“หลงเหมินกำลังจะพ่ายแพ้แล้ว!”“ฮาร์วีย์ ยอร์กเคยคุยโวมาก่อน! ทำไมเขาไม่ลงแข่งขันด้วยตัวเองในครั้งแรกนี่เลยล่ะ?!”“การแข่งขันรอบแรกจะเป็นการตัดสินขวัญและกำลังใจของทีมที่เหลือ! เขาคงไม่มั่นใจในตัวเองขนาดนั้นล่ะมั้ง!”มีการซุบซิบกันในเรื่องนี้ทั่วทั้งสนามการแข่งขัน เมื่อฟิลิป สตีลและคามิโล ไมเยอร์สเดินไปที่กลางสังเวียนผู้คนต่างถกเถียงกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งแรกนี้...ฝูงชนต่างเงียบกริบเมื่อกรรมการประกาศเริ่มการต่อสู้คามิโลอวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนสวมนวมผ้าไหมจากนั้นเขาก็ชี้นิ้วไปที่ฟิลิปอย่างใจเย็นการเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างเหลือเกินของคามิโลไบรซ์ เคนเนดี้และคนอื่น ๆ ต่างขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพนั้นพวกเขาสามารถบอกได้เลยว่าคามิโลเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม“ผมขอแนะนำทุกคนให้รู้จักกับ…”แอ็กเซลยืนขึ้นและยิ้มให้ผู้คนรอบตัวเขา“คามิโลมาจากอารามสวรรค์ในอินเดีย เขาเริ่มฝึกฝนมาตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ! พออายุสิบเจ็ดเขาก็กลายเป็นราชาแห่งอาวุธแล้ว!“ในอีกห้าปีต่อมาเขาได้ทำการฝึกฝนด้วยตัวเองเพื่อสะสมความแข็งแกร่งเอาไว้อย่างมั่นคง“แล้วห้าปี
ผู้คนจำนวนมากจากประเทศ H ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นภาพนั้นพวกเขารู้ว่าฟิลิป สตีลเป็นหนึ่งในสามของเด็กที่มีความสามารถสามคนจากสาขาด้านในและด้านนอกทั้งแปดของหลงเหมินเขาเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่เข้าแข่งขันในการต่อสู้ครั้งนี้...แต่ถึงกระนั้นเขาก็เสียเปรียบทันทีหลังจากการเปิดกระบวนท่าแรกออกไป! หลงเหมินเองก็ตั้งความหวังในตัวเขาสูงมากด้วย!ผู้คนพวกนั้นต่างก็ไม่สามารถยอมรับความจริงนั้นได้แม้แต่ฟิชเชอร์ เบเนตต์และเดเมียน สตีลก็อดที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อยไม่ได้ขณะนั่งอยู่ในพื้นที่พักผ่อนฝั่งตะวันออก ราเชล ฮาร์ดี้ก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพนั้น“ดูเหมือนคามิโล ไมเยอร์สจะทำได้น่าประทับใจทีเดียวนะคะ คุณยอร์ก“มวยแพรไหมก็ดูน่ากลัวนิดหน่อยเหมือนกันนะ“คุณไม่กลัวว่าฟิลิปจะแพ้เหรอคะ?”“ก็ดูค่อนข้างน่าประทับใจดีนะที่คนหนุ่มสาวสามารถคิดค้นศิลปะการต่อสู้ของตัวเองขึ้นมาได้!“คามิโลเป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุดของอินเดียอย่างแน่นอน…“แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ“ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ไม่ว่าฟิลิปและคนอื่น ๆ จะชนะหรือแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก“นอกจากนี้ฉันก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงด้วย พวกเขาคือค
คามิโล ไมเยอร์สเคลื่อนไหวเร็วขึ้นหลังจากได้รับเสียงเชียร์ เขาเหวี่ยงหมัดอออกไปได้ตรงเป้าแบบไม่หยุดผู้คนจากประเทศ H ตากระตุกอย่างบ้าคลั่งหลังจากเห็นภาพนั้น พวกเขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเมื่อเห็นฟิลิปถูกบังคับให้ถอยออกไปอย่างช้า ๆไบรซ์ เคนเนดี้อดที่จะยืนดูสิ่งที่เกิดขึ้นในสังเวียนไม่ได้ เขากลัวว่านี่จะกลายเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรก...ราเชลมองไปที่ฮาร์วีย์แล้วพูดว่า "คุณยอร์กคะ การต่อสู้กำลังจะจบลงแล้ว…“จะเป็นยังไงต่อไปคะ?”ฮาร์วีย์หรี่ตามองฟิลิปก่อนที่เขาจะยิ้มจาง ๆ“จิตวิญญาณของการต่อสู้อยู่ในการเคลื่อนไหวครั้งแรก…“การชกมวยแพรไหมมีอะไรที่ค่อนข้างพิเศษ การชกแต่ละหมัดจะเร็วและแรงขึ้นกว่าครั้งก่อน“ไม่มีทางที่จะตอบโต้ได้เลยเมื่อมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมวิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการกับมัน คือการรอจนกว่าโอกาสจะมาถึง“ถ้าฟิลิปมองเห็นสิ่งนี้ คามิโลจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”บนสังเวียนการต่อสู้นั้น คามิโลเหวี่ยงหมัดติดต่อกันเป็นครั้งสุดท้ายในขณะที่เขากำลังจะเปลี่ยนกระบวนท่าพร้อมกับอวดรอยยิ้มอันน่าสมเพชบนใบหน้าอยู่นั้น...ฟิลิปพุ่งไปข้างหน้าทันทีก่อนที่จะเหวี่ยงฝ่า
ราเชลรู้สึกเอื่อยเฉื่อยเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนสังเวียน“ถ้าฉันไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นอยู่กับคุณแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น…“ฉันก็คงคิดว่าคุณเป็นคนสอนเขาเรื่องนั้นแล้ว” ราเชลพูดพร้อมสีหน้าที่แสดงความชื่นชม“เธอพูดเหมือนฉันรู้แต่วิธีตบคนอื่นเท่านั้น”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“ฟิลิปมั่นใจในความแข็งแกร่งของเขามาก“เขายังรู้ด้วยว่านี่คือการต่อสู้ที่มีความสำคัญกับเรา“เขาไม่เพียงแต่ต้องชนะเท่านั้น แต่เขายังต้องชนะอย่างง่ายดายด้วย“เขาทำได้ค่อนข้างดีเลยนะ“เว้นแต่ชาวอินเดียจะส่งแดนนี่ เบอร์ตันและคนอื่น ๆ ออกมา ก็จะไม่มีใครสามารถต่อต้านฟิลิปได้เลย”ฮาร์วีย์มองไม่เห็นอนาคต แต่ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนของคนรุ่นนี้ เขาสามารถประเมินความแข็งแกร่งของทุกคนได้ด้วยการจ้องมองเพียงครั้งเดียวเขาไม่จำเป็นต้องดูกระบวนการทั้งหมดก็รู้ได้เลยว่าชาวอินเดียแทบไม่มีโอกาสชนะการต่อสู้ครั้งแรกเลยไม่ใช่เพราะคามิโล ไมเยอร์สไม่ดี แต่ฟิลิปอยู่ในกลุ่มที่มีความสามารถเกินเขาฮาร์วีย์โบกมือให้โซอี้ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น จากนั้นเขาจะทำท่าทำทางว่าจะจ่ายเงินให้แบบไม่อั้นเพื่อให้เธอเปลี่ยนข้างหลังจากเห็นภ
พูดง่าย ๆ ก็คือ ออร่าของแอมเบอร์ เลอวีนได้เปล่งประกายออกออกมาแม้ในยามที่เธอยืนอยู่นิ่ง ๆ ผู้คนอาจเข้าใจผิดโดยคิดว่าเธอเป็นนางฟ้าจริง ๆ ก็ได้เคนน่า ปาร์คเป็นสาวสวยที่มีความมั่นใจ แต่เธอขาดออร่าบางอย่างไป เมื่อเปรียบเทียบกับแอมเบอร์แล้ว เธอเป็นเพียงลูกเป็ดขี้เหร่อยู่ในตอนนี้เท่านั้นเองเคนน่ามีสีหน้ที่ดูเย็นชาอาบอยู่ทั่วใบหน้าเธอหรี่ตามองแอมเบอร์ก่อนจะพูดว่า “เธอควรยอมรับความพ่ายแพ้ในตอนนี้นะจ๊ะหนูน้อย“ฉันคือ ‘ปรมาจารย์พันมือ’ ฉันมีความเชี่ยวชาญในเรื่องอาวุธลับ!“ฉันไม่สามารถควบคุมพลังของตัวเองได้!“ถ้าฉันเกิดฆ่าเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็อย่ามาหลอกหลอนฉันในภายหลังล่ะ”เคนน่าทำสีหน้าล้อเล่นอย่างขบขันโดยปกติแล้วชาวอินเดียพวกนั้นมักจะไม่ตั้งใจที่จะออมมือให้ใครง่าย ๆ หลังจากเห็นความพ่ายแพ้ของคามิโล ไมเยอร์สเคนน่าวางแผนที่ทุ่มเทพลังออกมาให้หมด ซึ่งถึงแม้จะต้องทำให้ใครตายเธอก็ไม่ยี่หระหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ คนอินเดียที่เหลือก็กลับมามีความมั่นใจอีกครั้งท้ายที่สุดแล้วพวกเขารู้ดีว่า ‘วิชาพันมือ’ ของเคนน่านั้นน่ากลัวเพียงใดว่ากันว่าเธอสามารถโจมตีได้หลายสิบเป้าหมายจากการเคลื่อนไหวเ
เข็มเงินพวกนั้นต่างรุมเร้าเข้าหาแอมเบอร์ราวกับโกรธแค้นเธออย่างมากในเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงหวีดร้องจากเข็มที่รุมเร้าเข้ามานั้นทั้งความเร็วและเสียงเป็นอะไรที่น่ากลัวมากฝูงชนตกใจมากเมื่อเห็นภาพนั้นไม่แปลกใจเลยที่เคนน่า ปาร์คมีความมั่นใจมาก การเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียวก็ก้าวไปอีกระดับหนึ่งแล้ว!แต่ถึงกระนั้นแอมเบอร์ก็ยังคงจับตามองเข็มเงินที่โบยบินเข้าหาเธออยู่อย่างเงียบ ๆเคนน่านิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างเย็นชา“เธอรู้ตัวไหมว่าเธอด้อยกว่าฉันขนาดไหน? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องนั่งตายอยู่ตรงนั้นใช่ไหม?“ช่างเคลื่อนไหวได้อย่างชาญฉลาด! เธอจะตายแบบสวย ๆ ได้ตราบใดที่ไม่ขัดขืน!”เดเมียน สตีลก็รู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน“ทำอะไรสักอย่างสิ แอมเบอร์! หลบการโจมตีซะถ้าเธอทำได้!” เขาร้องตะโกนออกมาโดยสัญชาตญาณราเชลขมวดคิ้ว“แอมเบอร์กำลังพยายามทำอะไรอยู่คะ คุณยอร์ก? เธอจะแพ้นะถ้าโดนเข็มเงินพวกนั้น!“เธอไม่รู้วิธีตอบโต้กระบวนท่าแบบนั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขาไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าแอมเบอร์กำลังทำอะไรอยู่ในขณะที่ฝูงชนเริ่มวิตกกังวลอยู่นั้น…แอมเบอร์โบกมืออย่า
เคนน่า ปาร์คแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือด เธออยากจะปล่อยโฮออกมาอย่างมากในตอนนี้เธอปฏิบัติต่อตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ๆ ในฐานะเป็นอัจฉริยะด้านอาวุธลับซึ่งไม่มีใครทำได้มาก่อน เธอเชื่อเหลือเกินว่าทักษะของเธอไม่มีใครมาเทียบได้...แต่หลังจากได้พบกับแอมเบอร์ เธอก็รู้ว่าการทำตัวเองให้ดูโง่เขลาต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไรแอมเบอร์ไม่จำเป็นต้องแสดงท่าไม้ตายของเธอออกมาด้วยซ้ำไป สิ่งที่เธอต้องทำก็แค่การเลียนแบบคู่ต่อสู้เพื่อเอาชนะเคนน่า ซึ่งเคนน่ารู้สึกละอายเป็นอย่างมากกับการต่อสู้ครั้งนี้แอ็กเซล การ์เซียซึ่งมีความมั่นใจอย่างมาก บีบถ้วยชาในมือจนแตกละเอียดด้วยสีหน้าที่ดูแย่มาก“ฉันสามารถเจาะหัวเธอด้วยเข็มนั่นได้”แอมเบอร์อวดรอยยิ้มอันอบอุ่นก่อนเดินออกจากสังเวียนใบหน้าของเคนน่าดูซีดเผือดเธอรู้ว่าแอมเบอร์ไม่ได้แค่ล้อเล่นเท่านั้นถ้าแอมเบอร์ต้องการ เธอก็สามารถฆ่าเคนน่าได้อย่างง่ายดายเธอไม่อาจดื้อรั้นได้เมื่อคู่ต่อสู้ไว้ชีวิตเธอนอกจากนี้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรอีก เมื่อนักศิลปะการต่อสู้ผู้มีประสบการณ์จำนวนมากกำลังจับตาดูอยู่เคนน่าและอารามพันปีจะต้องได้รับความอับอ
หลังจากเห็นแผ่นหลังของนิโก้ เบอร์ตันแล้ว แอ็กเซลก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึม“ชื่อเสียงของอินเดียอยู่ในมือคุณแล้ว นิโก้! ทุ่มให้สุดตัวไปเลย! เราจะแพ้อีกไม่ได้แล้วนะ!”“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ อาจารย์การ์เซีย! ผมจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของเราต้องเสื่อมเสีย!” นิโก้ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาจากนั้นเขาก็เดินไปยังใจกลางสังเวียนก่อนที่จะจ้องมองฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ อย่างเย็นชา“ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง!”ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไร อัลบัส ร็อบบินส์ก็อวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนถอดเสื้อออก เผยให้เห็นผิวสีบรอนซ์ของเขาในขณะที่เดินเข้าไปในสังเวียนจากนั้นเขาก็หรี่ตามองนิโก้“ในเมื่อคุณก็เป็นนักเรียนที่ใช้แต่กำลังเหมือนกัน…"“ผมก็จะไม่ทำอะไรกับคุณอย่างหนักหนาสาหัสเกินไป“ผมจะให้คุณชกใส่ผมสามหมัดฟรี ๆ! ถ้าทำให้ผมถอยหลังออกไปได้ คุณก็ชนะ!”'อะไรกันวะเนี่ย?!'กรรมการตกตะลึง'เด็กคนนี้เป็นบ้าอะไร?!''ทำไมเธอถึงเริ่มพูดพล่ามก่อนที่ฉันจะอธิบายกฎกติกาอีกล่ะ?!''เธอจะปล่อยให้คู่ต่อสู้เหวี่ยงหมัดชกเธอสามหมัดเลยเหรอ?''ทำไมถึงอวดดีได้ถึงขนาดนี้?!'ราเชลและคนอื่น ๆ จากหลงเหมินต่างตัวแข็งทื่อ พวกเขาแสดงสีหน้าแปลก ๆ เมื่อ