“ถ้าเราให้โอกาสพวกเขาอีกครั้งเพราะเหตุนี้ เราก็สามารถสรุปได้ว่าแชมป์ประจำจังหวัดของเราพ่ายแพ้ไปทุกคน ก็เพราะพวกเขาถูกซื้อตัวไปได้ล่ะสิ“ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็สามารถหาคนมาต่อสู้ให้มากขึ้นได้ใช่ไหม?“แต่ประเด็นคืออะไรล่ะ? เราจะไม่สามารถจบการต่อสู้อันเลวร้ายนี้ได้ แม้จะผ่านไปสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“โซอี้ก็เป็นหญิงสาวแห่งอินเดียเหมือนกัน!“เนื่องจากเธอคิดว่าเธอด้อยกว่าฮาร์วีย์และยอมรับความพ่ายแพ้ นั่นก็ควรจะเป็นเช่นนั้น“นั่นเป็นทางเลือกของเธอ!“เราไม่สามารถปล้นสิ่งนั้นมาจากเธอได้!“นอกจากนี้ถ้าเราจะตรวจสอบเรื่องอะไรกันจริง ๆ เราก็ควรริ่มต้นด้วยกรณีการโดนวางยาของเด็กที่มีความสามารถพวกนั้นก่อนสิจริงไหม?“ถ้าไม่มีแม้แต่คำสั่งในเรื่องนี้ คุณคิดว่าเราจะยังคงมีความเป็นกลางอยู่ได้ยังไง?”คำพูดของเซียนน่าไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้น แต่ก็สร้างผลกระทบได้อย่างยิ่งใหญ่เธอไม่เพียงแต่หยุดยั้งชาวอินเดียได้เท่านั้น แต่เธอยังทำให้เหล่าตัวแทนจะไม่กล้าล้ำเส้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความลำเอียงไปแล้วก็ตามก็อย่างที่เซียนน่าพูดนั่นแหละ การเด็กที่มีความสามารถเหล่านั้นโดนวางยาควรถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก...
ในขณะที่เซียนน่ากำลังจะตอบโต้ออกไป ฮาร์วีย์ก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาแขกวีไอพีพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า“เจ้าหญิงไรท์ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคุยกับตัวแทนออสบอร์นหรอก”"หืม?"เซียนน่าและผู้คนต่างตัวแข็งทื่อ และมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ'เขาดูไม่ออกเหรอว่าเจ้าหญิงไรท์กำลังพยายามหาเหตุผล เพื่อผลประโยชน์ของตัวเขาเอง?'ฮาร์วีย์ไม่สนใจสายตาที่จ้องมองของทุกคนและพูดว่า "บางคนก็ไม่สามารถยืนด้วยสองเท้าของตัวเองได้ หลังตกเป็นทาสรับใช้ของผู้อื่น“พวกเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเราถึงไม่ต้องการการอนุมัติจากคนอื่น“คุณคิดว่าพวกเขาเป็นพันธมิตรกันเหรอ?“ช่างตลกสิ้นดี!“แน่นอนว่าพวกเขาจะพูดแบบนั้นเมื่อเรายังมีความแข็งแกร่ง ทันทีที่เราเกิดอ่อนแอพวกเขาก็จะแทงเราข้างหลังทันที!“นี่เป็นการแสดงความขอบคุณเพียงอย่างเดียวที่เราจะได้รับ“ยกตัวอย่างเช่น ตัวแทนออสบอร์นดูถูกผมตลอดเวลา เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำแบบนั้นใช่ไหม?”ฮาร์วีย์ตบรีอาไปทางด้านข้างก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้อะไรจากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า “ถามเธอสิว่าเธอพอใจแล้วหรือยัง”“อ๊า!”รีอากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มล
“ตามกฎแล้วฮาร์วีย์คือผู้ชนะ!”สิบนาทีต่อมาสมาชิกสองสามคนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้และกรรมการบนเวทีก็เดินเข้าไปในสังเวียน“การต่อสู้ระหว่างหลงเหมินและอินเดียสิ้นสุดลงแล้ว!“หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดมาหลายวัน ชาวอินเดียก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ หลงเหมินเป็นฝ่ายชนะ!“ตามกฎแล้วสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ทุกแห่งจะได้รับแจ้งถึงชัยชนะของฮาร์วีย์และประเทศ H!”มีเสียงปรบมือดังขึ้น และฝูงชนก็อยู่ในความโกลาหลชาวประเทศ H ต่างตื่นเต้นอย่างมากนี่หมายความว่าคำพูดที่กล่าวว่าอินเดียที่มีศิลปะการต่อสู้ที่เหนือกว่านั้นเป็นเพียงเรื่องไร้สาระในเวลาเดียวกันนี่ก็หมายความว่าศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H มีความเหนือกว่าในระดับโลก"ไม่! เราจะไม่ยอมรับสิ่งนี้!” ชาวอินเดียต่างร้องไห้“นี่เป็นการฉ้อโกง! การฉ้อโกง!”“ฉันได้ชัยชนะอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม พวกแกไม่มีสิทธิ์จะพูดแบบนั้น”ฮาร์วีย์เหลือบมองชาวอินเดียอย่างใจเย็น“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกทั้งสามเป็นผู้รับผิดชอบการต่อสู้ในครั้งนี้ นอกจากนั้นกระบวนการทั้งหมดก็มีความเป็นกลางอย่างสมบูรณ์ด้วย”กรรมการบนเวทีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่เงียบ ๆ
ฮาร์วีย์ยิ้มเบา ๆ ในขณะที่มองดูแอ็กเซลกระโดดขึ้น ๆ ลง ๆ ด้วยความโกรธ“ฉันบดขยี้พวกคุณไปแล้ว“ในฐานะที่เป็นคนท้าทายหลงเหมินโดยใช้ผู้คนและเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมาย ไม่เพียงแต่คุณไม่อาจเอาชนะได้เท่านั้น แต่คุณยังฆ่าฉันไม่ได้ด้วย แล้วคุณจะรายงานเรื่องนี้ต่อราชวงศ์ได้ยังไง?“ฉันขอเดาว่าคุณอาจต้องทุบหัวตัวเองให้แตกตรงหน้าพระราชวัง เพื่อให้ครอบครัวของคุณมีชีวิตรอดต่อไป“ในเมื่อคุณเป็นคนตายไปแล้ว ทำไมฉันถึงต้องสู้กับคุณด้วยล่ะ?“คุณมีคุณค่าพอเหรอ?”“ไอ้สารเลว…”แอ็กเซลไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะมองเขาอย่างทะลุปรุโปร่ง“เอาล่ะ แกจะมีชื่อเสียงถ้าแกเอาชนะฉันได้!“แกสามารถบอกคนทั้งโลกได้ว่าแกโจมตีฉันด้วยความแข็งแกร่งของแกเอง ไม่ใช่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงอันแสนจิ๊บจ๊อยนั่น!“ถ้าฉันเอาชนะแกไม่ได้ในกระบวนท่าเดียว ฉันจะโขกหัวลงกับพื้นทันที!“แกคงคิดว่าไม่สามารถปกป้องตัวเองจากฉันได้หรอกใช่ไหม?“หรือแกคิดว่าจะทำให้คนทั้งประเทศต้องได้รับความอับอาย ถ้าฉันทำร้ายแกเข้าจริง ๆ?“ถ้าแกไม่เต็มใจที่จะยอมรับการท้าทาย ก็แสดงว่าแกมีความผิดอย่างชัดเจน!“ผู้คนจะคิดว่าแกได้เป็นแชมเปี้ยนโดยใช้แต่เล่ห์เหลี่ยมกลโกงเท่า
"ดี สุภาพบุรุษจะไม่กลับคำพูดของตัวเอง”ฮาร์วีย์ยิ้มด้วยท่าทีที่ดูสงบนิ่ง จากนั้นเขาก็หันกลับมาและปรบมือต่อหน้าทุกคน“ทุก ๆ คน ได้โปรดเงียบเสียงหน่อย“เมื่อสักครู่นี้ปรมาจารย์แอกเซล การ์เซีย ซึ่งเป็นสมาชิกหนึ่งในสามของนักบวชปีศาจได้ทำข้อตกลงกับผม“เขาต้องการแลกเปลี่ยนการโจมตีด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวกับผม“ถ้าเขาชนะผมจะต้องประกาศว่าผมด้อยกว่าเขาโดยสิ้นเชิง“แต่ถ้าเขาแพ้เขาจะต้องมอบโทรศัพท์ที่เต็มไปด้วยความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาให้กับผม“ฉะนั้นกรุณาอย่าเดินออกจากสังเวียนในช่วงนี้ เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ครั้งนี้ไปด้วยกัน!”ผู้คนที่กำลังจะเดินจากไปต่างดีใจกันมากการแข่งขันที่เกิดขึ้นในวันนี้ทุกแมตช์ล้วนมีความเข้มข้นกว่าครั้งก่อน ๆถึงแม้ว่าการต่อสู้ของฮาร์วีย์และโซอี้จะดูน่าผิดหวังไปนิดหน่อยก็ตาม...การต่อสู้โดยรวมก็ยังคงน่าตื่นเต้นอยู่ทุกคนเริ่มสนใจเมื่อฮาร์วีย์ประกาศว่าจะมีการแข่งขันเกิดขึ้นอีกแมตช์หนึ่งฝ่ายหนึ่งคือแชมเปี้ยนของประเทศ H...ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคือหนึ่งในสมาชิกของสามนักบวชปีศาจ...ทุกคนอยากเห็นว่าใครจะมีความแข็งแกร่งมากกว่ากันหลังจากนั้นไม่น
"เขาชนะเหรอ?"“ฮาร์วีย์ชนะอีกแล้วเหรอ?”“นักบวชปีศาจนั่นไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย! เขาไม่สามารถโจมตีฮาร์วีย์แม้แต่ครั้งเดียว!”“และตอนนี้เขากำลังบอกเราว่าศิลปะการต่อสู้ของอินเดียเหนือกว่าเหรอ? ช่างตลกสิ้นดี!”“ฉันเคยคิดว่าพวกเขาเก่ง! แต่ตอนนี้เมื่อมองดูดี ๆ แล้ว พวกมันก็คือสิ่งโสโครกไร้ประโยชน์!”เมื่อได้ยินเสียงซุบซิบนินทาดวงตาของแอ็กเซลก็กระตุก ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นจากพื้นได้ สีหน้าของเขาดูแย่มาก"แกคือใคร?! แกตบฉันแบบนี้ได้ยังไง?!” เขาถามและจ้องมองฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยวแอ็กเซลรู้ว่าเขามีความแข็งแกร่งแห่งเทพสงครามเหตุผลเดียวที่เขาถูกตบกระเด็นไปอย่างง่ายดายก็เพราะฮาร์วีย์ก็เป็นเทพสงครามด้วยเหมือนกัน!แต่… ประเทศ H มีเทพสงครามอายุน้อยอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?“ไม่ใช่ว่าฉันมีความแข็งแกร่งหรอก คุณแค่อ่อนแอไปเท่านั้น” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“คุณคิดว่าศิลปะการต่อสู้ของอินเดียเหนือกว่าจริง ๆ เหรอ?“คุณคิดจริง ๆ เหรอว่าคุณสามารถออกมาที่นี่และอวดอ้างตัวเองได้ หลังจากฝึกกระบวนท่าง่อย ๆ อย่างนั้นมา?“ฉันจะบอกอะไรให้นะ…“มีคนที่เก่งกว่าคุณเสมอ!“เมื่ออยู่ต่อหน้าประเทศ H คุณก็จะด้อยก
ฮาร์วีย์มองดูแอ็กเซลราวกับว่าเขากำลังมองดูคนโง่เง่าเบาปัญญาอยู่ แล้วก็ถอนหายใจ“คุณคิดว่าฉันโง่เง่าเหมือนคุณเหรอ? ทำไมฉันต้องทำอะไรที่โจ่งแจ้งตั้งแต่แรกด้วยล่ะ?” เขาบอก“ส่งที่ฉันทำก็แค่ขอบัตรเพิ่มอีกใบแล้วใส่เงินเข้าไป“ฉันมอบบัตรใบนี้ให้โซอี้ตอนที่เราเจอกันในร้านอาหาร“ฉันก็เขียนรหัสผ่านบอกเธอตอนที่จับมือด้วย“สิ่งที่เธอต้องทำคือตรวจสอบโทรศัพท์เพื่อดูเงินที่อยู่ข้างในนั้น“พวกคุณบอกว่าจะให้เงินจำนวนนี้กับฉัน แต่เกิดอะไรขึ้นล่ะ? พวกคุณมีแต่คำสัญญาที่ว่างเปล่า“ฉันไม่เหมือนพวกคุณหรอก ฉันให้เงินเธอในจำนวนที่เธอไม่สามารถหาได้ในตลอดชาตินี้“บอกฉันสิว่าคุณไม่คิดว่าเธอจะย้ายประเทศหลังจากมีเงินจำนวนมากมายนั้นอยู่ในมือเหรอ?”แอ็กเซลถอนหายใจ“เป็นฉัน...ฉันก็จะย้ายประเทศเหมือนกัน…”“สิ่งที่เรียกว่าความภักดีนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อค่าจ้างของการทรยศยังไม่มากพอ” ฮาร์วีย์พูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง“ฉันไม่เพียงแต่ให้เงินแก่เธอเท่านั้น แต่ยังสัญญาว่าจะมอบส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของหอฝึกยุทธให้เธอด้วย“คงน่าแปลกใจถ้าเธอไม่เดินเข้ามาหาฉัน“เธอสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างรุ่งโรจน์และร่ำรวย โดยการขาย
“ฉันแพ้แล้ว! ฉันแพ้อย่างราบคาบ!”หลังจากเห็นชาวอินเดียเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอย่างมาก...หลังจากเห็นพันธมิตรของเขามีสีหน้าที่ดูแย่มาก...หลังจากเห็นโซอี้นั่งเงียบ ๆ ในพื้นที่พักผ่อนฝั่งตะวันออกกับคนที่ซื้อตัวเธอไป...แอ็กเซลก็ระเบิดหัวเราะออกมาในที่สุดเขาก็รู้ว่าการถูกบังคับให้จนมุมหมายความว่าอย่างไร!เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้าโดยหันหน้าไปทางประเทศอินเดียก่อนจะโขกหัวลงกับพื้นจากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นก่อนที่จะเหวี่ยงลงบนหัวของเขาผัวะ!ฝูงชนต่างตกอยู่ในความโกลาหลเมื่อเห็นแอ็กเซลล้มลงชาวอินเดียเริ่มตื่นตระหนกฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจต่อสภาพที่น่าสังเวชของแอ็กเซล แล้วใช้กระดาษทิชชู่คลุมหน้าของเขาเอาไว้ หลังจากให้เกียรติแอ็กเซลเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็หันหลังกลับและเดินจากไปหลังจากมุ่งหน้ากลับไปที่หอฝึกยุทธแล้ว ราเชล, เลย์น, เคย์เดน และผู้สอนคนอื่น ๆ พร้อมผู้คนอีกจำนวนหนึ่ง ก็เริ่มส่งเสียงไชโยโห่ร้องอย่างมีความสุขพวกเขาเตรียมงานเฉลิมฉลองเอาไว้แล้ว นักเรียนจำนวนมากจากหอฝึกยุทธก็ได้รับเชิญเช่นกัน นี่เป็นภาพที่ดูค่อนข้างคึกคักเมื่อพวกเขาทานอาหารไปได้ครึ่งทางแล้ว ฟิชเชอร์, เดเมียน, โคลตัน และ