“ใช้ได้เลยนี่ เลวได้ใจสุด ๆ” ฮาร์วีย์พูดพลางจับมือด้วยท่าทีสงบนิ่ง เขาไม่เคารพยอดฝีมือที่ว่าอีกต่อไป แจ็คไนฟ์ดูไม่แยแสราวกับว่าเขาไม่สนใจเกียรติภูมิของตัวเอง “แกคงจะไม่เข้าใจสินะ” แจ็คไนฟ์กล่าวเสียงเย็นชา “คนอย่างพวกเราเป็นเพชฌฆาต เครื่องมือ เงาของนายใหญ่ “ถ้านั่นเป็นสิ่งที่นายใหญ่ต้องการ ฉันก็ยอมสละทุกอย่างเพื่อจัดการกับศัตรูของตัวเอง “มีแค่แพ้กับชนะ ไม่มีความทระนงกับความยุติธรรมในสถานการณ์ชี้เป็นชี้ตายหรอกนะ แกเข้าใจฉันไหม?” “ฉันไม่เคยต้องเข้าใจเรื่องนี้มาก่อน และตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน” ฮาร์วีย์ตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ยังไงซะ คุณกับฉันก็เป็นคนสองคนที่แตกต่างกันมาก” “ถ้าคุณยังไม่เชื่อมั่นในตัวเอง งั้นคุณจะเป็นเทพสงครามแบบไหนกันเล่า?” แจ็คไนฟ์หัวเราะเสียงเย็นโดยไม่พูดอะไรสักคำเดียว เขาชูดาบขึ้นมาอีกครั้งพลางปลดปล่อยพลังเย็นยะเยือกของดาบมรณะไปทั่ว หวือ! เขาก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วเหวี่ยงดาบด้วยเรี่ยวแรงอันน่าสะพรึงกลัว ตอนนี้เขาจะต้องใช้พลังทั้งหมดที่มีอยู่ ยามที่เขาเหวี่ยงดาบของตนเอง บรรยากาศโดยรอบก็เย็นลงมากทันที หลังจากสัมผัสถึงเจตจำนง
ในสายตาของพวกเขาแล้ว ถ้าหากฮาร์วีย์ ยอร์กเก่งขนาดนั้นจริง ๆ ก็คงจะสังหารแจ็คไนฟ์ไปแล้ว แต่นับตั้งแต่แรกเขาก็ได้แต่หลบหลีกพลังโจมตี แม้แต่ดาบในมือของตัวเองก็หักเป็นสองท่อน เขาก็ยังเสแสร้งต่อไป แต่ทุกคนรู้ว่าเขากำลังจะตายในอีกไม่ช้าก็เร็ว ควินนี่ ยอร์กเองก็ขมวดคิ้วเช่นกัน ในฐานที่เป็นสมาชิกของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกง เธอย่อมรู้ดีว่าแจ็คไนฟ์แข็งแกร่งขนาดไหน เธอเกรงว่าฮาร์วีย์จะต้องมาจบชีวิตลงที่นั่น หลังจากเห็นฮาร์วีย์ยังคงไม่ได้รับบาดเจ็บ ดวงตาของแจ็คไนฟ์ก็สว่างวูบขึ้นมาเล็กน้อย เขากระโดดขึ้นกลางอากาศแล้วตวัดดาบลงไปข้างล่างอย่างรุนแรง “ดาบอสูร!” แจ็คไนฟ์แผดเสียงร้องด้วยความเกรี้ยวกราด ลำแสงเจิดจ้าสายหนึ่งพุ่งจากท้องฟ้าก่อนที่จะลากยาวไปหาฮาร์วีย์ ปลดปล่อยอีกกระบวนท่าสังหารออกมา! ช่างเป็นการโจมตีอันน่าพรั่นพรึง! เมื่อปะทะกับการโจมตีอันทรงพลังมากเสียจนสามารถแหวกผ่าท้องทะเลได้ ฮาร์วีย์กลับแลดูเมินเฉยก่อนจะพุ่งเข้าไปในนั้น แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง! พลังโจมตีแยกออกเป็นสามส่วนก่อนที่จะตัดดาบของฮาร์วีย์เป็นสามท่อน แสงสว่างทรงพลังมากเสียจนทำให้ดาบของฮาร์วีย์สั่นอย่างไม่อาจควบคุมได
แกร๊ง! ขณะที่แจ็คไนฟ์หัวเราะเสียงเย็น ดาบในมือของเขาก็เปล่งประกายน่าสะพรึงกลัว ในเมื่อเขาเปิดเผยตัวตนออกมาแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวตนอีก วิชาดาบแห่งประเทศหมู่เกาะที่เขาซุกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีจะถูกปลดปล่อยออกมาจนเกลี้ยงในตอนนี้ ทุกกระบวนท่าที่เขาใช้ผ่านการขัดเกลาและร้ายกาจยิ่งกว่ากระบวนท่าของอากิโอะ ยาชิโระ แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง! ยิ่งเขาเหวี่ยงดาบมากเท่าไหร่ พลังโจมตีของเขาก็ยิ่งดุเดือดมากขึ้นเท่านั้น “ในเมื่อแกเป็นชาวหมู่เกาะ…” หลังจากผุดยิ้มจาง ๆ ฮาร์วีย์ก็เอ่ยขึ้นมา “งั้นฉันก็คิดว่าจัดการกับแกได้แล้วล่ะ!” พลังอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงของฮาร์วีย์ปะทุขึ้นมา เพียงชั่วครู่เดียว พลังของเขาก็ล้นทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตกอย่างไม่อาจควบคุมได้ ฮาร์วีย์เหวี่ยงดาบออกมาแล้วร่างก็ซวนเซก่อนจะมาปรากฏตัวอยู่ข้าง ๆ แจ็คไนฟ์ จากนั้นเขาก็สะบัดฝ่ามือใส่โดยไร้ซึ่งความปรานี เพี๊ยะ! ตบดังกล่าวดูเหมือนการจู่โจมทั่วไป… แต่ผู้จัดการยอร์กและคนอื่น ๆ กลับตกตะลึงกับมันอย่างถึงที่สุด ฮาร์วีย์ยังคงไม่ยี่หระทั้ง ๆ ที่กำลังเผชิญหน้ากับแจ็คไนฟ์ หลังจากนั้นพวกเขาก็บอกได้อย่างหนึ่งว่า…
แจ็คไนฟ์ยากจะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงขั้นกระอักเลือดออกมาจากปาก แค่ก! หลังจากเห็นแจ็คไนฟ์กระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ผู้คนก็เงียบสงัดไป พวกเขากลั้นหายใจระหว่างที่มองดูภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกเหนือไปจากฮาร์วีย์ ยอร์กแล้ว ควินนี่ ยอร์ก ผู้จัดการยอร์กและบุรุษสวมเสื้อเชิ้ตสีเขียวล้วนแล้วแต่รู้สึกตกตะลึงสุดขีด คนที่เห็นเขาถูกตบจนฟันหลุดจากปากขยี้ตาตนเองแรง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แจ็คไนฟ์เป็นใครกัน?! เขาคือยอดฝีมือของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเชียวนะ! ว่ากันว่าเมื่อครั้งที่เขายังเยาว์วัยเคยสังหารคนตั้งแต่ผับเอเวอร์บลูไปจนถึงวงแหวนรอบนอก เขาไม่เพียงแต่จะชนะการต่อสู้ไปเสียทุกครั้ง ทว่าถึงกับสังหารคนที่ขวางทางเขาอีกนับร้อย เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าชายผู้ทรหดเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่แล้วเขากลับถูกพลังตบเพียงครั้งเดียวซัดเสียจนกระเด็นได้ยังไงกัน? เรื่องนี้ช่างน่าเหลือเชื่อ! เรื่องนี้มันชวนให้ตื่นตะลึงเกินไปแล้ว! “เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางเสียหรอก! “ไอ้สารเลวนั่นเอาชนะผู้แกร่งกล้าขนาดนั้นด้วยพลังตบเพียงครั้งเดียวไม่ได้หรอก! “เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย?! “หรือว่า
“น่าเสียดายที่แกไม่ได้ไตร่ตรองให้ดี “แกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันมาตั้งแต่แรกแล้ว “ทันทีที่ฉันเอาจริงขึ้นมา แกก็สกัดพลังตบไม่ได้สักครั้งเสียด้วยซ้ำไป “นักพรตกระบี่ที่ว่าทำได้มากสุดแค่นั้นเอง ฮาร์วีย์ ยอร์กผุดยิ้มจาง ๆ “บอกตามตรงว่า ฉันก็ค่อนข้างผิดหวังในตัวพวกแกอยู่นะ “แกไม่แข็งแกร่งนักก็จริง แต่กลับมีลูกไม้อยู่เต็มท้อง ในเมื่อแกไม่มีความแข็งแกร่ง ต่อให้มีลูกไม้เป็นกระบุงโกยก็เปล่าประโยชน์ “จะว่าไปแล้ว พวกแกเกลียดฉันมากเสียจนอยากจะให้ฉันตายไปจริง ๆ เชียวเหรอ? “แกฆ่าฉันไม่ได้หรอก” แจ็คไนฟ์ถลึงตามองฮาร์วีย์ด้วยความโกรธจัดพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ไอ้สารเลวน้อย ต่อให้ฉันจะฆ่าแกที่นี่ไม่ได้…” “แต่ประเทศหมู่เกาะก็เต็มไปด้วยยอดฝีมือ “แกห้ามไม่ให้พวกเราไล่ล่าแกไม่ได้หรอก “ไม่ช้าแกก็ต้องตาย!” ฮาร์วีย์เพียงแค่ยักไหล่ “น่าเสียดายที่ตอนนี้แกใกล้จะตายอยู่แล้ว!” จากนั้นฮาร์วีย์ก็เตะแจ็คไนฟ์จนกลิ้งลงกับพื้น เขากระอักเลือดออกมาคำหนึ่งก่อนจะเผยสีหน้าโกรธจัด ผู้จัดการยอร์กและคนอื่น ๆ ก็เป็นเดือดเป็นแค้นเช่นกัน พวกเขาไม่คิดว่าไพ่ตายของพวกตนจะถูกเตะลงไปกองเช่นนั้น เกิดเรื่
หลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ยอร์ก ผู้จัดการยอร์กก็โมโหเดือด “ฮาร์วีย์ ฉันรู้ว่าแกกำลังพยายามทำตัวให้เป็นที่ชมชอบ!” เขาเอ่ยขึ้นตามตรง “เพื่อกันไม่ให้ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงลงโทษแก แกก็เลยแต่งเรื่องโกหกที่ปรมาจารย์แจ็คไนฟ์เป็นสายลับของประเทศหมู่เกาะขึ้นมา! “แกก็แค่พยายามหาข้อแก้ตัวดี ๆ ให้กับนิสัยบ้าดีเดือดของตัวเอง! “แต่ฉันขอบอกอะไรแกอย่างนะ! ทำแบบนั้นไปก็ไม่ได้ผลหรอก! “แกไม่อาจคว้าชัยด้วยวิธีการเช่นนี้ได้หรอก!” “ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ว่าปรมาจารย์แจ็คไนฟ์เป็นใคร… “ต่อให้เขามาจากประเทศหมู่เกาะจริง ๆ เขาก็รับใช้ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงมาหลายปีเสียขนาดนั้นแล้ว! เขาจะเฝ้าจับตามองพวกเราอยู่หรือเปล่าก็ไม่สำคัญหรอก?! “ในเมื่อคุณย่ายอร์กเชื่อใจปรมาจารย์แจ็คไนฟ์ งั้นเขาก็ย่อมเป็นบ่าวรับใช้ผู้จงรักภักดีแน่ ๆ! ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก! “ถ้าแกฆ่าเขาเสียเดี๋ยวนี้ ก็รังแต่จะทำลายความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศ H กับประเทศหมู่เกาะ! “แกจะรับผิดชอบไหวเหรอ?! “นอกเหนือไปจากนั้น ถึงแกจะใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาชนะปรมาจารย์แจ็คไนฟ์มาได้ ในสายตาของฉันแล้ว นี่ไม่ใช่พลังที่แท้จริงหรอก!
แจ็คไนฟ์ตายแล้ว! แม้แต่ยามที่ตายไป สีหน้าของเขากลับฉายแววตกตะลึง โกรธเคืองและคับแค้นใจ หลังจากวางแผนและซ่อนตัวมาตลอดหลายปี เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาตายด้วยน้ำมือของฮาร์วีย์ ผู้จัดการยอร์กถึงกับเอ่ยคำเตือนแทนคุณย่ายอร์กเสียด้วยซ้ำไป! แน่นอนว่าต่อให้ฮาร์วีย์ใจกล้าบ้าบิ่นสุดขีด ทว่าตอนนี้เขาก็ไม่ทำอะไรโง่ ๆ หรอก… แต่เขากลับไม่สนใจอะไรเลย “ช่างเป็นศัตรูที่ตึงมือเสียจริง ๆ!” “ถ้าฮาร์วีย์ไม่ตาย ประเทศหมู่เกาะก็ย่อมต้องล่มสลายเป็นแน่…” ประกายแสงวูบหนึ่งผุดขึ้นในดวงตาของแจ็คไนฟ์… นอกเหนือไปจากความโกรธเคืองและคับแค้นใจแล้ว เขายังเต็มไปด้วยความกังวลใจอีกด้วย ศีรษะของเขาเอียงไปด้านข้างก่อนจะสิ้นใจในอ้อมแขนของผู้จัดการยอร์ก ทั่วทั้งสถานที่เงียบสงัด แจ็คไนฟ์… ยอดฝีมือคนก่อนของตระกูล… และเป็นอดีตราชันแห่งชินดัน เวย์… เทพสงคราม! นักพรตกระบี่! เขาตายแล้วงั้นเหรอ?! เพียงแค่นั่นน่ะหรือ?! แถมฮาร์วีย์ยังเป็นคงที่หักคอของเขาจนเป็นสองท่อนหลังจากสร้างความอัปยศอดสูให้แก่เขาอย่างถึงที่สุดอีกรึ?! ผู้จัดการยอร์กและคนอื่น ๆ ยังคงนิ่งเงียบ พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าหลังจากพูดเตือนไ
“ผมช่วยคุณจัดการกับสายลับจากประเทศหมู่เกาะแล้ว” ฮาร์วีย์ ยอร์กเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ถ้าคุณจะไม่ขอบคุณผมก็ไม่เป็นไรหรอก… “ทว่าตอนนี้คุณกำลังจ้องจับผิดผมด้วยเหตุผลบางอย่าง “คุณคิดจริง ๆ เหรอว่าผมจะไม่กล้าฆ่าคุณน่ะ?” “ฮาร์วีย์ คนนอกมีสิทธิ์เข้ามายุ่มย่ามกับเรื่องในตระกูลของพวกเราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!” ผู้จัดการยอร์กเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกเคยนึกถึงผลที่ตามมาของการเอาตัวเข้ามาพัวพันบ้างหรือเปล่า?! “เคยบ้างไหมล่ะ?! “คุกเข้าซะ ไม่งั้นฉันจะระดมสรรพกำลังมาจัดการกับแกเอง! “พอฉันจัดการกับแกได้เมื่อไหร่ แกก็จะต้องตายโดยไร้ที่ฝัง!” ผู้จัดการยอร์กหยิบโทรศัพท์ออกมาขู่ เตรียมพร้อมที่จะต่อสายหาเบอร์พิเศษ “คนรับใช้มีสิทธิ์มาวางก้ามในนามของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงนับตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” น้ำเสียงเรียบนิ่งทว่าหยิ่งทะนงดังขึ้นให้ได้ยิน เมื่อทุกคนหันกลับไปมอง ก็เห็นมาร์เซล ยอร์กที่สวมชุดสูทเดินเอามือไพล่หลังจากทางขึ้นเขา ตอนนี้เขาไม่ได้พาใครมาด้วย ราวกับว่าเขาแค่มาเดินเล่นรอบสวนไปเรื่อยเปื่อยเสียอย่างนั้นแหละ แต่ถึงกระนั้นรัศมีอันบอกไม่ถูกของชนชั้นสูงก็แผ่ซ่านออกมาจากร่า