"แกแกล้งทำเป็นโทรหากาเอลเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นแสดงท่าทีเหยียดหยามเมื่อเห็นฮาร์วีย์ใช้โทรศัพท์“แกรู้ไหมว่ากาเอลคือใคร? เขาคือนายน้อยของตระกูลแพดโลว์ ตัวตนของเขาในสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้นั้นยิ่งใหญ่มาก!“แกโทรหาเขาได้เหรอ?“แกพยายามจะหลอกใครที่นี่อยู่หรือยังไง?“อย่างน้อยก็ควรทำให้ดูน่าเชื่อกว่านี้หน่อย!“ลองมองตัวเองในกระจกดูสิ!“แกคิดว่าแกมีสิทธิ์โทรหากาเอลได้เหรอ?!”ริโก้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา“แกกล้ามากนะที่มาทำอวดดีต่อหน้าฉันไอ้เด็กน้อย!“ถ้าฉันบอกเรื่องนี้กับนายน้อยแพดโลว์ล่ะก็แกตายแน่!“เมื่อดูจากวิธีที่เขาจัดการกับเรื่องต่าง ๆ แล้ว ใครก็ตามที่ใช้ชื่อของเขาไปอวดอ้างก็จะถูกบังคับให้หมอบกราบเพื่อเป็นการขอโทษด้วยกันทั้งนั้น!”ฮาร์วีย์วางสายโทรศัพท์ก่อนจะมองไปที่ริโก้“ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันไม่จำเป็นต้องให้แกทำอย่างนั้นกับฉันหรอก“แต่ยังไงก็ตามแกจะต้องคุกเข่าในขณะปฏิบัติงานจดทะเบียนธุรกิจให้เสร็จสิ้น"'เขาพูดว่าอะไรนะ?'ผู้หญิงคนนั้นอวดรอยยิ้มเริงร่า“แกแกล้งโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอ?” เธอร้องถามริโก้กวาดตามองฮาร์วีย์ก่อนจะเคาะโต๊ะ“ดี! ฉันจะให้เวลาแก
กาเอลรีบเดินเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทั่วร่างกายเต็มไปด้วยเฝือกและผ้าพันแผลผู้บริหารระดับสูงสองสามคนของสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ทำสีหน้าที่ดูแย่มาก ในขณะที่เดินตามหลังกาเอลเข้าไปริโก้ลุกขึ้นยืนแล้วโค้งคำนับให้แบบรัว ๆ“นายน้อยแพดโลว์! และท่านทั้งหลาย!”“ผู้หญิงคนนั้นและพนักงานคนอื่น ๆ รีบถอยออกไปก่อนจะทักทายกาเอลและคนอื่น ๆ ด้วยความเคารพนอกจากกาเอลแล้วก็มีทั้งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้มาด้วย สถานะของพวกเขาล้วนแต่ไม่ธรรมดาพวกปลาซิวปลาสร้อยที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขข้างถนนกาเอลทำเมินเฉยต่อคนพวกนั้นก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาฮาร์วีย์อย่างรวดเร็ว“มีใครมาสร้างปัญหาให้คุณที่นี่เหรอครับคุณยอร์ก?” กาเอลถามในขณะเดินก้มหน้าเข้าไป“มันคือใคร?!“ผมจะจัดการกับมันเดี๋ยวนี้เลย!”ริโก้และผู้หญิงคนนั้นหน้าซีดเผือดทันทีที่เห็นท่าทียอมจำนนของกาเอลเมื่ออยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์พวกเขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะสามารถเรียกตัวกาเอลมาที่นี่ได้ง่าย ๆ แบบนั้นสถานะของกาเอลในแบล็คเบิร์น ซิตี้นั้นด้อยกว่านายน้อยทั้งหลายจากตระกูล
ฮาร์วีย์มองไปยังภาพเหตุการณ์นั้นโดยไม่ให้คำตอบโดยตรง“ขอบคุณครับผู้อำนวยการ"ผู้อำนวยการยังคงตบหน้าริโก้ไม่หยุดก่อนจะร้องบอกเขาว่า "ขอโทษคุณยอร์กเดี๋ยวนี้!”“ผมขอโทษครับคุณยอร์ก! ผมต้องขอโทษจริง ๆ!มีเหงื่อไหลหยดทั่วร่างในขณะที่เขาโค้งคำนับไม่หยุด“ผมผิดไปแล้ว! ผมจะทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นเดี๋ยวนี้ครับ!”“ทำในขณะที่คุกเข่าอยู่นะ" ฮาร์วีย์ตอบ“ได้ยินไหม?! ทำงานของแกในขณะที่คุกเข่าอยู่!”กาเอลเดาได้เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์กาเอลเตะริโก้ล้มลงในขณะที่กัดฟันแน่น ในเวลานี้เขาอยากให้ริโก้ตายอย่างเหลือเกินฮาร์วีย์เกือบจะทำให้สมาชิกของตระกูลแพดโลว์กลายเป็นคนพิการกันหมด แต่ริโก้ก็ยังทำท่าอวดเบ่งต่อหน้าเขาอยู่ดีความเคืองแค้นของกาเอลยังไม่หมดไปง่าย ๆ ใบหน้าของริโก้ดูบวมเป่งหลังจากโดนเตะที่หน้าอีกหลายครั้งริโก้ไม่กล้าลุกขึ้นยืนและไม่กล้าต่อสู้กลับ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทนกับทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อริโก้ดูเหมือนกำลังจะหมดสติ ฮาร์วีย์ก็พูดขึ้นมาว่า“หยุดทุบตีเขาได้แล้ว"“ขอบคุณครับคุณยอร์ก! ขอบคุณครับ!” ริโก้ร้องบอกในขณะโค้งคำนับไม่หยุด“คุณสามารถทำต
ฮาร์เปอร์รู้ตัวว่าเธอกำลังสร้างความยุ่งยากให้กับฮาร์วีย์เนื่องจากเธอไม่มีประสบการณ์“ฉันขอโทษที่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลยนะคะคุณยอร์ก" ฮาร์เปอร์บอกอย่างเขินอายฮาร์วีย์ส่ายหัวโดยไม่พูดอะไรก่อนเดินออกจากอาคารไปในขณะที่เขากำลังโบกเรียกแท็กซี่อยู่นั้น เขาก็เหลือบเห็นร้าน ๆ หนึ่งที่อยู่ตรงหัวมุมถนนถึงแม้ว่าร้านแห่งนี้จะดูใหญ่โตและหรูหรา แต่ก็ดูร้างผู้คนเพราะใคร ๆ ต่างก็ไม่อยากเอาเงินออกมาใช้จ่ายมีป้ายวางไว้หน้าร้านโดยเขียนบอกว่าให้เช่าร้านด้วยฮาร์วีย์พยักหน้าหลังจากมองสำรวจร้านนั้นสองสามรอบ“ที่นี่ดูไม่เลวเลยนะ ธุรกิจของเราต้องไปได้สวยอย่างแน่นอนถ้าเราใช้ร้านนี้เป็นร้านสัญญลักษณ์ของแบรนด์เรา!”ฮาร์เปอร์บอกได้เลยว่าร้านนี้อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ด้วย“ไม่มีปัญหา! ฉ้นจะติดต่อเรื่องเช่าร้านกับเจ้าของร้านนี้เองค่ะ!”“ไม่จำเป็นต้องเช่าหรอก เราจะซื้อเลย" ฮาร์วีย์ตอบฮาร์เปอร์กัดลิ้นตัวเองเบา ๆ เมื่อรู้ว่าฮาร์วีย์มีเงินเยอะขนาดไหน'เขาดูเหมือนเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ!'ทันทีที่ฮาร์วีย์กำลังจะโบกเรียกแท็กซี่อีกคันหนึ่ง คนขับรถทุกคันต่างก็หยุดมองไปยังอาคารสำนักงานแห่งนั้นด้วยความสงสัยฮ
”ฉันให้โอกาสเขาแล้ว แต่เขากลับไม่ได้ใส่ใจกับมันเลย!“เขาไม่รับโทรศัพท์ของฉัน! เขาไม่ได้นำของขวัญมาให้ฉันแม้แต่ชิ้นเดียว!“เขาคือเศษสวะ! เขาเป็นแค่เพลย์บอยเท่านั้นเอง!“ฉันจะไม่ให้โอกาสผู้ชายคนนี้อีกแล้ว!“เขาคิดว่าเขาเป็นใคร?! เขาเอาแต่ทำร้ายฉัน!”เอลเลนกัดริมฝีปากตัวเองเบา ๆ ในเวลานั้นเธอรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นเอลเลนยืนโอนเอนไปมา ราวกับว่าเธอกำลังจะล้มลงได้ทุกเมื่อท้ายที่สุดแล้วมีผู้คนเป็นจำนวนมากที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้“อย่านะ!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้นร้องบอกออกไปพร้อมกัน“คุณทำอย่างนั้นไม่ได้นะเอลเลน ผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีคุณ?” ฮาร์วีย์รีบพูดออกมาอย่างรวดเร็วหลังจากพุ่งตัวไปข้างหน้า“คุณไม่ได้ลืมใช่ไหมคะ? ฉันไม่เพียงแต่เป็นแฟนของคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นคู่หมั้นของคุณด้วย!“คุณไม่สามารถเปลี่ยนใจไปหาชายอื่นที่อยู่ตรงหน้าผมได้!”“อะไรนะ?!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้นทำสีหน้าแปลก ๆ หลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์พวกเขาคิดว่าเอลเลนเป็นสาวบริสุทธิ์และไร้เดียงสาผู้ยอมเสียสละทุกสิ่งเพื่อควา
"อ๊ากกก!”“ไม่นะ!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้นร้องเสียงหลงด้วยความหวาดกลัวพวกเขาต่างมองเห็นสาวสวยที่จวนเจียนจะกลายเป็นเนื้อบดอยู่แล้วฟั่บบบ!ฮาร์วีย์เคลื่อนไหวร่างกายทันที!เขารีบกระโจนตัวขึ้นจากพื้นก่อนจะพุ่งตัวไปข้างหน้าราวกับลูกธนู!เกิดเป็นภาพติดตาที่แทบจะมองเห็นได้ราวกับเป็นเอฟเฟกต์พิเศษ ที่จะเห็นได้เฉพาะในภาพยนตร์เท่านั้น!ในขณะที่เอลเลนกำลังจะหลับตาและยอมรับชะตากรรมของตนเองอยู่นั้น ก็มีแรงจับอันหนักแน่นมายึดตัวเธอให้อยู่นิ่งทันที เพื่อให้เธอตกลงไปบนพื้นทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างอ้าปากค้างทันที พวกเขาตกตะลึงจนไม่สามารถจะเปล่งคำพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียวเอลเลนตัวสั่นทันทีหลังจากมีประสบการณ์เฉียดตาย เมื่อมาถึงจุดนี้เธอก็รู้สึกตื่นตัวเป็นอย่างมากเธอเหลียวไปมองข้างหลังด้วยสีหน้าหวาดกลัวก่อนจะหันกลับไปหาฮาร์วีย์“ขอบคุณนะคะฮาร์วีย์!”เธอไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าเธอต้องตายแน่ ๆ ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ค่อยอุ้มเอลเลนให้ลุกขึ้น“ที่ผมทำแบบนั้นก็เพราะจะช่วยชีวิตคุณเท่านั้น อย่าใส่ใจในสิ่งที่ผมพูดออกไปเลยนะ"เอล
ในใจของฮาร์วีย์นั้นเขาต้องการซื้อร้านนั้นในราคาตลาด เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ จากการกลั่นน้ำอมฤตแต่เอลเลนก็เอาแต่บอกว่าข้าวของ ๆ เธอก็เป็นของ ๆ ฮาร์วีย์ด้วย และเธออยากตอบแทนเขาที่ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้นอกเหนือจากการที่เธอเป็นเพื่อนของเคทีแล้ว เธอก็ยังเป็นปรปักษ์กับตระกูลคอบบ์ด้วย จึงเป็นธรรมดาที่เธอจะต้องให้ความช่วยเหลือซึ่งทำให้ฮาร์วีย์คนพบว่าอีเดน คอบบ์คือแฟนเก่าของเอลเลนนั่นเองในขณะที่ฮาร์วีย์รู้สึกประหลาดใจกับโลกใบเล็ก ๆ ที่เขาอาศัยอยู่นั้น เขาก็นั่งเอนหลังในขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามทางของมันโครงร่างของร้านถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่การผลิตยาสามารถดำเนินต่อไปได้ ร้านแห่งนี้ก็จะเปิดดำเนินการได้ในเวลาอันรวดเร็วธุรกิจของตระกูลคอบบ์อยู่อีกฟากหนึ่งของถนน เมื่อมองจากภายนอกก็ดูเหมือนว่าร้านนั้นกำลังฉลองวันครบรอบเปิดกิจการอยู่นะถ้าการปรับปรุงร้านของเอลเลนเสร็จเร็ว ธุรกิจของเคทีจะไล่ตามทันอย่างแน่นอนมีข่าวแพร่กระจายออกไปทันทีที่ป้ายร้านถูกแขวนเอาไว้ คุณย่าคอบบ์และคนอื่น ๆ ต่างตกใจกันมาก“นางสารเลว!”คุณย่าคอบบ์นั่งตัวสั่นเทาอยู่บนเก้าอี้หลังจากได้ยินข่าวเรื
"ผมได้ยินมาว่าที่ฮาร์วีย์ได้รับการประกันออกไปจากสถานีตำรวจได้ก็เพราะเธอเช่นกัน“ที่เธอทำทั้งหมดนี้ก็เพราะต้องการแก้แค้นผม"อีเดนโชว์รูปกลุ่มเพื่อนของเขาที่อยู่ในโทรศัพท์สองสามรูปให้คุณย่าคอบบ์ดูเขาชี้ไปที่รูปของเอลเลนที่ตั้งใจถ่าย เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเขาพูดถูก“ฉันเข้าใจล่ะ"คุณย่าคอบบ์รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย“ไม่ใช่ว่าฉันอยากให้เธอต้องลำบากใจกับเรื่องนี้หรอกนะอีเดน...“แต่นางเด็กคนนั้นเป็นแค่ลูกนอกสมรส แถมยังมาจากตระกูลโมเรโน่อีก!“เมื่อเธอเข้าไปยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับฮาร์วีย์ เราก็จะต้องลำบากแน่ถ้าพวกเขาไปช่วยนางหลานสาวที่เนรคุณของฉันมาห้ำหั่นกับเรา!“เราไม่สามารถหยุดระวังตัวได้!“ถ้าเอลเลนอยู่ข้างเดียวกับพวกเขา เราก็ต้องจัดการกับเรื่องวุ่นวายอย่างอื่น ถ้าร้านของพวกเขาเกิดดังขึ้นมา!“วิธีที่ง่ายที่สุดคือรีบจัดการกับเขาเสียก่อนที่จะมีความแข็งแกร่งขึ้นมาได้!”คุณย่าคอบบ์ทำสีหน้าเย็นชาอีเดนครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น“คุณย่ากำลังบอกว่า...”คุณย่าคอบบ์หรี่ตามองอีเดน“ฉันรู้ว่านางสารเลวนั่นไม่มีสิทธิ์เป็นแฟนของเธอนะอีเดน แต่เธอจะต้องทำสิ่งนี้เพื่อเห็นแก่ตระกูลของเรา!“เธอต้องค
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข