"คุณบ้าไปแล้ว! คุณคิดว่าคุณกำลังขอเงินอะไรอยู่รึไง?!” พนักงานคนหนึ่งอุทานออกมาเพียะ!“ใครสั่งให้แกพูด?”เอมิลิโอตบคนงานคนนั้นออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา“ประเทศ H เป็นประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกไม่ใช่เหรอ?“ถ้าดูจากการพัฒนาที่รวดเร็วแล้วล่ะก็ ประเทศของคุณมีเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก...“อย่างน้อย ๆ คุณก็มีเงินมากที่สุด“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าเราเอาเงินหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์มาจากคุณ?“ไม่มีอะไรเลย"เอมิลิโอยื่นมือไปทางใบหน้าของฮาร์วีย์“เลิกเถียงกันได้แล้วฮาร์วีย์ ถ้าแกพูดออกมาอีกคำเดียว ฉันจะทำให้แกต้องตกนรกทั้งเป็น!”เพียะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือไปบนใบหน้าของเอมิลิโออย่างไม่ได้แยแสอะไร“ประเทศ H มีผู้คนที่ยอดเยี่ยม เป็นประเทศที่มีทรัพยากรมากมาย และหาเงินได้ง่าย ๆ แต่มันเกี่ยวอะไรกับพวกแกล่ะ?“ไม่ใช่ตั้งหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์หรอกนะ แม้จะแค่สิบห้าดอลลาร์เราก็ยังไม่ให้แกด้วย”“อ๊าก!”เอมิลิโอกระเด็นไปข้างหลังในขณะที่ฮาร์วีย์ดูถูกดูแคลนเขาซึ่ง ๆ หน้า ใบหน้าของเขาดูบวมเป่งเมื่อกระแทกตัวลงกับพื้นเขาไม่รู้สึกตัวเลยในช่วงเวลา
เอมิลิโอหัวเราะอย่างเย็นชา"ดี! ในเมื่อคุณไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าชายออสบอร์น งั้นเราก็จะออกไปที่นี่ทั้งหมด!“เมื่อฮาร์วีย์กระทำการไปอย่างนี้ คุณจะต้องชดใช้เป็นสิบเท่าของเงินจำนวนก่อนหน้านี้!“ส่วนเงื่อนไขอื่น ๆ จะยังคงเหมือนเดิม แต่ฮาร์วีย์จะต้องคุกเข่าตรงหน้าพระราชวังของอินเดียเป็นเวลาสามวันเต็ม!“เลือกเอานะผู้นำตอร์เรส! คุณจะยอมรับเงื่อนไขของเราหรือคุณจะทนต้านทานพายุที่กำลังจะเกิดขึ้น?“สำหรับตอนนี้มีเพียงโบดูกันของประเทศ H ในต่างประเทศเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ถูกปล้นและโดนทำลาย พร้อมกับผู้คนเพียงไม่กี่คนที่ถูกส่งกลับ!“แม้แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปถ้าอะไร ๆ เกิดลุกลามบานปลายขึ้นมา!“ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็อยากรู้ว่าคุณจะอธิบายให้คนของคุณฟังว่ายังไง!”ฮารุอวดรอยยิ้มจาง ๆ“ฉันขอแนะนำให้คุณยอมรับเงื่อนไขในตอนนี้ซะ“ท้ายที่สุดแล้วประเทศ H และประเทศหมู่เกาะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถ้าไม่ใช่เพราะฮาร์วีย์เราก็คงไม่ทำให้เรื่องราวต้องลุกเป็นไฟอย่างนี้หรอก!“พวกแกทั้งสามคนหยุดเสแสร้งได้แล้ว! เรามาที่นี่เพื่อให้สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H จ่ายค่าชดใช้ให้!” กอร์
เอมิลิโอทำสีหน้าดูถูกเหยียดหยามในขณะเปิดซองจดหมายเขาเชื่อว่าไม่ว่าในซองจดหมายนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม ก็ไม่มีทางที่จะทำให้เขาหวั่นไหวได้เขาเป็นชาวอินเดียผู้สูงศักดิ์ เขามาที่นี่เพื่อทวงคืนความภาคภูมิใจของเขา…แต่ยังมีเหตุผลอีกข้อหนึ่ง ไคลด์ได้มอบสิ่งดี ๆ ให้กับเขามากมายในโอกาสนี้ฮาร์วีย์ไม่อาจทำให้เขาเปลี่ยนใจได้ด้วยขนมหวานแค่นิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น รวมทั้งการข่มขู่แบบง่าย ๆ ก็ใช้ไม่ได้ผลกับเขาด้วยแต่ทันทีที่เขาเห็นสิ่งที่อยู่ในซองจดหมาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากเขาเริ่มอ่านกระดาษแผ่นนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา โดยใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะค้นหาสิ่งผิดปกติในนั้น...แต่ยิ่งเขาอ่านมากเท่าไหร่ สีหน้าของเขาก็ยิ่งดูแย่ลงเท่านั้นฮารุและคนอื่น ๆ อยากจะแอบดูว่าเป็นอะไร แต่เอมิลิโอก็ดึงกระดาษออกทันที“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย!” เอมิลิโอร้องบอกในขณะที่ตัวสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ฮารุและคนอื่น ๆ ชะงักงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดซองจดหมายของพวกเขาออกดูสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันทีหลังจากอ่านเนื้อความในจดหมาย“ไอ้หน้าด้าน!” พวกเขาอุทานออกมาพร้อมกันในขณะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยว“ไอ้สวะ
ท่าไม้ตายของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ทุก ๆ ท่านั้นเป็นความลับที่บอกใครไม่ได้มีเพียงผู้นำและสาวกหลักเท่านั้นที่จะสามารถเรียนรู้ความลับดังกล่าวได้...แต่ไม่เพียงแค่ฮาร์วีย์จะสามารถล้วงข้อมูลนั้นออกมาได้เท่านั้น เขายังเข้าใจจุดอ่อนของกระบวนท่าต่าง ๆ ของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ด้วยนี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่ง“ไอ้สารเลว! แกไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหน?!”เอมิลิโอถือกระดาษแผ่นนั้นไว้ในมือในขณะที่ตัวสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้“แกรู้ความลับและจุดอ่อนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของอินเดียได้ยังไง?“นี่เป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ!“โคลตันกับเดน พวกคุณต้องให้คำอธิบายในเรื่องนี้กับฉันนะ!“ถ้าไม่อย่างนั้นประเทศ H จะต้องรับผลกรรมที่ตามมา!”หลังจากได้ยินคำพูดของเอมิลิโอแล้ว ฮารุและคนอื่น ๆ ก็จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างโกรธแค้น เพื่อรอฟังคำชี้แจงในเรื่องนี้จากเขานอกจากนี้พวกเขาก็ยังรู้สึกผิดอย่างมากด้วย ด้วยตัวตนของพวกเขานั้น ทำให้พวกเขามีสิทธิ์ที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจากสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของพวกเขาได้...แต่คนที่ไม่ได้เป็นสาวกหลักก็ไม่ควรจะรู้อะไรในเรื่องนี้เลยแล้วฮาร์วีย์สามารถล้ว
ใบหน้าของไคลด์ดูมืดมนลงทันที เขากัดฟันกรอดในขณะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยวเขาไม่เคยคิดว่าฮาร์วีย์จะชี้ให้เห็นจุดอ่อนในศิลปะการต่อสู้ของคนอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายความแข็งแกร่งเช่นนี้เป็นอะไรที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจของเขาในความคิดของไคลด์นั้นไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าท่าไม้ตายอันทรงพลังของเขา ไม่ว่าผู้คนจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหนในการต่อสู้ก็ตาม...แต่ฮาร์วีย์ก็ได้เปิดเผยจุดอ่อนของตัวแทนเหล่านั้น และทำให้พวกเขาหวาดกลัวกันมากแล้วใครจะกล้าไปต่อกรกับพวกเขาล่ะ?ไคลด์ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเมื่ออุทานออกมาว่า “นายต้องการอะไร?”“การที่นายสามารถชี้ให้เห็นจุดอ่อนของพวกเขาได้แล้วยังไงเหรอ? “นอกจากเป็นข้อพิสูจน์ว่านายได้ขโมยความลับของพวกเขาแล้ว นายจะยังทำอะไรได้อีกล่ะ?"จะบอกอะไรให้นะ! คนพวกนี้ไม่ได้กลัวอะไรแบบนี้หรอก!“คนที่ต่อต้านนายก็ไม่กลัวอะไรแบบนี้เหมือนกัน!“ข้อมูลของนายไม่มีค่าอะไรกับตัวแทนเหล่านี้เลย!”“พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวฉันเลย"ฮาร์วีย์อวดรอยยิ้มที่ดูสดใส“พวกเขาสามารถแสร้งทำเป็นว่าข้อมูลนั้นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง...“แต่ฉันยังคงแสดงสิ่งนี้ให้ทุกคนเห็นบนอินเทอร์เน็ตได
“ไม่มีใครรู้ว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่นั้นจะล่มสลายลงหรือไม่ ถึงแม้ว่าแกจะเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อสาธารณะก็ตาม...”“แต่เราจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อฆ่าแก!” ฮารุร้องบอกในขณะกัดฟันแน่นโรเวนและกอร์ดอนทำสีหน้าที่ดูแย่มากโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว"โอ้? แกพูดเหมือนกับว่าแกจะไม่ฆ่าฉัน ถ้าฉันไม่เปิดโปงสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้อย่างนั้นแหละ!”ฮาร์วีย์ทำสีหน้าเย้าแหย่“นายเป็นคนเรียกร้องให้ฉันเปิดเผยทุกสิ่งที่ฉันเรียนรู้มา ก่อนจะให้ฉันคุกเข่าต่อหน้าราชวงศ์อินเดียไม่ใช่เหรอ?“นายกำลังบอกว่านายเป็นคนไม่มีเหตุผล…“และฉันเป็นคนก่อบาปขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ?“ถ้านายไม่อยากให้ทำอะไรกับตัวเองแบบนั้น นายก็ไม่ควรยัดเยียดให้คนอื่นทำตั้งแต่แรก"เห็นได้ชัดว่านายแอบซ่อนอะไรไว้ต่อสู้กับฉัน ถ้านายยังอยากจะข่มขู่ฉันในตอนนี้ก็เอาออกมาเลย!” ฮาร์วีย์ให้เหตุผลอย่างใจเย็น“ถ้าอย่างนั้นก็เอาออกมาเล่นงานฉันให้หมดไปเลยสิ! ดูสิว่าฉันจะกลัวไหม!”เหล่าตัวแทนทั้งหมดต่างกัดฟันแน่นหลังจากได้ยินคำเยาะเย้ยเหล่านั้นไคลด์กระโดดพรวดพราดขึ้นมาทันที ก่อนจะอุทานออกมาว่า “อย่าทำอะไรล้ำเส้นนะฮาร์วีย์!
เพียะ!“นายเป็นเจ้าชายแห่งตระกูลออสบอร์น ผู้สืบทอดราชวงศ์อินเดีย!“นายทำตัวสูงส่งและทรงพลัง แต่ใครจะไปรู้ว่านายก็มีความขี้ขลาดตาขาวอยู่เหมือนกันเหรอ?”ฮาร์วีย์ตบไคลด์ไปรอบ ๆ จนใบหน้าของเขาบวมเป่ง“แก...ไอ้สารเลว…”หลังจากโดนตบไปหลายครั้งไคลด์ก็โซซัดโซเซไปทางด้านหลัง ในเวลานี้เขามีสีหน้าที่ดูแย่มากเขาอยากจะดึงปืนออกมาแล้วเหนี่ยวไกใส่ฮาร์วีย์เสียเหลือเกิน...”แต่ทันทีที่เขาจับปืน เอมิลิโอและคนอื่น ๆ ก็อุทานออกมาอย่างรวดเร็วว่า “อย่าทำอย่างนั้นนะ เจ้าชายออสบอร์น!”เป็นธรรมดาที่พวกเขาใส่ใจในเรื่องผลประโยชน์ของตนเองมากกว่าความภาคภูมิใจของไคลด์พวกเขามาที่นี่เพื่ออวดความแข็งแกร่ง ไม่ใช่เพื่อตายอย่างสยดสยอง"หุบปาก! ไปเลยทุก ๆ คน!ไคลด์เดือดดาลเป็นอย่างมาก“พวกคุณลืมไปแล้วหรือว่าใครกันที่เป็นคนยุยงในเรื่องนี้?!”“ฉันจะฆ่ามัน! ฉันจะฆ่ามัน!”หลังจากโดนดูหมิ่นอย่างต่อเนื่อง ไคลด์ก็รู้สึกอยากจะบีบคอฮาร์วีย์นักเขาปลดเซฟปืนก่อนจะชี้ปากกระบอกปืนไปทางหัวของฮาร์วีย์“พวกเราบอกให้หยุด! แกได้ยินไหม?!”สีหน้าของเอมิลิโอดูเย็นชาในขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจ“ถ้าแกทำลายผลประโยชน์ขอ
“ไม่” ฮาร์วีย์ตอบทั้ง ๆ ที่ทำหน้านิ่งเอมิลิโอทำสีหน้าที่ดูแย่มาก“ฉันขอรับประกันว่าเหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในห้าปีข้างหน้านี้!”“เราจะหยุดโจมตีพลเมืองของประเทศ H ที่อยู่ในต่างประเทศทันทีด้วย!”ฮารุและคนอื่น ๆ รู้สึกไม่พอใจแต่ไม่มีทางเลือกอื่นจึงได้แต่พยักหน้าพร้อมกัน"ถูกต้อง! จากนี้เป็นต้นไปเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จากนี้ไปเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวในเรื่องของแกอีก!”ไคลด์กัดฟันหลังกรอดจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นเขาทำสีหน้าเย็นชาโดยไม่พูดอะไรสักคำ การพูดต่อต้านในเรื่องนี้ก็หมายถึงการต่อต้านสิ่งที่เขาเคยทำไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อเห็นแก่ประชาชนเหล่านั้นเขากำลังคิดหาวิธีนับล้าน ๆ วิธีในการยุติชีวิตของฮาร์วีย์ในเวลานี้ให้ได้...เขาอยากจะเห็นฮาร์วีย์ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างเหลือเกิน!"ใช่แล้ว!"พนักงานของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งประเทศ H ต่างก็ส่งเสียงไชโยโห่ร้องอย่างมีความสุขสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่นั้นต่างรู้สึกกดดันเป็นอย่างมากทุกคนต่างรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อในที่สุดพวกเขาก็รู้สึกโล่งใจกับเรื่องราวทั้งหมดนั้นแม้แต่โคลตันก็ยังยิ้มออกมาอย่างส