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ทุกเมื่อก็ยังสั่นสะท้านโดยสัญชาตญาณ เธอรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่กำลังจะบดขยี้เธอในเวลานี้ถ้าน้ำอมฤตสีเงินนั้นมีโอกาสไปขายในต่างประเทศได้จริง ก็จะสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับตระกูลคอบบ์คุณย่าคอบบ์ตัวสั่นเทา เธอเข้าใจในข้อเท็จจริงนั่นเป็นอย่างดี“เราได้ให้ความเคารพต่อคุณเป็นอย่างมาก! แต่ทำไมคุณถึงมาต่อสู้กับเราแบบนี้!” คุณยายคอยย์กรีดร้องขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ“ต่อสู้กับคุณเหรอ?”คุณฟินลีย์ตัวแข็งทื่อก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ“ผมไม่ได้สนใจที่จะทำแบบนั้นหรอกนะครับคุณย่าคอบบ์“ความโกรธแค้นของคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมด้วย"ท้ายที่สุดแล้วทำไมคนจากราชวงศ์ต้องมายุ่งรบกวนพวกเขาด้วยล่ะ?ในสายตาของเขาแล้วตระกูลคอบบ์ก็แค่ไม่มีสิทธิ์“คุณไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลยเหรอ?”น้ำเสียงของคุณย่าคอบบ์เริ่มเกรี้ยวกราดมากขึ้น“คุณใช้ชื่อเสียงและสถานะของคุณเพื่อช่วยไอ้คนสารเลวพวกนั้นได้ขายของในต่างประเทศ! แล้วจะมาบอกว่าไม่ได้ต่อสู้กับเราได้ยังไง?!“เราควรเป็นคนที่ได้สิทธิ์นั้นมากกว่านะ!“ฮาร์วีย์ทำยังไงถึงทำให้คุณทำแบบนั้นได้?!“เขาจ่ายเงินให้คุณ
จากนั้นฟินลีย์ก็บอกลูกน้องที่ไว้ใจได้ของเขาคนหนึ่ง ให้ไปเอายาขี้ผึ้งที่ฮาร์วีย์กับคนอื่น ๆ ได้เตรียมเอาไว้มาแล้วเขาก็ทายาเป็นชั้นบาง ๆ บนบาดแผลของเขาทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ายานั้นช่วยสมานแผลที่มีเลือดไหลซึมนั้นได้ทันที!กล้ามเนื้อที่บวมเป่งจากบาดแผลก็หดตัวลงทันทีด้วย!“เหลือเชื่อ! ช่างมหัศจรรย์จริง ๆ!ฟินลีย์ระเบิดหัวเราะออกมา“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกทหารและตำรวจเหล่านั้นถึงไม่มาลงนามในคำร้องนั้นก่อนหน้านี้!“นี่คือการช่วยชีวิตคนอย่างพวกเขา!”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็น จริง ๆ แล้วผลิตภัณฑ์ยาที่เขามอบให้ฟินลีย์ไปนั้นมีประสิทธิภาพเพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของสูตรดั้งเดิมเท่านั้นเห็นได้ชัดว่าผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบนั้นได้สงวนเอาไว้สำหรับคนของประเทศ Hเพราะท้ายที่สุดแล้วการผลิตยานี้ต้องทุ่มเทในการทำงานอย่างมากแต่ถึงกระนั้นจักรวรรดิก็ยังตกใจมากที่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ในขณะที่พวกเขาได้แต่เชื่อมั่นในยาปฏิชีวนะเท่านั้น“แก… แก...”เมื่อคุณย่าคอบบ์เห็นฟินลีย์สาธิตการใช้ยาขี้ผึ้งมหัศจรรย์ของฮาร์วีย์ต่อหน้าทุก ๆ คนแล้ว...เธอก็รู้สึกเดือดดาลด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอพูดอะไรไม่อ