เดเมียนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ฉันเข้าใจคุณผิด คุณยอร์ก“เรารู้ว่าคุณปฏิบัติต่อรีแกนและคนอื่น ๆ ยังไง“ผมเป็นคนใจแคบ!“คนอย่างคุณจะสมคบคิดกับศัตรูเพื่อผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ได้ยังไง?“ในนามของสาขาด้านในและด้านนอกทั้งแปด ผมต้องขอโทษคุณด้วย ผมหวังว่าคุณจะทำการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ได้ดีนะครับ!”ฮาร์วีย์ยิ้ม“คุณใจดีเหลือเกิน“ผมมีหน้าที่รับผิดชอบต่อเด็กที่มีความสามารถพวกนั้นเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ดูแลพวกเขาอย่างที่รับปากเอาไว้“จึงเป็นธรรมดาที่พวกคุณทั้งหมดคนจะสงสัยผม และหยุดยั้งผมไว้ไม่ให้เข้าร่วมการต่อสู้“ท้ายที่สุดแล้วเราทุกคนต้องมองภาพที่ใหญ่กว่านี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น“แต่เนื่องจากตอนนี้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่แปลกประหลาด ผมจะเป็นคนเริ่มก่อนอีกครั้งหนึ่ง“ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะเชื่อใจผมในครั้งนี้“ท้ายที่สุดแล้วพวกเราทุกคนก็เป็นคนของประเทศ H เราไม่ควรต่อสู้กันเอง ศัตรูของเราจะหัวเราะเยาะได้ถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้!“ตราบใดที่ไม่มีใครลากผมลงไป ก็นับเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมที่จะบดขยี้ชาวอินเดียพวกนั้น”ฟิชเชอร์และเดเมียนพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดข
รีอาจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของพวกเขา“เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะชนะการต่อสู้หรือไม่“แต่ถ้าเราถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติหลังจากปล่อยให้ฮาร์วีย์ขึ้นไปบนสังเวียน เราก็จบกัน!“พวกคุณน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น!”ใบหน้าของฟิชเชอร์และเดเมียนดูมืดมนลงทันทีไบรซ์ซึ่งนิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลาก็พูดขึ้นในที่สุด"ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าเรากำลังจะพ่ายแพ้แต่เรายังมีความหวัง!“แต่ถึงกระนั้นฮาร์วีย์ก็ขอเข้าร่วมการต่อสู้ ทั้ง ๆ ที่เขาได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญอยู่ก็ตาม“พูดง่าย ๆ ก็คือผมแค่ไม่ไว้ใจเขา!“ผมอยากให้แชมเปี้ยนอีกสองคนที่เหลือแพ้…“...ดีกว่าปล่อยให้เขาทำการต่อสู้“ผมเชื่อว่าเขาจะไม่มีทางพลิกสถานการณ์ขึ้นมาได้ เขาจะทำให้พวกเราทุกคนต้องอับอายด้วย“ผมเลือกที่จะปล่อยให้หลงเหมินพ่ายแพ้มากกว่าจะยอมให้เขาปรากฏตัว”ฮาร์วีย์หรี่ตาลง เขาจ้องมองไปที่ไบรซ์และรีอาผู้ชอบธรรมหัวรั้นเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง...เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกพลิกสถานการณ์ของการต่อสู้...เพื่อหยุดยั้งฮาร์วีย์และหยุดใครก็ตามจากการได้ตำแหน่งนายน้อยของหลงเหมิน...ทั้งสองคนต่างทุ
“เว้นเสียแต่ว่าเขาจะอ่อนแออย่างมาก…“มีอีกหนึ่งเหตุผลที่เราไม่อยากปล่อยให้เขาทำการต่อสู้ เขาแค่ดูน่าสงสัยเกินไป!“เราไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงในการส่งเขาไปเป็นแนวหน้าได้“ถ้าเขาทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียว พวกเราทุกคนจะถูกลากลงไปพร้อมกับเขา!”“รวมไปถึงเจ้าหญิงไรท์ด้วย!” รีอาร้องบอกอย่างขมขื่นในขณะเดียวกันคำพูดของเธอมีความหมายที่แตกต่างออกไป เธอทำหน้าสิ้นหวังราวกับว่าไม่มีใครรับผิดชอบต่อสถานการณ์นี้ หากมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นเซียนน่ายิ้มและโบกมือ ทำไม้ทำมือให้ลูกน้องไปปิดประตูจากนั้นเธอก็มองไปที่รีอา“เนื่องจากพวกเราที่นี่ล้วนเป็นคนฉลาด ฉันจะทำให้ทุกอย่างชัดเจน“แต่ฉันก็ต้องแน่ใจอะไรบางอย่างก่อน…“คุณไม่ได้หยุดยั้งฮาร์วีย์ไม่ให้ทำการต่อสู้เพราะเรื่องครอบครัวของคุณใช่ไหม?”ไบรซ์และรีอาตัวแข็งทื่อทันทีพวกเขาไม่คิดว่าเซียนน่าจะพูดอะไรออกมาแบบนี้ทั้งสองคนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนตอบว่า “ไม่ใช่อย่างแน่นอน!”"ดี"เซียนน่ายิ้ม“ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็มาคุยกันด้วยเหตุผลดีกว่า“บางทีคุณอาจไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฮาร์วีย์มากนักก็ได้ แต่ฉันสามารถบอกคุณได้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขา“เขาเป็นเจ้าข
"ผู้คนพวกนั้น?"เซียนน่าจ้องมองไบรซ์อย่างเย็นชาหลังจากที่เขาหักล้างคำพูดของเธอแล้ว“ไม่นับฮาร์วีย์เหรอ?“เขามีความภักดีต่อประเทศชาติมาก ถึงแม้ว่าจะถูกปรักปรำโดยไม่มีเหตุผล แต่เขาก็ยังขอเข้าร่วมการต่อสู้!“ยังมีอะไรให้ต้องกังวลอีกเหรอ?“ถึงแม้ว่าเขาจะแพ้ เขาก็เสียแค่ตำแหน่งนายน้อยของหลงเหมินเท่านั้น คุณจะกลัวอะไรมากมายขนาดนั้น“แค่ปล่อยเขาออกไปก่อน แล้วตั้งความหวังกับตำแหน่งแชมเปี้ยนสองคนสุดท้าย!“นอกจากนี้ฉันก็ไม่คิดว่าจะต้องทำอย่างนั้นด้วย ฮาร์วีย์จะต้องชนะอย่างแน่นอน!”สีหน้าของรีอาดูมืดมน“เจ้าหญิงไรท์คะ ฉันจะเห็นด้วยกับคุณถ้าคุณพูดเรื่องนี้เมื่อห้าวันก่อน หรือถ้าผู้คนไม่ได้ก่อให้เกิดความโกลาหลเช่นนี้…“แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ฮาร์วีย์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชนะเท่านั้น!“ถ้าเขาแพ้หรือหันหลังให้เราล่ะ…“เราจะจบเห่กัน!”“ฉันมั่นใจในความสามารถของเขา!”เซียนน่าแสดงสีหน้าเด็ดเดี่ยวให้รีอาเห็น“เขาจะชนะอย่างแน่นอน!”"อย่างแน่นอนเหรอ?!"รีอาหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณได้ความมั่นใจนี้มาจากไหน?“ฉันวางแผนที่จะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ เพื่อเห็นแก่คุณและหลงเหมิน…“แต่เนื่อง
เมื่อเห็นรีอาโกรธจัด ฮาร์วีย์ก็โบกมือห้ามเซียนน่าไม่ให้พูดอะไรเขามองดูรีอาอย่างสงบแต่ด้วยสีหน้าที่แสดงความดูถูกเหยียดหยามเมื่อเห็นฮาร์วีย์ทำสีหน้าแบบนั้น รีอาก็เกิดความเข้าใจผิดโดยคิดว่าฮาร์วีย์กำลังรู้สึกกลัว“ยอมรับออกมาเถอะว่าคุณเป็นตัวโสโครกไร้ประโยชน์!” เธอร้องบอกออกมาในขณะที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างอาจหาญ“การตระหนักรู้ในตนเองบ้างก็เป็นเรื่องดีนะ“การต่อสู้บนสังเวียนแตกต่างจากแค่การอวดตัวมาก รู้ไหม!“คุณอาจพึ่งพาบอดี้การ์ดที่มีความแข็งแกร่งของคุณ เพื่อรุกรานใครก็ได้ที่คุณต้องการ…“แต่คุณควรรู้จักที่ทางของตัวเองถ้าคุณไม่มีพละกำลังที่จะต่อสู้!”ฮาร์วีย์ยังคงจ้องมองรีอาอย่างสงบต่อไป“ไม่ต้องพูดถึงกฎของการประชุมสุดยอดหลงเหมินหรอก เพราะผมเป็นแชมเปี้ยนประจำจังหวัด ผมจึงมีสิทธิ์ที่จะต่อสู้บนสังเวียนอยู่แล้ว“ชัยชนะและความพ่ายแพ้นับเป็นเรื่องธรรมดามากมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว“ผมขอถามคุณแค่เรื่องเดียว อะไรทำให้คุณแน่ใจเหลือเกินว่าผมจะแพ้ชาวอินเดียพวกนั้น?“หรือคุณเป็นประเภทดีแต่เห่าเท่านั้นเอง?”รีอาเลิกคิ้วขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น“นายกำลังด่าฉันอยู่เหรอ ไอ้สารเลว?!“นาย
เพียะ!“แม้แต่รองหัวหน้ายังไม่กล้าเรียกผมว่าคนอ่อนแอเลย แล้วคนนอกอย่างคุณคิดว่าเขาตายไปแล้วหรือไง?”เพียะ!“คุณไม่สามารถวัดความแข็งแกร่งของผมได้อย่างถูกต้อง แต่คุณยังคงเรียกตัวเองว่าเป็นตัวแทนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือเหรอ? คุณกำลังทำให้ทั้งองค์กรของคุณต้องได้รับความอับอาย!”เพียะ!“คุณไม่สามารถรับมือกับการโจมตีของผมได้แม้แต่ครั้งเดียว! คุณจะคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้แล้วใช่ไหม?!”สีหน้าของฮาร์วีย์ดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งเขาดูถูกเหยียดหยามรีอาอย่างไร้ความปรานีในขณะที่ตบเธอไปเรื่อย ๆใบหน้าของรีอาบวมเป่ง หัวของเธอหมุนติ้ว ๆ ไปทั่วห้อง เธอไม่สามารถพูดอะไรได้แม้แต่คำเดียวเพียะ!หลังจากโดนตบครั้งสุดท้ายดวงตาของรีอาก็เกิดรอยฟกช้ำเต็มไปหมด“จำเอาไว้นะ พยายามใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้นในครั้งต่อไป จงมีความตระหนักรู้ในตนเอง เว้นแต่ว่าคุณอยากจะให้คนอื่นสอนบทเรียนให้”ฮาร์วีย์ดึงกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดนิ้วของเขา จากนั้นเขาก็ยิ้มให้ไบรซ์“ขอโทษรองหัวหน้าเคนเนดี้ด้วยนะครับ คุณคงไม่ว่าอะไรถ้าผมจะสอนบทเรียนให้เธอตอนนี้ในนามของหลงเหมินใช่ไหมครับ?”“คุณทำล้ำเส้นไปแล้วนะฮาร์ว
สี่วันผ่านไปนับตั้งแต่เริ่มการแข่งขันเวทีไม่เปลี่ยน กฎเกณฑ์ไม่เปลี่ยน และกรรมการบนเวทีก็ยังเป็นคนคนเดิมความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือขวัญและกำลังใจระหว่างสองฝากฝั่งของสังเวียนก่อนหน้านี้มีเพียงไม่กี่คนที่นั่งอยู่ในพื้นที่พักผ่อนทางทิศตะวันตก แต่ตอนนี้มีเพิ่มขึ้นมาหลายพันคนผู้คนเหล่านั้นเดินทางมาจากอินเดีย เพื่อมาเชียร์ผู้มีความสามารถชั้นยอดของพวกเขาหลังจากชนะรวดหลายแมตช์ติดต่อกัน ชาวอินเดียนพวกนั้นก็มีความมั่นใจอย่างมากที่จะบดขยี้ผู้คนในประเทศ H ให้ล้มลงนอกเหนือจากผู้อาวุโสของหลงเหมินและบุคคลสำคัญของฟลัตเวลล์แล้ว ก็ยังมีนักข่าวและกลุ่มผู้โกรธแค้นอยู่ทางฝั่งประเทศ H อีกมากไบรซ์, รีอา, ฟิชเชอร์, เดเมียน, เซียนน่า, โคลตัน, เนลสัน, แอนเซล และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่นี่ดวงตาของฮาร์วีย์หรี่ลงเมื่อเขาเห็นชายหนุ่มสามคนที่ดูไม่ธรรมดาเจ้าชายแห่งตระกูลออสบอร์น ไคลด์ ออสบอร์นแฮโรลด์ บาวเออร์ นายน้อยคนที่เจ็ดของตระกูลบาวเออร์และเอลเลียต จอห์น นายน้อยแห่งตระกูลจอห์น ทั้งสามคนนี้ถือเป็นบุคคลที่มีสถานะสูงสุดทั่วทั้งฟลัตเวลล์ และอาจรวมถึงภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมดด้วยซ้ำไปทั
สำหรับฮาร์วีย์แล้ว ความแตกแยกระหว่างเขากับตระกูลออสบอร์นนั้นแก้ไขเยียวยาอะไรไม่ได้แล้วในเมื่อไคลด์ยังกล้าที่จะต่อกรกับเขา เขาจึงไม่รังเกียจที่จะปล่อยให้ไคลด์สร้างความอับอายให้ตัวเองไคลด์ตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นท่าทีที่ดูสงบนิ่งของฮาร์วีย์ จากนั้นเขาก็ระเบิดความโกรธออกมา หลังจากจ้องมองฮาร์วีย์อย่างอาฆาตแค้นเป็นเวลานาน แล้วเขาก็หันหลังกลับและเดินจากไปเขาคงไม่กล้าแตะเนื้อต้องตัวฮาร์วีย์แม้สักนิดเดียวในสถานที่แบบนี้ไม่ว่าเขาหรือตระกูลของเขาจะโดดเด่นขนาดไหน แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกล้ำกลืนความเกลียดชังของเขาเอาไว้!การกระทำที่เรียบง่ายของฮาร์วีย์ทำให้ฝูงชนทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบงันพวกเขาทั้งหมดต่างตกใจมากแต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครก่อปัญหาให้ฮาร์วีย์ในตอนนี้แฮโรลด์, เอลเลียต และคนอื่น ๆ ต่างมองฮาร์วีย์ด้วยความซาบซึ้งฮาร์วีย์จิบชาที่ราเชลนำมาให้อย่างไม่ได้ใส่ใจ และมองดูชาวอินเดียพวกนั้นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาเห็นโซอี้มองกลับมาที่เขาขณะที่ทั้งสองคนสบตากัน โซอี้ก็ก้มศีรษะลงต่ำด้วยสีหน้าที่ดูเฉื่อยชาอย่างผิดปกติแอนเซล, แดนนี่ และไรแลนด์จ้องมองด้วยสายตาที่ดูน่าสมเ