"เขาชนะเหรอ?"“ฮาร์วีย์ชนะอีกแล้วเหรอ?”“นักบวชปีศาจนั่นไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย! เขาไม่สามารถโจมตีฮาร์วีย์แม้แต่ครั้งเดียว!”“และตอนนี้เขากำลังบอกเราว่าศิลปะการต่อสู้ของอินเดียเหนือกว่าเหรอ? ช่างตลกสิ้นดี!”“ฉันเคยคิดว่าพวกเขาเก่ง! แต่ตอนนี้เมื่อมองดูดี ๆ แล้ว พวกมันก็คือสิ่งโสโครกไร้ประโยชน์!”เมื่อได้ยินเสียงซุบซิบนินทาดวงตาของแอ็กเซลก็กระตุก ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นจากพื้นได้ สีหน้าของเขาดูแย่มาก"แกคือใคร?! แกตบฉันแบบนี้ได้ยังไง?!” เขาถามและจ้องมองฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยวแอ็กเซลรู้ว่าเขามีความแข็งแกร่งแห่งเทพสงครามเหตุผลเดียวที่เขาถูกตบกระเด็นไปอย่างง่ายดายก็เพราะฮาร์วีย์ก็เป็นเทพสงครามด้วยเหมือนกัน!แต่… ประเทศ H มีเทพสงครามอายุน้อยอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?“ไม่ใช่ว่าฉันมีความแข็งแกร่งหรอก คุณแค่อ่อนแอไปเท่านั้น” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“คุณคิดว่าศิลปะการต่อสู้ของอินเดียเหนือกว่าจริง ๆ เหรอ?“คุณคิดจริง ๆ เหรอว่าคุณสามารถออกมาที่นี่และอวดอ้างตัวเองได้ หลังจากฝึกกระบวนท่าง่อย ๆ อย่างนั้นมา?“ฉันจะบอกอะไรให้นะ…“มีคนที่เก่งกว่าคุณเสมอ!“เมื่ออยู่ต่อหน้าประเทศ H คุณก็จะด้อยก
ฮาร์วีย์มองดูแอ็กเซลราวกับว่าเขากำลังมองดูคนโง่เง่าเบาปัญญาอยู่ แล้วก็ถอนหายใจ“คุณคิดว่าฉันโง่เง่าเหมือนคุณเหรอ? ทำไมฉันต้องทำอะไรที่โจ่งแจ้งตั้งแต่แรกด้วยล่ะ?” เขาบอก“ส่งที่ฉันทำก็แค่ขอบัตรเพิ่มอีกใบแล้วใส่เงินเข้าไป“ฉันมอบบัตรใบนี้ให้โซอี้ตอนที่เราเจอกันในร้านอาหาร“ฉันก็เขียนรหัสผ่านบอกเธอตอนที่จับมือด้วย“สิ่งที่เธอต้องทำคือตรวจสอบโทรศัพท์เพื่อดูเงินที่อยู่ข้างในนั้น“พวกคุณบอกว่าจะให้เงินจำนวนนี้กับฉัน แต่เกิดอะไรขึ้นล่ะ? พวกคุณมีแต่คำสัญญาที่ว่างเปล่า“ฉันไม่เหมือนพวกคุณหรอก ฉันให้เงินเธอในจำนวนที่เธอไม่สามารถหาได้ในตลอดชาตินี้“บอกฉันสิว่าคุณไม่คิดว่าเธอจะย้ายประเทศหลังจากมีเงินจำนวนมากมายนั้นอยู่ในมือเหรอ?”แอ็กเซลถอนหายใจ“เป็นฉัน...ฉันก็จะย้ายประเทศเหมือนกัน…”“สิ่งที่เรียกว่าความภักดีนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อค่าจ้างของการทรยศยังไม่มากพอ” ฮาร์วีย์พูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง“ฉันไม่เพียงแต่ให้เงินแก่เธอเท่านั้น แต่ยังสัญญาว่าจะมอบส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของหอฝึกยุทธให้เธอด้วย“คงน่าแปลกใจถ้าเธอไม่เดินเข้ามาหาฉัน“เธอสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างรุ่งโรจน์และร่ำรวย โดยการขาย
“ฉันแพ้แล้ว! ฉันแพ้อย่างราบคาบ!”หลังจากเห็นชาวอินเดียเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอย่างมาก...หลังจากเห็นพันธมิตรของเขามีสีหน้าที่ดูแย่มาก...หลังจากเห็นโซอี้นั่งเงียบ ๆ ในพื้นที่พักผ่อนฝั่งตะวันออกกับคนที่ซื้อตัวเธอไป...แอ็กเซลก็ระเบิดหัวเราะออกมาในที่สุดเขาก็รู้ว่าการถูกบังคับให้จนมุมหมายความว่าอย่างไร!เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้าโดยหันหน้าไปทางประเทศอินเดียก่อนจะโขกหัวลงกับพื้นจากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นก่อนที่จะเหวี่ยงลงบนหัวของเขาผัวะ!ฝูงชนต่างตกอยู่ในความโกลาหลเมื่อเห็นแอ็กเซลล้มลงชาวอินเดียเริ่มตื่นตระหนกฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจต่อสภาพที่น่าสังเวชของแอ็กเซล แล้วใช้กระดาษทิชชู่คลุมหน้าของเขาเอาไว้ หลังจากให้เกียรติแอ็กเซลเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็หันหลังกลับและเดินจากไปหลังจากมุ่งหน้ากลับไปที่หอฝึกยุทธแล้ว ราเชล, เลย์น, เคย์เดน และผู้สอนคนอื่น ๆ พร้อมผู้คนอีกจำนวนหนึ่ง ก็เริ่มส่งเสียงไชโยโห่ร้องอย่างมีความสุขพวกเขาเตรียมงานเฉลิมฉลองเอาไว้แล้ว นักเรียนจำนวนมากจากหอฝึกยุทธก็ได้รับเชิญเช่นกัน นี่เป็นภาพที่ดูค่อนข้างคึกคักเมื่อพวกเขาทานอาหารไปได้ครึ่งทางแล้ว ฟิชเชอร์, เดเมียน, โคลตัน และ
“ที่ผมมานี่ก็เพราะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วครับ""พูดมา เกิดอะไรขึ้น?"เมื่อมองไปที่จอร์จ ฮาร์วีย์ก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย“คนอินเดียเริ่มโทรหาเราจากต่างประเทศเพราะพวกเขาไม่พอใจกับผลการต่อสู้อย่างนั้นเหรอ?”“ถ้าเป็นแค่พวกเขาก็คงเป็นเรื่องง่ายแล้วล่ะครับ”จอร์จดูกังวลเล็กน้อย“นี่เป็นเรื่องที่แย่มาก ๆ ครับ คุณยอร์ก”“นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้น“ผู้มีความสามารถชั้นยอดที่คุณบดขยี้ไปนั้นได้นำแอ็กเซลกลับไปที่อินเดีย และประกาศเรื่องความพ่ายแพ้ของพวกเขา“หลังจากที่ได้สอบสวนเรื่องนี้แล้ว ชาวอินเดียต่างบอกว่าพวกเขาไม่ยอมรับผลการแข่งขันนั้น เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นช่างน่าสงสัยเหลือเกิน“ตอนนี้ชาวอินเดียกำลังวางแผนที่จะนำตัวโซอี้ไปเพื่อหาคำตอบเรื่องคุณ“แต่เนื่องจากคุณได้เตรียมการเรื่องโซอี้เอาไว้ พวกเขาเลยไม่รู้จะหาโซอี้ได้ที่ไหนตั้งแต่แรกแล้ว“สถานการณ์กำลังจะจบลงโดยไม่ได้รับการแก้ไข…“จนกระทั่งมีคนจากประเทศ H ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือชาวอินเดียพวกนั้น!“พวกเขาวางแผนที่จะให้สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้เข้ามามีส่วนร่วม!“ก่อนหน้านี้ อินเดีย ทะเลใต้ ตะวันออกไกล และสหพันธ์ศิลปะก
'ไคลด์ ออสบอร์นเหรอ?'รูม่านตาดำของฮาร์วีย์หดเล็กลงเขาไม่คิดว่ารีอาและไคลด์จะยังต่อต้านเขาอยู่ แม้ว่าเขาจะให้บทเรียนกับพวกเขาในระหว่างการประชุมสุดยอดหลงเหมินไปแล้วก็ตามที่สำคัญกว่านั้นคือไคลด์ได้ขายชาติของตัวเองเพื่อเล่นงานฮาร์วีย์!“ไอ้สารเลวนั่นไม่กลัวสิบตระกูลชั้นนำและสี่ตระกูลลึกลับที่จะรวมตัวกันมากันต่อต้านเขาเหรอ?“ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้เขาไม่ได้น่าสนใจสำหรับผมอีกแล้ว” ฮาร์วีย์กล่าวพร้อมกับหรี่ตาลงจอร์จถอนหายใจ“ผมได้ยินข่าวว่าตระกูลเหล่านั้นส่วนใหญ่จะไม่ลงมือทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้“พวกเขาได้ยับยั้งตระกูลไรท์ ตระกูลยอร์ก รวมถึงตระกูลอื่น ๆ ไว้ด้วยเช่นกัน“พูดง่าย ๆ ก็คือตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่มาก“แน่นอนว่านอกจากไคลด์จะได้สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่มาร่วมต่อต้านเราแล้ว รีอาและคนอื่น ๆ ก็ทำกับเราไม่น้อยเช่นกัน”จอร์จกระแอมกระไอ“นอกเหนือจากการปราบปรามพวกเราแล้ว พวกเขามีแผนที่จะรวมตัวกันเพื่อต่อต้านประเทศ H ด้วย“หลังศึกยูโร-อเมริกาก็ไม่ค่อยมีคนกล้าโต้เถียงเรา เมื่อหัวหน้าผู้ฝึกสอนบดขยี้ห้าประเทศที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยตัวเขาเอง“แม้แต่คนที่เรียกว่
“ตระกูลตอร์เรสเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับตระกูลตอร์เรสด้วย?”“มีบางอย่างที่คุณไม่รู้ครับ คุณยอร์ก” จอร์จพูดเบา ๆ“หลังจากผู้อาวุโสโคลตันปลดเกษียณแล้ว เขาก็กลายเป็นผู้นำสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H นี่คือสาเหตุที่สถานะของเขายังคงสูงเป็นพิเศษในฟลัตเวลล์หลังจากเกษียณอายุการทำงานแล้ว”ฮาร์วีย์รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าโคลตันจะมีตำแหน่งแบบนั้น“แต่ยังไงก็ตามสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H เป็นเพียงสหพันธ์สำหรับสนามฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ภายนอกดูเหมือนเป็นองค์กรการทำงาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ทำการควบคุมอยู่“ผู้อาวุโสตอร์เรสแทบไม่มีอำนาจใด ๆ เลย อำนาจถูกแบ่งแยกระหว่างรองหัวหน้าของสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ที่นี่“ตอนนี้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือมีคนจำนวนมากในสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้มีแรงจูงใจของตัวเอง สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูของเราจากภายนอก“ตอนนี้ทุกคนกำลังลากผู้อาวุโสตอร์เรสกลับมาควบคุมสถานการณ์นี้“ในด้านหนึ่งทุกคนต่างก็หวังว่าเขาจะใช้ชื่อเสียงและกิตติศัพท์ของตัวเอง เพื่
โคลตันบอกเลขาและผู้ช่วยของเขาให้นำทางไปยังร้านอาหารใต้ดินบริเวณชั้นล่างพนักงานต้อนรับยิ้มเมื่อเห็นโคลตัน“ยินดีต้อนรับค่ะผู้อาวุโสตอร์เรส คุณดูกระฉับกระเฉงเหมือนเดิมเลยนะคะ!“วันนี้เหมือนเดิมใช่ไหมคะ?”โคลตันยิ้ม"ใช่แล้ว ฉันขอใช้ห้องวิมานฟ้านะ นำอาหารจานเด่นและไวน์มาให้ฉันด้วย”จากนั้นโคลตันก็ยิ้มให้ฮาร์วีย์“อาหารที่นี่มีไม่มาก แต่ทุกจานอร่อยมาก ๆ! นายควรลองกินดู”ฮาร์วีย์ยิ้ม เขากำลังจะพูดอะไรออกมาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากทางด้านหลัง“นั่นผู้อาวุโสตอร์เรสใช่ไหม?“ช่างบังเอิญจริง ๆ! แต่คุณมาช้าไปหน่อยนะ“ขอโทษนะ แต่เราจองห้องวิมานฟ้าเอาไว้แล้ว”ฮาร์วีย์หันไปมองโดยสัญชาตญาณ เขาเห็นชายคนหนึ่งในชุดคลุมสีเหลืองที่มีผู้คนมากมายรายล้อมอยู่ ใบหน้าที่ดูคุ้นเคยก็อยู่ข้าง ๆ เขาด้วยผู้ชายคนนั้นคือไคลด์!ฮาร์วีย์จ้องมองอย่างสงสัย เขาไม่คิดว่าไคลด์จะกล้าปรากฏตัวต่อหน้าเขาเนื่องจากฮาร์วีย์ไม่ใช่จุดสนใจหลัก และไคลด์ยังไม่ได้พูดอะไรโง่ ๆ ออกมาเลย ฮาร์วีย์จึงตัดสินใจอยู่เฉย ๆ ในขณะนั้นไคลด์ดูภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนเขาจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชา ราวกั
"พอได้แล้ว! เธอคิดว่าคุณมีสิทธิ์จะพูดได้รึไง?” เดนร้องบอกแล้วก้าวเท้าไปข้างหน้า“เธอเอามารยาทไปเก็บไว้ที่ไหน?“เธอลืมทุกอย่างที่ฉันสอนไปหมดแล้วเหรอ?“หัวหน้าตอร์เรสจะไม่กล้าต่อสู้กับเราเพื่อชิงห้องวิมานฟ้า ถ้าเราพูดออกไปอย่างนั้น!“แต่ยังไงก็ตามเธอไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้น!“หัวหน้าตอร์เรสจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้!“เธอควรไตร่ตรองในเรื่องนี้เมื่อเรากลับไป!”หลังจากดุเลขาแล้วเดนก็มองไปที่โคลตันพร้อมกับยิ้มให้เล็ก ๆ“ขอโทษนะครับคุณโคลตัน เลขาของผมพูดขวานผ่าซากไปหน่อย โปรดอย่าถือสาเธอเลย!”จากนั้นเขาก็จ้องมองเลขาอย่างเย็นชา“เธอยังไม่ขอโทษอีกเหรอ?”เลขาคนนั้นเอามือกอดอกหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น“ฉันขอโทษค่ะ หัวหน้าตอร์เรส”"ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้หรอกนะ“ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกที่ถูกสอนมาไม่ดี เพราะท้ายที่สุดแล้วปากสกปรก ๆ ก็ไม่สามารถเอ่ยคำสุภาพ ๆ ออกมาได้หรอก“แน่นอนว่าคุณจะไม่รู้ว่าจะต้องประพฤติตัวยังไงในเมื่อคุณใช้ชีวิตอยู่ในท่อน้ำใต้ดินมาตลอดชีวิต”ใบหน้าของโคลตันเรียบเฉย เขาดูสงบนิ่งอย่างมากหลังจากนั่งอยู่ในตำแหน่งสำคัญเช่นนี้มาหลายปี เขาจึงไม่กลัวคำพูดเพี