เอมิลิโอทำสีหน้าดูถูกเหยียดหยามในขณะเปิดซองจดหมายเขาเชื่อว่าไม่ว่าในซองจดหมายนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม ก็ไม่มีทางที่จะทำให้เขาหวั่นไหวได้เขาเป็นชาวอินเดียผู้สูงศักดิ์ เขามาที่นี่เพื่อทวงคืนความภาคภูมิใจของเขา…แต่ยังมีเหตุผลอีกข้อหนึ่ง ไคลด์ได้มอบสิ่งดี ๆ ให้กับเขามากมายในโอกาสนี้ฮาร์วีย์ไม่อาจทำให้เขาเปลี่ยนใจได้ด้วยขนมหวานแค่นิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น รวมทั้งการข่มขู่แบบง่าย ๆ ก็ใช้ไม่ได้ผลกับเขาด้วยแต่ทันทีที่เขาเห็นสิ่งที่อยู่ในซองจดหมาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากเขาเริ่มอ่านกระดาษแผ่นนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา โดยใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะค้นหาสิ่งผิดปกติในนั้น...แต่ยิ่งเขาอ่านมากเท่าไหร่ สีหน้าของเขาก็ยิ่งดูแย่ลงเท่านั้นฮารุและคนอื่น ๆ อยากจะแอบดูว่าเป็นอะไร แต่เอมิลิโอก็ดึงกระดาษออกทันที“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย!” เอมิลิโอร้องบอกในขณะที่ตัวสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ฮารุและคนอื่น ๆ ชะงักงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดซองจดหมายของพวกเขาออกดูสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันทีหลังจากอ่านเนื้อความในจดหมาย“ไอ้หน้าด้าน!” พวกเขาอุทานออกมาพร้อมกันในขณะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยว“ไอ้สวะ
ท่าไม้ตายของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ทุก ๆ ท่านั้นเป็นความลับที่บอกใครไม่ได้มีเพียงผู้นำและสาวกหลักเท่านั้นที่จะสามารถเรียนรู้ความลับดังกล่าวได้...แต่ไม่เพียงแค่ฮาร์วีย์จะสามารถล้วงข้อมูลนั้นออกมาได้เท่านั้น เขายังเข้าใจจุดอ่อนของกระบวนท่าต่าง ๆ ของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ด้วยนี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่ง“ไอ้สารเลว! แกไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหน?!”เอมิลิโอถือกระดาษแผ่นนั้นไว้ในมือในขณะที่ตัวสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้“แกรู้ความลับและจุดอ่อนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของอินเดียได้ยังไง?“นี่เป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ!“โคลตันกับเดน พวกคุณต้องให้คำอธิบายในเรื่องนี้กับฉันนะ!“ถ้าไม่อย่างนั้นประเทศ H จะต้องรับผลกรรมที่ตามมา!”หลังจากได้ยินคำพูดของเอมิลิโอแล้ว ฮารุและคนอื่น ๆ ก็จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างโกรธแค้น เพื่อรอฟังคำชี้แจงในเรื่องนี้จากเขานอกจากนี้พวกเขาก็ยังรู้สึกผิดอย่างมากด้วย ด้วยตัวตนของพวกเขานั้น ทำให้พวกเขามีสิทธิ์ที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจากสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของพวกเขาได้...แต่คนที่ไม่ได้เป็นสาวกหลักก็ไม่ควรจะรู้อะไรในเรื่องนี้เลยแล้วฮาร์วีย์สามารถล้ว
ใบหน้าของไคลด์ดูมืดมนลงทันที เขากัดฟันกรอดในขณะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยวเขาไม่เคยคิดว่าฮาร์วีย์จะชี้ให้เห็นจุดอ่อนในศิลปะการต่อสู้ของคนอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายความแข็งแกร่งเช่นนี้เป็นอะไรที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจของเขาในความคิดของไคลด์นั้นไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าท่าไม้ตายอันทรงพลังของเขา ไม่ว่าผู้คนจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหนในการต่อสู้ก็ตาม...แต่ฮาร์วีย์ก็ได้เปิดเผยจุดอ่อนของตัวแทนเหล่านั้น และทำให้พวกเขาหวาดกลัวกันมากแล้วใครจะกล้าไปต่อกรกับพวกเขาล่ะ?ไคลด์ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเมื่ออุทานออกมาว่า “นายต้องการอะไร?”“การที่นายสามารถชี้ให้เห็นจุดอ่อนของพวกเขาได้แล้วยังไงเหรอ? “นอกจากเป็นข้อพิสูจน์ว่านายได้ขโมยความลับของพวกเขาแล้ว นายจะยังทำอะไรได้อีกล่ะ?"จะบอกอะไรให้นะ! คนพวกนี้ไม่ได้กลัวอะไรแบบนี้หรอก!“คนที่ต่อต้านนายก็ไม่กลัวอะไรแบบนี้เหมือนกัน!“ข้อมูลของนายไม่มีค่าอะไรกับตัวแทนเหล่านี้เลย!”“พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวฉันเลย"ฮาร์วีย์อวดรอยยิ้มที่ดูสดใส“พวกเขาสามารถแสร้งทำเป็นว่าข้อมูลนั้นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง...“แต่ฉันยังคงแสดงสิ่งนี้ให้ทุกคนเห็นบนอินเทอร์เน็ตได
“ไม่มีใครรู้ว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่นั้นจะล่มสลายลงหรือไม่ ถึงแม้ว่าแกจะเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อสาธารณะก็ตาม...”“แต่เราจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อฆ่าแก!” ฮารุร้องบอกในขณะกัดฟันแน่นโรเวนและกอร์ดอนทำสีหน้าที่ดูแย่มากโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว"โอ้? แกพูดเหมือนกับว่าแกจะไม่ฆ่าฉัน ถ้าฉันไม่เปิดโปงสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้อย่างนั้นแหละ!”ฮาร์วีย์ทำสีหน้าเย้าแหย่“นายเป็นคนเรียกร้องให้ฉันเปิดเผยทุกสิ่งที่ฉันเรียนรู้มา ก่อนจะให้ฉันคุกเข่าต่อหน้าราชวงศ์อินเดียไม่ใช่เหรอ?“นายกำลังบอกว่านายเป็นคนไม่มีเหตุผล…“และฉันเป็นคนก่อบาปขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ?“ถ้านายไม่อยากให้ทำอะไรกับตัวเองแบบนั้น นายก็ไม่ควรยัดเยียดให้คนอื่นทำตั้งแต่แรก"เห็นได้ชัดว่านายแอบซ่อนอะไรไว้ต่อสู้กับฉัน ถ้านายยังอยากจะข่มขู่ฉันในตอนนี้ก็เอาออกมาเลย!” ฮาร์วีย์ให้เหตุผลอย่างใจเย็น“ถ้าอย่างนั้นก็เอาออกมาเล่นงานฉันให้หมดไปเลยสิ! ดูสิว่าฉันจะกลัวไหม!”เหล่าตัวแทนทั้งหมดต่างกัดฟันแน่นหลังจากได้ยินคำเยาะเย้ยเหล่านั้นไคลด์กระโดดพรวดพราดขึ้นมาทันที ก่อนจะอุทานออกมาว่า “อย่าทำอะไรล้ำเส้นนะฮาร์วีย์!
เพียะ!“นายเป็นเจ้าชายแห่งตระกูลออสบอร์น ผู้สืบทอดราชวงศ์อินเดีย!“นายทำตัวสูงส่งและทรงพลัง แต่ใครจะไปรู้ว่านายก็มีความขี้ขลาดตาขาวอยู่เหมือนกันเหรอ?”ฮาร์วีย์ตบไคลด์ไปรอบ ๆ จนใบหน้าของเขาบวมเป่ง“แก...ไอ้สารเลว…”หลังจากโดนตบไปหลายครั้งไคลด์ก็โซซัดโซเซไปทางด้านหลัง ในเวลานี้เขามีสีหน้าที่ดูแย่มากเขาอยากจะดึงปืนออกมาแล้วเหนี่ยวไกใส่ฮาร์วีย์เสียเหลือเกิน...”แต่ทันทีที่เขาจับปืน เอมิลิโอและคนอื่น ๆ ก็อุทานออกมาอย่างรวดเร็วว่า “อย่าทำอย่างนั้นนะ เจ้าชายออสบอร์น!”เป็นธรรมดาที่พวกเขาใส่ใจในเรื่องผลประโยชน์ของตนเองมากกว่าความภาคภูมิใจของไคลด์พวกเขามาที่นี่เพื่ออวดความแข็งแกร่ง ไม่ใช่เพื่อตายอย่างสยดสยอง"หุบปาก! ไปเลยทุก ๆ คน!ไคลด์เดือดดาลเป็นอย่างมาก“พวกคุณลืมไปแล้วหรือว่าใครกันที่เป็นคนยุยงในเรื่องนี้?!”“ฉันจะฆ่ามัน! ฉันจะฆ่ามัน!”หลังจากโดนดูหมิ่นอย่างต่อเนื่อง ไคลด์ก็รู้สึกอยากจะบีบคอฮาร์วีย์นักเขาปลดเซฟปืนก่อนจะชี้ปากกระบอกปืนไปทางหัวของฮาร์วีย์“พวกเราบอกให้หยุด! แกได้ยินไหม?!”สีหน้าของเอมิลิโอดูเย็นชาในขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจ“ถ้าแกทำลายผลประโยชน์ขอ
“ไม่” ฮาร์วีย์ตอบทั้ง ๆ ที่ทำหน้านิ่งเอมิลิโอทำสีหน้าที่ดูแย่มาก“ฉันขอรับประกันว่าเหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในห้าปีข้างหน้านี้!”“เราจะหยุดโจมตีพลเมืองของประเทศ H ที่อยู่ในต่างประเทศทันทีด้วย!”ฮารุและคนอื่น ๆ รู้สึกไม่พอใจแต่ไม่มีทางเลือกอื่นจึงได้แต่พยักหน้าพร้อมกัน"ถูกต้อง! จากนี้เป็นต้นไปเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จากนี้ไปเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวในเรื่องของแกอีก!”ไคลด์กัดฟันหลังกรอดจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นเขาทำสีหน้าเย็นชาโดยไม่พูดอะไรสักคำ การพูดต่อต้านในเรื่องนี้ก็หมายถึงการต่อต้านสิ่งที่เขาเคยทำไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อเห็นแก่ประชาชนเหล่านั้นเขากำลังคิดหาวิธีนับล้าน ๆ วิธีในการยุติชีวิตของฮาร์วีย์ในเวลานี้ให้ได้...เขาอยากจะเห็นฮาร์วีย์ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างเหลือเกิน!"ใช่แล้ว!"พนักงานของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งประเทศ H ต่างก็ส่งเสียงไชโยโห่ร้องอย่างมีความสุขสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่นั้นต่างรู้สึกกดดันเป็นอย่างมากทุกคนต่างรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อในที่สุดพวกเขาก็รู้สึกโล่งใจกับเรื่องราวทั้งหมดนั้นแม้แต่โคลตันก็ยังยิ้มออกมาอย่างส
ฮาร์วีย์เอามือกอดอกพร้อมส่งสายตาดูหมิ่นเหยียดหยาม ก่อนจะเตะเอมิลิโอลอยกระเด็นออกไปด้วยการออกแรงเตะเพียงครั้งเดียวในขณะที่ฮาร์วีย์ใช้กระดาษทิชชูเช็ดนิ้วอยู่นั้น ดวงตาของเอมิลิโอและคนอื่น ๆ ต่างก็กระตุกอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่พวกเขาจะถอยออกไปสองสามก้าวอย่างหวาดกลัวเมื่อมาถึงจุดนี้พวกเขารู้ว่าฮาร์วีย์พูดถูก...ถึงแม้ว่าฮาร์วีย์จะฆ่าพวกเขาจนตายหมด แต่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ก็จะไม่รู้สึกตกใจอะไรหรอกท้ายที่สุดแล้วฮาร์วีย์ก็รู้จุดอ่อนที่น่ากลัวของพวกเขาแล้วเอมิลิโอและคนอื่น ๆ รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นฮาร์วีย์ทำท่าทีที่ดูมีอำนาจเหนือกว่าพวกเขามาที่นี่เพื่ออวดเบ่งและทำตัวเป็นเจ้านายสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H นะ...แต่พวกเขาก็ดูไม่ต่างจากสุนัขธรรมดา ๆ เมื่อเทียบกับฮาร์วีย์ในเวลานี้นี่มันผิดจากสิ่งที่พวกเขาคิดไว้โดยสิ้นเชิงเอมิลิโอหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยสีหน้าที่ดูขมขื่น แล้วพูดว่า "ถ้าจะให้ดีก็อย่าทุบหม้อข้าวตัวเองเลยนะคุณยอร์ก…”ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือไปบนใบหน้าของเอมิลิโอ“ฉันก็อยากจะทำแบบนั้นแหละ”ฮารุกัดฟันกรอดและก้าวออกไปข้างหน้าหลังจากเห็นภาพนั้น“การให้อภัยย่อมเป
“ข้อสอง...จ่ายค่าชดเชยความสูญเสียทั้งหมดของพลเมืองประเทศ H ที่อยู่ในต่างประเทศ“ชดใช้ค่าเสียหายและลงโทษคนที่ทำให้เกิดความเสียหายนั้น! โดยไม่ให้ขาดแม้แต่เพนนีเดียว และไม่ไว้หน้าใครแม้แต่คนเดียว!“นอกจากนี้พวกแกทุกคนจะต้องจ่ายเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์เป็นค่าบำนาญ และค่าสูญเสียทางจิตใจให้กับพลเมืองของประเทศ H!“เอลานอร์ซึ่งเป็นผู้ช่วยของฉันจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะดำเนินการกับสถานการณ์นี้ยังไง”ดวงตาของเอมิลิโอและคนอื่น ๆ กระตุกตาอย่างบ้าคลั่งฮาร์วีย์กำลังทำร้ายจิตใจของคนพวกนั้นอยู่แต่ยังไงเสียเงื่อนไขต่าง ๆ ก็ยังเป็นอะไรที่พอรับได้ ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกขุ่นข้องหมองใจสักแค่ไหน พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพยักหน้ายอมรับ“เราจะยอมรับเงื่อนไขพวกนี้ด้วย”“ข้อสาม...ซึ่งเป็นข้อสุดท้าย…ฮาร์วีย์บอกอย่างใจเย็น “ฉันไม่ไว้ใจว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่นั้นจะรักษาคำพูดหรือเปล่า“นั่นคือเหตุผลที่ฉันขอให้สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งตะวันออกไกลและทะเลใต้ยอมรับประเทศ H ในฐานะผู้บัญชาการถาวรคนที่ห้าแห่งสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของโลก“ท้ายที่สุดแล้วแกจะไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้อ