หลังจากได้ยินคำพูดของแดนนี่ เบอร์ตันแล้ว ไรแลนด์ เบอร์โลว์ก็พูดขึ้นมาข้าง ๆ เขา“ท่านอาจารย์การ์เซีย เมื่อพิจารณาดูจากภาพแล้ว แอมเบอร์ เลอวีนและคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะมีความรู้จริง ๆ ในจุดนี้! พวกเขาจะต้องมีความสามารถทัดเทียมกับราชาแห่งอาวุธด้วย...“และไม่ใช่แค่ราชาแห่งอาวุธมือใหม่ด้วย พวกเขาอาจจะอยู่ห่างจากการเป็นเทพสงครามเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น“ผู้คนที่นี่ยอดเยี่ยมมาก พวกเขาอยู่ในกลุ่มที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน แต่พวกเขาเป็นเพียงราชาแห่งอาวุธที่ดีที่สุดเท่านั้น!“พวกเขาไม่มีโอกาสชนะแอมเบอร์และคนอื่น ๆ เลย!“ถึงแม้ว่าเด็กที่มีความสามารถทั้งสามคนจะไม่มีประสบการณ์ในโลกภายนอก แต่ทักษะของพวกเขาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะชดเชยสิ่งนั้นได้!“ผู้คนที่นี่จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ถ้าพวกเขาสู้กับสามคนนั้น!”โซอี้อวดรอยยิ้มจาง ๆ“ท่านอาจารย์การ์เซีย ทำไมต้องบีบบังคับให้คนเหล่านี้ต้องได้รับความอับอายในเมื่อเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีทักษะเลย” โซอี้พูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย“สิ่งที่เราต้องแสดงให้โลกเห็นในตอนนี้ก็คือความแข็งแกร่งและการมีอำนาจเหนือผู้อื่นของเรา!”
“แต่ยังไงก็ตามท่านพูดถึงเรื่องนี้กับเราในยามที่เราเราถูกเรียกตัวมา!“ท่านบอกว่าเรามาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้กับโคดี้ การ์เซีย!“เราไม่เพียงแต่พยายามทวงคืนชื่อเสียงของเราเท่านั้น แต่เรายังจะบดขยี้ไอ้สารเลวที่ทำให้ชื่อเสียงของเรามัวหมองและทำให้พวกเราอับอายอีกด้วย!“เราจะบีบบังคับให้เขาต้องได้รับความอับอายไปตลอดเวลาที่เหลืออยู่!“แต่ท่านไม่เคยเอ่ยถึงเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว!“เขาจะไม่เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งต่อไปเหรอครับ?”“ฉันได้ยินมาว่าเขาเรียกเราไปที่จุดสูงสุดของฟลัตเวลล์ในอีกหนึ่งสัปดาห์ เขาอ้างว่าเขาจะเอาชนะเราทุกคนด้วยตัวของเขาเองใช่ไหม?”ไรแลนด์ เบอร์โลว์และโซอี้ การ์เซียทำสีหน้าที่ดูจริงจังหลังจากได้ยินเรื่องเกี่ยวกับฮาร์วีย์ท้ายที่สุดแล้วชายคนนั้นคือคนที่สามารถเอาชนะหนึ่งในสามนักบวชปีศาจได้ถึงแม้ว่าผู้คนจะแพร่กระจายข่าวลือโดยบอกว่าฮาร์วีย์ชนะการแข่งขันด้วยการใช้เล่ห์เหลี่ยม...ผู้มีความสามารถชั้นยอดทั้งสามคนนั้นรู้ดีว่าชัยชนะก็ยังคงเป็นชัยชนะวันยันค่ำ แค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงความเก่งกาจของฮาร์วีย์ได้แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับแอมเบอร์ เลอวีนและคนอื่
วันเวลาผ่านไปสองสามวันอย่างรวดเร็วแมนดี้ ซิมเมอร์ไม่เพียงแต่ออกจากโรงพยาบาลเท่านั้น แต่เธอยังกลับมาทำงานแล้วด้วยฮาร์วีย์ ยอร์กอยากไปเยี่ยม แต่ลิเลียน เยตส์รู้สึกโกรธมากหลังหายจากอาการบาดเจ็บฮาร์วีย์ตัดสินใจไม่ไปหลังจากคิดว่าลิเลียนจะส่งผลต่ออารมณ์ของเขาอย่างแน่นอนหลังจากบอกให้เคย์เดน บัลเมอร์คอยดูแลกิจการของบริษัทฮาร์ทสโตนแล้ว ฮาร์วีย์ก็รอคอยอย่างเงียบ ๆ อยู่ในหอฝึกยุทธ เพื่อรอเวลาต่อสู้กับชายอินเดียพวกนั้นในขณะที่เหุตการณ์นี้กำลังจะเกิดขึ้น แอมเบอร์ เลอวีน, ฟิลิป สตีล และอัลบัส ร็อบบินส์ ต่างก็ถามคำถามเขามากมายในสายตาของพวกเขานั้น ฮาร์วีย์เป็นเพียงมือใหม่ พวกเขาเชื่อจริง ๆ ว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดการกับผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดนั้นด้วยตัวเองฮาร์วีย์ไม่ได้พูดอะไรเพื่อเคลียร์ปัญหาความเข้าใจผิดนั้นคงจะดีไม่น้อยถ้าเด็กทั้งสามคนนั้นสามารถจัดการกับชาวอินเดียได้ท้ายที่สุดแล้วจะมีเพียงผู้มีความสามารถคนใหม่ ๆ เท่านั้น ถ้าคนรุ่นใหม่แซงหน้าคนรุ่นเก่าไปทั่วทั้งฟลัตเวลล์ต่างเงียบกริบ ราวกับว่าทุกคนกำลังรอการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มอย่างเงียบ ๆ ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเลยใ
“อาจารย์ยอร์ก? ฉันได้ยินเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับคุณมาเยอะเลย”ในขณะที่ฮาร์วีย์กำลังเดินไปยังพื้นที่พักผ่อนด้านตะวันออกซึ่งมีนักสู้ของประเทศ H อยู่ที่นั่น เขาก็บังเอิญเจอแอ็กเซล การ์เซีย, แดนนี่ เบอร์ตัน และคนอื่น ๆแอ็กเซลอวดรอยยิ้มอันอบอุ่นก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปอย่างกระตือรือร้น“ฉันได้ยินชื่อของคุณมาหลายครั้งหลายหนในอินเดียจนหูแทบแตกเมื่อมาถึงจุดนี้!“แต่พูดตามตรงนะ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน!“คุณดูเหมือนกับเสียงร่ำลือที่ใคร ๆ กล่าวถึงคุณเลย คุณไม่เพียงแต่เป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังเป็นเสาหลักของประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจของหลงเหมินด้วย“ถึงแม้ว่าจะมีคำพูดหนึ่งที่ฉันแน่ใจว่าคุณก็รู้ว่า 'ยิ่งคุณมีความยิ่งใหญ่มากเท่าไร ก็ยิ่งล้มลงได้แรงมากขึ้นเท่านั้น!“คุณเป็นคนที่มีชื่อเสียง…แต่ก็เหมือนกับนายพลที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณนั่นแหละ คุณอาจไม่สามารถมีชีวิตที่ยืนยาวได้! "โอ๊ย! ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นกับคุณเลย…”แอ็กเซลอวดรอยยิ้มปลอม ๆแดนนี่และคนอื่น ๆ มองสำรวจฮาร์วีย์ พวกเขาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขามามากมาย แต่ก็อดจะรู้สึกหนักใจไม่ได้ถ้าพวกเขาไม่แ
“พูดตามตรงนะคุณโซอี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้มีความสามารถชั้นยอดมากมายจากอินเดีย ผมชื่นชมคุณมากที่สุด!”ฮาร์วีย์แสดงความชื่นชมในตัวโซอี้อย่างออกนอกหน้าในเวลานั้น“ตำนานไม่เพียงแต่บอกว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดของอินเดียเท่านั้น แต่คุณยังมีความแข็งแกร่งที่สุดด้วย!“รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณในที่สุด!“ผมมีบูโดกันหลายสิบแห่งที่อยู่ภายใต้ชื่อของผม…“คุณสนใจที่จะเป็นหนึ่งในทีมผู้สอนของผมไหม?"ไม่ต้องเป็นห่วงนะ! คุณสามารถเป็นผู้สอนแต่เพียงในนามก็ได้ถ้าคุณต้องการ!“และถ้าคุณเข้ามาร่วมทีม ผมจะมอบหุ้นบูโดกันให้คุณสามสิบเปอร์เซ็นต์ด้วย! ผมจะจ่ายเงินเดือนรายปีให้คุณสิบห้าล้านดอลลาร์เลย!“ผมรับประกันได้เลยว่าชาวอินเดียพวกนั้นจะไม่มาสร้างปัญหาให้คุณในเรื่องนี้แน่!“ถ้าคุณส่งสัญญาณว่าอยากจะทำ เราก็สามารถมาแชร์ความสุขทั้งหมดนี้ด้วยกันได้!“คุณสามารถสร้างรายได้กับผมได้อย่างน้อยหนึ่งร้อยห้าสิบล้านต่อปี! คุณสามารถมีเงินหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อบูโดกันพวกนั้นเข้าจดทะเบียนในตลาด!”ฮาร์วีย์แสดงท่าทีจริงใจราวกับว่าเขาพยายามจะดึงโซอี้มาอยู่ข้างเขาจริง ๆแดนนี่ เบอร์ตันและไรแลนด์ เบอร์โล
ฮาร์วีย์แสดงท่าทางที่เอาใจใส่เมื่อเขาจ้องมองแผ่นหลังของโซอี้“เรายังคงสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อีกนะถ้าคุณต้องการ คุณโซอี้!“ผมจะจ่ายให้คุณมากเท่าที่คุณต้องการ!“ถ้าเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านยังไม่เพียงพอ ผมสามารถจ่ายให้คุณถึง 1.5 พันล้านได้!“ตราบใดที่คุณให้โอกาสผม ผมก็ยินดีที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีในฟลัตเวลล์ให้กับคุณ!”โซอี้วิ่งตุปัดตุเป๋ทันทีที่เธอได้ยินคำพูดเหล่านั้น เธอรู้สึกตื่นตระหนกในขณะที่วิ่งหนีออกมา…เธอรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นจะทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายกับผู้คนในฝั่งของเธอถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าฮาร์วีย์ตั้งใจจะทำการต่อสู้แบบประชิดตัว แต่ผู้มีความสามารถชั้นยอดเหล่านั้นก็ยังคงส่งสายตาแปลก ๆ เมื่อพวกเขาจ้องมองไปที่โซอี้ในด้านหนึ่งฮาร์วีย์ก็ให้ความชื่นชมโซอี้มากพอ ๆ กับที่เขาดูถูกคนอื่นถึงแม้ว่าพวกเขาจะชนะการต่อสู้ในครั้งนี้จริง ๆ ชื่อของโซอี้ก็จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในทางกลับกันราคาที่ฮาร์วีย์เสนอให้นั้นก็สูงเกินไปคนอื่น ๆ จะต้องรับเงินจำนวนนั้นอย่างไม่ลังเลอะไรเลยพวกเขาแค่สงสัยว่าโซอี้จะรู้สึกหนักใจขนาดไหนในเวลานั้น“แกมันไอ้สารเลวไร้ยางอาย!”แอ็กเซลเป
ราเชล ฮาร์ดี้ยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำเดียวฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังเล่นกลต่อหน้าศัตรู ซึ่งเป็นอะไรที่แตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับเล่ห์เหลี่ยมกลโกงถ้าโซอี้ถูกบังคับให้เข้ามาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเพราะสิ่งนี้ นั่นก็จะเป็นปัญหาของเธอแล้วเธอเองนั่นแหละที่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นเองเมื่อนักต่อสู้จากทั้งสองฝ่ายมาถึง สมาชิกของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้จากตะวันออกไกลก็ก้าวขึ้นไปบนเวที และประกาศกฏกติกาในการแข่งขันเนื่องจากมีผู้มีความสามารถชั้นยอดจากอินเดียจำนวนสิบแปดคน หลงเหมินจึงสามารถมีนักสู้ได้ทั้งหมดสิบแปดคนแต่ถึงกระนั้นผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องเป็นผู้ที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดหลงเหมินด้วยเหตนี้นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของหลงเหมินทั้งหมดจึงถูกแยกตัวออกมาแต่อย่างไรก็ตามชาวอินเดียก็มาต่อสู้กับหลงเหมินอยู่ดี นี่เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ท่านั้นหลังจากรวบรวมนักต่อสู้ทั้งหมดแล้ว จะมีการต่อสู้วันละสามครั้งทุกวันใครก็ตามที่เอาชนะคู่ต่อสู้ในสังเวียนหรือบังคับพวกเขาออกไปไปจากสังเวียนได้ก็จะถือว่าเป็นผู้ชนะฝ่ายชนะสามารถเลือกสู้ต่อหรือรอให้ถึงวันรุ่งขึ้นก็ได้ฝ่ายที่แพ้จะถูกกำจัดอย่า
“หลงเหมินกำลังจะพ่ายแพ้แล้ว!”“ฮาร์วีย์ ยอร์กเคยคุยโวมาก่อน! ทำไมเขาไม่ลงแข่งขันด้วยตัวเองในครั้งแรกนี่เลยล่ะ?!”“การแข่งขันรอบแรกจะเป็นการตัดสินขวัญและกำลังใจของทีมที่เหลือ! เขาคงไม่มั่นใจในตัวเองขนาดนั้นล่ะมั้ง!”มีการซุบซิบกันในเรื่องนี้ทั่วทั้งสนามการแข่งขัน เมื่อฟิลิป สตีลและคามิโล ไมเยอร์สเดินไปที่กลางสังเวียนผู้คนต่างถกเถียงกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งแรกนี้...ฝูงชนต่างเงียบกริบเมื่อกรรมการประกาศเริ่มการต่อสู้คามิโลอวดรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนสวมนวมผ้าไหมจากนั้นเขาก็ชี้นิ้วไปที่ฟิลิปอย่างใจเย็นการเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างเหลือเกินของคามิโลไบรซ์ เคนเนดี้และคนอื่น ๆ ต่างขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพนั้นพวกเขาสามารถบอกได้เลยว่าคามิโลเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม“ผมขอแนะนำทุกคนให้รู้จักกับ…”แอ็กเซลยืนขึ้นและยิ้มให้ผู้คนรอบตัวเขา“คามิโลมาจากอารามสวรรค์ในอินเดีย เขาเริ่มฝึกฝนมาตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ! พออายุสิบเจ็ดเขาก็กลายเป็นราชาแห่งอาวุธแล้ว!“ในอีกห้าปีต่อมาเขาได้ทำการฝึกฝนด้วยตัวเองเพื่อสะสมความแข็งแกร่งเอาไว้อย่างมั่นคง“แล้วห้าปี
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข