ฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะปรบมือให้กับความไม่มีเหตุผลของลิเลียนเขาไม่คิดเลยว่าลิเลียนจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมอีกหลังจากไม่ได้พบเธอมาระยะหนึ่งฮาร์วีย์ยักไหล่“ผมไม่คิดว่าจะทำแบบนั้นเพื่อคุณได้หรอกนะ”“เอาแบบนี้ดีไหม? ผมจะประกันตัวแมนดี้ออกไป“คุณก็รออยู่ที่นี่และรอให้โจเซฟมาพาคุณออกไปแทน”หลังจากพูดเช่นนั้น ฮาร์วีย์ก็หันหลังกลับและเริ่มเดินจากไป“แม่ นี่มันจะเกินไปแล้วนะ! แค่ยกเหมืองทองคำให้เขาไปก็ได้แล้วนี่!”แมนดี้ไม่อาจระงับความขุ่นข้องหมองใจของตัวเองได้อีกต่อไป เธอหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดขึ้นใบหน้าของลิเลียนมืดลงทันที“เหมืองทองคำไม่ได้เป็นของแม่มาตั้งแต่แรกแล้ว! เลิกทำตัวไร้เหตุผลถึงขนาดนี้ได้หรือเปล่า!”ลิเลียนโกรธมาก“นี่แกคิดอะไรของแก! ฉันเป็นแม่ของแกนะ!“ถ้าแกไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับไอ้สารเลวนี่ นายน้อยลำดับที่สิบสามก็จะยอมทำตามสัญญาในส่วนของเขา!“เราจะไม่ต้องเจอปัญหาอะไรเลย!“หรือแกจะบอกว่าแกก็อิจฉาฉันด้วยอีกคน!”หลังจากต้องทนอยู่ในคุกมาหลายวัน ลิเลียนก็ไม่สามารถระงับอารมณ์และเริ่มลงไม้ลงมือเพี๊ยะ!แมนดี้เหวี่ยงหลังฝ่ามือของเธอไปบนใบหน้าของลิเลียน และส่งร่างของอีก
“นั่นแหละพวกเราถึงต้องมาอยู่ที่นี่ มันไม่สำคัญหรอกว่าเราได้ก่ออาชญากรรมขึ้นจริงหรือเปล่า”แมนดี้ถอนหายใจเฮือกใหญ่“แต่มีบางอย่างที่ฉันยังไม่เข้าใจ โจเซฟทำเรื่องมากมายเพื่อให้แม่ของฉันไว้วางใจและถึงกับยอมทำสัญญาไร้ขยะพวกนี้ แต่แล้วทำไมล่ะ“เป็นเพราะฉันไม่ตอบรับความรู้สึกของเขาเหรอ? นั่นเป็นเหตุที่ทำให้เขาเลือกที่จะแก้แค้นใช่ไหม?”“นั่นก็อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลของเรื่องที่เกิด จนมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะไปคิดถึงเรื่องที่แก้ไขไม่ได้แล้ว” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“มาคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า“คุณได้สำรองข้อมูลไว้บ้างหรือเปล่า?”“แน่นอน” แมนดี้ตอบอย่างเงียบ ๆ“ถึงแม้ว่าแม่จะค่อนข้างไม่มีเหตุผล แต่กับเรื่องธุรกิจแล้วเธอค่อนข้างระมัดระวังทีเดียว“พวกตำรวจมีสำเนาเกี่ยวกับสัญญาของเหมืองทองคำ“แต่สัญญาตัวจริงถูกเก็บอยู่ในล็อคเกอร์ของสนามบินนานาชาติฟลัตเวลล์”หลังจากได้ยินคำพูดของแมนดี้ ฮาร์วีย์รู้สึกประทับใจอันที่จริง ลิเลียนจะไม่ยอมอยู่เฉยจนกว่าจะแน่ใจว่าผลประโยชน์ของเธอจะปลอดภัย“บอกรหัสล็อคเกอร์เก็บของให้ผมหน่อย”ฮาร์วีย์ลุกขึ้นยืน“ในเมื่อโจเซฟต้องการปิดปากเราด้วยสัญญาน
ไม่นานหลังจากนั้น ชายหนุ่มในชุดสูทก็เดินเข้าไปข้างในอย่างสงบ พร้อมด้วยบอดี้การ์ดสองสามคนและเลขาประจำตัวผู้บริหารระดับสูงและผู้ถือหุ้นลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อเห็นว่าชายคนนั้นมาถึง“ซีอีโอเมอร์เรย์!” พวกเขาอุทานพร้อมกันบุคคลนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากออซซี่ เมอร์เรย์ ลูกน้องคนหนึ่งของโจเซฟในเวลาเดียวกัน เขายังดำรงตำแหน่ง ซีอีโอของบริษัทบริษัทฮาร์ทสโตนอีกด้วย ในขณะนี้เขาบริหารบริษัทแทนโจเซฟ“อืม”ออซซี่พยักหน้าให้ทุกคนก่อนจะหยิบชาดำหนึ่งแก้วจากเลขา หลังจากจิบไปเรื่อย ๆ เขาก็นั่งบนที่นั่งตรงกลางแล้วพูดว่า “เราได้แจ้งกองบังคับคดีของหลงเหมินให้ส่งตัวแทนของพวกเขามาที่นี่เพื่อการประชุมของเราแล้วหรือยัง?“ถ้าพวกเขาไม่มา ตามข้อตกลงของเรา เราจะดึงหุ้นทั้งหมดสามสิบเปอร์เซ็นต์ของพวกเขาคืน!”ก่อนที่จะพบเหมืองทองคำในฟลัตเวลล์ มีกองกำลังต่าง ๆ มากมายพยายามที่จะกระจายอำนาจของตัวเองในเมืองให้มากขึ้นแต่ทว่ากองบังคับคดีของหลงเหมินออกตัวเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยมิทเชลเป็นหัวหน้ากองบังคับคดีของหลงเหมิน เขาเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดของโจเซฟด้วยเมื่อบริษัทฮาร์ทสโตนตัด
หลังจากได้ยินคำพูดของออซซี่ ทุกคนก็ดูเห็นด้วยเป็นอย่างดี“ไม่ว่ากองบังคับคดีของหลงเหมินจะทรงพลังแค่ไหน กฎก็ยังเป็นกฎ!”“ถ้าเราไม่ทำตามกฎที่ว่าไว้เราก็คงรักษามาตรฐานเอาไว้ไม่ได้ ในเมื่อพวกเขาไม่สนใจหุ้นน้อยนิดเช่นนี้ เราก็จะดึงหุ้นกลับมาตามข้อตกลง!”“ถ้าคนของพวกเขามาขอหุ้นคืน เราก็จะแสดงให้พวกเขาเห็นถึงหลักฐานของการไม่มาประชุมทั้งสิบครั้ง”“สำหรับการพัฒนาของบริษัท เราต้องรักษาความยุติธรรมไว้แม้เราจะมีโอกาสเอาเปรียบอีกฝ่ายก็ตาม!”"ใช่แล้ว! มันควรจะเป็นอย่างนั้น!”ทุกคนสนับสนุนการตัดสินใจของออซซี่อย่างเต็มที่ในความเป็นจริง พวกเขาทั้งหมดล้วนมีความเกี่ยวพันอันลึกซึ้งกับโจเซฟพวกเขาทุกคนรู้ว่ามิทเชลทำเพื่อสิ่งนี้แล้วโจเซฟกังวลเพียงเกี่ยวกับความเป็นไปของบริษัท ซึ่งเป็นเหตุผลที่บอกได้ว่าทำไมเขาถึงจัดการประชุมมากมายถึงขนาดนี้ในชั่วข้ามคืน เขาทำทุกอย่างตามขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่ากองบังคับคดีของหลงเหมินจะมาเข้าร่วมไม่ได้เพื่อที่เขาจะได้รับหุ้นอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์ของอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญเช่นนี้ ทุกคนต่างร่วมมือกันเพื่อทำผลงาน“เฮ้อ! ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะท
“ช่างมันเถอะ“อย่างไรตอนนี้เราก็เหลือเรื่องที่จะคุยกันเพียงเรื่องเดียวแล้ว”ออซซี่เหลือบมองนาฬิการอยัล โอ๊ค บนข้อมือของเขาก่อนจะโบกมือ“หลังจากได้ข้อสรุปจากผู้บริหารระดับสูงและผู้ถือหุ้นแล้ว เราจะยกเลิกการถือหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่กองบังคับคดีของหลงเหมินเป็นเจ้าของลง“หุ้นจะถูกยึดคืนโดยนายน้อยสิบสาม สิ่งที่เราต้องทำคือ…”ปัง!ประตูห้องประชุมถูกเตะให้เปิดออกในทันทีฮาร์วีย์ ราเชลและคนอื่น ๆ เข้ามาพร้อมกับทนายความ ผู้ช่วย และเลขาหลายสิบคน"ขอโทษที่มาช้าไปหน่อย“นับจากนี้ไป ผมฮาร์วีย์ ยอร์กจะเข้าควบคุมบริษัทฮาร์ทสโตนโดยสมบูรณ์“พวกคุณทุกคนออกไปได้แล้ว”ฮาร์วีย์นั่งบนโซฟาอย่างสงบก่อนที่จะหรี่ตาลงผู้บริหารระดับสูงและผู้ถือหุ้นต่างตะลึงงัน แต่ทว่าพวกเขาก็กลับมามีสติได้อย่างรวดเร็ว"นายเป็นใคร?!"“กล้าดียังไงบุกเข้ามาในห้องประชุมแบบนี้!”“นายรู้ไหมว่าที่นี่มันที่ไหน”“นายวางแผนจะมาควบคุมบริษัทเนี่ยนะ? คิดว่าตัวเองเป็นราชาของโลกใบนี้หรือไง”ทุกคนเริ่มตะโกนเมื่อเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในห้องประชุมผู้ติดตามของออซซี่สองสามคนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าชอบธรรมและตะโกนออกไปว่า “ออกไปจากที่
ทุกคนตกใจมากห้องประชุมอันกว้างขวางตกอยู่ในความเงียบงันจริง ๆ แล้วทุกคนที่นั่นต่างเป็นบุคคลสำคัญของฟลัตเวลล์ผู้ติดตามของออซซี่แทบจะไม่ถือว่าอยู่ในแวดวงเดียวกันกับพวกเขา แต่ก็ยังค่อนข้างน่าประทับใจที่พวกเขาสามารถติดสอยห้อยตามออซซี่ได้ถึงกระนั้น เขาก็ยังถูกส่งให้กระเด็นไปด้วยการเตะจากหญิงสาวคนหนึ่งเพียงครั้งเดียวชื่อเสียงของออซซี่กำลังถูกท้าทายในเวลานั้น!เลขาสาวสวยตกใจมาก เธอปิดปากเพื่อกลั้นเสียงกรีดร้องของตัวเองสีหน้าของออซซี่มืดลงทันทีเขาลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ และกระทืบเท้าเข้าหาฮาร์วีย์ด้วยสายตาเยือกเย็น“นี่ไม่ใช่ที่ที่นายจะทำอะไรตามใจได้นะ ฮาร์วีย์!“นายมีปัญญารับผิดชอบหรือที่มาทำร้ายคนของฉันแบบนี้“นายคิดหรือเปล่าว่าหลังจากนี้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง”"โอ้!“หมายความว่าคุณรู้จักผมสินะ!”ฮาร์วีย์ก็ยืนขึ้นเช่นกันและเข้าหาออซซี่อย่างใจเย็น“ในเมื่อคุณรู้จักผม คุณก็น่าจะรู้ว่าผมเป็นคนทำให้มิทเชลพิการ ผมจะทำร้ายคนของคุณสักคนนึงมันจะเป็นอะไร“เพราะถ้าคุณไม่ยอมอยู่เฉย ๆ แล้วล่ะก็ ผมก็จะจัดการคุณด้วยเหมือนกัน”ดวงตาของออซซี่กระตุกก่อนจะตะโกนขึ้น “นายกล้าดียังไง ฮาร์วีย์
“บริษัทฮาร์ทสโตนไม่ใช่สถานที่ที่นายจะเข้ามาได้โดยไม่ได้รับอนุญาต!”“คุณไม่สามารถเอาชนะซีอีโอเมอร์เรย์ได้ด้วยเช่นกัน!”“ใครก็ได้โทรหาตำรวจที! จับสองคนนี้ไปซะ!”ผู้บริหารระดับสูงและผู้ถือหุ้นพยายามอย่างยิ่งที่จะที่คลายสถานการณ์บางคนถึงกับแสดงอาการไม่พอใจ ในขณะที่บางคนโทรเรียกตำรวจเพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ไม่คิดจะห้ามฝูงชนที่กำลังคุ้มคลั่งและส่งพวกเขาทุกคนให้กระเด็นไปด้วยการตบหน้า“ผมมีตราของกองบังคับคดีแห่งหลงเหมิน นั่นหมายความว่าผมถือหุ้นของบริษัทนี้เป็นจำนวนสามสิบเปอร์เซ็นต์” เขากล่าว“ในเวลาเดียวกัน ผมมีสัญญาที่ระบุอย่างชัดเจนว่าโจเซฟได้มอบหุ้นจำนวนสี่สิบเปอร์เซ็นต์แก่ผมแล้วเช่นกัน“พูดง่าย ๆ ก็คือ ผมมีอำนาจในการควบคุมบริษัทนี้ได้อย่างสมบูรณ์“ผมสามารถมาและไปได้ตามที่ต้องการ!“ผมทำร้ายออซซี่เพราะเขาพยายามแย่งส่วนแบ่งของผมไปด้วยวิธีอันไม่ชอบธรรม!“พวกคุณทุกคนควรรู้เรื่องนี้ เพราะพวกคุณอยู่ที่นี่มาตั้งแต่แรก“เพราะฉะนั้นผมขอแนะนำให้ทุกคนหุบปาก!“ผมจะให้เวลาพวกคุณสิบนาทีในการออกไปจากที่นี่ และแจ้งให้เจ้านายของคุณทราบ…“บริษัทฮาร์ทสโตนถูกเปลี่ยนมือแล้ว!“ตั้งแต่นี้ต
“ฮาร์วีย์!”การแสดงออกของออซซี่เปลี่ยนไปในทันที เขาทั้งโกรธและหวาดกลัว แต่เขาทำได้เพียงกัดฟันเพราะไม่อยากก้มหัวให้ใคร เขาถูกฮาร์วีย์เซอร์ไพรส์ด้วยการเข้ามาปลุกปั่นความวุ่นวายทั้งหมดนี้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าแม้แต่ครั้งเดียวเขารู้ดีว่าเขาจะต้องพบจุดจบอย่างเลวร้ายหากเขาต่อสู้กับฮาร์วีย์ในเวลานี้ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อาจหลีกหนีออกไปจากที่นี่ได้เพราะถ้าเขาทำแบบนั้น โจเซฟจะฆ่าเขา!ออซซี่สูตรหายใจเข้าลึกๆ และอุทานอย่างเย็นชา “นายกล้ามาก ฮาร์วีย์!“หลังจากทำให้นายน้อยสิบสามขุ่นเคือง นายศพไม่สวยแน่…“แล้วตอนนี้นายยังมาสร้างปัญหาให้กับบริษัทฮาร์ทสโตนอีก!“ต่อให้นายจะมีหุ้นของบริษัทถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วจะยังไงล่ะ?"ฉันจะบอกอะไรนายให้! ที่นี่ไม่ใช่มอร์ดู และนี่ก็ไม่ใช่บัควู้ดด้วย!“ที่นี่คือฟลัตเวลล์!“ฟลัตเวลล์ทั้งสูงส่งและทรงพลัง!“แม่น้ำของที่นี่ไหลเชี่ยวกราก นายจะทำอะไรตามใจตัวเองที่นี่ไม่ได้!“ฉันขอเตือนนายไว้เลย! นายควรจะมอบหุ้นและตำแหน่งของนายมาให้เราแทนจะดีกว่า!“ไม่อย่างนั้น นายจะตายอย่างศพไม่สวย!”เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังฝ่ามือไปบนใบหน้าของออซซี่ ทำให้อีกฝ่ายหลั
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข