แม็ก บาวเออร์หรี่ตามองฮาร์วีย์ ยอร์กราวกับว่าเขาได้รับความกล้าอีกครั้งก่อนที่จะหัวเราะออกมา“ได้ยินไหมฮาร์วีย์?“หลานชายของฉันมีหลักฐานว่านายสังหารตระกูลโบวี่!“นายยังมีแรงจูงใจอีกด้วย!“นายจะว่ายังไงล่ะทีนี้?!”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ เมื่อเขามองแม็กก่อนที่จะหรี่ตามองออกัสต์ บาวเออร์“คุณมีภาพกล้องวงจรปิดของที่นี่งั้นเหรอ?”“แน่นอน!”ออกัสต์หรี่ตามองเขากลับเขาเคยอ่านเอกสารเกี่ยวกับฮาร์วีย์มาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าการเป็นศัตรูกับฮาร์วีย์ลำบากแค่ไหนเมื่อเขาได้เห็นฮาร์วีย์ด้วยตนเองเขาก็ตกใจมากที่ชายที่หนุ่มเช่นนี้จะสงบและควบคุมตนเองได้ขนาดนี้มันยากที่จะจินตนาการว่าชายหนุ่มเช่นนี้สามารถจัดการกับเดเวียน โฮลท์และขึ้นสู่อำนาจได้อย่างไรในขณะเดียวกัน ตำแหน่งต่าง ๆ ของฮาร์วีย์ยังทำให้ออกัสต์รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย‘ผู้ชายแบบนี้มีสิทธิอะไรถึงได้มีสถานะอันยิ่งใหญ่ขนาดนี้?’ออกัสต์เชื่อว่าฮาร์วีย์คือคนที่สังหารตระกูลพ่อตาของเขา ออกัสต์ได้รับสืบทอดทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเพราะเหตุนี้แต่เขาก็ยังต้องการบดขยี้ฮาร์วีย์ด้วยกฎหมายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคำอธิบายที่จะทำให้โจเซฟ บาวเออร์พึงพอใ
สีหน้าของราเชล ฮาร์ดีเคร่งขรึมทันที“เลิกใส่ร้ายคนอื่นได้แล้วออกัสต์ บาวเออร์!“ถ้าคุณมีหลักฐานจริง ๆ ก็แสดงมันออกมาสิ!”“ฮึ! แล้วถ้าเธอทำลายมันล่ะ?!”ออกัสต์หรี่ตามองราเชล เขารู้อะไรเกี่ยวกับลูกศิษย์ตัวท็อปของโอลิเวอร์ บาวเออร์มากมายเขาจึงมีท่าทางชั่วร้ายเมื่อเขามองรูปร่างที่สวยงามของราเชล“นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจน! ฆาตกรจะไม่มีโอกาสปฏิเสธเรื่องนี้ได้!”ออกัสต์หรี่ตาลง“เธอแตกต่างจากผู้ชายคนนี้นะราเชล เธอเป็นศิษย์อันดับต้น ๆ ของหลงเหมินมาตั้งแต่แรก!“นอกจากนี้ อาจารย์ของเธอไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของเขาเหมือนกันหรอกเหรอ?“แต่ตอนนี้เธอกลับยืนหยัดเพื่อเขา?“บรรพบุรุษของเธอจะว่ายังไงกับเรื่องนี้?”“อย่ามาสั่งสอนฉัน!”สายตาของราเชลเย็นชา เธอไม่คิดที่จะเคารพออกัสต์แม้แต่นิดเดียว“คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะมาพูดกับฉันแบบนั้น?“ถ้าฉันพบว่าคุณจงใจใส่ร้ายคุณยอร์กหรือมีอะไรผิดปกติกับภาพจากกล้องวงจรปิด...“ฉันจะเรียกร้องคำอธิบายจากคุณให้เร็วที่สุด!“ต่อให้คุณยอร์กจะปล่อยมันไป ฉันจะทำให้คุณต้องชดใช้อยู่ดี!“ฉันรู้ว่าคุณมาจากตระกูลบาวเออร์ ฉันรู้ด้วยว่าคุณประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง“แต่คน
ภาพจากกล้องวงจรปิดเบลอเล็กน้อย แต่มันเผยให้เห็นอาร์วีย์ ยอร์กจริง ๆภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นฮาร์วีย์อยู่สองครั้ง หนึ่งเมื่อเขาเข้าไปในคฤหาสน์โบวี่ และอีกครั้งเมื่อเขาออกมาก่อนที่เขาจะจากไปเขายังแสยะยิ้มให้กล้องอีกด้วยถ้าฮาร์วีย์ไม่มั่นใจว่าเขาไม่ใช่ฆาตกร เขาคงจะเชื่อว่าเขาฆ่าทั้งตระกูลโบวี่เช่นกันหลังจากที่เห็นภาพนั้นราเชล ฮาร์ดีขมวดคิ้วเช่นกัน นี่ไม่ใช่หลักฐานที่ชี้ขาด แต่มันพิสูจน์ได้ว่าฮาร์วีย์มีเวลาที่จะก่ออาชญากรรมดังกล่าว บวกกับแรงจูงใจของเขาแล้ว สิ่งนี้เกือบจะถือว่าเป็นหลักฐานที่ชี้ขาดได้แม็ก บาวเออร์หัวเราะออกมาหลังจากที่เห็นภาพดังกล่าว“ดู! นี่ไงหลักฐานว่านายเป็นฆาตรกร! ถึงจุดนี้แล้วนายยังจะพูดอะไรได้อีก?!”“นายอ้างว่านายไม่ได้ทำ แล้วคนในภาพนี้คือใคร?” ออกัสต์ บาวเออร์ถามอย่างใจเย็นฮาร์วีย์จ้องแม็กและออกัสต์ที่มีท่าทีคุกคามอย่างใจเย็น“หนึ่ง ผมไม่ใช่ฆาตกร“พวกคุณต่างก็เป็นนักสู้ที่มีประสบการณ์ คุณต้องรู้จักการปลอมตัวสิ“เท่าที่ผมจำได้ เหล่านักปวชปีศาจจากอินเดียและเหล่านินจาแห่งประเทศหมู่เกาะค่อนข้างเชี่ยวชาญในด้านนี้“สอง ผมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฆ่าจอร์แ
หลังจากที่เห็นความสงบของฮาร์วีย์ ยอร์กแล้ว สีหน้าของแม็ก บาวเออร์และออกัสต์ บาวเออร์ก็เปลี่ยนเล็กน้อย‘คนในภาพไม่ใช่ฮาร์วีย์หรอกเหรอ?’ พวกเขาคิดสีหน้าของผู้ตรวจการสองคนที่ดูแลคดีก็เปลี่ยนไปด้วย“ในเมื่อคุณว่าอย่างนั้น เราจะเรียกหนึ่งในนั้นมาเพื่อยืนยันคำให้การของคุณ“อย่าให้พวกเขากล่าวเท็จล่ะ”ผู้ตรวจการอีกคนยืนขึ้นและจดหมายเลขโทรศัพท์ของลิเลียน เยตส์ แมนดี้ ซิมเมอร์ และซีนเธียร์ ซิมเมอร์จากโทรศัพท์ของฮาร์วีย์ก่อนที่จะไปโทรหาพวกเธอในห้องข้าง ๆห้านาทีต่อมา ผู้ตรวจการก็กลับมาและจ้องฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่เย็นชา“ขอโทษด้วยครับคุณยอร์ก“เราโทรหาแม่ยายของคุณ“เธอบอกว่าเธอไม่ได้เจอคุณเลย เธอยังบอกว่าเธอไม่ต้องการเจอคุณด้วย“เราต้องจับคุณไว้ที่นี่ในฐานะผู้ต้องสงสัยก่อน…”แม็กและออกัสต์มองหน้ากันก่อนที่จะหัวเราะออกมา***ปัง!ครึ่งชั่วโมงต่อมา ที่ฐานของแก๊งขวานราเชล ฮาร์ดีและคนอื่น ๆ เดินเข้ามาในส่วนที่ลึกที่สุดของคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เย็นชาบอดี้การ์ดหลายสิบคนไม่กล้ายืนต่อหน้าราเชลหลังจากที่เห็นสีหน้าของเธอเธอเดินไปที่ทางเข้าก่อนที่จะเตะประตูลง“ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะลิเลียน!”
ลิเลียน เยตส์คิดว่าฮาร์วีย์ ยอร์กคงกังวลว่าเธอจะพูดถึงเหมืองทองคำในอนาคตเขาจึงส่งราเชล ฮาร์ดีมาเพื่อปิดปากเธอลิเลียนเดือดพล่านด้วยความโกรธในขณะนี้ในสายตาของเธอ เธอคงได้เป็นแม่ยายที่ร่ำรวยที่สุดเท่าที่เคยมีมาถ้าหากไม่มีฮาร์วีย์เธอจะไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่ทรุดโทรมแบบนี้!แม้แต่อากาศแถวนี้ก็ยังเหม็น!“บอกฉันมานะนางแพศยา! เธอได้นอนกับไอ้สารเลวนั่นไหม?!“ถ้าใช่ก็บอกฉันมาเลย! ฉันจะช่วยเธอด้วย!“เธอจะมีโอกาสได้คบกับเขาตราบใดที่เขาเลิกกับลูกสาวของฉัน!“หรือเธอจะบอกว่าเธออยากเป็นมือที่สามไปตลอดชีวิต?”“นี่คุณ…”ราเชลใกล้จะหมดความอดทน แต่เธอก็สามารถระงับความรู้สึกได้หลังจากที่เธอนึกถึงคุณค่าของตัวเอง“ฉันไม่สนว่าคุณจะมีความแค้นอะไรกับคุณยอร์ก ลิเลียน!” เธอกล่าวอย่างเย็นชา“ฉันไม่สนด้วยว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้น!“แต่คุณลองตอบฉันมาตรง ๆ สิ“ถ้าไม่ใช่เพราะแผนของคุณยอร์ก คุณคิดว่าคุณจะมีโอกาสได้ออกจากคุกจริงเหรอ?!“ถ้าไม่ใช่เพราะเขา คุณคิดว่าคุณจะอยู่ที่นั่นได้อย่างสบายขนาดนั้นเหรอ?!“คุณยอร์กทำเพื่อพวกคุณทุกคนมากมาย! แค่คุณไม่ขอบคุณเขาก็แย่พอแล้ว!“แต่คุณกล้าดียังไงม
“คุณยอร์กมาที่นี่เพื่อช่วยคุณและลูกสาวของคุณ!“เขาสู้กับผู้คนมากมายเพื่อประกันตัวคุณทั้งคู่ออกมา!“แค่คุณไม่ช่วยเขาเมื่อมีคนพยายามใส่ร้ายเขาก็แย่พอแล้ว แต่ทำไมคุณถึงได้กล้าใส่ไฟอีกด้วย?!“นี่คุณบ้าหรือเปล่า?!”ลิเลียน เยตส์ชะงักหลังจากที่ได้ยินคำพูดของราเชล ฮาร์ดี“ตำรวจ? คำยืนยัน?“นี่มันไปทำอะไรไว้?” เธอถาม“เขาไม่ได้ทำอะไรเลย!”ราเชลหัวเราะด้วยความเย็นชา“แต่เพราะคุณ เขาจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลักที่สังหารทั้งตระกูลโบวี่!“ไม่ต้องมามองฉันแบบนั้นเลย! ตระกูลของจอร์แดน โบวี่ คนเดียวกับที่ตบหน้าคุณ!“ตระกูลของเขาทั้งยี่สิบสามคนและสุนัขทั้งหมดถูกฆ่า!”ลิเลียนรู้สึกประหลาดใจก่อนที่จะมีสีหน้าโล่งใจ“ดี! ดี! ไอ้สารเลวนั่นกล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน?!“มันสมควรแล้วล่ะ!”“ดี?!”ราเชลโกรธเคืองอย่างยิ่ง“คุณเฉยกับเรื่องนี้ได้ยังไง?!“วิธีเดียวที่จะช่วยคุณยอร์กได้ในตอนนี้คือให้คุณและลูกสาวของคุณไปเป็นพยานให้เขาที่สถานีตำรวจ!“แต่ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันจะช่วยได้หรือไม่!”แววตาของลิเลียนลุกเป็นไฟก่อนที่เธอจะพยักหน้า“ได้! ได้! ฉันจะไปเรียกลูกสาวของฉันมาเดี๋ยวนี้!”หลังจากนั
แววตาของลิเลียน เยตส์เยือกเย็น“ฉันรู้มาเสมอว่าไอ้สารเลวนี้มันชอบใช้ความรุนแรง!“ฉันรู้ว่าไม่ช้าก็เร็วมันจะต้องทำอะไรแบบนี้! มันควรจะติดคุก!“วันนี้ฉันจะเอาคืนมัน!”แมนดี้ ซิมเมอร์มองแม่ของเธอด้วยความสับสน“แม่พูดแบบนั้นได้ยังไง?! เมื่อคืนนี้เราอยู่กับฮาร์วีย์จริง ๆ!“ตอนประมาณห้าทุ่มครึ่งแม่ยังขอคุยกับเขาสองต่อสอง แม่ถึงกับไล่พวกเราสองคนออกไป!“ตอนนั้นแม่คุยกับเขา! แม่พูดแบบนั้นได้ยังไง?!”“เป็นไปไม่ได้!” ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ตะโกนลั่น“พี่เขยอาจจะทำร้ายคนอื่น แต่เขาไม่ใช่ฆาตกร! เขาจะฆ่าทั้งตระกูลเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ทำไม?!“เห็นได้ชัดว่าเขาถูกใส่ร้าย!”ซีนเธียร์เชื่อมั่นในตัวฮาร์วีย์อย่างยิ่งถ้าฮาร์วีย์ต้องการฆ่าใครสักคนจริง ๆ เขาจะทิ้งร่องรอยของตัวเองไว้เพื่อที่จะถูกตามได้อย่างง่ายดายทำไม?ราเชล ฮาร์ดีกำลังหน้าเสียในขณะนี้จากทั้งสามคน ซีนเธียร์เป็นเพียงคนเดียวที่จะสามารถเป็นพยานให้ฮาร์วีย์ได้แต่ลิเลียนเพียงแต่ต้องการให้ฮาร์วีย์ตายเท่านั้น...ราเชลอยากจะบีบคอลิเลียนจนตายเดี๋ยวนั้น“หุบปาก!”ลิเลียนอยากจะตบซีนเธียร์เหลือเกิน แต่เธอก็พยายามรั้งตัวเองไว้เพราะ
ซีนเธียร์ ซิมเมอร์รู้สึกเศร้าโศกเมื่อเห็นแม่ของเธอพยายามใส่ร้ายฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างสิ้นหวังเธอรู้ดีว่าคำให้การของลิเลียน เยตส์สำคัญที่สุดจากพวกเธอทั้งสามข้อกล่าวหาของฮาร์วีย์จะเป็นโมฆะก็ต่อเมื่อลิเลียนคืนคำสิ่งที่เธอพูดเมื่อเช้าวันนั้นเท่านั้นแมนดี้ ซิมเมอร์ขมวดคิ้ว เธอเองก็เชื่อว่าฮาร์วีย์จะไม่ทำอะไรแบบนี้แต่เธอก็รู้จักนิสัยของแม่เธอดี มันจะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพยายามโน้มน้าวเธอในตอนนี้เมื่อพิจารณาจากนิสัยของลิเลียน ฮาร์วีย์คงไม่มีโอกาสที่จะล้างชื่อตนเองได้ถ้าเธอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็น “พยานร้าย” ของเขาเธอจะจดจำที่ฮาร์วีย์แทงเธอที่ฮ่องกงไปตลอดชีวิต...ความปรารถนาของเธอที่จะเป็นแม่ยายของตระกูลอันดับต้น ๆ ก็เป็นเหตุผลักดันให้เธอทำเช่นนี้ขณะที่แมนดี้พยายามหาวิธีโน้มน้าวแม่ของเธอ จู่ ๆ รถโรลส์รอยซ์แฟนธอมสองสามคันก็แล่นเข้ามาก่อนที่จะจอดหน้าสถานีตำรวจชายหนุ่มรูปงามในชุดสูทสีขาวลงมาจากรถผู้หญิงที่สวมแว่นตากรอบทองและชุดกระโปรงสวยงามถือร่มให้เขาขณะที่เดินเข้าไปในสถานีตำรวจชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโจเซฟ บาวเออร์เองผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากรูบี้ เมอร์เรย์
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข