“เนื่องจากคุณทั้งคู่เป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ จึงเป็นการเสียเวลาเปล่าถ้าจะต่อสู้กันแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย“นั่นคือเหตุผลที่เราตัดสินใจให้คุณเลือกใช้อาวุธโบราณซึ่งมีอยู่สิบสองชนิด“กฎกติกานั้นเป็นอะไรที่เรียบง่าย เราจะให้พวกคุณต่อสู้กันโดยใช้อาวุธที่พวกคุณเลือกเท่านั้น และห้ามต่อสู้กันด้วยมือเปล่า“คุณจะเสียสิทธิ์ในการต่อสู้ถ้าหากคุณสูญเสียอาวุธในการต่อสู้ไป"เข้าใจไหมครับ?"จากนั้นกรรมการบนเวทีก็โบกมือก่อนที่คนงานกลุ่มหนึ่งจะนำชั้นวางอาวุธออกมาบนชั้นวางอาวุธในขณะนั้นเต็มไปด้วยหอกดาบที่ทำจากเหล็กกล้าทุกรูปแบบฮาร์วีย์ขมวดคิ้วก่อนจะตอบอย่างใจเย็นว่า "เข้าใจแล้ว"โซอี้ก็พยักหน้าเบา ๆ ด้วยเหมือนกัน“อะไรกันวะเนี่ย? นี่หมายความว่ายังไงเหรอ?"“พวกเขาได้รับอนุญาตให้ใช้เพียงอาวุธในการต่อสู้เท่านั้นเหรอ?”“พวกเขาจงใจทำอย่างนี้เพื่อจำกัดความสามารถฮาร์วีย์ หลังจากเห็นพลังของการตบของเขาก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”“ตอนนี้พวกเขาไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?”“แต่ตัวแทนได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนกฎกติกาได้ตามใจ! ไม่มีใครทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลย!”ฝูงชนต่างซุบซิบนินทากันขนานใหญ่ผู้คนของ
เซียนน่าหันกลับไปมองรีอา ออสบอร์นเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารีอาไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้พูดง่าย ๆ ก็คือรีอาเป็นคนทำให้ฮาร์วีย์อยู่ในวงจำกัด โดยบีบบังคับให้เขาไม่เหลืออาวุธที่จะใช้ต่อสู้ได้ซึ่งโดยทั่วไปแล้วความแข็งแกร่งของฮาร์วีย์จะถูกยับยั้งไปเล็กน้อยด้วยเหตุนี้...แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเคืองในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย เขาได้แต่ยิ้มให้รีอา“ขอบคุณที่อุตส่าห์เป็นห่วง แต่มันไม่สำคัญหรอกว่าผมจะมีอาวุธหรือเปล่า”“แหม แหม! ฉันหวังว่าคุณจะไม่ย่อท้อนะ! ถ้าคุณแพ้คุณก็จะต้องรับผิดชอบตัวเอง!” รีอาร้องบอกอย่างเย็นชาฮาร์วีย์ยักไหล่ก่อนที่จะหยิบดาบยาวขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ และลากไปกับพื้นในขณะที่เดินไปยังจุดกึ่งกลางของสังเวียนแอ็กเซลหัวเราะอย่างเย็นชาหลังจากเห็นภาพนั้น“คุณไม่สามารถใช้มือของคุณได้อีกต่อไป! แล้วยังทำอาวุธที่ต้องใช้ในการต่อสู้หักอีกด้วย!“คุณคงไม่สามารถทุ่มพละกำลังทั้งหมดไปกับการต่อสู้ได้อีกแล้วใช่ไหมล่ะ?“ฉันขอแนะนำให้คุณถอนตัวจากการต่อสู้ครั้งนี้ ออกจากสังเวียนไปได้แล้ว! หยุดสร้างความอับอายให้ตัวเองซะเถอะ!”ฮาร์วีย์ฉีกยิ้ม“คุณพูดถูก ผมก็ไม่ค่อยเก่งกับสิ่งนี้เหมือนกัน”จากนั้
ฮาร์วีย์แค่ยิ้มให้ไคลด์หลังจากได้ยินคำพูดของเขา“ผมไม่คิดว่าเจ้าชายออสบอร์นจะเข้าใจในตัวผมได้อย่างแจ่มแจ้ง"เขาพูดถูก ผมทำอย่างนั้นเพราะผมมั่นใจว่าตัวเองจะชนะ!“แต่ผมก็ชนะแล้ว!”ก่อนที่ไคลด์จะทันได้พูดอะไร ชาวอินเดียพวกนั้นก็หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งไปตาม ๆ กันแอ็กเซลอดที่จะทำสีหน้าเยาะเย้ยไม่ได้“คุณอวดดีถึงขนาดนี้ได้ยังไงกันฮาร์วีย์?“คุณโยนอาวุธทิ้งไป แต่ยังบอกเราว่าคุณจะชนะได้เหรอ?“คุณประเมินพวกเราสูงเกินไปหรือเปล่า? หรือคุณกำลังดูถูกพวกเราชาวอินเดีย?"ฉันจะบอกอะไรให้นะ! ไม่ใช่แค่โซอี้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของผู้มีความสามารถชั้นยอดจากอินเดียเท่านั้นนะ...“ผู้มีความสามารถชั้นยอดคนไหน ๆ ที่มีดาบก็สามารถล้มคุณได้ทั้งนั้น!”แอ็กเซลเชื่อว่าฮาร์วีย์เก่งในการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเท่านั้น และไม่รู้วิธีใช้อาวุธชนิดไหนเลยด้วยการเตรียมการของเหล่าตัวแทนเช่นนี้ ฮาร์วีย์มีหวังต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอนสุภาพสตรีผู้มั่งคั่งต่างกอดอกขณะจ้องมองฮาร์วีย์อย่างดูถูกเหยียดหยามพวกเธอคิดว่าฮาร์วีย์ก็แค่ทำอวดเก่งไปเท่านั้นแต่ก่อนที่พวกเธอจะทันได้อ้าปากพูดอะไร ก็มีเสียงเยือกเย็นเสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน
“ฉันรู้ว่าจริง ๆ แล้วเขามีความแข็งแกร่งขนาดไหน!“ไม่ใช่แค่ดาบเท่านั้นนะ ถึงแม้ว่าฉันจะมีปืนและเขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ฉันก็ยังสู้เขาไม่ได้เลย!“ฉันคงจะยิ่งอับอายมากกว่านี้ถ้าพ่ายแพ้ไปแบบนั้น! ความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของฉันจะถูกบดขยี้ทันที!“นั่นคือเหตุผลที่ฉันตัดสินใจขอสละสิทธิ์ในตอนนี้!“ฉันมีทักษะด้อยกว่าเขาอย่างมาก! การยอมแพ้คุณยอร์กไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกแย่อะไรเลย!”จากนั้นโซอี้ก็หันกลับมาและโค้งคำนับให้กับแอกเซลและชาวอินเดียคนอื่น ๆ“ฉันขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง”“แกมันเลว! นางสารเลว!"ในที่สุดแอ็กเซลก็ได้สติเขากระโดดไปมาอย่างบ้าคลั่ง ความโกรธเข้าครอบงำทั่วร่างกายของเขาจนหมดสิ้น“เธอกำลังถูกปรับให้แพ้ก่อนที่จะได้ลองต่อสู้เสียอีก!“ฮาร์วีย์ยังไม่ได้เหวี่ยงกำปั้นใส่เธอเลย! ก็แค่บดขยี้เขาให้เละเหมือนแมงวันแมงหวี่ไปเลยสิ!“โซอี้!“เธอเอาความกล้ามาจากไหนในการยอมรับความพ่ายแพ้แบบนี้?“ใครให้สิทธิ์ในการทำอย่างนั้นกับเธอ?!“เธอควรจะชนะการต่อสู้ครั้งนี้นะโซอี้!"นี่คือสงคราม! ฉันขอบอกว่ามันคือสงคราม!“ถ้าเธอยอมให้กับฮาร์วีย์ง่าย ๆ ฉันก็จะฆ่าเธอให้ตาย!“ทั้งครอบครัวของเธอก็จะ
“ฆ่านางสารเลวนั่น! ฆ่าคนทรยศนั่นซะ!”“แกเรียกตัวเองว่าหญิงสาวเหรอ? แกมันก็แค่คนขี้ขลาด!”“เราจะเล่นงานไอ้คนทรยศนั่น!”ชาวอินเดียต่างแสดงความโกรธแค้นอย่างตรงไปตรงมา และทุกคนต่างก็พยายามจะตะครุบตัวโซอี้เอาไว้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลุ่มใหญ่ก็เข้ามารุมล้อมเอาไว้ เพื่อหยุดยั้งชาวอินเดียไม่ให้เคลื่อนไหวใด ๆชาวอินเดียที่ดุดันเหล่านั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดเคลื่อนไหว พวกเขาต่างตกตะลึงเมื่อเห็นอาวุธปืนอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างไรเสีย หลงเหมินก็มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีข้ออ้างอะไร แต่ตอนนี้พวกเขามีแล้วถ้าชาวอินเดียทำอะไรบุ่มบ่าม ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะต้องพาคนพวกนั้นออกไปทันที“คุณผู้หญิงยอมรับความพ่ายแพ้และออกจากสังเวียนไปแล้ว“คุณยังรออะไรอีก? ประกาศออกไปเลยสิ”ฮาร์วีย์ยิ้มเล็กน้อยในขณะที่เขามองไปที่กรรมการบนเวที ในขณะเดียวกันเหล่าตัวแทนต่างตกตะลึงอย่างมาก“กฎกติการะบุเอาไว้ว่าการออกจากสังเวียนหรือการยอมรับความพ่ายแพ้จะถือว่าแพ้แล้ว“แน่นอนว่าถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนกฎกติกาตอนนี้คุณก็สามารถทำได้ ผ
“ถ้าเราให้โอกาสพวกเขาอีกครั้งเพราะเหตุนี้ เราก็สามารถสรุปได้ว่าแชมป์ประจำจังหวัดของเราพ่ายแพ้ไปทุกคน ก็เพราะพวกเขาถูกซื้อตัวไปได้ล่ะสิ“ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็สามารถหาคนมาต่อสู้ให้มากขึ้นได้ใช่ไหม?“แต่ประเด็นคืออะไรล่ะ? เราจะไม่สามารถจบการต่อสู้อันเลวร้ายนี้ได้ แม้จะผ่านไปสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“โซอี้ก็เป็นหญิงสาวแห่งอินเดียเหมือนกัน!“เนื่องจากเธอคิดว่าเธอด้อยกว่าฮาร์วีย์และยอมรับความพ่ายแพ้ นั่นก็ควรจะเป็นเช่นนั้น“นั่นเป็นทางเลือกของเธอ!“เราไม่สามารถปล้นสิ่งนั้นมาจากเธอได้!“นอกจากนี้ถ้าเราจะตรวจสอบเรื่องอะไรกันจริง ๆ เราก็ควรริ่มต้นด้วยกรณีการโดนวางยาของเด็กที่มีความสามารถพวกนั้นก่อนสิจริงไหม?“ถ้าไม่มีแม้แต่คำสั่งในเรื่องนี้ คุณคิดว่าเราจะยังคงมีความเป็นกลางอยู่ได้ยังไง?”คำพูดของเซียนน่าไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้น แต่ก็สร้างผลกระทบได้อย่างยิ่งใหญ่เธอไม่เพียงแต่หยุดยั้งชาวอินเดียได้เท่านั้น แต่เธอยังทำให้เหล่าตัวแทนจะไม่กล้าล้ำเส้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความลำเอียงไปแล้วก็ตามก็อย่างที่เซียนน่าพูดนั่นแหละ การเด็กที่มีความสามารถเหล่านั้นโดนวางยาควรถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก...
ในขณะที่เซียนน่ากำลังจะตอบโต้ออกไป ฮาร์วีย์ก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาแขกวีไอพีพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า“เจ้าหญิงไรท์ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคุยกับตัวแทนออสบอร์นหรอก”"หืม?"เซียนน่าและผู้คนต่างตัวแข็งทื่อ และมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ'เขาดูไม่ออกเหรอว่าเจ้าหญิงไรท์กำลังพยายามหาเหตุผล เพื่อผลประโยชน์ของตัวเขาเอง?'ฮาร์วีย์ไม่สนใจสายตาที่จ้องมองของทุกคนและพูดว่า "บางคนก็ไม่สามารถยืนด้วยสองเท้าของตัวเองได้ หลังตกเป็นทาสรับใช้ของผู้อื่น“พวกเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเราถึงไม่ต้องการการอนุมัติจากคนอื่น“คุณคิดว่าพวกเขาเป็นพันธมิตรกันเหรอ?“ช่างตลกสิ้นดี!“แน่นอนว่าพวกเขาจะพูดแบบนั้นเมื่อเรายังมีความแข็งแกร่ง ทันทีที่เราเกิดอ่อนแอพวกเขาก็จะแทงเราข้างหลังทันที!“นี่เป็นการแสดงความขอบคุณเพียงอย่างเดียวที่เราจะได้รับ“ยกตัวอย่างเช่น ตัวแทนออสบอร์นดูถูกผมตลอดเวลา เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำแบบนั้นใช่ไหม?”ฮาร์วีย์ตบรีอาไปทางด้านข้างก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้อะไรจากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า “ถามเธอสิว่าเธอพอใจแล้วหรือยัง”“อ๊า!”รีอากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มล
“ตามกฎแล้วฮาร์วีย์คือผู้ชนะ!”สิบนาทีต่อมาสมาชิกสองสามคนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้และกรรมการบนเวทีก็เดินเข้าไปในสังเวียน“การต่อสู้ระหว่างหลงเหมินและอินเดียสิ้นสุดลงแล้ว!“หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดมาหลายวัน ชาวอินเดียก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ หลงเหมินเป็นฝ่ายชนะ!“ตามกฎแล้วสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ทุกแห่งจะได้รับแจ้งถึงชัยชนะของฮาร์วีย์และประเทศ H!”มีเสียงปรบมือดังขึ้น และฝูงชนก็อยู่ในความโกลาหลชาวประเทศ H ต่างตื่นเต้นอย่างมากนี่หมายความว่าคำพูดที่กล่าวว่าอินเดียที่มีศิลปะการต่อสู้ที่เหนือกว่านั้นเป็นเพียงเรื่องไร้สาระในเวลาเดียวกันนี่ก็หมายความว่าศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H มีความเหนือกว่าในระดับโลก"ไม่! เราจะไม่ยอมรับสิ่งนี้!” ชาวอินเดียต่างร้องไห้“นี่เป็นการฉ้อโกง! การฉ้อโกง!”“ฉันได้ชัยชนะอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม พวกแกไม่มีสิทธิ์จะพูดแบบนั้น”ฮาร์วีย์เหลือบมองชาวอินเดียอย่างใจเย็น“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกทั้งสามเป็นผู้รับผิดชอบการต่อสู้ในครั้งนี้ นอกจากนั้นกระบวนการทั้งหมดก็มีความเป็นกลางอย่างสมบูรณ์ด้วย”กรรมการบนเวทีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่เงียบ ๆ