หลงเหมินก็แสดงความขอบคุณเช่นกันไบรซ์ เคนเนดี้ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ได้ส่งยาอายุวัฒนะไปมากมายพร้อมกับของขวัญราคาแพงอื่น ๆในด้านหนึ่งนั้นนี่เป็นรางวัลสำหรับการต่อสู้ในวันนี้ ในทางกลับกันเขาอยากให้ฮาร์วีย์และเด็กที่ความสามารถคนอื่น ๆ ทำการบดขยี้ชาวอินเดียต่อไปตามปกติท้ายที่สุดแล้วชาวอินเดียพวกนั้นได้เหยียบย่ำพวกเขามาตั้งแต่แรกแล้วไม่เพียงแต่เหล่าผู้อาวุโสและผู้สูงศักดิ์จากหลงเหมินจะรู้สึกโล่งใจอย่างมากหลังการต่อสู้เท่านั้น แต่ชื่อเสียงของหลงเหมินยังได้รับการกอบกู้เป็นอย่างมากอีกด้วยพวกเขายังใช้นักเขียนผีอีกหลายคน เพื่อเขียนประชาสัมพันธ์ในเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้หลังจากทานอาหารมื้ออร่อยเสร็จแล้ว ฮาร์วีย์ก็พาแอมเบอร์และคนอื่น ๆ ไปที่สวนหลังบ้านขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้บนสังเวียนนั้นจอร์จ ซาเบล, เคย์เดน บัลเมอร์ และคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้เกียจคร้านอะไรเลยพวกเขาใช้แหล่งข้อมูลทั้งหมดและเงินจำนวนมาก เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแดนนี่ เบอร์ตันและคนอื่น ๆฮาร์วีย์นำเอกสารของผู้มีความสามารถชั้นยอดของอินเดียมาให้แอมเบอร์และคนอื่น ๆ อ่านท้ายที่สุดแล้วทั้งสามค
“ฉันไม่รังเกียจที่จะยอมเสียสละเพื่อประเทศของตัวเอง ถ้าคุณคือเป้าหมายของฉัน”โซอี้ การ์เซียอวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนทำไม้ทำมือเชื้อเชิญฮาร์วีย์เข้าไปในห้องที่เตรียมเอาไว้ล่วงหน้าฮาร์วีย์นั่งลงและหยิบถ้วยชาขึ้นมาก่อนจะยิ้มตอบ“ผมเป็นคนดีนะคุณการ์เซีย นั่นเป็นการไม่ให้ความเคารพนิดหน่อยนะ...คุณว่าไหม?“แผนนารีพิฆาตใช้ไม่ได้ผลหรอก”“มันจะได้ผลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณค่ะ” โซอี้ตอบ“ทัศนคติของผมเหรอ?”ฮาร์วีย์แสดงสีหน้าล้อเล่น“แล้วการที่ผมมาทานอาหารที่นี่มันไม่ง่ายหรอกเหรอ?“เห็นได้ชัดว่านี่เป็นกับดักสำหรับผม…“แล้วคุณต้องการอะไรจากผมกันแน่?“ไม่ต้องปิดบังอะไรไว้หรอกครับ ทำไมคุณไม่บอกผมให้หมดล่ะ?”โซอี้ถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับทำสีหน้าสิ้นหวัง“คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าทำไมฉันถึงพาคุณมาที่นี่?“คุณวางแผนใส่ร้ายฉันตั้งแต่วันแรก โดยทำให้ฉันแตกแยกกับชาวอินเดียคนอื่น ๆ พวกเขาพากันสงสัยและแยกฉันออกจากกลุ่มตั้งแต่นั้นมา!“และตอนนี้...หลังจากพ่ายแพ้ไปสิบห้าครั้งติดต่อกัน พวกเขาทั้งหมดต่างก็ทุ่มความโกรธแค้นมาที่ฉัน!“พวกเขาต่างบอกว่าฉันเป็นคนทำให้ประเทศอินเดียต้องพินาศ เพราะถูกค
“ฉันกำลังจะบอกคุณอยู่นี่แหละค่ะ”โซอี้อวดรอยยิ้มอันอบอุ่นก่อนนำกล่องทองคำออกมาจากใต้โต๊ะแล้วผลักไปให้ฮาร์วีย์เสื้อแจ็คเก็ตของเธอเลื่อนหลุดเผยให้เห็นไหล่ที่ดูอ่อนนุ่มในขณะที่ผลักกล่องทองคำนั้นจากนั้นเธอก็โน้มตัวไปข้างหน้าราวกับว่าไม่รู้ตัวว่ามีอะไรเกิดขึ้น“คุณยอร์กคะ ราชวงศ์ของอินเดียอยากให้คุณเข้ามาเป็นคนของเรา!” โซอี้พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล“ราชวงศ์จะสถาปนาวรรณะพราหรมณ์อันสูงส่งให้ถ้าคุณไม่ขัดข้อง!“คนรุ่นต่อ ๆ ไปในครอบครัวของคุณจะได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน!”ฮาร์วีย์หรี่ตามองหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น'คนพวกนี้ค่อนข้างจะ...'ชาวอินเดียรู้ว่าฮาร์วีย์ไม่ได้ขาดแคลนเงิน นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาใช้ยศฐาบรรดาศักดิ์มาเป็นเครื่องต่อรองโซอี้, แอ็กเซล, โคดี้ และแฟรงกี้ การ์เซีย ได้เพียงวรรณะกษัตริย์เท่านั้น...แต่พวกเขาก็เสนอตำแหน่งที่สูงกว่าคนพวกนั้นให้กับฮาร์วีย์พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าฮาร์วีย์เห็นด้วยในข้อตกลงนี้ เขาก็อาจทำให้ใคร ๆ ในอินเดียต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาได้!สถานะของเขาน่าจะทัดเทียมกับเจ้าชายแห่งอินเดียด้วยซ้ำไป ลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไปของตระกูลเขาจะสามารถแต่งงานกับราชวงศ์ได้!
“ความแข็งแกร่งและความสามารถของคุณช่างคู่ควรกับสิ่งตอบแทนเหล่านั้นอย่างแน่นอน!”โซอี้อวดรอยยิ้มอันแสนหวาน“แน่นอนค่ะ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณเต็มใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา ฉันจะจำเป็นต้องขอข้อพิสูจน์เล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณ“ท้ายที่สุดแล้วผู้คนจำนวน 1.3 พันล้านคนในอินเดียต่างก็อยากมีวรรณะพราหมณ์ด้วยกันทั้งนั้น“ในเมื่อคนอินเดียเต็มใจเสียสละเพื่อคุณมากมาย อย่างน้อยคุณก็ควรทำให้พวกเขาเข้าใจได้ว่าคุณมีค่ามากขนาดนี้ใช่ไหม?“ถ้าไม่...แล้วคุณจะทำให้ผู้คนพอใจได้ยังไง?”"ข้อพิสูจน์เหรอ?"ฮาร์วีย์อวดรอยยิ้มจาง ๆ“อย่าบอกนะว่าเป็นการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้”โซอี้ยิ้ม“ท่านหัวหน้าการ์เซียบอกว่าถ้าแอมเบอร์และคนอื่น ๆ แพ้การต่อสู้ในวันพรุ่งนี้...“เราจะให้เงินและตราสัญลักษณ์แก่คุณทันที!“รางวัลอื่น ๆ ก็จะถูกจัดเตรียมให้คุณทันทีหลังจากนั้น!“ในขณะเดียวกันทางเราก็จะเตรียมเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวให้คุณเดินทางไปยังประเทศอันเกรียงไกรของเรา!“ถ้าคุณอยากจะพาเพื่อน ๆ และครอบครัวไปด้วย เราก็จัดเตรียมให้เหมือนกัน!“เราจะรับรองว่าคุณจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต!“ถ้าคุณไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เ
โซอี้ตัวแข็งทื่อคำพูดของฮาร์วีย์ทำให้เธอตกใจ เธอคิดอยู่ภายในใจว่าฮาร์วีย์จะต้องปฏิเสธข้อเสนอนี้อย่างแน่นอนเธอรีบฝืนยิ้มก่อนจะตอบอย่างเบา ๆ ว่า “ได้สิคะ!”“แต่ฉันยังไม่พร้อม ทำไมเราไม่ลองหาเวลาเหมาะ ๆ หลังจากวันพรุ่งนี้ดูล่ะคะคุณยอร์ก?”ฮาร์วีย์ดูหงุดหงิดเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของโซอี้“คุณจะกลับคำพูดแล้วเหรอ?” ฮาร์วีย์ถามอย่างเย็นชาหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ“คุณกำลังหลอกให้ผมทำงานโดยไม่ได้รับอะไรเป็นการตอบแทนเลยใช่ไหม?“แน่นอนว่าผมต้องการสิ่งดี ๆ ก่อนจะลงมือทำงาน!“ถ้าคุณไม่อยากให้ผมในตอนนี้ งั้นเราก็ใช้วิธีอื่นแทน!“นี่คือเลขบัญชีของผม โอนเงินให้ผมก่อน!”“คุณก็ไม่ต้องกลัวว่าผมจะหนีไปไหนหรอก!“ท้ายที่สุดแล้วผมก็มีความสนใจในตัวคุณมากขึ้นนะ!“ผมก็อยากสัมผัสเรือนร่างของคุณเหมือนกัน!”ฮาร์วีย์ดึงบัตรธนาคารของเขาออกมา ก่อนจะหยิบใส่มือของโซอี้โซอี้ยิ้มค้างทั้นที การกระทำของฮาร์วีย์ทำให้เธอไม่ทันระวังตัวเธอคิดอยู่ในใจว่าฮาร์วีย์จะต้องปฏิเสธข้อเสนอนั้นทั้งหมด และอาจถึงขั้นโกรธเคืองเธออย่างมากด้วยแต่เรื่องกลับกลายเป็นว่าชายที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นคนโลภมากและหื่นกาม“คง...จะเร
"เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคุณการ์เซีย“กลับไปบอกแอ็กเซลให้ผมหน่อย“แผนการนี้ใช้ไม่ได้ผลหรอก ถ้าเขาต้องการทำสัญญาที่ว่างเปล่า อย่างน้อย ๆ ก็ควรแสดงความจริงใจออกมาก่อน“คนสมัยนี้ไม่ได้โง่หรอก“ผมไม่ได้สนใจข้อเสนอของคุณตั้งแต่แรก แต่สนใจในตัวคุณ”ฮาร์วีย์จับมือโซอี้อย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะรับบัตรธนาคารคืนด้วยรอยยิ้มอันมีความหมาย“คุณการ์เซีย คำสัญญาบางอย่างที่ให้ไว้กับผมนั้นดีเกินกว่าจะเป็นจริงได้ สิ่งนั้นเป็นอะไรที่อยู่ไกลเกินเอื้อม...“แต่ไม่ใช่หอฝึกยุทธ“เราจะยังคงอ้าแขนต้อนรับคุณเสมอเมื่อคุณพร้อม!“ผมจะไม่กลับคำพูด...”จากนั้นฮาร์วีย์ก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเดินจากไปปากของโซอี้กระตุกด้วยความรู้สึกโกรธเกรี้ยว หลังจากนั้นไม่นานเธอก็สอดมือกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเงียบ ๆมีนามบัตรเลื่อนหลุดออกมาโดยไม่มีเสียงทันทีที่ฮาร์วีย์ดึงบัตรธนาคารของเขากลับคืน เขาก็แอบเอานามบัตรอีกใบใส่เข้าไปในมือของโซอี้โซอี้เหลือบมองนามบัตรสีดำด้วยท่าทีลังเล***หลังจากทำเป็นทองไม่รู้ร้อนกับความยากลำบากในการตัดสินใจของโซอี้แล้ว ฮาร์วีย์ก็ออกจากโรงแรมอาซัน เขาโทรหาฟิชเชอร์ เบเน็ตต์เพื่อรายงานการประช
ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขาสามารถบอกได้เลยว่านี่คือการกระทำของชาวอินเดียพวกนั้นโดยไม่ต้องทำการสอบสวนอะไรเลยพูดได้เลยว่าพวกเขากำลังวางอุบายโดยใช้เล่ห์กลสองอย่างพร้อมกันแต่ถึงกระนั้นฮาร์วีย์ก็รู้ว่าแอ็กเซลจะไม่กล้าฆ่าแอมเบอร์และคนอื่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนในประเทศ H สาปแช่งเขา เพราะท้ายที่สุดแผนการนี้ก็ดูโจ่งแจ้งเกินไปนั่นคือเหตุผลว่าทำไมฮาร์วีย์ถึงไม่ได้ทุกข์ร้อนมากนัก“วันนี้มีใครที่ดูน่าสงสัยมาที่หอฝึกยุทธหรือเปล่า?” ฮาร์วีย์ถามหลังจากครุ่นคิดถึงสถานการณ์แล้ว“ไม่มีค่ะ มีแต่พวกก่อปัญหาจากโกลด์เด้น พาเลซ“แต่พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อก่อปัญหาอะไร พวกเขามาขอโทษแอมเบอร์และคนอื่น ๆ ค่ะ“ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นถึงกับคลานต่อหน้าเด็กทั้งสามคนนั้น…“โกลด์เด้น พาเลซเหรอ?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขารู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติท้ายที่สุดแล้วพวกเขาเลือกเวลามาเยี่ยมได้แปลกประหลาดมากฮาร์วีย์รีบเรียกรถแท็กซี่ก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปที่หอฝึกยุทธฮาร์วีย์ไปถึงหลังจากเวลาผ่านไปสามสิบนาที บรรยากาศที่นี่ดูตึงเครียดมาก แม้แต่สาวกของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของหลงเหมินที่รับผิดชอบดูแลสถานที่ ก็มีสีหน้าจริงจัง
“แต่ยังไงก็ตามนี่คือยาที่เรากำลังพูดถึงอยู่จริง ๆ มีอยู่เพียงวิธีเดียวที่ทำให้แอมเบอร์และคนอื่น ๆ กลายเป็นอย่างนี้ก็คือพวกเขากินอะไรบางอย่างเข้าไป“แต่สาวกกองบังคับคดีของหลงเหมินทำหน้าที่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากินและดื่มที่นี่ ไม่มีทางที่จู่ ๆ พวกเขาจะหันมาเล่นงานเรา“พวกเขากินหรือดื่มอะไรที่คนนอกนำเข้ามาหรือเปล่า?”“คนนอกนำเข้ามา…?”เลย์นมีสีหน้าเปลี่ยนไป"ชา…""อะไรนะ?"ฮาร์วีย์หันมองดูโดยสัญชาตญาณสีหน้าของเลย์นดูแย่ลงทันที“เป็นเรื่องของผู้คนที่มาทำการขอโทษนั่นแหละ ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นรินชาสามถ้วยให้กับเด็กที่มีความสามารถในขณะนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น“เธอบอกว่าการดื่มชาหมายถึงพวกเขาให้อภัยเธอ ถ้าเด็กพวกนั้นไม่ได้ดื่มชาเธอก็คงจะนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตลอดไป...“แต่ใบชาและน้ำเป็นของเรา ทำไม…?"สีหน้าของฮาร์วีย์ดูมืดมนก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่“เป็นเรื่องง่ายมากที่พวกเขาจะวางยาให้กับเด็กทั้งสามคนนั้น“ยกตัวอย่างเช่นพวกเขาสามารถจุ่มมือแช่ในยาชุบชีวิตเป็นเวลาหลายชั่วโมง แล้วจุ่มนิ้วลงในถ้วยชาโดยไม่มีใครสังเกตเห็น”เลย์นเริ่มโอนเอนไปมารอบ ๆ สถานที่แห่งนั้น“นี่เป็นความผิดของฉัน
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข