ราเชลรู้อยู่แล้วว่าฮาร์วีย์ไร้เทียมทาน แต่เบื้องหน้าของพวกเขาก็มีศัตรูอยู่ถึงสองร้อยคนเธอต้องการยุติปัญหานี้โดยปราศจากการนองเลือด เพราะท้ายที่สุดแล้วมันคงจะดีกว่าถ้าไม่มีใครได้รับความสูญเสียใด ๆแอรอนตัวแข็ง แววตาลึกลับแวบไปทั่วใบหน้าของเขา และเขาก็จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์เขารู้ว่าภูมิหลังของฮาร์วีย์ค่อนข้างไม่ธรรมดา แต่ไม่กล้าคิดเลยว่าหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขาจะเป็นถึงรองหัวหน้ากองบังคับคดีของหลงเหมินจริง ๆ“คุณเป็นรองหัวหน้ากองบังคับคดีที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ คุณค่อนข้างมีชื่อเสียงในฟลัตเวลล์ไม่น้อยเลยนะ ราเชล”ดวงตาของโนแลนเป็นประกาย จากนั้นเขาก็เปลี่ยนสายตาไปทางฮาร์วีย์“แต่แล้วยังไงล่ะ?“ฟลัตเวลล์ไม่เหมือนเมืองอื่น“สำนักงานใหญ่ของหลงเหมินตั้งอยู่ที่นี่ และตระกูลบาวเออร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย“คุณอาจจะอวดอ้างความแข็งแกร่งของกองบังคับคดีของหลงเหมินได้ทุกที่ แต่คงไม่ได้ผลสำหรับที่นี่สักเท่าไร!“เว้นแต่คุณจะพาใครบางคนจากตระกูลบาวเออร์ หรือหัวหน้ากองบังคับคดีมาที่นี่ด้วยตัวเองได้…“เพราะแค่คุณน่ะมันไม่พอหรอก”ราเชลสูดหายใจเข้าลึก ๆ“ยิ่งคุณมีมิตรสหายมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีหนทาง
ถ้าฮาร์วีย์ไม่กลัวราเชลได้รับบาดเจ็บจากความขัดแย้ง เขาคงไม่ต้องมานั่งเสียเวลาพูดให้ปากเปียกปากแฉะถึงกระนั้นเขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะขอโทษและจะไม่ยอมเสียเงินด้วยโนแลนตัวแข็งก่อนที่จะวิเคราะห์ฮาร์วีย์พร้อมกับขมวดคิ้ว“ลูกเขยแต่งเข้าอย่างคุณรู้จักหนึ่งในผู้นำของแก๊งทั้งหกด้วยเหรอ?”“เรามีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีต่อกันน่ะ” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น"น่าสนใจดี ไม่นึกเลยว่าคนต่างเมืองจะรู้จักเคย์เดนด้วย” แอรอนอุทานด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ“แต่นายไม่รู้เหรอ?“แก๊งขวานถือว่าแย่ที่สุดในแก๊งทั้งหก!“ภายนอกเคย์เดนอาจดูแข็งแกร่ง แต่ชื่อเสียงของเขาไม่ได้มีความหมายอะไรกับเราเลย!”ในสายตาของแอรอน มันช่างน่าขันที่ฮาร์วีย์หยิบคนที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้สึกกลัวมาเป็นกองหนุน“ถ้านั่นยังไม่พอ แล้วกับแอนเซล ตอร์เรสล่ะ?”ใบหน้าของฮาร์วีย์ดูสงบ“ผมเองก็มีความสัมพันธ์อันดีกับเขาด้วยเหมือนกัน”“แอนเซล ตอร์เรส?”มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยฉายออกมาจากใบหน้าของโนแลน“นี่คนรู้จักผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์ด้วยเหรอ”“ผมเคยติดคุกมาก่อน แต่แอนเซลเป็นคนประกันผมออกมา” ฮาร์วีย์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“แก…กล้าดียังไง!”แอรอนตกใจมากเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฮาร์วีย์จะกล้าหาเรื่องคนสำคัญอย่างนั้นโนแลนไม่เพียงแต่เป็นที่ปรึกษาทางการทหารของสภาธุรกิจภารตะเท่านั้น แต่เขายังเกิดมาในตระกูลวรรณะกษัตริย์อีกด้วย!แม้แต่ตัวแอรอนเองเมื่อเทียบกับโนแลนแล้วก็ยังด้อยกว่า!ฮาร์วีย์บ้าไปแล้ว!เขากำลังรนหาที่ตายอย่างแน่นอน!ผู้คนที่โนแลนพามาต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่รู้เลยว่าควรจะมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไรนั่นก็เพราะไม่มีใครคาดคิดเลยว่าจะเกิดสิ่งนี้ขึ้น'ก่อนหน้านี้ฮาร์วีย์ดูอ่อนด้อยมาก!''เขายังยกเคย์เดนและแอนเซลออกมาด้วยซ้ำ!''เขาไม่ได้จะขอร้องอ้อนวอนหรอกเหรอ?' 'ทำไมถึงได้เข้าไปทุบหัวโนแลนแบบนั้น?'ทุกคนคิดว่าพวกเขากำลังเสียสติแม้แต่ราเชลก็ยังตามไม่ทัน เธอรู้ว่านี่เป็นวิธีการที่ฮาร์วีย์ทำบ่อยๆ...แต่ก็ไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะเผด็จการได้ถึงขนาดนี้ แม้จะกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูถึงสองร้อยคนก็ตาม“ไอ้สารเลว แกอยากตายมากเหรอ!”แอรอนและลูกน้องจะแก๊งภารตะดึงสติกลับมาได้และยกปืนขึ้นทันทีการแสดงออกของราเชลเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เธอรีบเอาตัวเข้าไปบังให้ฮาร์วีย์ฮาร์วีย์เมินเฉยต่อฝูงชนและจ่อขวดปากฉลามลง
ฮาร์วีย์มีรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อเขามองกลับไปที่โนแลน เขาค่อนข้างประทับใจในตัวนายน้อยคนนี้มากถึงกระนั้น ไม่มีทางที่ทั้งสองจะเลิกแล้วต่อกันได้อีกฮาร์วีย์แตะลงบนใบหน้าของโนแลนแล้วพูดอย่างเรียบง่าย “ทำไมคุณไม่ลองเดาดูล่ะ? มาดูกันว่าผมจะฆ่าคุณได้หรือเปล่า”"ฆ่าฉัน?"โนแลนหัวเราะเบา ๆ ดวงตาของเขายังคงเย็นชาไม่เปลี่ยน“ต่อให้คุณฆ่าผมแล้ว คุณก็แก้ไขปัญหาตรงหน้าไม่ได้หรอก คนไม่มีทางรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ได้ และไม่มีทางที่จะหลบหนีไปจากที่นี่อย่างครบสามสิบสองด้วย”ถึงอย่างนั้น โนแลนก็ไม่เชื่อว่าฮาร์วีย์เป็นบุคคลที่สมควรจะได้รับความเคารพยกย่องจากเขานั่นก็เพราะว่าเขาเป็นคนในวรรณะกษัตริย์ในสายตาของเขา มีเพียงคนอย่างเฮกเตอร์ ทอมป์สันและอีเลียส พาเทลเท่านั้นที่พอจะทัดเทียมกับเขาได้ลูกเขยแต่งเข้าบ้านคนนี้ไม่มีสิทธิ์อยู่ในรายชื่อนั้น“ผมไม่อาจจัดการกับปัญหาตรงหน้าได้ แต่ผมก็มั่นใจได้ว่าผมจะไม่ต้องลงนรกไปเพียงลำพัง”ฮาร์วีย์หัวเราะ“และต่อให้คุณตายไปจริง ๆ ผมก็จะมีชีวิตรอดต่อไป“อยากลองไหม?”ฮาร์วีย์ใช้แรงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ดันแก้วปากฉลามไปที่คอของโนแลน จนมีเลือดไหลออกมา และทุกคนใน
โนแลนกระหยิ่มยิ้มย่อง เขาไม่เชื่อว่าฮาร์วีย์จะเข้าใจความเชื่อและวัฒนธรรมของประเทศเขาฮาร์วีย์เผยสีหน้าฉงนเมื่อเห็นท่าทางที่มั่นใจและดื้อรั้นของโนแลนในความเป็นจริงฮาร์วีย์สามารถจบชีวิตของโนแลนได้ทันทีหากเขาออกแรงเพิ่มอีกนิดเดียวแอรอนและทอตโต้รู้สึกหวาดกลัวกับสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาไม่กล้าขยับแม้แต่นิ้วเดียวเพราะกลัวว่าจะถูกโนแลนฆ่า...แต่ดูเหมือนว่าโนแลนจะไม่สนใจเลย“อย่าคิดว่าฉันจะยอมแพ้นะฮาร์วีย์”โนแลนมองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า“พวกเราชาวอินเดียก็เหมือน ๆ กัน นายสามารถตัดหัวของพวกเราได้ แต่นายจะไม่มีวันพรากความภาคภูมิใจของพวกเราไปได้“ถ้านายดีกับพวกเรา พวกเราจะตอบแทนบุญคุณอย่างสุดใจ“แต่ถ้านายทำให้พวกเราต้องอับอาย พวกเราจะหาทางเอาคืนนายจนได้!“ต่อให้นายจะฆ่าฉัน แต่ตราบใดที่อินเดียยังอยู่ ก็จะมีคนมาล้างแค้นให้ฉัน!“อีกอย่าง ฉันเชื่อว่ายังไงนายก็ไม่กล้าฆ่าฉันหรอก“ท้ายที่สุดแล้วฉันก็เป็นถึงกษัตริย์ผู้สูงศักดิ์ คนต่ำต้อยอย่างนายไม่มีสิทธิ์ที่จะฆ่าฉัน”เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือของเขาไปบนใบหน้าของโนแลน“คุณคิดว่าคุณสูงศักดิ์มากเหรอ?“ต่อให้คุณจะอยู่ในวรรณะกษ
ดูจากวิถีการจัดการเรื่องต่าง ๆ ของราชสำนักและบิ๊กบอสในตำนานแล้ว...หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย พวกเขาคงจะไม่สามารถจัดการกับมันได้เพียงด้วยการทำลายรากฐานทั้งหมดของอินเดียภายในฟลัตเวลล์ประเทศ H คงจะใช้โอกาสนี้ส่งคนของตนออกไปคุ้มกันตามจุดนอกเขตแดนของประเทศท้ายที่สุดแล้วการจัดตั้งเว็บไซต์การพนันที่ผิดกฎหมายภายในประเทศก็ถือเป็นการไม่เคารพต่อประเทศอย่างที่สุดแล้วแน่นอนว่ายังมีอีกเหตุผลหนึ่งหากเป็นเช่นนั้น อินเดียคงจะตัดความสัมพันธ์กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมดังกล่าว...พูดง่าย ๆ ก็คือ การโทรของฮาร์วีย์กำลังสร้างความหวาดกลัวให้กับโนแลนและคนอื่น ๆ อย่างมากพวกเขาไม่ได้กลัวกองทัพที่จะถูกส่งมาจัดการพวกเขา แต่พวกเขาจะไม่อาจปล่อยให้ฮาร์วีย์โทรออกได้ในขณะนี้โนแลนไม่มั่นใจอีกต่อไปว่าฮาร์วีย์จะฆ่าเขาไม่ได้‘ผู้ชายคนนี้มันบ้า! เขาไม่สนใจเลยถ้าเรื่องจะบานปลาย!’“นี่นายเป็นผู้ชายหรือเปล่าฮาร์วีย์?!” แอรอนถามทันที“เราควรจะจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเองสิ!“นายกล้าเรียกราชสำนักให้มาจัดการกับพวกเราได้ยังไง?! หน้าไม่อาย!”“หน้าไม่อาย?”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“คุณคิดว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะพูดแบบ
“พอใจสิ“เพียงแต่ว่า…”ฮาร์วีย์เหนี่ยวไกอย่างใจเย็นอีกครั้งปัง ปัง!แอรอนร้องด้วยความเจ็บปวด รูสองรูปรากฏบนขาของเขาเขาล้มลงกับพื้นทันที สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้คือการดิ้นมาสุดพลัง“กล้าดียังไง?!“จะลองดีกับพวกเราใช่ไหม?!”โนแลนเดือดดาลเมื่อเห็นดังนั้นตอนแรกเขาคิดว่าเขาจะสามารถทนต่อทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้...แต่ฮาร์วีย์ยังคงท้าทายขีดจำกัดของเขาด้วยการไม่ไว้หน้าเขาอย่างต่อเนื่องไม่สิ! ฮาร์วีย์กำลังดูถูกทั้งสภาภารตะ!“ผมกล้าดียังไงน่ะเหรอ?“ลองดีกับคุณงั้นเหรอ?“คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนั้น!”ฮาร์วีย์โยนปืนทิ้งไปแล้วคว้าผ้าเช็ดหน้าแอร์เมสของโนแลนมาเช็ดนิ้วของตนเขาพับผ้าเช็ดหน้าอย่างดีแล้วยัดมันกลับเข้าไปในกระเป๋าของโนแลนหลังจากที่ใช้มันเสร็จแล้ว“เอาแบบนี้ดีไหม? ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย” เขากล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม“ผมหวังว่าพรุ่งนี้ เวลาเดิม คุณจะทำอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทฮาร์ทสโตน“ถ้าคุณทำไม่ได้ ผมจะทำลายทั้งแก๊งภารตะและสภาภารตะ“จำคำของผมไว้ล่ะ”ฮาร์วีย์เตะโนแลนลงกับพื้นก่อนที่จะเดินออกไปจากสถานที่นั้นพร้อมกับราเชลอย่างภาคภูมิใจตาของโนแลนอดไม
โจเซฟถอนหายใจ“ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่าเติมความโง่ให้กับความอัปลักษณ์ของนาย?! “ถ้านายฟังฉันตั้งแต่แรก นายคงได้รู้จักกับการเต็มใจให้โดนจับ”โจเซฟวางคันเบ็ดลงก่อนจที่ะเช็ดมือด้วยผ้าเปียกที่เขาหยิบมาจากอ่างข้าง ๆ ตนจากนั้นเขาก็บอกให้ออซซี่นั่งลง“มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ? ดูเหมือนนายจะรีบร้อนนะ”“ครับ” ออซซี่ตอบเบา ๆ“ผมได้รับข่าวว่าแมนดี้เข้าโรงพยาบาลหลังจากที่ถูกอีไลทำร้าย“ฮาร์วีย์และราเชลไปที่โรงแรมฟลัตเวลล์เมื่อไม่นานมานี้“พวกเขาเรียกร้องค่าชดเชยสามร้อยล้านดอลลาร์จากแอรอน…“และพวกเขายังทำให้แอรอนพิการอย่างสมบูรณ์ และยังตบหน้าของโนแลนอย่างไม่หยุดหย่อน”ออซซี่สรุปสถานการณ์ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว“ระหว่างเหตุการณ์นี้โนแลนยังเอ่ยถึงชื่อของคุณ โดยบอกว่าคุณกับแฟรงกี้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ผมเกรงว่าคุณจะเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์นี้“บางทีคุณควรจะเตรียมตัวรับมือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด…“หรือบางทีคุณควรจะจัดการกับฮาร์วีย์โดยเร็วที่สุด!”“ทำไมทุกวันนี้สภาธุรกิจภารตะถึงได้ไร้ประโยชน์ขนาดนี้?”โจเซฟยิ้ม“ดูเหมือนว่าเพื่อน ๆ ของเราจะหลงลืมตัวไปหน่อยหลังจากที่ทุกอย่า
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข