ฮาร์วีย์แค่ยิ้มให้ไคลด์หลังจากได้ยินคำพูดของเขา“ผมไม่คิดว่าเจ้าชายออสบอร์นจะเข้าใจในตัวผมได้อย่างแจ่มแจ้ง"เขาพูดถูก ผมทำอย่างนั้นเพราะผมมั่นใจว่าตัวเองจะชนะ!“แต่ผมก็ชนะแล้ว!”ก่อนที่ไคลด์จะทันได้พูดอะไร ชาวอินเดียพวกนั้นก็หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งไปตาม ๆ กันแอ็กเซลอดที่จะทำสีหน้าเยาะเย้ยไม่ได้“คุณอวดดีถึงขนาดนี้ได้ยังไงกันฮาร์วีย์?“คุณโยนอาวุธทิ้งไป แต่ยังบอกเราว่าคุณจะชนะได้เหรอ?“คุณประเมินพวกเราสูงเกินไปหรือเปล่า? หรือคุณกำลังดูถูกพวกเราชาวอินเดีย?"ฉันจะบอกอะไรให้นะ! ไม่ใช่แค่โซอี้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของผู้มีความสามารถชั้นยอดจากอินเดียเท่านั้นนะ...“ผู้มีความสามารถชั้นยอดคนไหน ๆ ที่มีดาบก็สามารถล้มคุณได้ทั้งนั้น!”แอ็กเซลเชื่อว่าฮาร์วีย์เก่งในการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเท่านั้น และไม่รู้วิธีใช้อาวุธชนิดไหนเลยด้วยการเตรียมการของเหล่าตัวแทนเช่นนี้ ฮาร์วีย์มีหวังต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอนสุภาพสตรีผู้มั่งคั่งต่างกอดอกขณะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างดูถูกเหยียดหยามพวกเธอคิดว่าฮาร์วีย์ก็แค่ทำอวดเก่งไปเท่านั้นแต่ก่อนที่พวกเธอจะทันได้อ้าปากพูดอะไร ก็มีเสียงเยือกเย็นเสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน
“ฉันรู้ว่าจริง ๆ แล้วเขามีความแข็งแกร่งขนาดไหน!“ไม่ใช่แค่ดาบเท่านั้นนะ ถึงแม้ว่าฉันจะมีปืนและเขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ฉันก็ยังสู้เขาไม่ได้เลย!“ฉันคงจะยิ่งอับอายมากกว่านี้ถ้าพ่ายแพ้ไปแบบนั้น! ความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของฉันจะถูกบดขยี้ทันที!“นั่นคือเหตุผลที่ฉันตัดสินใจขอสละสิทธิ์ในตอนนี้!“ฉันมีทักษะด้อยกว่าเขาอย่างมาก! การยอมแพ้คุณยอร์กไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกแย่อะไรเลย!”จากนั้นโซอี้ก็หันกลับมาและโค้งคำนับให้กับแอกเซลและชาวอินเดียคนอื่น ๆ“ฉันขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง”“แกมันเลว! นางสารเลว!"ในที่สุดแอ็กเซลก็ได้สติเขากระโดดไปมาอย่างบ้าคลั่ง ความโกรธเข้าครอบงำทั่วร่างกายของเขาจนหมดสิ้น“เธอกำลังถูกปรับให้แพ้ก่อนที่จะได้ลองต่อสู้เสียอีก!“ฮาร์วีย์ยังไม่ได้เหวี่ยงกำปั้นใส่เธอเลย! ก็แค่บดขยี้เขาให้เละเหมือนแมงวันแมงหวี่ไปเลยสิ!“โซอี้!“เธอเอาความกล้ามาจากไหนในการยอมรับความพ่ายแพ้แบบนี้?“ใครให้สิทธิ์ในการทำอย่างนั้นกับเธอ?!“เธอควรจะชนะการต่อสู้ครั้งนี้นะโซอี้!"นี่คือสงคราม! ฉันขอบอกว่ามันคือสงคราม!“ถ้าเธอยอมให้กับฮาร์วีย์ง่าย ๆ ฉันก็จะฆ่าเธอให้ตาย!“ทั้งครอบครัวของเธอก็จะ
“ฆ่านางสารเลวนั่น! ฆ่าคนทรยศนั่นซะ!”“แกเรียกตัวเองว่าหญิงสาวเหรอ? แกมันก็แค่คนขี้ขลาด!”“เราจะเล่นงานไอ้คนทรยศนั่น!”ชาวอินเดียต่างแสดงความโกรธแค้นอย่างตรงไปตรงมา และทุกคนต่างก็พยายามจะตะครุบตัวโซอี้เอาไว้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลุ่มใหญ่ก็เข้ามารุมล้อมเอาไว้ เพื่อหยุดยั้งชาวอินเดียไม่ให้เคลื่อนไหวใด ๆชาวอินเดียที่ดุดันเหล่านั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดเคลื่อนไหว พวกเขาต่างตกตะลึงเมื่อเห็นอาวุธปืนอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างไรเสีย หลงเหมินก็มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีข้ออ้างอะไร แต่ตอนนี้พวกเขามีแล้วถ้าชาวอินเดียทำอะไรบุ่มบ่าม ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะต้องพาคนพวกนั้นออกไปทันที“คุณผู้หญิงยอมรับความพ่ายแพ้และออกจากสังเวียนไปแล้ว“คุณยังรออะไรอีก? ประกาศออกไปเลยสิ”ฮาร์วีย์ยิ้มเล็กน้อยในขณะที่เขามองไปที่กรรมการบนเวที ในขณะเดียวกันเหล่าตัวแทนต่างตกตะลึงอย่างมาก“กฎกติการะบุเอาไว้ว่าการออกจากสังเวียนหรือการยอมรับความพ่ายแพ้จะถือว่าแพ้แล้ว“แน่นอนว่าถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนกฎกติกาตอนนี้คุณก็สามารถทำได้ ผ
“ถ้าเราให้โอกาสพวกเขาอีกครั้งเพราะเหตุนี้ เราก็สามารถสรุปได้ว่าแชมป์ประจำจังหวัดของเราพ่ายแพ้ไปทุกคน ก็เพราะพวกเขาถูกซื้อตัวไปได้ล่ะสิ“ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็สามารถหาคนมาต่อสู้ให้มากขึ้นได้ใช่ไหม?“แต่ประเด็นคืออะไรล่ะ? เราจะไม่สามารถจบการต่อสู้อันเลวร้ายนี้ได้ แม้จะผ่านไปสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“โซอี้ก็เป็นหญิงสาวแห่งอินเดียเหมือนกัน!“เนื่องจากเธอคิดว่าเธอด้อยกว่าฮาร์วีย์และยอมรับความพ่ายแพ้ นั่นก็ควรจะเป็นเช่นนั้น“นั่นเป็นทางเลือกของเธอ!“เราไม่สามารถปล้นสิ่งนั้นมาจากเธอได้!“นอกจากนี้ถ้าเราจะตรวจสอบเรื่องอะไรกันจริง ๆ เราก็ควรริ่มต้นด้วยกรณีการโดนวางยาของเด็กที่มีความสามารถพวกนั้นก่อนสิจริงไหม?“ถ้าไม่มีแม้แต่คำสั่งในเรื่องนี้ คุณคิดว่าเราจะยังคงมีความเป็นกลางอยู่ได้ยังไง?”คำพูดของเซียนน่าไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้น แต่ก็สร้างผลกระทบได้อย่างยิ่งใหญ่เธอไม่เพียงแต่หยุดยั้งชาวอินเดียได้เท่านั้น แต่เธอยังทำให้เหล่าตัวแทนจะไม่กล้าล้ำเส้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความลำเอียงไปแล้วก็ตามก็อย่างที่เซียนน่าพูดนั่นแหละ การเด็กที่มีความสามารถเหล่านั้นโดนวางยาควรถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก...
ในขณะที่เซียนน่ากำลังจะตอบโต้ออกไป ฮาร์วีย์ก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาแขกวีไอพีพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า“เจ้าหญิงไรท์ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคุยกับตัวแทนออสบอร์นหรอก”"หืม?"เซียนน่าและผู้คนต่างตัวแข็งทื่อ และมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ'เขาดูไม่ออกเหรอว่าเจ้าหญิงไรท์กำลังพยายามหาเหตุผล เพื่อผลประโยชน์ของตัวเขาเอง?'ฮาร์วีย์ไม่สนใจสายตาที่จ้องมองของทุกคนและพูดว่า "บางคนก็ไม่สามารถยืนด้วยสองเท้าของตัวเองได้ หลังตกเป็นทาสรับใช้ของผู้อื่น“พวกเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเราถึงไม่ต้องการการอนุมัติจากคนอื่น“คุณคิดว่าพวกเขาเป็นพันธมิตรกันเหรอ?“ช่างตลกสิ้นดี!“แน่นอนว่าพวกเขาจะพูดแบบนั้นเมื่อเรายังมีความแข็งแกร่ง ทันทีที่เราเกิดอ่อนแอพวกเขาก็จะแทงเราข้างหลังทันที!“นี่เป็นการแสดงความขอบคุณเพียงอย่างเดียวที่เราจะได้รับ“ยกตัวอย่างเช่น ตัวแทนออสบอร์นดูถูกผมตลอดเวลา เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำแบบนั้นใช่ไหม?”ฮาร์วีย์ตบรีอาไปทางด้านข้างก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้อะไรจากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า “ถามเธอสิว่าเธอพอใจแล้วหรือยัง”“อ๊า!”รีอากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มล
“ตามกฎแล้วฮาร์วีย์คือผู้ชนะ!”สิบนาทีต่อมาสมาชิกสองสามคนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้และกรรมการบนเวทีก็เดินเข้าไปในสังเวียน“การต่อสู้ระหว่างหลงเหมินและอินเดียสิ้นสุดลงแล้ว!“หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดมาหลายวัน ชาวอินเดียก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ หลงเหมินเป็นฝ่ายชนะ!“ตามกฎแล้วสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ทุกแห่งจะได้รับแจ้งถึงชัยชนะของฮาร์วีย์และประเทศ H!”มีเสียงปรบมือดังขึ้น และฝูงชนก็อยู่ในความโกลาหลชาวประเทศ H ต่างตื่นเต้นอย่างมากนี่หมายความว่าคำพูดที่กล่าวว่าอินเดียที่มีศิลปะการต่อสู้ที่เหนือกว่านั้นเป็นเพียงเรื่องไร้สาระในเวลาเดียวกันนี่ก็หมายความว่าศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H มีความเหนือกว่าในระดับโลก"ไม่! เราจะไม่ยอมรับสิ่งนี้!” ชาวอินเดียต่างร้องไห้“นี่เป็นการฉ้อโกง! การฉ้อโกง!”“ฉันได้ชัยชนะอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม พวกแกไม่มีสิทธิ์จะพูดแบบนั้น”ฮาร์วีย์เหลือบมองชาวอินเดียอย่างใจเย็น“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกทั้งสามเป็นผู้รับผิดชอบการต่อสู้ในครั้งนี้ นอกจากนั้นกระบวนการทั้งหมดก็มีความเป็นกลางอย่างสมบูรณ์ด้วย”กรรมการบนเวทีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่เงียบ ๆ
ฮาร์วีย์ยิ้มเบา ๆ ในขณะที่มองดูแอ็กเซลกระโดดขึ้น ๆ ลง ๆ ด้วยความโกรธ“ฉันบดขยี้พวกคุณไปแล้ว“ในฐานะที่เป็นคนท้าทายหลงเหมินโดยใช้ผู้คนและเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมาย ไม่เพียงแต่คุณไม่อาจเอาชนะได้เท่านั้น แต่คุณยังฆ่าฉันไม่ได้ด้วย แล้วคุณจะรายงานเรื่องนี้ต่อราชวงศ์ได้ยังไง?“ฉันขอเดาว่าคุณอาจต้องทุบหัวตัวเองให้แตกตรงหน้าพระราชวัง เพื่อให้ครอบครัวของคุณมีชีวิตรอดต่อไป“ในเมื่อคุณเป็นคนตายไปแล้ว ทำไมฉันถึงต้องสู้กับคุณด้วยล่ะ?“คุณมีคุณค่าพอเหรอ?”“ไอ้สารเลว…”แอ็กเซลไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะมองเขาอย่างทะลุปรุโปร่ง“เอาล่ะ แกจะมีชื่อเสียงถ้าแกเอาชนะฉันได้!“แกสามารถบอกคนทั้งโลกได้ว่าแกโจมตีฉันด้วยความแข็งแกร่งของแกเอง ไม่ใช่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงอันแสนจิ๊บจ๊อยนั่น!“ถ้าฉันเอาชนะแกไม่ได้ในกระบวนท่าเดียว ฉันจะโขกหัวลงกับพื้นทันที!“แกคงคิดว่าไม่สามารถปกป้องตัวเองจากฉันได้หรอกใช่ไหม?“หรือแกคิดว่าจะทำให้คนทั้งประเทศต้องได้รับความอับอาย ถ้าฉันทำร้ายแกเข้าจริง ๆ?“ถ้าแกไม่เต็มใจที่จะยอมรับการท้าทาย ก็แสดงว่าแกมีความผิดอย่างชัดเจน!“ผู้คนจะคิดว่าแกได้เป็นแชมเปี้ยนโดยใช้แต่เล่ห์เหลี่ยมกลโกงเท่า
"ดี สุภาพบุรุษจะไม่กลับคำพูดของตัวเอง”ฮาร์วีย์ยิ้มด้วยท่าทีที่ดูสงบนิ่ง จากนั้นเขาก็หันกลับมาและปรบมือต่อหน้าทุกคน“ทุก ๆ คน ได้โปรดเงียบเสียงหน่อย“เมื่อสักครู่นี้ปรมาจารย์แอกเซล การ์เซีย ซึ่งเป็นสมาชิกหนึ่งในสามของนักบวชปีศาจได้ทำข้อตกลงกับผม“เขาต้องการแลกเปลี่ยนการโจมตีด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวกับผม“ถ้าเขาชนะผมจะต้องประกาศว่าผมด้อยกว่าเขาโดยสิ้นเชิง“แต่ถ้าเขาแพ้เขาจะต้องมอบโทรศัพท์ที่เต็มไปด้วยความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาให้กับผม“ฉะนั้นกรุณาอย่าเดินออกจากสังเวียนในช่วงนี้ เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ครั้งนี้ไปด้วยกัน!”ผู้คนที่กำลังจะเดินจากไปต่างดีใจกันมากการแข่งขันที่เกิดขึ้นในวันนี้ทุกแมตช์ล้วนมีความเข้มข้นกว่าครั้งก่อน ๆถึงแม้ว่าการต่อสู้ของฮาร์วีย์และโซอี้จะดูน่าผิดหวังไปนิดหน่อยก็ตาม...การต่อสู้โดยรวมก็ยังคงน่าตื่นเต้นอยู่ทุกคนเริ่มสนใจเมื่อฮาร์วีย์ประกาศว่าจะมีการแข่งขันเกิดขึ้นอีกแมตช์หนึ่งฝ่ายหนึ่งคือแชมเปี้ยนของประเทศ H...ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคือหนึ่งในสมาชิกของสามนักบวชปีศาจ...ทุกคนอยากเห็นว่าใครจะมีความแข็งแกร่งมากกว่ากันหลังจากนั้นไม่น