“อาจารย์ยอร์ก? ฉันได้ยินเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับคุณมาเยอะเลย”ในขณะที่ฮาร์วีย์กำลังเดินไปยังพื้นที่พักผ่อนด้านตะวันออกซึ่งมีนักสู้ของประเทศ H อยู่ที่นั่น เขาก็บังเอิญเจอแอ็กเซล การ์เซีย, แดนนี่ เบอร์ตัน และคนอื่น ๆแอ็กเซลอวดรอยยิ้มอันอบอุ่นก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปอย่างกระตือรือร้น“ฉันได้ยินชื่อของคุณมาหลายครั้งหลายหนในอินเดียจนหูแทบแตกเมื่อมาถึงจุดนี้!“แต่พูดตามตรงนะ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน!“คุณดูเหมือนกับเสียงร่ำลือที่ใคร ๆ กล่าวถึงคุณเลย คุณไม่เพียงแต่เป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังเป็นเสาหลักของประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจของหลงเหมินด้วย“ถึงแม้ว่าจะมีคำพูดหนึ่งที่ฉันแน่ใจว่าคุณก็รู้ว่า 'ยิ่งคุณมีความยิ่งใหญ่มากเท่าไร ก็ยิ่งล้มลงได้แรงมากขึ้นเท่านั้น!“คุณเป็นคนที่มีชื่อเสียง…แต่ก็เหมือนกับนายพลที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณนั่นแหละ คุณอาจไม่สามารถมีชีวิตที่ยืนยาวได้! "โอ๊ย! ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นกับคุณเลย…”แอ็กเซลอวดรอยยิ้มปลอม ๆแดนนี่และคนอื่น ๆ มองสำรวจฮาร์วีย์ พวกเขาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขามามากมาย แต่ก็อดจะรู้สึกหนักใจไม่ได้ถ้าพวกเขาไม่แ
“พูดตามตรงนะคุณโซอี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้มีความสามารถชั้นยอดมากมายจากอินเดีย ผมชื่นชมคุณมากที่สุด!”ฮาร์วีย์แสดงความชื่นชมในตัวโซอี้อย่างออกนอกหน้าในเวลานั้น“ตำนานไม่เพียงแต่บอกว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดของอินเดียเท่านั้น แต่คุณยังมีความแข็งแกร่งที่สุดด้วย!“รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณในที่สุด!“ผมมีบูโดกันหลายสิบแห่งที่อยู่ภายใต้ชื่อของผม…“คุณสนใจที่จะเป็นหนึ่งในทีมผู้สอนของผมไหม?"ไม่ต้องเป็นห่วงนะ! คุณสามารถเป็นผู้สอนแต่เพียงในนามก็ได้ถ้าคุณต้องการ!“และถ้าคุณเข้ามาร่วมทีม ผมจะมอบหุ้นบูโดกันให้คุณสามสิบเปอร์เซ็นต์ด้วย! ผมจะจ่ายเงินเดือนรายปีให้คุณสิบห้าล้านดอลลาร์เลย!“ผมรับประกันได้เลยว่าชาวอินเดียพวกนั้นจะไม่มาสร้างปัญหาให้คุณในเรื่องนี้แน่!“ถ้าคุณส่งสัญญาณว่าอยากจะทำ เราก็สามารถมาแชร์ความสุขทั้งหมดนี้ด้วยกันได้!“คุณสามารถสร้างรายได้กับผมได้อย่างน้อยหนึ่งร้อยห้าสิบล้านต่อปี! คุณสามารถมีเงินหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อบูโดกันพวกนั้นเข้าจดทะเบียนในตลาด!”ฮาร์วีย์แสดงท่าทีจริงใจราวกับว่าเขาพยายามจะดึงโซอี้มาอยู่ข้างเขาจริง ๆแดนนี่ เบอร์ตันและไรแลนด์ เบอร์โล
ฮาร์วีย์แสดงท่าทางที่เอาใจใส่เมื่อเขาจ้องมองแผ่นหลังของโซอี้“เรายังคงสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อีกนะถ้าคุณต้องการ คุณโซอี้!“ผมจะจ่ายให้คุณมากเท่าที่คุณต้องการ!“ถ้าเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านยังไม่เพียงพอ ผมสามารถจ่ายให้คุณถึง 1.5 พันล้านได้!“ตราบใดที่คุณให้โอกาสผม ผมก็ยินดีที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีในฟลัตเวลล์ให้กับคุณ!”โซอี้วิ่งตุปัดตุเป๋ทันทีที่เธอได้ยินคำพูดเหล่านั้น เธอรู้สึกตื่นตระหนกในขณะที่วิ่งหนีออกมา…เธอรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นจะทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายกับผู้คนในฝั่งของเธอถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าฮาร์วีย์ตั้งใจจะทำการต่อสู้แบบประชิดตัว แต่ผู้มีความสามารถชั้นยอดเหล่านั้นก็ยังคงส่งสายตาแปลก ๆ เมื่อพวกเขาจ้องมองไปที่โซอี้ในด้านหนึ่งฮาร์วีย์ก็ให้ความชื่นชมโซอี้มากพอ ๆ กับที่เขาดูถูกคนอื่นถึงแม้ว่าพวกเขาจะชนะการต่อสู้ในครั้งนี้จริง ๆ ชื่อของโซอี้ก็จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในทางกลับกันราคาที่ฮาร์วีย์เสนอให้นั้นก็สูงเกินไปคนอื่น ๆ จะต้องรับเงินจำนวนนั้นอย่างไม่ลังเลอะไรเลยพวกเขาแค่สงสัยว่าโซอี้จะรู้สึกหนักใจขนาดไหนในเวลานั้น“แกมันไอ้สารเลวไร้ยางอาย!”แอ็กเซลเป
ราเชล ฮาร์ดี้ยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำเดียวฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังเล่นกลต่อหน้าศัตรู ซึ่งเป็นอะไรที่แตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับเล่ห์เหลี่ยมกลโกงถ้าโซอี้ถูกบังคับให้เข้ามาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเพราะสิ่งนี้ นั่นก็จะเป็นปัญหาของเธอแล้วเธอเองนั่นแหละที่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นเองเมื่อนักต่อสู้จากทั้งสองฝ่ายมาถึง สมาชิกของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้จากตะวันออกไกลก็ก้าวขึ้นไปบนเวที และประกาศกฏกติกาในการแข่งขันเนื่องจากมีผู้มีความสามารถชั้นยอดจากอินเดียจำนวนสิบแปดคน หลงเหมินจึงสามารถมีนักสู้ได้ทั้งหมดสิบแปดคนแต่ถึงกระนั้นผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องเป็นผู้ที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดหลงเหมินด้วยเหตนี้นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของหลงเหมินทั้งหมดจึงถูกแยกตัวออกมาแต่อย่างไรก็ตามชาวอินเดียก็มาต่อสู้กับหลงเหมินอยู่ดี นี่เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ท่านั้นหลังจากรวบรวมนักต่อสู้ทั้งหมดแล้ว จะมีการต่อสู้วันละสามครั้งทุกวันใครก็ตามที่เอาชนะคู่ต่อสู้ในสังเวียนหรือบังคับพวกเขาออกไปไปจากสังเวียนได้ก็จะถือว่าเป็นผู้ชนะฝ่ายชนะสามารถเลือกสู้ต่อหรือรอให้ถึงวันรุ่งขึ้นก็ได้ฝ่ายที่แพ้จะถูกกำจัดอย่า
“หลงเหมินกำลังจะพ่ายแพ้แล้ว!”“ฮาร์วีย์ ยอร์กเคยคุยโวมาก่อน! ทำไมเขาไม่ลงแข่งขันด้วยตัวเองในครั้งแรกนี่เลยล่ะ?!”“การแข่งขันรอบแรกจะเป็นการตัดสินขวัญและกำลังใจของทีมที่เหลือ! เขาคงไม่มั่นใจในตัวเองขนาดนั้นล่ะมั้ง!”มีการซุบซิบกันในเรื่องนี้ทั่วทั้งสนามการแข่งขัน เมื่อฟิลิป สตีลและคามิโล ไมเยอร์สเดินไปที่กลางสังเวียนผู้คนต่างถกเถียงกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งแรกนี้...ฝูงชนต่างเงียบกริบเมื่อกรรมการประกาศเริ่มการต่อสู้คามิโลอวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนสวมนวมผ้าไหมจากนั้นเขาก็ชี้นิ้วไปที่ฟิลิปอย่างใจเย็นการเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างเหลือเกินของคามิโลไบรซ์ เคนเนดี้และคนอื่น ๆ ต่างขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพนั้นพวกเขาสามารถบอกได้เลยว่าคามิโลเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม“ผมขอแนะนำทุกคนให้รู้จักกับ…”แอ็กเซลยืนขึ้นและยิ้มให้ผู้คนรอบตัวเขา“คามิโลมาจากอารามสวรรค์ในอินเดีย เขาเริ่มฝึกฝนมาตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ! พออายุสิบเจ็ดเขาก็กลายเป็นราชาแห่งอาวุธแล้ว!“ในอีกห้าปีต่อมาเขาได้ทำการฝึกฝนด้วยตัวเองเพื่อสะสมความแข็งแกร่งเอาไว้อย่างมั่นคง“แล้วห้าปี
ผู้คนจำนวนมากจากประเทศ H ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นภาพนั้นพวกเขารู้ว่าฟิลิป สตีลเป็นหนึ่งในสามของเด็กที่มีความสามารถสามคนจากสาขาด้านในและด้านนอกทั้งแปดของหลงเหมินเขาเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่เข้าแข่งขันในการต่อสู้ครั้งนี้...แต่ถึงกระนั้นเขาก็เสียเปรียบทันทีหลังจากการเปิดกระบวนท่าแรกออกไป! หลงเหมินเองก็ตั้งความหวังในตัวเขาสูงมากด้วย!ผู้คนพวกนั้นต่างก็ไม่สามารถยอมรับความจริงนั้นได้แม้แต่ฟิชเชอร์ เบเนตต์และเดเมียน สตีลก็อดที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อยไม่ได้ขณะนั่งอยู่ในพื้นที่พักผ่อนฝั่งตะวันออก ราเชล ฮาร์ดี้ก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพนั้น“ดูเหมือนคามิโล ไมเยอร์สจะทำได้น่าประทับใจทีเดียวนะคะ คุณยอร์ก“มวยแพรไหมก็ดูน่ากลัวนิดหน่อยเหมือนกันนะ“คุณไม่กลัวว่าฟิลิปจะแพ้เหรอคะ?”“ก็ดูค่อนข้างน่าประทับใจดีนะที่คนหนุ่มสาวสามารถคิดค้นศิลปะการต่อสู้ของตัวเองขึ้นมาได้!“คามิโลเป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุดของอินเดียอย่างแน่นอน…“แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ“ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ไม่ว่าฟิลิปและคนอื่น ๆ จะชนะหรือแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก“นอกจากนี้ฉันก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงด้วย พวกเขาคือค
คามิโล ไมเยอร์สเคลื่อนไหวเร็วขึ้นหลังจากได้รับเสียงเชียร์ เขาเหวี่ยงหมัดอออกไปได้ตรงเป้าแบบไม่หยุดผู้คนจากประเทศ H ตากระตุกอย่างบ้าคลั่งหลังจากเห็นภาพนั้น พวกเขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเมื่อเห็นฟิลิปถูกบังคับให้ถอยออกไปอย่างช้า ๆไบรซ์ เคนเนดี้อดที่จะยืนดูสิ่งที่เกิดขึ้นในสังเวียนไม่ได้ เขากลัวว่านี่จะกลายเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรก...ราเชลมองไปที่ฮาร์วีย์แล้วพูดว่า "คุณยอร์กคะ การต่อสู้กำลังจะจบลงแล้ว…“จะเป็นยังไงต่อไปคะ?”ฮาร์วีย์หรี่ตามองฟิลิปก่อนที่เขาจะยิ้มจาง ๆ“จิตวิญญาณของการต่อสู้อยู่ในการเคลื่อนไหวครั้งแรก…“การชกมวยแพรไหมมีอะไรที่ค่อนข้างพิเศษ การชกแต่ละหมัดจะเร็วและแรงขึ้นกว่าครั้งก่อน“ไม่มีทางที่จะตอบโต้ได้เลยเมื่อมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมวิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการกับมัน คือการรอจนกว่าโอกาสจะมาถึง“ถ้าฟิลิปมองเห็นสิ่งนี้ คามิโลจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”บนสังเวียนการต่อสู้นั้น คามิโลเหวี่ยงหมัดติดต่อกันเป็นครั้งสุดท้ายในขณะที่เขากำลังจะเปลี่ยนกระบวนท่าพร้อมกับอวดรอยยิ้มอันน่าสมเพชบนใบหน้าอยู่นั้น...ฟิลิปพุ่งไปข้างหน้าทันทีก่อนที่จะเหวี่ยงฝ่า
ราเชลรู้สึกเอื่อยเฉื่อยเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนสังเวียน“ถ้าฉันไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นอยู่กับคุณแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น…“ฉันก็คงคิดว่าคุณเป็นคนสอนเขาเรื่องนั้นแล้ว” ราเชลพูดพร้อมสีหน้าที่แสดงความชื่นชม“เธอพูดเหมือนฉันรู้แต่วิธีตบคนอื่นเท่านั้น”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“ฟิลิปมั่นใจในความแข็งแกร่งของเขามาก“เขายังรู้ด้วยว่านี่คือการต่อสู้ที่มีความสำคัญกับเรา“เขาไม่เพียงแต่ต้องชนะเท่านั้น แต่เขายังต้องชนะอย่างง่ายดายด้วย“เขาทำได้ค่อนข้างดีเลยนะ“เว้นแต่ชาวอินเดียจะส่งแดนนี่ เบอร์ตันและคนอื่น ๆ ออกมา ก็จะไม่มีใครสามารถต่อต้านฟิลิปได้เลย”ฮาร์วีย์มองไม่เห็นอนาคต แต่ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนของคนรุ่นนี้ เขาสามารถประเมินความแข็งแกร่งของทุกคนได้ด้วยการจ้องมองเพียงครั้งเดียวเขาไม่จำเป็นต้องดูกระบวนการทั้งหมดก็รู้ได้เลยว่าชาวอินเดียแทบไม่มีโอกาสชนะการต่อสู้ครั้งแรกเลยไม่ใช่เพราะคามิโล ไมเยอร์สไม่ดี แต่ฟิลิปอยู่ในกลุ่มที่มีความสามารถเกินเขาฮาร์วีย์โบกมือให้โซอี้ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น จากนั้นเขาจะทำท่าทำทางว่าจะจ่ายเงินให้แบบไม่อั้นเพื่อให้เธอเปลี่ยนข้างหลังจากเห็นภ