สามนาทีต่อมา จู่ ๆ ประตูอาคารสำนักงานก็ถูกเตะให้เปิดออกไม่นานหลังจากนั้นชายแปดคนในชุดคลุมสีเหลืองก็เดินเข้ามาข้างในหลังจากเห็นคนเหล่านั้นแล้ว เปโดรก็รีบวิ่งไปหาพวกเขาด้วยใบหน้าที่บวมเป่งราวกับหัวหมู“ผมถูกทุบตีจนเละตุ้มเป๊ะแล้วครับรุ่นพี่…”ฮาร์วีย์แสดงท่าทางสงสัยสาวกรุ่นพี่ของเปโดรน่าจะมาจากโกลด์เด้น พาเลซเปรี้ยง!แสงออร่าอันทรงพลังเปล่งออกมาจากชายที่อยู่ข้างหน้า ก่อนที่เขาจะก้าวไปข้างหน้าและบดขยี้กระเบื้องที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา“มีใครกล้าเป็นปรปักษ์กับโกลด์เด้น พาเลซเหรอ?” เขาอุทานอย่างเย็นชา"แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกอยากจะตายหรือยังไง?”จากนั้นชายคนนั้นก็โบกมือแล้วชายในชุดคลุมหลายสิบคนก็กรูกันเข้ามาปิดกั้นทางออกของห้องโถงใหญ่เอาไว้หมดเปโดรหันกลับมาก่อนจะหัวเราะอย่างน่าสงสาร“แกตายแน่ ฮาร์วีย์…”แมนดี้ที่ราเชลให้การอารักขาอยู่ในขณะนี้ เดินไปหาฮาร์วีย์อย่างกังวลใจก่อนจะกระซิบบอกว่า “คุณยอร์กคะ ฉันได้ยินมาว่าโกลด์เด้น พาเลซมีนักศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังอยู่หลายคน…”แน่นอนว่าแมนดี้ไม่ใช่ผู้ที่ไม่ประสีประสาในโลกของศิลปะการต่อสู้ หลังจากอยู่ที่ฟลัตเวลล์มาได้ระยะหนึ่ง ตอน
"ไม่เลว! แกมีความกล้า!” รุ่นพี่ลีอุทานก่อนที่จะหัวเราะเบา ๆ“แกไม่เพียงแต่ทำร้ายศิษย์รุ่นน้องของฉันเท่านั้น แต่แกยังขอเงินจากเราอีกด้วย!“ทำไมไม่ถามว่าคนของโกลด์เด้น พาเลซได้รับการปฏิบัติยังไงก่อนล่ะ?!“ถ้ากล้าดีก็ลองทำร้ายสาวกต่อหน้าฉันสิ!”เพียะ!ฮาร์วีย์ไม่ยอมเสียเวลาและตบเข้าที่หน้าของเปโดรอีกครั้งรอยฝ่ามือสีแดงสดอีกรอยก็ปรากฏขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของใบหน้าเปโดร เขาล้มลงกับพื้นในขณะที่เอามือกุมหน้าพร้อมกับมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากฮาร์วีย์หัวเราะอย่างเย็นชา“คิดว่าโกลด์เด้น พาเลซน่าประทับนักเหรอ?“นายคิดว่านายสามารถทำทุกอย่างที่ต้องการในฟลัตเวลล์ได้เหรอ?“ฉันตบหน้าเขาให้นายเห็นแล้ว แล้วจะยังไงล่ะ?”ใบหน้าของเปโดรดูมืดมนลงทันทีในขณะที่เอามือกุมหน้าเอาไว้“คุณเห็นแล้วนี่ รุ่นพี่ลี! ดูไอ้สารเลวคนนี้สิว่ามันหยิ่งผยองขนาดไหน! เขาไม่ให้ความเคารพยำเกรงโกลด์เด้น พาเลซเลย!”"ดี! ดี! แกมีความกล้าที่ท้าทายฉันแบบนี้!”รุ่นพี่ลีโบกมือก่อนที่จะปล่อยอาวุธปืนให้เลื่อนออกมาจากแขนเสื้อเขาปิดโหมดความปลอดภัยทันที ก่อนจะชี้ปืนไปที่หัวของฮาร์วีย์อย่างดุดัน“ใครใช้ให้นายกล้าลงมือกับสาวกของโ
ฮาร์วีย์เป่าควันออกจากกระบอกปืนก่อนจะเหลือบมองเปโดร“ผู้เชี่ยวชาญที่นายเตรียมมายังไม่ค่อยได้เรื่องนะ"เอาล่ะ! ทำไมนายไม่ลองพิจารณาเงื่อนไขของฉันดูซะหน่อยล่ะ?“ในขณะที่ฉันยังอารมณ์ดีอยู่…"ดวงตาของเปโดรกระตุกก่อนที่เขาจะเหลือบมองผู้คนของโกลด์เด้น พาเลซโดยสัญชาตญาณชายตัวเตี้ยและรูปร่างกำยำล่ำสันค่อย ๆ เดินออกมาด้วยท่าทางเคร่งขรึมแม้เขาจะมีรูปร่างใหญ่อย่างนั้น แต่เขาก็มีความว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อโดยปกติแล้วเขาจะมีความแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสลีมาก“ฉันคือฮัดสัน วาร์ดจากโกลด์เด้น พาเลซ!”ฮัดสันจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชา“แกเก่งใช่ได้นี่ คงเป็นคนสำคัญสินะ ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะรู้จักชื่อฉันนะ”“ไม่รู้จัก” ฮาร์วีย์ตอบ"แก…"ฮัดสันเปลี่ยนสีหน้าทันที เขารู้สึกอับอายมากในขณะกัดฟันแน่น“ไม่ว่าจะยังไงก็ตามในเมื่อแกได้ลงมือกับคนของโกลด์เด้น พาเลซ แกก็จะ…”ปัง!ก่อนที่ฮัดสันจะทันพูดจบประโยค ฮาร์วีย์ก็เหนี่ยวไกปืนอีกครั้งท้ายที่สุดแล้วอาวุธปืนเป็นอาวุธที่รวดเร็วและมีอันตรายถึงชีวิตนอกจากส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแล้ว ฮัดสันยังกระตุกเกร็งอยู่บนพื้นในขณะจับขาเอาไว้“นายไม่เห็นเห
ฮาร์วีย์พูดขึ้นด้วยท่าทีสงบนิ่งจนทำให้ดวงตาของเหล่าสาวกกระตุกผู้คนที่มาอวดเบ่งพร้อมกับเปโดร เบเน็ตต์ต่างก็มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับโกลด์เด้น พาเลซเหมือนกันยิ่งพวกเขาโอ้อวดสถานะกับคนนอกมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งไม่เชื่อในเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมากขึ้นเท่านั้นท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนโค่นล้มผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดคนของโกลด์เด้น พาเลซได้ง่าย ๆ ราวกับว่าพวกเขาเป็นสิ่งโสโครกไร้ประโยชน์ถ้าเป็นวันอื่นใคร ๆ คงจะเรียกฮาร์วีย์ว่าไอ้บ้าอย่างแน่นอน...แต่มีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งถูกโยนลงพื้น สองคนต้องพิการด้วยอาวุธปืน และอีกห้าคนถูกตบลอยกระเด็นไปไกลในขณะนี้ฮาร์วีย์มีความเหนือกว่า!บรรยากาศดูตึงเครียดอย่างมากในตอนนี้บางคนตกใจ บางคนรู้สึกประทับใจ บางคนโกรธแค้น แต่ไม่มีใครกล้าจะพูดอะไรแม้แต่คำเดียวแม้แต่เปโดรซึ่งเป็นคนที่หยิ่งผยองที่สุดในตอนแรกก็อดที่จะรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้เขาแอบดึงโทรศัพท์ออกมาก่อนที่จะส่งข้อความออกไปดวงตาของเขากระตุกอย่างบ้าคลั่งเมื่อฮาร์วีย์เหลือบมองเขาอย่างใจเย็นเขาไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ แต่เขาไม่มีทางเลือกเมื่อเห็นภาพตรงหน้าเขาเปโดรกัดฟันกรอดเมื่อหัน
“แกไม่ควรพูดอะไรแบบนั้นนะ” รุ่นพี่ออสวอลด์พูดด้วยท่าทีที่ดูน่าสมเพชเขาแสดงท่าทีที่น่าดูสมเพชอย่างยิ่ง ราวกับว่าฮาร์วีย์จะต้องตายถ้าเขาลงมือขึ้นมาจริง ๆ"ฟังฉันนะ...เอาหุ้นให้ศิษย์น้องของฉันซะ ให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นี่ และหักแขนขาของแกให้หมด แล้วเมื่อนั้นฉันถึงจะพิจารณาว่าจะปล่อยให้แกมีชีวิตต่อไปหรือไม่”ฮาร์วีย์ปล่อยหัวเราะออกมา“พวกนายไม่กลัวผลที่ตามมาเหรอ? จะเป็นยังไงถ้านายกำลังต่อสู้กับคนที่นายสู้ด้วยไม่ไหว?“ฉันคงดูงี่เง่ามากถ้านายสามารถมาขู่ฉันได้”รุ่นพี่ออสวอลด์จ้องมองด้วยสายตาที่ดูเย็นชา“แกรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดคุยอยู่กับใคร?” เขาอุทาน“แกรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแกพูดกับฉันแบบนี้?”“ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นรุ่นพี่ออสวอลด์จ้องมองอย่างอาฆาตแค้น“ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจะฉีกแกเป็นชิ้น ๆ ถ้าแกอยากให้ฉันลงมือล่ะก็! ฉันจะเผาร่างของแกให้ไหม้เกรียมเลยเมื่อฉันจัดการกับแกเสร็จแล้ว ร่างของแกจะไม่มีโอกาสได้ฝังดินด้วยซ้ำไป!”ฮาร์วีย์ยืนกอดอก“มีหลายคนเลยที่บอกกับฉันคล้าย ๆ กันนี้ แต่คนพวกนั้นต่างก็ต้องจบชีวิตหรือไม่ก็พิการไปทั้งนั้น“น
ได้ยินเสียงรุ่นพี่ออสวอลด์ดึงดาบออกจากฝักเขาไม่เพียงแต่มีความคล่องตัวเป็นอย่างมากเท่านั้น แต่การเคลื่อนไหวของเขายังดุดันและเด็ดเดี่ยวด้วยเพียะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไรเลยเมื่อได้ยินเสียงตบดังขึ้นรุ่นพี่ออสวอลด์ก็รู้สึกเจ็บปวดใบหน้าอย่างรุนแรง เขาสลบไปทันทีเมื่อลอยกระเด็นไปไกลถึงสามร้อยฟุตเขาก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวหลังกระแทกลงกับพื้นพร้อมกับสีหน้าที่ดูแย่มากตอนที่เขาเห็นฮาร์วีย์ตบชาวอินเดียพวกนั้นในคลิปวิดีโอ เขาไม่รู้สึกประทับใจอะไรเลย...แต่หลังจากโดนตบด้วยตัวเองแล้ว เขาก็เริ่มคิดเป็นอย่างอื่นเป็นธรรมดาที่ในความคิดของรุ่นพี่ออสวอลด์นั้น ฮาร์วีย์มีความแข็งแกร่งมากกว่าเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น“แกเป็นใครกัน ไอ้สารเลว! แก…"รุ่นพี่ออสวอลด์กัดฟันกรอดก่อนที่จะกระโจนไปข้างหน้าอีกครั้ง โดยไม่สนใจรอยฝ่ามือที่อยู่บนใบหน้าของเขาเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะมีความด้อยกว่าเด็กอมมืออย่างฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ไม่ยอมเสียเวลา เขาเหวี่ยงฝ่ามือไปข้างหน้าอีกครั้งเพียะ!รุ่นพี่ออสวอลด์ลอยกระเด็นไปอีกครั้ง มีเลือดพุ่งออกมาจากปากเมื่อเขาพยามยามยันตัวขึ้นจากพื้นในขณะที
ไม่มีสาวกแม้แต่คนเดียวที่กล้าลุกขึ้นมายืนหยัดในตอนนี้ผู้คนที่ปิดกั้นทางออกเอาไว้ต่างหลีกทางให้โดยสัญชาตญาณ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ดูเหมือนว่ากำลังต่อต้านฮาร์วีย์อยู่พูดง่าย ๆ ก็คือถึงแม้ว่าโกลด์เด้น พาเลซจะแข็งแกร่งและโดดเด่นสักเพียงไหน...พวกเขาก็ยังคงเชื่อว่าพลังอำนาจอันดิบเถื่อนนั้นมีอำนาจเหนือทุกสิ่งและเนื่องจากฮาร์วีย์ตบทุกคนที่ต่อต้านเขาด้วยความแข็งแกร่งอย่างล้นเหลือ จึงเห็นได้ชัดว่าคนพวกนั้นต่างรู้สึกหวาดกลัวฮาร์วีย์แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนมาก แม้ว่าพวกเขาจะมีอาวุธครบมือ และแม้ว่าฮาร์วีย์จะต่อสู้เพียงลำพังกับคู่ต่อสู้ที่มีความแข็งแกร่ง...ก็ไม่มีใครบ้าพอที่จะไปต่อกรกับเขาได้ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ยังไม่อยากตาย“ไปคุกเข่าข้างนอกโน่น” ฮาร์วีย์สั่งในขณะมองดูฝูงชนอย่างไม่แยแส"คุกเข่าเหรอ?"เมื่อเหล่าสาวกได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเดือดดาลมากพวกเขาเป็นสาวกระดับสูงและทรงพลังของโกลด์เด้น พาเลซ แต่ฮาร์วีย์กลับดูถูกพวกเขาอย่างเปิดเผย โดยออกคำสั่งให้พวกเขาออกไปคุกเข่าอยู่ข้างนอก!ช่างตลกสิ้นดี!"รุมมันเลย!"“แกจะต้องชดใช้ที่มาดูถูกพวกเราแบบนี้!”“เขาต่อสู้กับพวกเราทุกคนไม่ได้หร
“ผมว่าคุณไม่มีอำนาจการตัดสินใจในเรื่องนั้นนะแอ็กเซล” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นแอ็กเซลอวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนที่จะมองไปที่ตัวแทนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้“ผมมีรายงานนะครับท่านตัวแทนทั้งหลาย!“ฮาร์วีย์ไปสร้างปัญหาที่บริษัทของภรรยาเขาจนทำให้มีผู้บาดเจ็บถึงแปดคน! ตอนนี้มีคนนั่งคุกเข่าอยู่ข้างนอกบริษัทแห่งนั้น!“ผมสงสัยว่าเขากำลังเอาเปรียบคนข้างนอกโดยใช้ชื่อเสียงของเขาในฐานะนักสู้ของประเทศ H!“ผมอยากขอให้ท่านทั้งหลายถอดฮาร์วีย์ออกจากการต่อสู้ครั้งนี้!”“เอาเขาออกไป! เอาเขาออกไป!” ชาวอินเดียพวกนั้นร้องตะโกนออกมาพร้อมกันแม้แต่ชาวอินเดียที่เฝ้าดูจากทางด้านข้างก็ยังส่งเสียงเชียร์ถ้าฮาร์วีย์ต้องถูกถอดออกจากการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขาก็จะเป็นผู้ชนะโดยไม่ต้องเหนื่อยอะไรเลย!แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถถอดฮาร์วีย์ออกได้ แต่พวกเขาก็มีข้ออ้างที่จะไม่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้“คุณก็รู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้มีความสำคัญมาก ฮาร์วีย์! ชื่อเสียงของหลงเหมินและประเทศ H ขึ้นอยู่กับการแข่งขันครั้งนี้ แต่คุณยังวิ่งออกไปสร้างปัญหาแทนที่จะพักผ่อน!“คุณใช้ชื่อเสียงของคุณในการเอาเปรียบผู้คนโดยรวม! ซึ่งเมื่อมาถึงจุดนี้คุณไ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข