“ชัยชนะอยู่ตรงหน้าเราแล้ว!”“พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้อีก! นอกจากจะต้องยอมรับเงื่อนไขของเราเท่านั้น“เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วเรายังต้องกลัวอะไรอีกล่ะ?!”ไคลด์หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนดื่มไวน์ลงไป“ส่งผู้เชี่ยวชาญของอินเดียไปตอนนี้เลย“หาโอกาสกำจัดไอ้เฒ่าสารเลวนั่นซะ!”“เจ้าชายออสบอร์นครับ!”อีโบนี่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูเป็นกังวล“คนที่แทรกซึมเข้ามาในประเทศ H ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่จูลิโอ การ์เซียอบรมสั่งสอนมาทั้งนั้น!“ถึงจะมีไม่มากนักแต่ตัวตนของพวกเขาได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ“คนพวกนี้ซ่อนตัวอยู่ในประเทศนี้มานานแล้ว การที่พวกเขาจะเปิดเผยตัวตนออกมาในสถานการณ์เช่นนี้ก็คงจะไม่คุ้มค่านักหรอก...“โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจะมาต่อต้านซามูเอล ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเขายังคงเป็นนายใหญ่ของหลงเหมินอยู่“ถ้าเขารู้เรื่องนี้เข้าเขาก็อาจมีข้ออ้างที่จะกวาดล้างพวกเราทั้งหมดได้“เมื่อเป็นอย่างนั้นทุกแผนการที่เราเตรียมไว้ก็จะพังทลายหมด!“ฟังผมหน่อยเถอะครับเจ้าชายออสบอร์น! ยังไม่สายเกินไปหรอกที่จะแก้แค้น!”พลั่ก!ไคลด์ยืนขึ้นแล้วเตะเอโบนี่ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยสีหน้าเย็นชา“แกกำลังสั่งสอนฉันอ
ดวงตาของไคลด์กระตุกอย่างบ้าคลั่ง หลังจากได้ยินชื่อหัวหน้าผู้ฝึกสอนในฐานะที่เป็นพลเมืองของประเทศ H เขารู้ดีว่าชื่อนั้นหมายถึงอะไรเขาไม่เคยพบหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนนี้มาก่อนเลย…แต่เขาสามารถบอกได้เลยว่าคน ๆ นี้มีความแข็งแกร่งขนาดไหน โดยพิจารณาจากความแข็งแกร่งของแอนเซล ตอร์เรส ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาคนแรกของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์นั่นเองเสียงของเวอร์มิลเลียนเบาลงเมื่อมองเห็นสีหน้าของไคลด์“นอกจากนี้ เจ้าชายออสบอร์น…“คุณเป็นบุคคลที่มีคุณค่าสูง ทำไมต้องไปต่อกรกับคนที่กำลังจะตายอย่างนั้นด้วยล่ะ?“ไม่มีใครยืนอยู่หลังกำแพงที่กำลังจะพังทลายลงหรอกค่ะ“เรามีพละกำลังที่แข็งแกร่งอยู่ในตอนนี้ คุณยังมีกองกำลังส่วนใหญ่ของตระกูลที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของคุณ...“พูดได้เลยว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้มีความสามารถชั้นยอดเพียงไม่กี่คนในประเทศ H“แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะไปต่อสู้กับหลงเหมินในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้“ท้ายที่สุดแล้วก็จะส่งผลเสียต่อแผนการอันยิ่งใหญ่ของคุณได้!“เราควรรอจนกว่าเราจะบดขยี้สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H และฮาร์วีย์ได้สำเร็จ"เมื่อเรากลับไปยังอินเดีย เราก็สาม
ในวันรุ่งขึ้นขณะที่ไคลด์ยังคงมีอารมณ์ขุ่นมัวอยู่อย่างมากมายนั้น...ฮาร์วีย์ได้เรียกรถแท็กซี่ไปยังอาคารสำนักงานของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้นอกจากจะอยากเห็นว่าโคลตันกำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่ เขาก็ยังอยากพูดคุยกับเขาในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนด้วยเมื่อพิจารณาจากบุคลิกของไคลด์ ท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์ก็เชื่อว่าชายที่หยิ่งผยองคนนี้จะไม่เพียงแค่นั่งเฉย ๆ และไม่ทำอะไรเลยหลังจากต้องทนทุกข์กับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่การกระทำของซามูเอลดูเหมือนเป็นการกระทำที่บุ่มบาม แต่จริง ๆ แล้วเขากำลังบังคับให้ไคลด์ดึงไพ่ใบสุดท้ายออกมาในขณะที่ศัตรูไม่ทันได้ระวังตัว ก็จะสามารถเล่นงานพวกเขาได้ง่ายขึ้นทันทีที่ฮาร์วีย์เข้าไปในห้องทำงาน โคลตันก็ใช้มือทุบโต๊ะอย่างฉุนเฉียว“ไอ้สารเลว! ไอ้พวกขี้ขลาด!“รองผู้นำพวกนั้นไร้ประโยชน์จริง ๆ เหรอ?!”“หรือว่าคนจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นคิดว่าพวกเขาเหนือกว่าคนอื่น? พวกเขาไม่สนใจความรุ่งโรจน์ของประเทศตัวเองเลยหรือไง?“นี่เป็นเรื่องที่แย่มากที่พวกเขาไม่ยอมยืนหยัดอยู่ข้างฉันในช่วงเวลาอันสำคัญเช่นนี้...“พวกเขายังคงรบเร้าให้ฉันยอมรับเงื่อนไขนั้นโดยเร็วที
“ที่สำคัญกว่านั้นคือไอ้แก่เดนคนนั้นกำลังกล่าวหาว่าฉันเป็นคนที่ทำการขัดขวาง หลังจากได้รับการสนับสนุนจากสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่นั้น!“เขาบอกให้ฉันยอมรับเงื่อนไขนั้นโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ก็จะเพิ่มเงื่อนไขเข้าไปมากขึ้น!”โคลตันทุบโต๊ะอีกครั้ง“ไอ้สารเลว! บางครั้งฉันก็รู้สึกอยากจะลาออกซะจริง ๆ เลย!”แต่ยังไงก็ตามโคลตันก็ไม่เคยทำอย่างนั้นเลยเขารู้ดีว่าด้วยจิตใจที่แคบและวิสัยทัศน์ที่ใช้ไม่ได้ของเดนนั้น เขาอาจจะยอมรับสภาพที่น่าอับอายเช่นนั้นได้ถ้าเป็นอย่างนั้นชื่อเสียงของประเทศ H ก็จะต้องเสื่อมเสียไปอย่างสิ้นเชิงแล้วประวัติศาสตร์ก็ต้องจารึกเอาไว้ว่าใคร ๆ ต่างก็เกลียดชังเขาฮาร์วีย์ยิ้มหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ไม่ได้ทำ แต่ไคลด์ ออสบอร์นเป็นคนทำ"ฮาร์วีย์อธิบายถึงสถานการณ์ทั้งหมดซามูเอลทำให้ไคลด์ต้องรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก แต่เขาไม่กล้าที่จะแก้แค้นอะไร นอกจากทำการต่อต้านสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H แล้ว ไม่มีทางอื่นที่จะต่อกรกับซามูเอลได้“เจ้าชายแห่งตระกูลออสบอร์น“ผู้สืบท
วันเวลาก็ค่อย ๆ ผ่านไป จนถึงช่วงบ่ายของวันที่ถูกกำหนดให้เป็นเส้นตายในเวลาสี่โมงเย็นฮาร์วีย์ก็เดินทางมาถึงยังอาคารสำนักงานของสหพันธ์ศิลปการต่อสู้อย่างไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเอลานอร์ก็เดินตามเขาเข้าไป ซึ่งในตอนนั้นเธอไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาอะไรเลยใบหน้าของเธอก็ยังคงงดงามเหมือนเดิม แต่ความเป็นมืออาชีพนั้นได้บดบังเสน่ห์ของเธอจนหมดสิ้นฮาร์วีย์ต้องการให้เธออยู่เคียงข้างเขา เพราะเธอรู้จักคนมากมายและสามารถควบคุมตัวเองได้ฮาร์วีย์หวังว่าเธอจะมีประโยชน์สำหรับการทำงานในครั้งนี้“ในที่สุดนายก็มาถึงแล้วเหรอ คุณยอร์ก?”ทันทีที่ฮาร์วีย์จอดรถโคลตันและคนงานกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาให้การต้อนรับฮาร์วีย์แค่ยิ้มให้เล็กน้อย“รอนานไหมครับ?”“ฉันก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน แต่ตอนนี้คนพวกนั้นรออยู่ข้างบนนานแล้ว"โคลตันมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างสงสัย“เมื่อดูจากความหุนหันพลันแล่นของตัวแทนเหล่านั้นแล้ว ผมคิดว่าพวกเขาก็คงจะได้แต่ดุด่าว่ากล่าวแล้วก็เดินจากไปเท่านั้นแหละ...“แต่พวกเขาก็รอคอยอย่างเงียบ ๆ มาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มแล้ว"“ทำไมพวกเขาถึงจะต้องเดินจากไปล่ะครับ?” ฮาร์วีย์ตอบ“เขาจะทำเรื่องทั้งหมดนี้เพื่ออ
ฮาร์วีย์โบกมือก่อนจะเดินออกไปยังห้องประชุมพร้อมกับโคลตันและเอลานอร์ก่อนที่จะผลักประตูให้เปิดออก ก็ได้ยินเสียงทุบโต๊ะดังอยู่ข้างในโครม!หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงที่วางอำนาจและหยิ่งผยองดังขึ้น“โคลตันอยู่ไหน?! เขาไม่ใช่ผู้นำสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H หรอกเหรอ?!“ทำไมเขายังไม่ยอมมาพบเราที่นี่อีกล่ะ?!“เขาคิดว่าเขาเป็นคนที่น่าประทับใจกว่าเราอีกเหรอ?!“วันนี้วันสุดท้ายของกำหนดเส้นตาย! เขาคิดว่าเขาจะหลบซ่อนตัวได้จริงเหรอ?!"จะบอกอะไรให้นะ! การกระทำของคุณนั้นน่าโมโหมาก! เรื่องนี้จะมีผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน!“เราจะเพิ่มการลงโทษคุณให้ถึงระดับสูงสุด! สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H จะถูกบดขยี้อย่างแน่นอน! ผู้คนที่มาฝึกศิลปะการต่อสู้ที่นี่จะต้องรู้สึกขยะแขยงทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น!“ผู้คนในประเทศ H จะต้องเกลียดคุณไปชั่วนิรันดร์!”ชาวอินเดียที่สวมเสื้อผ้าแบบโบราณคือคนที่ทุบโต๊ะ เขาคือคนที่ตะโกนด่าไปรอบ ๆ ห้องชายคนนั้นคือเอมิลิโอ การ์เซียนั่นเองเขาร้องด่าอย่างเกรี้ยวกราดใส่หน้าเดนและคนอื่น ๆ อยู่ในเวลานั้นซึ่งข้าง ๆ เขามีคนนั่งอยู่รอบโต๊ะพร้อมกับมีป้ายชื่อวางกำกับอยู่
“คุณคือฮาร์วีย์ผู้มีชื่อเสียงในตำนานเหรอ?”แน่นอนว่าเอมิลิโอและคนอื่น ๆ ได้อ่านข้อมูลของฮาร์วีย์มาล่วงหน้าแล้วพอเห็นฮาร์วีย์มาปรากฏตัว ตัวแทนพวกนั้นก็ยืดหลังตรงก่อนที่จะกวาดตามองเขาใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม เมื่อเห็นฮาร์วีย์ดูไม่เหมือนอย่างที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้ ฮาร์วีย์ดูไม่เหมือนคนสำคัญหรือมีออร่าที่น่าเกรงขามอะไรเลย'แล้วทำไมคนแบบนี้ถึงสามารถชนะการต่อสู้บนสังเวียนได้ถึงสองสามครั้งล่ะ?''การต่อสู้ที่แท้จริงมักเกี่ยวข้องกับความฉลาดปราดเปรื่องเสมอ!''ปล่อยให้ลูกน้องทำการต่อสู้และสังหาร!'เอมิลิโอไม่ได้ซ่อนท่าทีที่กำลังดูถูกเหยียดหยามเอาไว้เลย เมื่อเขาหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าคุณสามารถเจรจากับเราในนามของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H ได้เหรอ?”เดนขมวดคิ้ว“นี่หมายความว่ายังไงผู้นำตอร์เรส? ทำไมคุณถึงบุ่มบ่ามขนาดนี้?”“ผมได้ตัดสินใจแล้ว จากนี้ไปฮาร์วีย์จะเป็นตัวแทนของทั้งฉันและสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H“คำพูดของเขาก็คือคำพูดของผมนั่นแหละ“ไม่ว่าเขาจะเห็นดีเห็นงามกับอะไร ผมก็จะทำแบบเดียวกัน“ผมจะไม่กลับคำพูด” โคลตันประกาศอย่างเคร่งขรึม
"คุณบ้าไปแล้ว! คุณคิดว่าคุณกำลังขอเงินอะไรอยู่รึไง?!” พนักงานคนหนึ่งอุทานออกมาเพียะ!“ใครสั่งให้แกพูด?”เอมิลิโอตบคนงานคนนั้นออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา“ประเทศ H เป็นประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกไม่ใช่เหรอ?“ถ้าดูจากการพัฒนาที่รวดเร็วแล้วล่ะก็ ประเทศของคุณมีเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก...“อย่างน้อย ๆ คุณก็มีเงินมากที่สุด“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าเราเอาเงินหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์มาจากคุณ?“ไม่มีอะไรเลย"เอมิลิโอยื่นมือไปทางใบหน้าของฮาร์วีย์“เลิกเถียงกันได้แล้วฮาร์วีย์ ถ้าแกพูดออกมาอีกคำเดียว ฉันจะทำให้แกต้องตกนรกทั้งเป็น!”เพียะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือไปบนใบหน้าของเอมิลิโออย่างไม่ได้แยแสอะไร“ประเทศ H มีผู้คนที่ยอดเยี่ยม เป็นประเทศที่มีทรัพยากรมากมาย และหาเงินได้ง่าย ๆ แต่มันเกี่ยวอะไรกับพวกแกล่ะ?“ไม่ใช่ตั้งหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์หรอกนะ แม้จะแค่สิบห้าดอลลาร์เราก็ยังไม่ให้แกด้วย”“อ๊าก!”เอมิลิโอกระเด็นไปข้างหลังในขณะที่ฮาร์วีย์ดูถูกดูแคลนเขาซึ่ง ๆ หน้า ใบหน้าของเขาดูบวมเป่งเมื่อกระแทกตัวลงกับพื้นเขาไม่รู้สึกตัวเลยในช่วงเวลา
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข