รีแกนหรี่ตามองโดยไม่พูดอะไรสักคำเดียว ทันใดนั้นเธอก็เตะประตูหอฝึกยุทธให้เปิดออกมีสาวกสาวสวยสองคนยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ พวกเธอมองเห็นฮาร์วีย์ทันที“เขาอยู่นั่นไงคะ ศิษย์พี่กรีน! เขาคือฮาร์วีย์ ยอร์ก!“เขาคือคนที่วางยาศิษย์น้องของเราและเด็กที่มีความสามารถอีกสองคน!“เขาทำให้เราต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างย่อยยับ!“ถ้าเราพ่ายแพ้อย่างนี้ต่อไป หลงเหมินจะกลายเป็นผู้ทรยศของคนทั้งแผ่นดิน!“ไอ้สารเลวนี่เป็นคนก่อเรื่องทั้งหมดนี้!”เหล่าสาวกพวกนี้ยังคงดูถูกฮาร์วีย์ในขณะที่กัดฟันแน่น พวกเขาอยากจะฉีกร่างของฮาร์วีย์ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเสียเหลือเกินฝูงชนด้านนอกต่างดีอกดีใจเมื่อภาพภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น'ไอ้สารเลวนี่กล้าสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองได้ยังไง?! เขาสมควรถูกหลงเหมิน วอร์แบนด์จัดการ!'ผู้ตรวจสอบที่รับผิดชอบในการรักษาความเรียบร้อยต่างเฝ้าดูด้วยสายตาที่สดใส พวกเขาไม่ได้สนใจที่จะหยุดยั้งเรื่องวุ่นวายนี้เลยฮาร์วีย์กำลังจิบชาอยู่กลางห้องโถงใหญ่เขาวางโทรศัพท์ลงก่อนจะมองดูรีแกนอย่างสงสัยเขาคิดว่าเหล่าผู้อาวุโสและผู้สูงศักดิ์ของหลงเหมินมาตามหาเขา แต่ศิษย์ผู้พี่ของฟิล
ฮาร์วีย์มองดูเหล่าสาวกที่กำลังโกรธแค้นแทนรุ่นน้องอย่างสงสัย และไม่ได้ตอบอะไรออกไปตรง ๆนับเป็นเรื่องดีที่พวกเขาออกมาต่อสู้เพื่อฟิลิป อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ…แต่ยังไงก็ตามนี่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเธอโง่เขลาแค่ไหนที่ถูกหลอกใช้ได้อย่างง่ายดายสีหน้าของรีแกนดูแย่ลงเมื่อเห็นท่าทีเยาะเย้ยของฮาร์วีย์“ถ้าไม่อยากตายอยู่ที่นี่ก็อธิบายทุกอย่างออกมาให้ถูกต้อง!” เธอร้องบอกหลังจากก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง“ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่มีทางเอาชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้!"จะบอกอะไรให้นะ! มีเพียงหลงเหมิน วอร์แบนด์เท่านั้นแหละที่ดูมีเหตุมีผลอยู่ในตอนนี้!"สาขามืดและสาขาภายนอกทั้งห้าจะปลิดชีวิตคุณโดยไม่ต้องพูดอะไรแม้แต่คำเดียว!“เราให้โอกาสคุณได้อธิบายตัวเอง! คุณเข้าใจฉันไหม?“แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รับอนุญาตให้ทำท่าทางอวดเก่ง!“หยุดทำเป็นหูหนวกและเป็นใบ้ได้แล้ว! สารภาพออกมา!“คุกเข่าลงและอธิบายออกมาเดี๋ยวนี้!“ถ้ายังไม่ยอมทำก็อย่ามาโทษพวกเราในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปล่ะ!”รีแกนโกรธมาก โดยปกติแล้วใคร ๆ ต่างก็ให้ความเคารพยำเกรงในตัวตนของเธอกันทั้งนั้นเธอยังเชื่อ
เลย์นทำเมินเฉยต่อสาวกคนนั้น แล้วเดินไปหาฮาร์วีย์อย่างใจเย็น“เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ?!”สาวกคนนั้นเดือดดาลเป็นอย่างมากหลงเหมิน วอร์แบนด์จำเป็นต้องรักษาชื่อเสียงเอาไว้!แต่หลายคนที่นี่กลับไม่ให้ความเคารพยำเกรงพวกเขาเลย“ศิษย์พี่กรีน! ผู้หญิงคนนี้เป็นสาวกวงนอกของโกลด์เด้น พาเลซ เธอชื่อเลย์น ไนส์เวลล์ เป็นบอดี้การ์ดของไอ้สารเลวนั่น!”“เลย์น ไนส์เวลล์?”รีแกนหัวเราะเบา ๆ อย่างเย็นชา“สาวกวงนอกของโกลด์เด้น พาเลซในตำนานเหรอ?”"น่าประทับใจ! ฉันจะทำให้แกต้องพิการเพราะไปอยู่ฝ่ายเดียวกับฮาร์วีย์!"“คุณยอร์กคะ”เลย์นรินชาใส่ถ้วยให้ฮาร์วีย์ โดยยังทำเมินเฉยต่อรีแกนและคนอื่น ๆ อยู่“เราได้ตรวจสอบสถานการณ์นี้แล้ว เด็กที่มีความสามารถเหล่านี้มาที่นี่ด้วยความสมัครใจ“หัวหน้าฝ่ายหลงเหมิน วอร์แบนด์อาจไม่รู้เรื่องนี้ก็ได้“ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อรุ่นน้อง พวกเขาประมาทไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย“เราควรปล่อยพวกเขาไป”เลย์นพยายามโน้มน้าวฮาร์วีย์ เธอชื่นชมรีแกนและคนอื่น ๆ ที่มาที่นี่เพื่อช่วยฟิลิปแต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ถูกหลอกใช้เพราะความประมาทเลินเล่อของพวกเขานั่
รีแกนกัดฟันกรอดเธอไม่อยากจะเชื่อว่าฮาร์วีย์จะมีเหรียญตรากองบังคับคดีของหลงเหมิน“เธอคิดว่านี่เป็นของปลอมจริง ๆ เหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างสงบในขณะที่เขาสะบัดถ้วยชาไปยังเหรียญตราอันนั้นจากนั้นเหรียญตราอันนั้นก็เลื่อนไปทางรีแกนพร้อมกับสะท้อนแสงเจิดจ้า“ฉันขอแนะนำให้เธอดูอย่างใกล้ชิดนะสาวน้อย“อย่าเข้าใจฉันผิด”รีแกนมองเขาด้วยสายตาเคร่งขรึม แล้วเหลือบมองไปที่เหรียญตรานั้น หัวใจของเธอพองโตขึ้นทันทีที่เธอเห็นเครื่องหมายที่ซ่อนอยู่สองสามอัน ที่ยืนยันว่าเป็นเหรียญตราของแท้ เธอรีบคุกเข่าลงทันทีโดยกระแทกเข่าลงกับพื้นเธอไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป เหรียญตรานั้นเป็นของจริงอย่างไม่ต้องสงสัย!แม้แต่ผู้หญิงทรงอำนาจอย่างรีแกนก็อดที่จะตัวสั่นไม่ได้เธอไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วฮาร์วีย์เป็นใคร แต่เหรียญตรานั้นก็เพียงพอที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสถานะอันทรงอำนาจของเขา ฮาร์วีย์ไม่ใช่คนที่รีแกนจะไปต่อกรได้ถ้าเธอไม่คุกเข่าเธอก็จะไม่ใช่คนเดียวที่มีปัญหา แต่หลงเหมิน วอร์แบนด์ทั้งหมดก็จะถูกลากลงมาด้วย“ฉันขอโทษค่ะคุณยอร์ก นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้นเอง…“โปรดให้โอกาสพวกเราได้แก้ตัวด้วยเถอะค่
เดเมียนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ฉันเข้าใจคุณผิด คุณยอร์ก“เรารู้ว่าคุณปฏิบัติต่อรีแกนและคนอื่น ๆ ยังไง“ผมเป็นคนใจแคบ!“คนอย่างคุณจะสมคบคิดกับศัตรูเพื่อผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ได้ยังไง?“ในนามของสาขาด้านในและด้านนอกทั้งแปด ผมต้องขอโทษคุณด้วย ผมหวังว่าคุณจะทำการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ได้ดีนะครับ!”ฮาร์วีย์ยิ้ม“คุณใจดีเหลือเกิน“ผมมีหน้าที่รับผิดชอบต่อเด็กที่มีความสามารถพวกนั้นเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ดูแลพวกเขาอย่างที่รับปากเอาไว้“จึงเป็นธรรมดาที่พวกคุณทั้งหมดคนจะสงสัยผม และหยุดยั้งผมไว้ไม่ให้เข้าร่วมการต่อสู้“ท้ายที่สุดแล้วเราทุกคนต้องมองภาพที่ใหญ่กว่านี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น“แต่เนื่องจากตอนนี้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่แปลกประหลาด ผมจะเป็นคนเริ่มก่อนอีกครั้งหนึ่ง“ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะเชื่อใจผมในครั้งนี้“ท้ายที่สุดแล้วพวกเราทุกคนก็เป็นคนของประเทศ H เราไม่ควรต่อสู้กันเอง ศัตรูของเราจะหัวเราะเยาะได้ถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้!“ตราบใดที่ไม่มีใครลากผมลงไป ก็นับเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมที่จะบดขยี้ชาวอินเดียพวกนั้น”ฟิชเชอร์และเดเมียนพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดข
รีอาจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของพวกเขา“เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะชนะการต่อสู้หรือไม่“แต่ถ้าเราถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติหลังจากปล่อยให้ฮาร์วีย์ขึ้นไปบนสังเวียน เราก็จบกัน!“พวกคุณน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น!”ใบหน้าของฟิชเชอร์และเดเมียนดูมืดมนลงทันทีไบรซ์ซึ่งนิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลาก็พูดขึ้นในที่สุด"ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าเรากำลังจะพ่ายแพ้แต่เรายังมีความหวัง!“แต่ถึงกระนั้นฮาร์วีย์ก็ขอเข้าร่วมการต่อสู้ ทั้ง ๆ ที่เขาได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญอยู่ก็ตาม“พูดง่าย ๆ ก็คือผมแค่ไม่ไว้ใจเขา!“ผมอยากให้แชมเปี้ยนอีกสองคนที่เหลือแพ้…“...ดีกว่าปล่อยให้เขาทำการต่อสู้“ผมเชื่อว่าเขาจะไม่มีทางพลิกสถานการณ์ขึ้นมาได้ เขาจะทำให้พวกเราทุกคนต้องอับอายด้วย“ผมเลือกที่จะปล่อยให้หลงเหมินพ่ายแพ้มากกว่าจะยอมให้เขาปรากฏตัว”ฮาร์วีย์หรี่ตาลง เขาจ้องมองไปที่ไบรซ์และรีอาผู้ชอบธรรมหัวรั้นเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง...เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกพลิกสถานการณ์ของการต่อสู้...เพื่อหยุดยั้งฮาร์วีย์และหยุดใครก็ตามจากการได้ตำแหน่งนายน้อยของหลงเหมิน...ทั้งสองคนต่างทุ
“เว้นเสียแต่ว่าเขาจะอ่อนแออย่างมาก…“มีอีกหนึ่งเหตุผลที่เราไม่อยากปล่อยให้เขาทำการต่อสู้ เขาแค่ดูน่าสงสัยเกินไป!“เราไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงในการส่งเขาไปเป็นแนวหน้าได้“ถ้าเขาทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียว พวกเราทุกคนจะถูกลากลงไปพร้อมกับเขา!”“รวมไปถึงเจ้าหญิงไรท์ด้วย!” รีอาร้องบอกอย่างขมขื่นในขณะเดียวกันคำพูดของเธอมีความหมายที่แตกต่างออกไป เธอทำหน้าสิ้นหวังราวกับว่าไม่มีใครรับผิดชอบต่อสถานการณ์นี้ หากมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นเซียนน่ายิ้มและโบกมือ ทำไม้ทำมือให้ลูกน้องไปปิดประตูจากนั้นเธอก็มองไปที่รีอา“เนื่องจากพวกเราที่นี่ล้วนเป็นคนฉลาด ฉันจะทำให้ทุกอย่างชัดเจน“แต่ฉันก็ต้องแน่ใจอะไรบางอย่างก่อน…“คุณไม่ได้หยุดยั้งฮาร์วีย์ไม่ให้ทำการต่อสู้เพราะเรื่องครอบครัวของคุณใช่ไหม?”ไบรซ์และรีอาตัวแข็งทื่อทันทีพวกเขาไม่คิดว่าเซียนน่าจะพูดอะไรออกมาแบบนี้ทั้งสองคนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนตอบว่า “ไม่ใช่อย่างแน่นอน!”"ดี"เซียนน่ายิ้ม“ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็มาคุยกันด้วยเหตุผลดีกว่า“บางทีคุณอาจไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฮาร์วีย์มากนักก็ได้ แต่ฉันสามารถบอกคุณได้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขา“เขาเป็นเจ้าข
"ผู้คนพวกนั้น?"เซียนน่าจ้องมองไบรซ์อย่างเย็นชาหลังจากที่เขาหักล้างคำพูดของเธอแล้ว“ไม่นับฮาร์วีย์เหรอ?“เขามีความภักดีต่อประเทศชาติมาก ถึงแม้ว่าจะถูกปรักปรำโดยไม่มีเหตุผล แต่เขาก็ยังขอเข้าร่วมการต่อสู้!“ยังมีอะไรให้ต้องกังวลอีกเหรอ?“ถึงแม้ว่าเขาจะแพ้ เขาก็เสียแค่ตำแหน่งนายน้อยของหลงเหมินเท่านั้น คุณจะกลัวอะไรมากมายขนาดนั้น“แค่ปล่อยเขาออกไปก่อน แล้วตั้งความหวังกับตำแหน่งแชมเปี้ยนสองคนสุดท้าย!“นอกจากนี้ฉันก็ไม่คิดว่าจะต้องทำอย่างนั้นด้วย ฮาร์วีย์จะต้องชนะอย่างแน่นอน!”สีหน้าของรีอาดูมืดมน“เจ้าหญิงไรท์คะ ฉันจะเห็นด้วยกับคุณถ้าคุณพูดเรื่องนี้เมื่อห้าวันก่อน หรือถ้าผู้คนไม่ได้ก่อให้เกิดความโกลาหลเช่นนี้…“แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ฮาร์วีย์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชนะเท่านั้น!“ถ้าเขาแพ้หรือหันหลังให้เราล่ะ…“เราจะจบเห่กัน!”“ฉันมั่นใจในความสามารถของเขา!”เซียนน่าแสดงสีหน้าเด็ดเดี่ยวให้รีอาเห็น“เขาจะชนะอย่างแน่นอน!”"อย่างแน่นอนเหรอ?!"รีอาหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณได้ความมั่นใจนี้มาจากไหน?“ฉันวางแผนที่จะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ เพื่อเห็นแก่คุณและหลงเหมิน…“แต่เนื่อง
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข