ในขณะนี้ทุกคนคิดไปในทางเดียว ไทจิ อิชิกาวะมาที่นี่เพื่อบีบบังคับล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดและที่พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้ไม่อย่างนั้นแล้ว หลังจากที่ถูกเหยียดหยามขนาดนั้นเขาจะมาที่ทำไม?คอรี่ ยอร์กสามารถสงบสติอารมณ์ได้ก่อนที่จะคิดหาทางจัดการกับไทจิ“คุณอิชิกาวะ นายน้อยอิชิกาวะ เชิญทางนี้!”เมื่อคอรี่และคนอื่น ๆ ยืนขึ้นโดยคิดที่จะต้อนรับการมาของไทจิและคนอื่น ๆ พนักงานต้อนรับส่วนหน้าได้นำคนหลายสิบคนมาที่ห้องประชุมแล้วคนตรงหน้าเป็นหญิงสาวที่ดูคล้ายชาวประเทศหมู่เกาะซึ่งกำลังสวมชุดสูทหรูหราใบหน้าของเธอแสดงรอยยิ้มอย่างมืออาชีพขณะที่เธอเดินตามพนักงานหญิงจากแผนกต้อนรับมาอย่างรวดเร็วคนที่อยู่เบื้องหลังเธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไทอิจิซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอย่างยิ่งเลขาอากินะยังมีรอยฝ่ามืออยู่บนใบหน้าของเธอมาที่นี่พร้อมกับผู้ช่วย ฝ่ายกฎหมาย บอดี้การ์ด และคนอื่น ๆ...ฮาร์วีย์ ยอร์กชำเลืองมองผู้หญิงคนนั้นอย่างสงสัยและจำเธอได้ทันทีว่าชื่อยูกิโกะ อิชิกาวะ เธอเป็นผู้หญิงที่ฮาร์วีย์เหยียบย่ำในมอร์ดูเมื่อไม่นานนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ เขาคงจำปลาซิวปลาสร้อยแบบเธอไม่ได้เลยจ
คอรี่ ยอร์กแสดงท่าทีกระตือรือร้น“หากคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร เราจะทำทุกอย่างเท่าที่เราทำได้อย่างแน่นอน“ยิ่งไปกว่านั้น ในฮ่องกงหรือลาสเวกัสไม่มีอะไรที่ผมช่วยคุณไม่ได้!“แม้ว่าผู้คนจากล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดจะสามารถสร้างความขุ่นเคืองให้กับตระกูลอิชิกาวะอันทรงเกียรติ แต่ผมก็รับรองได้ว่าผมจะต้องชี้แจงกับคุณอย่างยุติธรรมได้อย่างแน่นอน”โดยธรรมชาติแล้ว คอรี่ยังคงคิดว่ายูกิโกะ อิชิกาวะพาคนมากมายมาที่นี่พร้อมกับเธอเพื่อเรียกร้องคำชี้แจงไม่อย่างนั้นแล้ว ด้วยสถานะของยูกิโกะ ทำไมเธอต้องเดินทางจากมอร์ดูมาที่นี่ด้วย?การที่เธอรีบร้อนมาที่นี่ แปลว่าเธอกำลังมีปัญหาอย่างชัดเจนส่วนเรื่องที่เธอสุภาพเช่นนี้ คอรี่ก็มองว่าเธอเป็นเรื่องปกติเพราะไม่ว่าอย่างไรก็ควรเจรจากันด้วยสันติก่อนเริ่มสงครามเสมอผู้คนจากประเทศหมู่เกาะเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศแห่งมารยาท แม้ว่าพวกเขาจะปะทะเข้ากับคนที่สังหารทั้งตระกูลของเขาลง พวกเขาก็ยังคงโค้งคำนับให้กันอย่างถูกต้องก่อนที่จะเริ่มฟาดฟันจึงไม่แปลกเลยที่ยูกิโกะจะยังสุภาพอยู่เช่นนี้ดันเต้ คาสโตรยิ้มและเดินไปข้างหน้าหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น“ประธานของเราคร
คอรี่ ยอร์กแข็งตัวเล็กน้อยก่อนที่จะฝืนยิ้ม“คุณอิชิกาวะ คุณคงเข้าใจอะไรผิดแล้ว“นายน้อยของตระกูลคือวินซ์ ยอร์ก ไม่ใช่ฮาร์วีย์ ยอร์กเสียหน่อย”ความหมายของคำเหล่านั้นนั้นเรียบง่าย ฮาร์วีย์ไม่ได้มาจากตระกูลยอร์กในฮ่องกงด้วยซ้ำ และไม่จำเป็นที่เธอต้องสุภาพต่อเขาขนาดนี้จากนั้นคอรี่ก็เดินไปทางไทอิจิ อิชิกาวะ พร้อมแสดงรอยยิ้มอันอบอุ่น“ผมได้ยินในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้แล้ว นายน้อยอิชิกาวะ “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไปเถอะ กรุณาลุกขึ้น"จากนั้นเขาก็พยายามยกไทอิจิขึ้นจากพื้นไทจิเพิกเฉยต่อเขาโดยสิ้นเชิงและยังคงคุกเข่าตบหน้าตัวเองอยู่แบบนั้น“ผมรู้สึกซาบซึ้งกับความมีน้ำใจของคุณมาก ประธานยอร์ก แต่เราต้องยอมรับความผิดพลาดของเรา! นี่คือกฎของตระกูลอิชิกาวะ!“เรามาที่นี่วันนี้เพื่อขอการอภัยจากคุณยอร์ก”ยูกิโกะเมินคอรี่และโค้งคำนับต่อหน้าฮาร์วีย์เห็นได้ชัดว่าคอรี่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรกับเรื่องนี้ และมีเพียงฮาร์วีย์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ แต่เธอไม่ได้พูดออกมาดัง ๆการแสดงออกของคอรี่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าทำไมยูกิโกะถึงแสดงความเคารพต่อฮาร์วีย์ขนาดนี้ และเขาไม่ป
คอรี่ ยอร์กและผู้บริหารระดับสูงหรี่ตาลงทุกคนรู้ดีว่าฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังเชือดไก่ให้ลิงดูที่ปรึกษาของควินนี่ ยอร์กกำลังเหยียบย่ำพวกเขาราวกับฝูงซากศพในอนาคตใครจะกล้าต่อต้านควินนี่อีก?พูดง่าย ๆ ก็คือ ตำแหน่งของควินนี่ในฐานะซีอีโอจะมั่นคงขึ้นหลังจากเหตุการณ์นี้“ขอบคุณคุณยอร์กให้ดีและปรับปรุงตัวเสีย”ยูกิโกะ อิชิกาวะเหลือบมองไทจิ อิชิกาวะ ขณะที่เธอโค้งคำนับอยู่ตลอดเวลา“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณยอร์ก บ่ายวันนี้นายคงโดนโยนไปทำอาหารปลาแล้ว "จงขอบคุณเขาซะ!"ทุกคนอ้าปากค้างหลังจากได้ยินคำพูดด้วยน้ำเสียงสงบของยูกิโกะ'ชาวประเทศหมู่เกาะโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้เชียว! พวกเขาไม่เพียงแต่ไร้ความปรานีต่อศัตรูเท่านั้น แต่ยังไม่สงสารพวกเดียวกันอีกด้วย!'ฮาร์วีย์เหลือบมองยูกิโกะด้วยความสนใจก่อนจะออกปากเตือนเธอเขารู้ว่าถ้าเขาไม่สามารถจัดการยูกิโกะได้ก่อน เขาคงจะต้องเป็นฝ่ายที่ต้องคุกเข่าและหักมือของตัวเองไม่ใช่ไทจิเนื่องจากการมาปรากฏตัวและความสุภาพของยูกิโกะ ฮาร์วีย์จึงไม่มีเหตุผลที่จะเล่นงานตระกูลอิชิกาวะอีก พูดง่าย ๆ ก็คือการอ่อนน้อมถ่อมตนของยูกิโกะทำให้เธอได้เปรียบเป็นอย่างมากในขณะนั้นเอง ฮาร
ในขณะที่คนอื่น ๆ มองเห็นแต่ผลกำไร ฮาร์วีย์ ยอร์กมองเห็นแผนการชั่วร้ายของยูกิโกะ อิชิกาวะที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความมีน้ำใจของเธอพูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าฮาร์วีย์เซ็นสัญญา เขาจะกลายเป็นภัยคุกคามภายในบริษัททั้งหมด แม้กระทั่งต่อตระกูลยอร์กของฮ่องกงด้วยซ้ำ!หากเป็นเช่นนั้นเขาจะต้องต่อสู้กับพวกเขาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!ยูกิโกะเข้าใจว่าฮาร์วีย์แข็งแกร่งเพียงใด เนื่องจากตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเป็นหนึ่งในห้าตระกูลลึกลับ พวกเขาจึงมีความแข็งแกร่งมหาศาลเช่นกันหากทั้งสองฝ่ายสู้กันให้ตายไปข้าง วงสังคมระดับสูงของประเทศ H ก็จะต้องถูกลากให้เข้ามาพัวพันด้วยข้อตกลงพิเศษมูลค่าสามปีแลกกับความสับสนวุ่นวายระหว่างฮาร์วีย์และตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงแล้ว...สำหรับชาวประเทศหมู่เกาะที่ปรารถนาเพียงให้ประชาชนในประเทศ H ทนทุกข์นี่เป็นข้อตกลงที่ทำกำไรได้อย่างมหาศาลฮาร์วีย์ยื่นมือออกมาและเชยกรามอันสวยงามของยูกิโกะขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นโดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ“สามปีมันไม่พอหรอก คุณอิชิกาวะ “ผมยังมีเงื่อนไขอีกสองข้อ”ยูกิโกะตัวแข็งเล็กน้อยก่อนจะแสดงรอยยิ้มอ่อนโยนตามปกติออกมา“ตระกูลของเราจะตอบสนองความต้องการของคุ
เมื่อควินนี่ ยอร์กลงนามในสัญญา สิ่งที่เกิดขึ้นกับอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นก็สิ้นสุดลงตำแหน่งของควินนี่ภายในบริษัทและตระกูลนั้นแทบจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือหลังจากที่เห็นยูกิโกะ อิชิกาวะและคนอื่น ๆ เดินโซซัดโซเซออกไปจากห้อง ฮาร์วีย์ ยอร์กก็หันไปทางดันเต้ คาสโตรอย่างใจเย็นดันเต้มีเสียหน้าเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันและพยายามถอยหลังหนี“คุณจำเดิมพันที่เราลงกันไว้เมื่อวานได้ไหม ผู้จัดการคาสโตร?” ฮาร์วีย์ถามอย่างใจเย็น“ถ้าผมได้สัญญาฉบับนั้นมาคุณก็ควรออกไปจากบริษัทนี้ถูกไหม?“แล้วคุณคิดจะออกไปเมื่อไหร่?”ผู้บริหารระดับสูงมองหน้ากัน หลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ไม่มีใครคิดว่าฮาร์วีย์จะเอ่ยถึงเรื่องนี้ในตอนนี้ใบหน้าของดันเต้ซีดลง“ฉัน… ฉัน… ฉัน…” เขาพึมพำ“ในเมื่อนายตกลงกับที่ปรึกษายอร์กไปแล้ว นายก็ควรออกไปซะ“และเพราะนายทุ่มเททำงานให้กับล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดมาหลายปีแล้ว ฉันจะให้ค่าชดเชยเป็นจำนวนหนึ่งปี! แล้วอย่าคิดจะเสนอหน้ามาให้ฉันเห็นอีก!"เร็วเข้า! เอาเงินให้เขาแล้วโยนเขาออกไปเดี๋ยวนี้!”คอรี่ ยอร์กทำทีเป็นแสดงความชอบธรรม แต่ในความเป็นจริง เขายังคงพยายามปกป้องดันเต้ท้ายที่สุ
"นาย…"คอรี่ ยอร์กกำลังเดือดดาลด้วยความโกรธก่อนจะจากไปทันทีในขณะที่จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างเย็นชาฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ ชื่อเสียงของคอรี่ภายในบริษัทย่อยยับลงแล้วมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่ควินนี่ ยอร์กจะก้าวขึ้นไปแทนที่***“ไอ้สารเลวนั่น!”ภายในอาคารสำนักงานที่อ่าววิคตอเรีย คอรี่ยังไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ถ้วยชาในมือของเขาสั่นอย่างแรง เห็นได้ชัดว่าเขายังคงโกรธแค้นอยู่จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่วินซ์ ยอร์กก่อนที่จะเอ่ยปากอย่างเย็นชาว่า “ฉันบอกแกหลายครั้งแล้ววินซ์ ยอร์ก! อย่าไปยุ่งกับคนของน้องสี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเซลีน่า จัดด์!“น้องสี่หวงแหนผู้หญิงคนนั้นยิ่งกว่าใคร!“ไม่ว่าแกคิดจะทำอะไร อย่าไปยุ่งกับเธอเด็ดขาด!“และดูซิมันเกิดอะไรขึ้น? แกไม่เพียงแต่ไปหาเรื่องเธอเท่านั้น แต่ทำให้อาสี่ของแกโกรธอีกต่างหาก! ตอนนี้เขายังพาลูกสาวคนโปรดมาสู้กับแกอีก!“แล้วแกจะทำยังไง?!“เหลืออีกเพียงห้าวันก็จะถึงงานเลี้ยงวันเกิดบ้านั่นแล้ว!“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแกจะทำให้เรื่องมันวุ่นวายไปใหญ่โตได้ขนาดนี้…“ติดกระดุมผิดหนึ่งเม็ด ล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเด็กผ
หลังจากมองคอรี่ ยอร์กอย่างเย็นชา เล็กซี่ ยอร์กก็พูดว่า “นี่พี่กำลังจะบอกว่าวินซ์ และฉันต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียของพี่เหรอ?“เพราะว่าเราไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับพี่ เพราะงั้นพี่ถึงต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ทรมานเพราะมันใช่ไหม?”“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” คอรี่ตอบอย่างเย็นชา“ฉันแค่จะบอกว่าถ้าเรามีข้อมูลที่ถูกต้อง ครั้งนี้เราอาจจะได้เปรียบ“มาถึงจุดนี้แล้ว จะโทษคนอื่นไปก็เปล่าประโยชน์“เราต้องโทษที่ไอ้สารเลวนั่นที่หัวดีเกินไป และต้องโทษนางสารเลวนั่นด้วยที่สมคบคิดกับศัตรู!”“นี่เป็นความผิดของผมเอง พ่อ”วินซ์ซึ่งเงียบงันตลอดเวลาเอ่ยปากขึ้นในที่สุด เขาเดินไปหาคอรี่และโค้งคำนับเล็กน้อย“ผมประเมินทั้งฮาร์วีย์และควินนี่ต่ำไป“ผมเอาแต่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นรู้แค่วิธีการฆ่าและหลังจากไปอยู่ในล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดก็คงต้องถูกควบคุมเอาได้ง่าย ๆ…“ผมไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น“ทั้งฮาร์วีย์และควินนี่ต่างไม่ใช่คนที่เราจะรับมือได้ง่ายเลย!“ผมรู้ว่าพ่อยังโมโหอยู่ แต่พ่อกับคุณน้าไม่ควรทะเลาะกันตอนนี้“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฮาร์วีย์และควินนี่“และเป็นความผิดของผมด้วย“แต่นี่ไม่ใช่
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข