ฮาร์วีย์ ยอร์กฉีกยิ้ม“พูดถึงเขา ผมว่าผมก็ควรเชิญผู้อาวุโสตอร์เรสมารับประทานอาหารเสียหน่อย เพราะท้ายที่สุดผมก็มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียที“ผมว่าจะโทรหาเขาทีหลัง แต่ไหน ๆ คุณก็มาถึงที่นี่แล้ว...“เราทุกคนควรได้ทานอาหารร่วมกัน”เซียนน่า ไรท์ปรบมือหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“เยี่ยมมาก! ฉันไม่ได้ทานข้าวกับลุงตอร์เรสมานานแล้ว”“ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ทำไมเราไม่ชวนเนลสัน ตอร์เรส และอันเซล ตอร์เรสมาที่นี่ด้วยกันล่ะ”โดยธรรมชาติแล้ว เซียนน่าต้องการทำให้เนลสันและฮาร์วีย์ใกล้ชิดกันมากขึ้น เนื่องจากเธอรู้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างห่างเหินกันฮาร์วีย์พยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่จะโทรหาแอนเซลจากนั้นเขาก็โทรหาราเชล ฮาร์ดีและเคย์เดน บัลเมอร์เพื่อพาคนของพวกเขามาที่หอฝึกยุทธฮาร์วีย์ต้องการให้สถานที่ได้รับการทำความสะอาดก่อนที่เขาจะเชิญโคลตัน ตอร์เรสและคนอื่น ๆ มาเวลาผ่านไปทีละน้อย ขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวไม่นานก็ถึงเวลาอาหารเย็นฮาร์วีย์และเซียนน่าเพิ่งพูดคุยกัน ขณะได้ยินเสียงเครื่องยนต์คำรามจากภายนอกโคลตัน เนลสันและแอนเซลปรากฏตัวขึ้นโคลตันมีสีหน้าแจ่มใส ขณะที่แอนเซลมีสีหน้านอบน้อม
ขบวนรถล้อมรอบสถานที่นั้นไปทั่วทุกมุม ขณะที่ฮาร์วีย์ ยอร์กและคนอื่น ๆ มองออกไปข้างนอกผู้คนหลายสิบคนออกมาจากรถ จ้องมองมาที่โรงฝึกด้วยแววตาอาฆาตมาดร้ายอาอิ คามิโนะและรุ่นพี่มิลเลอร์ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางฝูงชนแต่ทว่าอาอิไม่ใช่คนที่เป็นผู้นำอีกต่อไป มีชายหัวล้านในวัยสามสิบกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนในขณะนั้นด้วยเขาเป็นผู้ชายที่เตี้ยกว่าเล็กน้อยและมีพุงยื่น เขาเดินไปมาด้วยท่าทางเจ้ากี้เจ้าการขณะอวดหนังศีรษะแวววาวของตัวเอง ราวกับคนทั้งโลกอยู่แทบเท้าเขา“ย้ายก้นของนายออกมาที่นี่เดี๋ยวนี้ ฮาร์วีย์!”ก่อนที่กลุ่มคนจะมาถึงทางเข้า รุ่นพี่มิลเลอร์ก็ตะโกนทันทีด้วยท่าทางดุร้ายสาวสวยที่อยู่ข้างหลังเขาก็มีท่าทีเยอหยิ่งเช่นกัน หลังจากถูกทำให้อับอายอย่างที่สุดเมื่อครั้งที่แล้ว พวกเธอก็นึกอยากจะแก้แค้น“มีคนคิดจะสร้างปัญหาให้ฉันในวันเปิดทำการเลยอย่างนั้นเหรอ?"น่าสนใจดีนี่“ดื่มกินกันตามสบายเลยนะ ผมจะขอออกไปดูข้างนอกหน่อย”ฮาร์วีย์ยิ้มเล็กน้อยก่อนส่งสัญญาณให้ดิลลอน ลี เคย์เดน บัลเมอร์ และราเชล ฮาร์ดีออกไปข้างนอกกับเขาเซียนน่า ไรท์และคนอื่น ๆ ยังคงรับประทานอาหารต่อไปท้ายที่สุด มันคงด
“นายน่ะเหรอฮาร์วีย์ ยอร์ก?”ชายหัวโล้นเดินไปข้างหน้าโดยมีหญิงสาวสวยล้อมรอบเขาเขาหยุดครู่หนึ่งทุกครั้งที่ก้าวไปข้างหน้า ท่าทางของเขาดูสง่างามมากฮาร์วีย์ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองชายคนนั้นด้วยซ้ำ“แล้วนายล่ะเป็นใคร”“เขาคือผู้บัญชาการทอมป์สัน ชายที่ควบคุมดูแลบุคคลสำคัญทุกคนในโวลซิ่ง!“คราวนี้ฉันได้รับความช่วยเหลือจากเขาเลยล่ะ!”อาอิ คามิโนะแสดงท่าทีขี้เล่นขณะที่เขาจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์"จริงสิ! บางทีนายอาจไม่รู้ว่าชื่อของเขายิ่งใหญ่แค่ไหน...“พูดง่าย ๆ ก็คือ แม้แต่ผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์ก็ไม่กล้าปริปากเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา!”อาอิเป็นพวกชอบบงการ เขาต้องการปิดกั้นฮาร์วีย์ไม่ให้ขอความช่วยเหลือ เข้าถึงได้พูดเรื่องที่ผู้บัญชาการทอมป์สันมีสถานะที่สูงกว่าอันเซล ตอร์เรสขึ้นมาเขาคิดจะใช้ความกลัวโจมตีภายในใจของฮาร์วีย์ฮาร์วีย์เพียงแต่หัวเราะเบา ๆ“ผู้ตรวจการ?“แล้วไงล่ะ?“ผมก็นึกว่าไคลด์ ออสบอร์นจะมาปรากฏตัวเพื่อผมโดยเฉพาะเสียอีก!“ตอนนั้นคุณทำให้ผมกลัวอยู่หน่อย ๆ นะ!”อาอิหัวเราะอย่างเย็นชา“เจ้าชายออสบอร์นไม่ว่างมาเล่นกับแมลงตัวน้อยอย่างนายหรอก!” เขาตวาดขึ้น“ฉันจะบ
"สามอย่าง!“อย่างแรก ฉันต้องการเงินหนึ่งพันห้าร้อยล้านดอลลาร์จากนาย!“อย่างที่สอง คุกเข่าและหักแขนของตัวเองข้างหนึ่ง แล้วขอโทษคุณคามิโนะเสีย!“อย่างที่สาม พาตัวภรรยาและน้องภรรยาของนายให้มาปรนนิบัติเราตลอดทั้งเดือน! น้อยกว่าหนึ่งวันก็ไม่ได้!”ผู้ตรวจการณ์ทอมป์สันชูสามนิ้วพร้อมรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้า“แน่นอน นายจะไม่ยอมทำตามเงื่อนไขก็ได้!“แต่ถ้านายไม่ทำ ฉันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพานายไปด้วยแล้วต้องคุยกับนายนานสักหน่อย!”ชายในเครื่องแบบหลายสิบคนก้าวไปข้างหน้าด้วยแววตาดุร้าย พวกเขาพร้อมที่จะจัดการฮาร์วีย์ ยอร์กและพร้อมทำลายหอฝึกยุทธแห่งนี้ฮาร์วีย์ถอนหายใจ“อันที่จริงถ้าคุณเป็นแค่พวกดีแต่ปากเพียงอย่างเดียว ผมจะไม่ถือสาคุณก็ยังได้…“แต่ถ้าคุณคิดจะเอาเปรียบคนอื่นแบบนี้ก็แปลว่าคุณคงไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!”"กล้าดียังไง?!”รุ่นพี่มิลเลอร์ก้าวออกไปข้างหน้าโดยมีควันออกมาจากปาก“นี่เป็นวิถีของผู้บัญชาการทอมป์สัน!“กล้าดียังไงมาตอบเขาแบบนี้! อยากตายหรือไง!"ฉันจะบอกนายให้นะ! ต่อให้แอนเซล ตอร์เรสมาสนับสนุนนาย แต่เราก็ยังสามารถทำให้ผู้บัญชาการทอมป์สันเหยียบย่ำนายได้อยู่ดี!"
ผู้ตรวจการณ์ทอมป์สันเดือดดาลด้วยความโกรธ!'ไอ้สารเลวนี่คิดว่าฉันเป็นพระอิฐพระปูนหรือไง?!ผู้ตรวจการณ์ทอมป์สันเป็นสมาชิกหนึ่งในสิบตระกูลชั้นสูง!คนอย่างเขาไม่มีทางยอมรับความอปยศอดสูเช่นนี้ได้แน่!“ไอ้สารเลว!"กล้าดียังไง?!“นายมันเป็นพวกศาลเตี้ย!ผู้ตรวจการณ์ทอมป์สันแสดงสีหน้าเย็นชา“นี่นายจะไม่เห็นหัวฉันเลยเหรอ ฮาร์วีย์!”ชายในเครื่องแบบหลายสิบคนก้าวไปข้างหน้าทันทีที่ได้ยินเสียงตวาดของผู้ตรวจการณ์ทอมป์สันพวกเขาเหล่านั้นมีสีหน้าดุร้ายขณะที่ล้อมรอบฮาร์วีย์ไว้ทุกมุมฮาร์วีย์เพียงแค่ยักไหล่“พวกคุณพากันมาตั้งเยอะแยะ ไม่มีใครได้ยินในสิ่งที่พวกเขาพูดเลยเหรอ?!“หมอนั่นเรียกร้องให้ผมตบเขาเอง!“แล้วผมก็ทำตามที่เขาปรารถนา! แล้วผมผิดตรงไหนกัน?'“นายทำให้ฉันโกรธมากนะไอ้สารเลว! นายเสร็จแน่!ผู้ตรวจการณ์ทอมป์สันดึงอาวุธปืนออกมาและปลดเซฟตี้ของปืนออกก่อนที่จะเล็งมันไปทางฮาร์วีย์“ฉันจะจัดการนายเดี๋ยวนี้แหละ!“นายจะขัดขืนก็ได้นะ!“แต่ถ้านายทำแบบนั้นฉันจะยิงนายเดี๋ยวนี้แหละ!”หากเขาไม่สามารถจัดการกับฮาร์วีย์ได้ในขณะนั้น ผู้ตรวจการณ์ทอมป์สันคงไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้กับไคลด์ ออสบอร์นไ
แม้ว่าผู้บัญชาการทอมป์สันรู้ดีว่าราเชล ฮาร์ดีมีสถานะพิเศษที่เขาไม่อาจต่อกรด้วยได้...แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเล่นงานฮาร์วีย์ ยอร์กให้สิ้นซากไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่มีปัญญากลับไปสู้หน้าไคลด์ ออสบอร์นราเชลหัวเราะเบา ๆ“แปลว่าไม่ว่าอย่างไรคุณก็จะเป็นปฏิปักษ์กับฉันใช่ไหม?”ผู้บัญชาการทอมป์สันตัวแข็งก่อนจะอุทานอย่างเย็นชาว่า “ที่ผมเรียกคุณว่ารองหัวหน้ากองบังคับคดีก็เพราะผมเคารพคุณ!“อย่าได้คิดว่าผมประทับใจอะไรในตัวคุณนักหนา!“มีบางเรื่องที่คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาก้าวก่าย!“อย่างเช่นว่าคุณไม่มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่ผมกำลังจะทำ!”ราเชลยิ้ม“ฉันคิดว่าคุณกำลังเข้าใจผิดแล้ว“คุณคิดว่าฉันเป็นพวกชอบจุ้นเรื่องชาวบ้านหรือไง? ฉันมาที่นี่เพื่อเตือนคุณเพราะเห็นแก่ที่เรารู้จักกัน“มีบางสิ่งที่หากทำลงไปแล้วจะส่งผลร้ายแรงกับคุณ…“และถ้าคุณยังเลือกที่จะทำแบบนี้ต่อไป คุณจะไม่มีทางกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก”ผู้บัญชาการทอมป์สันขมวดคิ้วก่อนจะถูขมับที่มันเยิ้มโดยสัญชาตญาณ“เขาเป็นใครกัน?” เขาถามอย่างเย็นชาขณะจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ราเชลพิงไหล่ของฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ“เป็นคนที่หากเ
ขณะที่ผู้บัญชาการทอมป์สันมีสีหน้าไม่เชื่ออย่างยิ่ง เนลสัน ตอร์เรสก็เดินเข้าไปแตะไหล่ของเขา“คุณยอร์กเป็นเพื่อนรักของน้องชายฉัน ฉันเองก็เคารพในตัวเขาด้วย ที่สำคัญกว่านั้น แม้แต่พ่อของฉันเป็นหนี้บุญคุณชายคนนี้อย่างสุดซึ้ง“แถมยังมีหัวหน้าบัลเมอร์และรองหัวหน้ากองบังคับคดีฮาร์ดี้อยู่ที่นี่อีก…“นายไม่คิดจะให้เกียรติพวกเราทุกคนเลยเหรอ?”“หรือนายอยากจะให้พ่อของฉันมาที่นี่ด้วยอีกคน?“หรือนายคิดจะเชิญคนที่นายต้องรับผิดชอบดูแลมาด้วยอีกคนล่ะ?”ในขณะนั้น ใบหน้าของผู้บัญชาการทอมป์สันซีดเผือดราวกับกระดาษเนลสันหัวเราะอย่างเย็นชา ก่อนจะตบผู้บัญชาการทอมป์สันลงไปกองกับพื้นด้วยหลังมือ“อ๊าก!”ใบหน้าของผู้บัญชาการทอมป์สันบวมเป่งทันทีที่เขากระแทกลงกับพื้น หลังจากถูกตบฟันของเขาก็ร่วงออกมาด้วยหากไม่ได้อาอิ คามิโนะช่วยพยุง ตอนนั้นเขาคงไม่มีแรงตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนอีกครั้งเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ก็แปลว่าเนลสันเลือกที่จะยืนหยัดเพื่อฮาร์วีย์ แถมแรงตบของเขาก็รุนแรงมากเช่นกัน เนลสันพร้อมที่จะเป็นปรปักษ์ต่อผู้บัญชาการทอมป์สันอย่างไม่มีข้อแม้ชายในเครื่องแบบต่างเอ่ยขึ้นพร้อมกันว่า “เป็นยั
หญิงสาวจากตระกูลร่ำรวยอันดับสองอย่างเธอถือว่ามีสถานะค่อนข้างสูง...แต่เธอก็รู้ดีว่าสำหรับคนอย่างผู้บัญชาการทอมป์สันแล้ว เธอก็เป็นเพียงแค่ของเล่นของเขาเธอไม่มีสิทธิ์ขุ่นเคืองผู้บัญชาการทอมป์สัน และไม่กล้ามีปัญหากับผู้คนที่ดูเหมือนจะสูงส่งกว่าเขามากด้วยเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กเธอเชื่อว่าเธอต้องอับอายมาถึงขนาดนี้เพราะไอ้แมงดาอยู่ตรงหน้าเธอคนนี้หากไม่มีเขา ทำไมเธอถึงจะต้องถูกคนที่เธอชอบเตะท้องเอาแบบนี้?ยกโทษให้ไม่ได้!ฮาร์วีย์สัมผัสได้ถึงความเกลียดชังในสายตาของผู้หญิงคนนั้น แต่เขารู้สึกเพียงแค่รำคาญใจเท่านั้น ถ้าผู้หญิงที่ชอบเหยียบย่ำคนที่อ่อนแอกว่าอย่างเธอประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่ปรารถนาแล้วก็ ถึงตอนนั้นดวงอาทิตย์คงขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วผู้บัญชาการทอมป์สันลูบหน้าก่อนที่จะฝืนยิ้ม“ผมต้องขอโทษคุณตอร์เรสและทุกคนที่นี่ด้วย “นางสารเลวนี่ก็แค่โง่ไปหน่อยเท่านั้น“ผมต้องขอโทษแทนเธอด้วย”จากนั้นผู้บัญชาการทอมป์สันก็โค้งคำนับด้วยความเคารพเขาเป็นบุคคลสำคัญของหนึ่งในสิบตระกูลอันดับแรกและมีเส้นสายมากมาย หากไม่เป็นเช่นนั้น เขาคงไม่มีทางได้นั่งในตำแหน่
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข