“หลงเหมินกำลังจะพ่ายแพ้แล้ว!”“ฮาร์วีย์ ยอร์กเคยคุยโวมาก่อน! ทำไมเขาไม่ลงแข่งขันด้วยตัวเองในครั้งแรกนี่เลยล่ะ?!”“การแข่งขันรอบแรกจะเป็นการตัดสินขวัญและกำลังใจของทีมที่เหลือ! เขาคงไม่มั่นใจในตัวเองขนาดนั้นล่ะมั้ง!”มีการซุบซิบกันในเรื่องนี้ทั่วทั้งสนามการแข่งขัน เมื่อฟิลิป สตีลและคามิโล ไมเยอร์สเดินไปที่กลางสังเวียนผู้คนต่างถกเถียงกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งแรกนี้...ฝูงชนต่างเงียบกริบเมื่อกรรมการประกาศเริ่มการต่อสู้คามิโลอวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนสวมนวมผ้าไหมจากนั้นเขาก็ชี้นิ้วไปที่ฟิลิปอย่างใจเย็นการเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างเหลือเกินของคามิโลไบรซ์ เคนเนดี้และคนอื่น ๆ ต่างขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพนั้นพวกเขาสามารถบอกได้เลยว่าคามิโลเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม“ผมขอแนะนำทุกคนให้รู้จักกับ…”แอ็กเซลยืนขึ้นและยิ้มให้ผู้คนรอบตัวเขา“คามิโลมาจากอารามสวรรค์ในอินเดีย เขาเริ่มฝึกฝนมาตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ! พออายุสิบเจ็ดเขาก็กลายเป็นราชาแห่งอาวุธแล้ว!“ในอีกห้าปีต่อมาเขาได้ทำการฝึกฝนด้วยตัวเองเพื่อสะสมความแข็งแกร่งเอาไว้อย่างมั่นคง“แล้วห้าปี
ผู้คนจำนวนมากจากประเทศ H ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นภาพนั้นพวกเขารู้ว่าฟิลิป สตีลเป็นหนึ่งในสามของเด็กที่มีความสามารถสามคนจากสาขาด้านในและด้านนอกทั้งแปดของหลงเหมินเขาเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่เข้าแข่งขันในการต่อสู้ครั้งนี้...แต่ถึงกระนั้นเขาก็เสียเปรียบทันทีหลังจากการเปิดกระบวนท่าแรกออกไป! หลงเหมินเองก็ตั้งความหวังในตัวเขาสูงมากด้วย!ผู้คนพวกนั้นต่างก็ไม่สามารถยอมรับความจริงนั้นได้แม้แต่ฟิชเชอร์ เบเนตต์และเดเมียน สตีลก็อดที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อยไม่ได้ขณะนั่งอยู่ในพื้นที่พักผ่อนฝั่งตะวันออก ราเชล ฮาร์ดี้ก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพนั้น“ดูเหมือนคามิโล ไมเยอร์สจะทำได้น่าประทับใจทีเดียวนะคะ คุณยอร์ก“มวยแพรไหมก็ดูน่ากลัวนิดหน่อยเหมือนกันนะ“คุณไม่กลัวว่าฟิลิปจะแพ้เหรอคะ?”“ก็ดูค่อนข้างน่าประทับใจดีนะที่คนหนุ่มสาวสามารถคิดค้นศิลปะการต่อสู้ของตัวเองขึ้นมาได้!“คามิโลเป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุดของอินเดียอย่างแน่นอน…“แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ“ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ไม่ว่าฟิลิปและคนอื่น ๆ จะชนะหรือแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก“นอกจากนี้ฉันก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงด้วย พวกเขาคือค
คามิโล ไมเยอร์สเคลื่อนไหวเร็วขึ้นหลังจากได้รับเสียงเชียร์ เขาเหวี่ยงหมัดอออกไปได้ตรงเป้าแบบไม่หยุดผู้คนจากประเทศ H ตากระตุกอย่างบ้าคลั่งหลังจากเห็นภาพนั้น พวกเขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเมื่อเห็นฟิลิปถูกบังคับให้ถอยออกไปอย่างช้า ๆไบรซ์ เคนเนดี้อดที่จะยืนดูสิ่งที่เกิดขึ้นในสังเวียนไม่ได้ เขากลัวว่านี่จะกลายเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรก...ราเชลมองไปที่ฮาร์วีย์แล้วพูดว่า "คุณยอร์กคะ การต่อสู้กำลังจะจบลงแล้ว…“จะเป็นยังไงต่อไปคะ?”ฮาร์วีย์หรี่ตามองฟิลิปก่อนที่เขาจะยิ้มจาง ๆ“จิตวิญญาณของการต่อสู้อยู่ในการเคลื่อนไหวครั้งแรก…“การชกมวยแพรไหมมีอะไรที่ค่อนข้างพิเศษ การชกแต่ละหมัดจะเร็วและแรงขึ้นกว่าครั้งก่อน“ไม่มีทางที่จะตอบโต้ได้เลยเมื่อมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมวิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการกับมัน คือการรอจนกว่าโอกาสจะมาถึง“ถ้าฟิลิปมองเห็นสิ่งนี้ คามิโลจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”บนสังเวียนการต่อสู้นั้น คามิโลเหวี่ยงหมัดติดต่อกันเป็นครั้งสุดท้ายในขณะที่เขากำลังจะเปลี่ยนกระบวนท่าพร้อมกับอวดรอยยิ้มอันน่าสมเพชบนใบหน้าอยู่นั้น...ฟิลิปพุ่งไปข้างหน้าทันทีก่อนที่จะเหวี่ยงฝ่า
ราเชลรู้สึกเอื่อยเฉื่อยเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนสังเวียน“ถ้าฉันไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นอยู่กับคุณแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น…“ฉันก็คงคิดว่าคุณเป็นคนสอนเขาเรื่องนั้นแล้ว” ราเชลพูดพร้อมสีหน้าที่แสดงความชื่นชม“เธอพูดเหมือนฉันรู้แต่วิธีตบคนอื่นเท่านั้น”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“ฟิลิปมั่นใจในความแข็งแกร่งของเขามาก“เขายังรู้ด้วยว่านี่คือการต่อสู้ที่มีความสำคัญกับเรา“เขาไม่เพียงแต่ต้องชนะเท่านั้น แต่เขายังต้องชนะอย่างง่ายดายด้วย“เขาทำได้ค่อนข้างดีเลยนะ“เว้นแต่ชาวอินเดียจะส่งแดนนี่ เบอร์ตันและคนอื่น ๆ ออกมา ก็จะไม่มีใครสามารถต่อต้านฟิลิปได้เลย”ฮาร์วีย์มองไม่เห็นอนาคต แต่ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนของคนรุ่นนี้ เขาสามารถประเมินความแข็งแกร่งของทุกคนได้ด้วยการจ้องมองเพียงครั้งเดียวเขาไม่จำเป็นต้องดูกระบวนการทั้งหมดก็รู้ได้เลยว่าชาวอินเดียแทบไม่มีโอกาสชนะการต่อสู้ครั้งแรกเลยไม่ใช่เพราะคามิโล ไมเยอร์สไม่ดี แต่ฟิลิปอยู่ในกลุ่มที่มีความสามารถเกินเขาฮาร์วีย์โบกมือให้โซอี้ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น จากนั้นเขาจะทำท่าทำทางว่าจะจ่ายเงินให้แบบไม่อั้นเพื่อให้เธอเปลี่ยนข้างหลังจากเห็นภ
พูดง่าย ๆ ก็คือ ออร่าของแอมเบอร์ เลอวีนได้เปล่งประกายออกออกมาแม้ในยามที่เธอยืนอยู่นิ่ง ๆ ผู้คนอาจเข้าใจผิดโดยคิดว่าเธอเป็นนางฟ้าจริง ๆ ก็ได้เคนน่า ปาร์คเป็นสาวสวยที่มีความมั่นใจ แต่เธอขาดออร่าบางอย่างไป เมื่อเปรียบเทียบกับแอมเบอร์แล้ว เธอเป็นเพียงลูกเป็ดขี้เหร่อยู่ในตอนนี้เท่านั้นเองเคนน่ามีสีหน้ที่ดูเย็นชาอาบอยู่ทั่วใบหน้าเธอหรี่ตามองแอมเบอร์ก่อนจะพูดว่า “เธอควรยอมรับความพ่ายแพ้ในตอนนี้นะจ๊ะหนูน้อย“ฉันคือ ‘ปรมาจารย์พันมือ’ ฉันมีความเชี่ยวชาญในเรื่องอาวุธลับ!“ฉันไม่สามารถควบคุมพลังของตัวเองได้!“ถ้าฉันเกิดฆ่าเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็อย่ามาหลอกหลอนฉันในภายหลังล่ะ”เคนน่าทำสีหน้าล้อเล่นอย่างขบขันโดยปกติแล้วชาวอินเดียพวกนั้นมักจะไม่ตั้งใจที่จะออมมือให้ใครง่าย ๆ หลังจากเห็นความพ่ายแพ้ของคามิโล ไมเยอร์สเคนน่าวางแผนที่ทุ่มเทพลังออกมาให้หมด ซึ่งถึงแม้จะต้องทำให้ใครตายเธอก็ไม่ยี่หระหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ คนอินเดียที่เหลือก็กลับมามีความมั่นใจอีกครั้งท้ายที่สุดแล้วพวกเขารู้ดีว่า ‘วิชาพันมือ’ ของเคนน่านั้นน่ากลัวเพียงใดว่ากันว่าเธอสามารถโจมตีได้หลายสิบเป้าหมายจากการเคลื่อนไหวเ
เข็มเงินพวกนั้นต่างรุมเร้าเข้าหาแอมเบอร์ราวกับโกรธแค้นเธออย่างมากในเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงหวีดร้องจากเข็มที่รุมเร้าเข้ามานั้นทั้งความเร็วและเสียงเป็นอะไรที่น่ากลัวมากฝูงชนตกใจมากเมื่อเห็นภาพนั้นไม่แปลกใจเลยที่เคนน่า ปาร์คมีความมั่นใจมาก การเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียวก็ก้าวไปอีกระดับหนึ่งแล้ว!แต่ถึงกระนั้นแอมเบอร์ก็ยังคงจับตามองเข็มเงินที่โบยบินเข้าหาเธออยู่อย่างเงียบ ๆเคนน่านิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างเย็นชา“เธอรู้ตัวไหมว่าเธอด้อยกว่าฉันขนาดไหน? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องนั่งตายอยู่ตรงนั้นใช่ไหม?“ช่างเคลื่อนไหวได้อย่างชาญฉลาด! เธอจะตายแบบสวย ๆ ได้ตราบใดที่ไม่ขัดขืน!”เดเมียน สตีลก็รู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน“ทำอะไรสักอย่างสิ แอมเบอร์! หลบการโจมตีซะถ้าเธอทำได้!” เขาร้องตะโกนออกมาโดยสัญชาตญาณราเชลขมวดคิ้ว“แอมเบอร์กำลังพยายามทำอะไรอยู่คะ คุณยอร์ก? เธอจะแพ้นะถ้าโดนเข็มเงินพวกนั้น!“เธอไม่รู้วิธีตอบโต้กระบวนท่าแบบนั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขาไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าแอมเบอร์กำลังทำอะไรอยู่ในขณะที่ฝูงชนเริ่มวิตกกังวลอยู่นั้น…แอมเบอร์โบกมืออย่า
เคนน่า ปาร์คแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือด เธออยากจะปล่อยโฮออกมาอย่างมากในตอนนี้เธอปฏิบัติต่อตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ๆ ในฐานะเป็นอัจฉริยะด้านอาวุธลับซึ่งไม่มีใครทำได้มาก่อน เธอเชื่อเหลือเกินว่าทักษะของเธอไม่มีใครมาเทียบได้...แต่หลังจากได้พบกับแอมเบอร์ เธอก็รู้ว่าการทำตัวเองให้ดูโง่เขลาต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไรแอมเบอร์ไม่จำเป็นต้องแสดงท่าไม้ตายของเธอออกมาด้วยซ้ำไป สิ่งที่เธอต้องทำก็แค่การเลียนแบบคู่ต่อสู้เพื่อเอาชนะเคนน่า ซึ่งเคนน่ารู้สึกละอายเป็นอย่างมากกับการต่อสู้ครั้งนี้แอ็กเซล การ์เซียซึ่งมีความมั่นใจอย่างมาก บีบถ้วยชาในมือจนแตกละเอียดด้วยสีหน้าที่ดูแย่มาก“ฉันสามารถเจาะหัวเธอด้วยเข็มนั่นได้”แอมเบอร์อวดรอยยิ้มอันอบอุ่นก่อนเดินออกจากสังเวียนใบหน้าของเคนน่าดูซีดเผือดเธอรู้ว่าแอมเบอร์ไม่ได้แค่ล้อเล่นเท่านั้นถ้าแอมเบอร์ต้องการ เธอก็สามารถฆ่าเคนน่าได้อย่างง่ายดายเธอไม่อาจดื้อรั้นได้เมื่อคู่ต่อสู้ไว้ชีวิตเธอนอกจากนี้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรอีก เมื่อนักศิลปะการต่อสู้ผู้มีประสบการณ์จำนวนมากกำลังจับตาดูอยู่เคนน่าและอารามพันปีจะต้องได้รับความอับอ
หลังจากเห็นแผ่นหลังของนิโก้ เบอร์ตันแล้ว แอ็กเซลก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึม“ชื่อเสียงของอินเดียอยู่ในมือคุณแล้ว นิโก้! ทุ่มให้สุดตัวไปเลย! เราจะแพ้อีกไม่ได้แล้วนะ!”“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ อาจารย์การ์เซีย! ผมจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของเราต้องเสื่อมเสีย!” นิโก้ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาจากนั้นเขาก็เดินไปยังใจกลางสังเวียนก่อนที่จะจ้องมองฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ อย่างเย็นชา“ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง!”ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไร อัลบัส ร็อบบินส์ก็อวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนถอดเสื้อออก เผยให้เห็นผิวสีบรอนซ์ของเขาในขณะที่เดินเข้าไปในสังเวียนจากนั้นเขาก็หรี่ตามองนิโก้“ในเมื่อคุณก็เป็นนักเรียนที่ใช้แต่กำลังเหมือนกัน…"“ผมก็จะไม่ทำอะไรกับคุณอย่างหนักหนาสาหัสเกินไป“ผมจะให้คุณชกใส่ผมสามหมัดฟรี ๆ! ถ้าทำให้ผมถอยหลังออกไปได้ คุณก็ชนะ!”'อะไรกันวะเนี่ย?!'กรรมการตกตะลึง'เด็กคนนี้เป็นบ้าอะไร?!''ทำไมเธอถึงเริ่มพูดพล่ามก่อนที่ฉันจะอธิบายกฎกติกาอีกล่ะ?!''เธอจะปล่อยให้คู่ต่อสู้เหวี่ยงหมัดชกเธอสามหมัดเลยเหรอ?''ทำไมถึงอวดดีได้ถึงขนาดนี้?!'ราเชลและคนอื่น ๆ จากหลงเหมินต่างตัวแข็งทื่อ พวกเขาแสดงสีหน้าแปลก ๆ เมื่อ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข