รีอามองไปที่เอลล่า มีร่องรอยของความหึงหวงอยู่ในแววตาของเธอ เธอมีความมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของเธอสูงอย่างไรก็ตามผู้หญิงสองคนที่เธอพบในวันนี้นั้น คนหนึ่งดูเย็นชา และอีกคนดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง นับประสาอะไรกับรูปร่างหน้าตาเธอที่ไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกหล่อนได้เลยรีอายิ่งหงุดหงิด เธอพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “เขาจะเป็นผู้บริสุทธิ์เพียงเพราะคุณบอกว่าเขาบริสุทธิ์งั้นเหรอ? สร้อยคอนี้มีมูลค่าแปดล้านดอลลาร์ คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร? แม้แต่ค่าตัวของคุณก็คงไม่มีค่าเท่ามูลค่าของสร้อยเส้นนี้!”“ส่วนไหนของผู้ชายคนนี้ที่ดูเหมือนจะร่ำรวย? เขาไม่มีอะไรที่บ่งบอกสถานาะของเราได้เลย ถ้าเขาไม่ใช่ขโมย แล้วเขาจะได้ซื้อของแบบนี้ได้ยังไง? ฝันกลางวันอยู่รึเปล่า?”เอลล่ายิ้มราวกับดอกบัวบานในฤดูร้อน “ฉันเชื่อในตัวเขา เขาจะไม่มีวันเป็นขโมย ด้วยเกียรติของฉัน!”ผู้คนรอบข้างเริ่มกระซิบกันมากขึ้นเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้นรีอากำลังจะบอกว่าเอลล่าทำตัวหยาบคายและไม่มีความซื่อสัตย์เอลล่าไม่ได้โกรธเคืองใคร เธอถอนหายใจและพูดว่า “ฉันชื่อเอลล่า เกรฟส์ เป็นรองประธานของโรงพยาบาลนิอัมมี่”อะไรนะ?รองประธานของโรงพยาบาลนิอัมมี่?
“คุณผู้ชายคะ!”วินาทีต่อมาผู้จัดการร้านโค้งคำนับด้วยความเคารพ เธอจึงหยิบกล่องของขวัญขึ้นมา จากนั้นเธอก็พูดว่า “คุณผู้ชายรีบร้อนออกมา ดิฉันจึงดำเนินการใบเสร็จให้คุณไม่เรียบร้อย”“นอกจากนี้ วงเงินค่าใช้จ่ายในบัตรของคุณสูงมาก สำนักงานใหญ่โทรมาและบอกว่าเราควรลงทะเบียนให้คุณสำหรับการเป็นสมาชิกระดับสูงสุด ไม่ทราบว่าคุณพอจะสะดวกที่จะแจ้งเบอร์โทรไว้ไหมคะ ในกรณีนี้จะมีพนักงานจากสำนักงานใหญ่ติดต่อคุณได้หากมีงานแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ”อะไรนะ?ใบเสร็จงั้นเหรอ?แม้แต่การสมัครบัตรสมาชิกระดับสูงสุด?และยังเชิญเขาไปงานแสดงสินค้า?อีกอย่างสร้อยเส้นนี้ ผู้ชายคนนี้ซื้อสร้อยเส้นนี้กับเธอใช่ไหม?ในตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวเงียบเหมือนไร้ผู้คนทุกคนอ้าปากกว้าง ตกใจและไม่อยากจะเชื่อแปดล้านดอลลาร์!เขารวยมาก!รีอาตกตะลึง ใบหน้าของเธอซีดเซียวลงทันทีเป็นไปไม่ได้!ผู้ชายคนนี้จะจ่ายเงินได้มากขนาดนั้นได้อย่างไร?มันคือสร้อยคอที่มีมูลค่าราคาแปดล้านดอลล่าร์! ไม่ใช่แปดสิบดอลลาร์!ในตอนนี้รีอาไม่ยอมรับความจริง เธอวิ่งเข้าไปดูบิลนั้นก็ถึงกับตะลึงราคาถูกระบุไว้อย่างชัดเจนในบิล ฮาร์วีย์ซื้อสร้อยคอเส้น
ฮาร์วีย์มองโรซาลีโรซาลีไม่ใช่โง่ เธอรู้ว่าเอลล่าแอบชอบฮาร์วีย์เหมือนกันอย่างไรก็ตามเธอพยักหน้าและยิ้มให้หลังจากคิดพิจารณาเรื่องนี้ “ไม่เป็นไร คุณให้ของขวัญราคาแพงแก่ฉันแล้ว มันไม่สำคัญแล้วว่าคืนนี้ฉันจะได้ทานอะไร”เอลล่าเหลือบมองโรซาลีด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยินที่เธอพูด เธอตกใจเล็กน้อยเธอไม่แปลกใจที่ฮาร์วีย์ให้ขวัญแพง ๆ กับแมนดี้ แต่เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงที่ดูเย็นชาคนนี้?ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเอลล่าดังขึ้น คนที่โทรเข้ามาเป็นที่ปรึกษาของเธอเองเธอรับสายและเสียงคนมีอายุแล้วดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “เอลล่า ทำไมคุณกับรุ่นพี่ยังมาไม่ถึงงาน คุณแอบไปเดทกันหรือเปล่า?”อาจารย์ของเอลล่าและเจนเซ่น ได้เข้าร่วมสัมมนาทางการแพทย์ด้วยเช่นกันเขาอาจไม่เจอนักเรียนทั้งสองคนของเขาในงาน เขาเลยโทรแกล้งพวกเขาเอลล่ามองไปที่เจนเซ่นและพูดว่า “อาจารย์ หยุดล้อเล่นเถอะค่ะ หนูเพิ่งเจอเพื่อน ตอนนี้หนูและเจนเซ่นกำลังจะไปที่นั่นเร็ว ๆ นี้ หนูจะพาเพื่อนของหูสองคนไปสัมมนาด้วยกัน ได้ไหมคะ?”“ไม่มีปัญหา สัมมนานี้เป็นเพียงการรวมตัวของกลุ่มเพื่อน ฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งหากเธอจะพาเพื่อนมาที
ถ้าฮาร์วีย์ยู่ที่นี่ เขาคงจะจดจำได้ทันทีว่าคนที่ยืนหลบอยู่นั้นคือธีอา ยอร์ก ธีอาผู้ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าเธอต้องได้ทุกสิ่งที่เธอต้องการในเซาท์ไลท์ แต่ตอนนี้เธอมีสภาพหน้าซีดและมีเหงื่อไหลออกมาจากใบหน้าของเธอ มันทำให้เครื่องสำอางราคาแพงของเธอเลอะเทอะไปหมดตรงหน้าเธอไม่ถึงสิบเมตรมีชายสวมชุดจีนโบราณใบหน้าหล่อเหลาซึ่งดูมีอายุไม่เกินยี่สิบห้าปีกำลังเล่นหมากรุกอยู่คนเดียวเขาเล่นทั้งฝั่งขาวและดำ และกำลังเล่นอย่างจริงจังบนกระดานหมากรุกมีเพียงเสียงของตัวหมากรุกที่เคลื่อนไหวอยู่ในห้องโถงที่ว่างเปล่า แม้ว่าธีอาจะตัวสั่นด้วยความเกรงกลัว แต่เธอก็ไม่กล้าส่งเสียงออกมาเrล้ง!ครึ่งชั่วโมงต่อมากระดานหมากรุกหยกแตกเป็นเสี่ยง ๆ หลังจากที่หมากรุกตัวสุดท้ายถูกเคลื่อนทึ่ จนทำให้เกิดเสียงดังไปทั่วตุบธีอาคุกเข่าลงกับพื้นทันที แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่กล้าหายใจเสียงดังเธอรอจนกระทั่งเสียงในห้องโถงเงียบลง จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับหน้าผากของเธอฟุบลงกับพื้นขณะคุกเข่าอยู่ว่า “นายน้อย เป็นความผิดของฉันเอง ฉันสมควรถูกลงโทษ!”ชายที่นั่งอยู่บนแท่นอรหันต์ลุกยืนขึ้นและยื่นมือออกไป เขามองไป
ควินตันยังคงมีรอยยิ้ม เขาเหล่มองไปที่ทางเข้าห้องโถงผู้หญิงสวมชุดเรียบ ๆ ไม่แต่งหน้า แต่ดูคล้ายกับภาพวาดกำลังเดินเข้ามาช้า ๆถ้าโรซาลี ไนส์เวลล์ ถูกเรียกว่าเย็นชา ถ้าอย่างนั้นเธอคนนี้ก็เสมือนหลุดมาจากอีกโลก ราวกับว่าใครก็ตามที่เหลือบมองเธอ จะถูกกลืนกลินโดยรัศมีของเธอธีอาที่กายกำลังสั่นยิ่งสั่นสะท้านยิ่งกว่าเดิมควีนนี่ ยอร์กเธอเป็นรุ่นที่ห้าของตระกูลยอร์ก หญิงสาวเพียงคนเดียวในสี่คนดังมีข่าวลือว่าเธอไม่ได้ผูกพันทางสายเลือดโดยตรงกับตระกูลยอร์ก แต่เธอมาจากตระกูลที่เก่าแก่และน่าเกรงขามกว่า แต่ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จเธอมองไปที่ควินตันและพูดว่า “เรารู้อยู่แล้วว่าผู้ชายคนนั้นน่ากลัวแค่ไหน”“แค่ความหลักแหลมของเขาเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เราสยบอยู่แทบเท้าเขามาเเป็นเวลาสิบกว่าปี ถ้าไม่ใช่เพราะแผนที่เราช่วยกันคิดเมื่อสามปีก่อนและคนเบื้องบนที่ต้องการให้เขาถูกไล่ออกไป ฉันคิดว่าวันนี้ก็คงไม่มีทั้งฉันและเธออยู่ในตระกูลยอร์กนี้ได้หรอก”“ถ้าเธอยังคงรั้นที่จะทำเรื่องสิ้นคิดกับคนแบบนั้น ฉันกลัวว่าเธอจะทำลายอาณาจักรที่เธอเพิ่งสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง”ควินตันยังคงมองไปที่ฝ่ามือซ้าย
“พี่ใหญ่เป็นปีศาจ” อีกคนหนึ่งกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “แต่เขาไม่ใช่ของปีศาจนายหรือของฉัน เราควรมีความสุขแล้วปล่อยให้พวกเขาตกลงกันเอง”“ใช่เหรอ?” เสียงเย็นชาดังขึ้น พวกเขาไม่รู้ว่าควินนี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ทั้งสองคนมองเธอสี่คนดังของตระกูลยอร์กมารวมตัวกันที่ลานซิลเวอร์นิมบัสในวันนี้เพราะเรื่องของคน ๆ เดียว***งานสัมมนาทางการแพทย์จะจัดขึ้นที่ชั้นบนสุดของอาคารสำนักงานในถนนคนเดินในเมืองนิอัมมี่นั่นเพราะเอลล่ายังคงยืนกรานที่จะให้ฮาร์วีย์เข้าร่วมสัมมนาและฮาร์วีย์ก็ไม่มีอะไรเร่งด่วนต้องทำ เขาจึงตามเธอไปเอลล่าที่ตอนแรกอารมณ์ไม่ดี แต่เธอกลับพูดคุยกับฮาร์วีย์สนุกสนานเจนเซ่นที่เดินตามหลังพวกเขามีสีหน้าของเขาหมองลงสถานะของผู้ชายคนนี้เป็นอะไรกับเอลล่า?เจนเซ่นไม่ใช่คนโง่ เขารับรู้ได้ว่าเอลล่าดูเหมือนจะปฏิบัติต่อผู้ชายคนนี้แตกต่างกับที่ปฏิบัติกับเขาเธอจะพูดกับเขาแค่สองสามคำ แต่กลับหาเรื่องมาชวนพูดคุยกับไอ้ผู้ชายคนนี้เธอยังเป็นนางฟ้าแห่งโรงเรียนการแพทย์ที่ปฏิเสธผู้ชายทุกคนอยู่อีกไหม?ถึงอย่างนั้นเจนเซ่นก็ยังคงรักษาท่าทีของเขา แม้ว่าตอนนี้เขาจะหงุดหงิดมากก็ตาม เขาเดินไปทางด้านซ้ายของเอลล
เอลล่าไม่ได้ฟังสิ่งที่คนอื่นพูดเลย เธอพูดกับฮาร์วีย์เบา ๆ “ฮาร์วีย์ งานสัมมนาทางการแพทย์นี้ไม่เหมือนกับการบรรยายทั่วไป ดูเหมือนจะมีเรื่องสำคัญในวิชาชีพแพทย์แห่งเซาท์ไลท์ที่จะประกาศในงานสัมมนาทางการแพทย์ครั้งนี้ด้วย”เอลล่ากลัวว่าฮาร์วีย์จะไม่เข้าใจว่างานสัมมนาทางการแพทย์นี้มีขึ้นเพื่ออะไร เธอจึงอธิบายให้ฮาร์วีย์ฟังเหมือนกระซิบเสียงเบา ๆ ฮาร์วีย์พยักหน้าและมองขึ้นไปที่แท่นโพเดียมมีหน้าจอขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังแท่นโพเดียมและในตอนนี้มีตัวอักษรขนาดใหญ่หลายตัวบนหน้าจอ“อาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการสร้างเซลล์ใหม่”จากนั้นมีการระบุชื่อเกรกอรี่และเจนเซ่นแม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่ค่อยรู้เรื่องวิชาชีพแพทย์มากนัก แต่เขาก็พอรู้ว่าอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจหมายถึงโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดโรคนี้รักษาได้ยากมากอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติตราบใดที่ผู้ป่วยพักผ่อนเพียงพอก็จะสามารถหายได้เองอย่างไรก็ตามอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงนั้นมีผลกระทบมาก ถ้าผู้ป่วยไม่ระวังตัวเองก็อาจจะแก่ชีวิตวิธีการดั้งเดิมในการจัดการกับโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบขั้นรุนแรงคือการผ่าตัดอย่
เจนเซ่นเอื้อมมือออกไปโบกมือให้ทุกคนเงียบ จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “อย่างที่เราทราบกันดีว่าสาเหตุส่วนใหญ่ที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเกิดจากอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจ!”“ในการรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบให้หายขาดตามวิธีการดั้งเดิมคือการผ่าตัดเพื่อตัดกล้ามเนื้อหัวใจที่อักเสบออกแล้วทำการผ่าตัดบายพาสหัวใจ!”“แต่วิธีนี้เสี่ยงมาก!”“ในอีกด้าน ผู้ป่วยต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมหาศาล ในทางกลับกันยังเป็นการท้าทายทักษะของแพทย์ของเราอย่างมากด้วยเช่นกัน!”“บุคคลสำคัญในวงการศัลยกรรมหลายคนมีการผ่าตัดที่คล้ายคลึงกัน สิ่งนี้ทำให้ผู้ป่วยวิกฤตจำนวนมากเสียชีวิตเนื่องจากไม่สามารถนัดวันผ่าตัดได้ นี่คือความรับผิดชอบของเรา!”เจนเซ่นพูดต่อ “อย่างไรก็ตามพลังงานของมนุษย์มีขีดจำกัด! แม้ว่าแพทย์ของเราทุกคนจะมีทักษะ ถึงแม้ว่าเราจะสามารถผ่าตัดได้ 24 ชั่วโมงต่อวันก็ตาม แต่จำนวนผู้ป่วยที่รอดชีวิตที่สามารถช่วยชีวิตได้กลับน้อยมาก! ผมเสียใจเป็นอย่างมาก!”ทุกคนต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความชื่นชม ทุกคนเป็นหมอ หมอคนไหนที่ไม่เต็มใจที่จะรักษาผู้ป่วยบ้าง?อย่างไรก็ตามมนุษย์ทุกคนมีพลังเรี่ยวแรงจำกัด!หมอหลายคนยอมสละว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข