ในขณะที่ควินนี่และโยอาน่ากำลังไตร่ตรองเกี่ยวกับสถานการณ์นี้...ภายในร้านดอกไม้บริเวณอ่าววิคตอเรีย...แกร๊ง!เล็กซี่ค่อย ๆ ดึงกระสุนที่ติดอยู่บนหลังของวินซ์ออกจากนั้นเธอก็เย็บแผลของเขาอย่างระมัดระวังก่อนที่จะวางยาครอบจักรวาลที่ชงเองมาให้เขา เหงื่อเย็นหยดลงจากศรีษะของวินซ์แต่ความโกรธแค้นในใจทำให้เขาหยุดคำรามไม่ได้ ดวงตาของเขาดูโกรธเกรี้ยว“ไอ้สารเลวนั่น!“เขากล้าดียังไง!“เขาทำให้เจสันเป็นศัตรูกับแกงั้นเหรอ?!“หมอนั่นบ้าไปแล้วหรือไง?!”คอรี่กระแทกแล็ปท็อปลงโต๊ะ และผลักมันไปให้วินซ์ภาพการถูกไล่ล่าของวินซ์ปรากฏบนหน้าจอ“เจสันเป็นบ้าไปแล้วเรอะ?!“เขาไม่รู้เหรอว่าใครเป็นมิตรใครเป็นศัตรู!“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะหันหลังให้แกเพียงเพราะฮาร์วีย์!“เขาคิดว่าเราจะไม่ฆ่าเขาเพราะเขาได้รับการสนับสนุนจากดินแดนพระอาทิตย์ฯงั้นรึ?”การแสดงออกของคอรี่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาในขณะที่เขาตะโกนด้วยความโกรธเขากังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของวินซ์ แต่ในขณะเดียวกัน ก็วิตกกังวลในสถานการณ์ปัจจุบันเจสันพ่ายแพ้ต่อฮาร์วีย์ ตามข้อตกลงที่พวกเขาทำร่วมกัน การหมั้นหมายของเจสันกับควินนี่จะถูกยกเลิกอย่
ขณะที่คอรี่และเล็กซี่กำลังวางแผนอย่างรอบคอบ...ท่ามกลางลมหนาวของฮ่องกง แขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวที่ด้านหน้าเดอะ การ์เด้น วิลล่าอันมีแสงสลัวเนื่องจากปัญหาลมและฝน สถานที่ที่เคยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาจึงหละหลวมลงเล็กน้อยภายในตัวอาคารหลัก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สัญจรไปมา คนเหล่านี้คือบอดี้การ์ดยอดฝีมือของเดอะ การ์เด้น วิลล่าหลังจากที่มาร์เซลนำบริวารส่วนใหญ่ออกไปกับเขาด้วย จึงมีคนเหลืออยู่ที่นี่ไม่มากนักชายลูกครึ่งในชุดอัศวินโผล่ออกมาจากเงามืดอาวุธปืนในมือของเขาติดตั้งกระบอกเก็บเสียงเอาไว้ ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า เขาก็ทำลายกล้องวงจรปิดทั้งหมดลงอย่างเงียบ ๆในเวลาเดียวกัน เขาก็เดินไปรอบ ๆ วิลล่าเพื่อให้แน่ใจว่าแถวนี้ไม่มีบอดี้การ์ดอยู่มากนัก จากนั้นเขาก็ส่งสัญญาณออกไปไม่กี่นาทีต่อมา ชายในชุดอัศวินแบบเดียวกันหลายคนก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมดาบอยู่ในมือ พวกเขาเดินเข้าไปในตัวอาคารหลักด้วยบันไดลิงเพราะเขาเคลื่อนไหวด้วยเสียงที่เบาราวกับขนนก ซึ่งไม่ได้ส่งเสียงเลยแม้แต่นิดเดียว"ไป!"หลังจากได้รับการยืนยันแล้วว่าสถานการณ์ปลอดโปร่งแล้ว หัวหน้าอัศวินก็ออกคำสั่ง ดวงตาของเขาเย็นช
สมาชิกระดับสูงมีอาวุธปืนซึ่งปลดเซฟตี้พร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว จุดสีแดงส่องไปที่โรซัคและคนของเขาก่อนที่พวกเขาจะทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำบนร่างของอัศวินทุกคนมีจุดแสงสีแดงอย่างน้อยคนละสี่จุดตอนนี้อัศวินผู้ดุร้ายกลัวเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่กล้าขยับแม้แต่นิ้วเดียวพวกเขารู้ดีว่าจุดสีแดงดังกล่าวคืออะไรหากพวกเขาทำอะไรโง่ ๆ ก็มั่นใจได้เลยว่าชีวิตของพวกเขาจะต้องเดินทางไปถึงจุดจบเมื่อมีคนเหนี่ยวไกปืนอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม อัศวินคนหนึ่งไม่เชื่อว่าสมาชิกระดับสูงของตระกูลยอร์กจะกล้าลงมือจริง เขากลิ้งไปด้านหน้าแล้วพุ่งเข้าหาเซลีน่า พร้อมที่จะจับเธอไปทั้งอย่างนั้น ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!กระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาอัศวินอย่าเงียบเชียบ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรูพรุนเหงื่อเย็นไหลลงทำให้หลังของโรซัคเปียกชุ่ม สมาชิกของอัศวินเทมพลาร์เละเป็นโจ๊กต่อหน้าต่อตาเขา!กลิ่นเลือดอบอวลไปในอากาศ ทำให้ทั่วทั้งสถานที่อึดอัดเป็นอย่างมาก ความตั้งใจของโรซัคและคนของเขาที่จะต่อสู้เพื่อชีวิตรอดถูกบั่นทอนลงทันที“นี่ฉันเพิ่งซื้อพรมมาใหม่เลยนะ…”เซลีน่าวางแล็ปท็อปของเธอลงด้วยความเศร้าสลดจากนั้นเธอก็หรี่ตามองไปยังโรซัคและ
"ฉันต้องยอมรับเลย! แม้ว่าเจ้าหญิงองค์ที่สี่ของคุณจะค่อนข้างน่ารังเกียจ แต่ก็ถือว่าเธอโหดเหี้ยมทีเดียว!“ทันทีที่เธอรู้ว่าเธอเสียเจสันไป เธอก็ทำการโต้กลับได้โดยไม่ลังเลเลย“แต่น่าเสียดายที่เธอต้องมาเจอกับฮาร์วีย์”เซลีน่าพูดถึงฮาร์วีย์ในลักษณะชื่นชมไม่น้อย ในตอนนี้เธอรู้สึกพึงพอใจในตัวว่าที่ลูกเขยมากขึ้นเรื่อย ๆใบหน้าของโรซัคเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว เมื่อได้ยินคำพูดของเซลีน่าเขาเพิ่งเริ่มลงมือเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ทุกอย่างได้รับการตัดสินใจอย่างกะทันหัน ใครมองก็รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะคิดได้เท่าทัน...แต่ฮาร์วีย์กลับสามารถมองเห็นแผนการทั้งหมดออกได้ชายคนนั้นจงใจวางกับดักเพื่อโรซัคโดยเฉพาะ!ความรู้สึกหวาดกลัวเต้นรัวอยู่ในอกของโรซัคเช่นเดียวกับความกลัวที่เขารู้สึกในสนามรบยูโร-อเมริกาโรซัครู้สึกหวาดกลัวต่อประเทศตะวันออกอันเก่าแก่ประเทศนี้มาก เขาไม่มีแรงแม้แต่จะยกปืนขึ้นด้วยซ้ำ...“วางอาวุธของคุณลงเถอะ” เซลีน่าพูดอย่างใจเย็น"ฉันอายุเยอะแล้ว ฉันไม่อยากฆ่าคน“แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่ฆ่าคุณ“คุณมาที่นี่เพื่อจบชีวิตของฉัน“ถ้าคุณคิดที่จะทำร้ายฉันจริง ๆ แล้วก
“คุกเข่าขอร้องผมสิ” ฮาร์วีย์ตอบอย่างสงบ“ถ้าคุณยอมทำ ผมจะให้โอกาสคุณได้ช่วยพวกเขา”'คุกเข่า?!''ขอร้อง?!'ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น แม้แต่ฟาเบียน มอร์แกน และคนอื่น ๆ ที่กำลังรับประทานอาหารเช้ากับฮาร์วีย์ ก็ยังถึงกับอ้าปากค้าง'เกิดอะไรขึ้น?!''เขาเพิ่งบอกว่าอยากให้เจ้าหญิงองค์ที่สี่คุกเข่างั้นเหรอ?!'ดินแดนพระอาทิตย์ฯ เป็นประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกมานานแสนนานแม้ว่าผู้สืบสันตติวงศ์ลำดับที่สี่แทบจะไม่มีโอกาสได้นั่งบนบัลลังก์ แต่สถานะของเธอก็ยังคงทรงพลังเป็นอย่างมากขณะที่เจ้าหญิงองค์ที่สี่เดินทางเป็นตัวแทนของดินแดนพระอาทิตย์ฯ เธอจะได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นผู้นำของประเทศประชาชนและแม้แต่ราชวงศ์ต่างก็ความเคารพต่อเธอบางคนถึงกับเขียนสุนทรพจน์ล่วงหน้าอยู่ตลอดทั้งเดือน เพียงเพื่อจะได้พูดเพียงไม่กี่ประโยคต่อหน้าเธอทุกคนคงไม่มีใครอยากจะทำให้เจ้าหญิงองค์ที่สี่และดินแดนพระอาทิตย์ฯขุ่นเคืองแต่ฮาร์วีย์กลับเรียกร้องให้เธอคุกเข่าและขอโทษนี่ไม่ใช่แค่การท้าทายอีกฝ่ายแล้วแต่เป็นการดูหมิ่นดินแดนพระอาทิตย์ฯอย่างที่สุด!เจ้าหญิงองค์ที่สี่เจอผู้คนมามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรก
ทุกคนรู้สึกงุนงงกับเหตุการณ์ที่กลับตาลปัตรตั้งแต่ที่ฮ่องกงเคยถูกดินแดนพระอาทิตย์ฯปกครอง แม้แต่ผู้ว่าราชการก็ยังต้องคุกเข่าข้างถนนเพื่อต้อนรับเจ้าหญิง...ทว่าตอนนี้ฮาร์วีย์กลับเป็นฝ่ายที่เรียกร้องให้เจ้าหญิงองค์ที่สี่ของดินแดนพระอาทิตย์ฯเป็นฝ่ายคุกเข่าลงเสียเอง!ยิ่งไปกว่านั้น เขากลับทำราวกับว่านี่เป็นเพียงเรื่องปกติธรรมดาเรื่องหนึ่ง เขาไม่ได้มีท่าทีเคารพต่อเจ้าหญิงองค์ที่สี่เลยแม้แต่น้อย!ไม่เพียงแต่อัตตาที่มีอยู่อย่างมากมายของเธอถูกทำร้ายเท่านั้น แต่ราชวงศ์ของดินแดนพระอาทิตย์ฯก็ถูกเหยียดหยามไปด้วยในขณะนี้ เจ้าหญิงองค์ที่สี่กำลังเดือดดาลด้วยความโกรธในเวลาเดียวกัน เธอก็รู้ดีว่าฮาร์วีย์กำลังบีบให้เธอจนมุมหากเธอคุกเข่า ไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องตกอยู่ในกำมือของเขาฮาร์วีย์และถ้าทุกคนรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ชื่อเสียงของเธอในดินแดนพระอาทิตย์ฯ จะต้องเสื่อมเสียไปโดยสิ้นเชิง“ไอ้สารเลวนี่ กล้าดียังไงมาดูถูกฉันแบบนี้?!”เจ้าหญิงองค์ที่สี่โกรธแค้นอย่างมากเธอหัวเราะลั่นอย่างเย็นชาก่อนจะเตะโต๊ะอาหารของฮาร์วีย์“ฉันจะเรียกกองกำลังทั้งหมดที่มีมาทำลายคาสิโน พาเลซบ้า ๆ ของนายให้ราบเป็นหน้
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอะไรไปไกลเลย…“หลังจากที่คุณพยายามลอบสังหารเลดี้จัดด์โดยคนของคุณเมื่อคืนนี้ ผมก็น่าจะจบชีวิตคุณด้วยการตบเพียงครั้งเดียวได้แล้ว“และผมกล้ารับประกันได้เลยว่าหลังจากที่คุณตาย ดินแดนพระอาทิตย์ฯจะไม่กล้าเปิดปากเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ!"คุณอยากจะลองดูไหม?"การแสดงออกของฮาร์วีย์เย็นชาราวกับน้ำแข็งสถานะอันสูงส่งของราชวงศ์ดินแดนพระอาทิตย์ฯไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลย“เพื่อเห็นแก่เจ้าหญิงวิคตอเรีย ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง“คุณจะยอมคุกเข่าหรือจะไสหัวออกไป“ก็เลือกเอาเองได้เลย”“นายนี่มันโอหังจริง ๆ เลยนะ!”สมาชิกผมบลอนด์ของอัศวินเทมพลาร์ตะโกนขึ้นอย่างโกรธเกี้ยว สหายของเขาลอยกระเด็นไปแล้วก็จริง แต่หลังจากได้เห็นเจ้าหญิงของเขาถูกทำให้ขายหน้า เขาก็กัดฟันและก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ลังเลอัศวินเทมพลาร์สาบานตนไว้ว่าจะปกป้องเจ้าหญิงของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะไม่มีวันยืนมองเจ้าหญิงของตนถูกทำร้ายอยู่เฉย ๆ “รูสเวลต์! อยู่เฉย ๆ!”แต่ทว่าเจ้าหญิงองค์ที่สี่ก็ปรามผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอไม่ให้ลงมือเธอรู้ดีว่าลูกน้องของเธอเทียบอะไรกับฮาร์วีย์ไม่ได้จากนั้นเธอก็ก้าวไปข้างหน้า ใบหน้า
นี่คือความอัปยศที่สุด!อัปยศที่สุดในชีวิต!ในขณะนี้ ใบหน้าของรูสเวลต์บิดเบี้ยวแปรเปลี่ยนสีหน้าน่าสยดสยองเขาพยายามจะลุกขึ้น แต่เรี่ยวแรงที่หัวเข่าของเขาเหือดหายไปหลังจากถูกสายตาเรียบเฉยของฮาร์วีย์จ้องมองร่างกายของเขากำลังเตือนเขาว่าเขาจะตาย หากเขาฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นยืนฮาร์วีย์เมินเฉยต่ออัศวินที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น และจ้องมองไปที่เจ้าหญิงองค์ที่สี่“เจ้าหญิงองค์ที่สี่ ดูเหมือนว่าอัศวินของคุณจะรู้หน้าที่เสียยิ่งกว่าคุณอีกนะ“คุณเหลือเวลาอีกสามวินาที…”“ไอ้สารเลว!”“นายล้ำเส้นเกินไปแล้ว!”อัศวินหลายคนกระโจนไปข้างหน้าพร้อมตะโกนใส่ฮาร์วีย์อย่างเกรี้ยวกราดแต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ลงมือ เอ็ดวินก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกลุ่มบอดี้การ์ดก็ขัดขวางพวกเขาไว้ทันที“หนึ่งวินาที…” ฮาร์วีย์พูดอย่างสบาย ๆ และนับต่อไป ราวกับว่าเขาไม่เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้น“ถ้าคุณยังเลือกไม่ได้ ก็ต้องขออภัยด้วย แต่ผมจะเลือกแทนเอง…”“ไอ้บ้านี่! ไอ้สารเลวเอ๊ย!”เจ้าหญิงองค์ที่สี่สั่นเทาด้วยความโกรธ ตั้งแต่ลืมตาดูโลกเธอไม่เคยถูกเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อนถึงกระนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์ที่เอาแต่พูดจาหน้าหงุด