“อะแฮ่ม!”ชายที่อยู่ในวัยห้าสิบผู้ซึ่งสวมแว่นตากรอบทองและชุดสูททูนิกซึ่งเต็มไปด้วยรัศมีของชนชั้นสูง คอรี่ ไอเบา ๆเขานั่งตัวตรงและพลิกดูเอกสารตรงหน้า จากนั้นหรี่ตาลงที่ควินนี่“ควินนี่ ทุกอย่างที่ผู้จัดการคาสโตรพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?“เธอมีอะไรจะแก้ตัวหรือเปล่า?”เขาไม่ได้ถามฮาร์วีย์โดยตรง ในสายตาของเขา ฮาร์วีย์เป็นเพียงแมงดาไร้ยางอายเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องถามฮาร์วีย์“ทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง”ควินนี่ไม่แยแสและไร้อารมณ์ เอ่ยออกมาตามตรง“แต่เขาไม่ได้บอกคือเหตุผลที่ฮาร์วียทำแบบนั้น“นายน้อยอิชิกาวะ และชาวประเทศหมู่เกาะกำลังทำร้ายพนักงานของเราตามอำเภอใจ“ฮาร์วีย์ต้องการยืนหยัดเพื่อพวกเธอ เขาถึงได้จัดการนายน้อยอิชิกาวะ และพรรคพวก“ฉันคิดว่าสิ่งที่ฮาร์วีย์ทำถูกต้องแล้ว“ถ้าคุณคิดว่าเขาควรรับผิดชอบเรื่องนี้ ฉันจะขอรับผิดทั้งหมดแทนเขาเอง“และสิ่งอื่นใด ฉันได้พูดเอาไว้แล้วว่าคำพูดของเขาก็คือคำพูดของฉัน และการกระทำของเขาก็คือเป็นการกระทำของฉันเช่นกัน“ฉันจะไม่กลับคำพูด”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่ควินนี่อย่างอยากรู้อยากเห็น เขาไม่คิดว่าเธอจะมีเสน่ห์เช่นนี้ดันเต้ห
“อีกอย่าง ต่อให้เธอจะไม่พอใจ เธอก็ไม่ควรทำตัวกระด้างกระเดื่องใส่พวกเขาและไม่ควรตบหน้าเลขาอากินะด้วย!“ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นผู้หญิงของนายน้อยอิชิกาวะ !“ถ้าคิดว่าเราจะได้อะไรจากการตบตีผู้หญิงของนายน้อยอิชิกาวะ?“การทำข้อตกลงกับตระกูลอิชิกาว่าถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของบริษัทเราในปีนี้“หากเราสามารถทำข้อตกลงกับพวกเขาได้ หุ้นของเราจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า!“แต่เพราะเธอ ข้อตกลงสำคัญนี้ถึงได้พังไม่เป็นท่า!คอรี่มีสีหน้าผิดหวัง“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่ง! ฉันผิดหวังจริง ๆ!“ฉันจะขอคำชี้แจงจากน้องสี่ในเรื่องนี้!“แม้ว่าเขาจะเป็นพวกเลือกที่รักมักที่ชัง แต่นั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการเลือกคนมาทำงานบริษัท!“เอาแบบนี้ดีไหม? ไปเขียนจดหมายลาออกด้วยตัวเองซะ แล้วฉันจะปล่อยเธอไป“ฉันจะไปบอกให้น้องสี่เลิกโยนคนไร้ประโยชน์มาให้ฉันสักที”“ล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดเป็นแหล่งทำงานของตระกูลเรา!“นี่ไม่ใช่ที่ที่จะโยนลูกรักของใครเข้ามาได้!”ควินนี่ขมวดคิ้ว หากคอรี่เพียงคิดจะต่อต้านเธอเพียงคนเดียว เธอจะไม่รู้สึกขุ่นเคืองมากนักแต่เธอค่อนข้างไม่พอใจเมื่อได้ยินว่าคอ
“เลิกพูดจาใหญ่โตได้แล้ว ฮาร์วีย์ ยอร์ก!“นายบอกว่านายจะทำเงินได้โดยไม่ต้องละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง...“ไม่ใช่แค่นายตบหน้าเลขาอากินะถึงสองครั้งเท่านั้น แต่นายยังไล่นายน้อยอิชิกาวะไปจากอาคารเวรนี่ด้วย!“ตอนนี้ บอกฉันมาสิว่านายจะหาเงินยังไง!“เวลาใกล้จะหมดลงแล้ว…“อย่าบอกนะว่านายน้อยอิชิกาวะจะมาขอร้องให้นายเซ็นสัญญาทีหลัง!“ชื่อฮาร์วีย์ใช่หรือเปล่า?”คอรี่ ยอร์กพลิกหน้าเอกสารของเขาและมองไปที่หน้าของฮาร์วีย์ เมื่อเขาเห็นคำอธิบายของฮาร์วีย์ รูม่านตาของเขาก็หดตัวลงเล็กน้อยในขณะที่แสดงสีหน้าเย็นชาบนใบหน้าของเขา“ฉันยอมรับเลยว่านายค่อนข้างมีฝีมือ และนายได้ทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากมายในฮ่องกงและลาสเวกัสเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายได้รับความนิยมค่อนข้างมากทีเดียว“แต่ธุรกิจมันไม่ใช่แบบนี้!“ไม่ว่านายจะแข็งแกร่งและมีชื่อเสียงแค่ไหน ถ้าไม่มีใครให้ความเคารพ นายก็ทำเงินไม่ได้หรอก!“เพราะการกระทำของนาย นายได้ทำลายโอกาสในการสร้างรายได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ให้กับบริษัท! มาถึงขนาดนี้แล้ว นายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชดใช้อย่างสาสม”คอรี่แสดงสีหน้าเยือกเย็นในตอนนั้น“อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำสอง พวกเธอสองคนไ
ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้มอย่างสงบขณะที่เขายักไหล่“เดิมที มันก็แค่ข้อตกลงธรรมดา ๆ กับอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่น ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ทำเงินได้แค่ไม่กี่ร้อยล้านดอลลาร์ต่อปีเท่านั้นเอง เงินเล็กน้อยแค่นี้จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตแบบนี้ด้วยเหรอ?”ดันเต้ คาสโตรหัวเราะเย้ยหยัน“เป็นแค่ข้อตกลงธรรมดา ๆ งั้นเหรอ?“เงินแค่ไม่กี่ร้อยล้านดอลลาร์ต่อปีเนี่ยนะ?“นายหน้าด้านขนาดไหนกันฮาร์วีย์?!”แม้แต่ดันเต้ก็ยังหัวเราะด้วยความโกรธในขณะนี้สตรีระดับสูงสองสามคนปิดปากเพื่อซ่อนการหัวเราะเย้ยหยัน ในสายตาของทุกคน ฮาร์วีย์เป็นเพียงคนโง่เขลา“นี่พูดจริงเหรอ ฮาร์วีย์?”“ถ้าทุกเรื่องมันง่ายสำหรับนายขนาดนั้น เอาสัญญาออกมาสิ!”“แทนที่จะได้สัญญามา นายจะได้หมายจากศาลเสียมากกว่า!”“นายน้อยอิชิกาวะจะไม่ยอมปล่อยนายที่ไปทำร้ายลูกน้องของเขาง่ายๆแน่!”ผู้บริหารระดับสูงจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเหยียดหยาม ในสายตาของพวกเขา ฮาร์วีย์ไม่ต่างอะไรจากตัวตลกฮาร์วีย์มองนาฬิกาโรเล็กซ์บนข้อมือแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า "เกือบจะสิบโมงแล้ว“ไทจิ อิชิกาวะกำลังจะมาที่นี่เพื่อขอลายเซ็นผมแล้ว”ดันเต้เกือบจะยืนไม่อยู่ไม่ได้ยินเช่นนั้น เขาคิด
ในขณะนี้ทุกคนคิดไปในทางเดียว ไทจิ อิชิกาวะมาที่นี่เพื่อบีบบังคับล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดและที่พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้ไม่อย่างนั้นแล้ว หลังจากที่ถูกเหยียดหยามขนาดนั้นเขาจะมาที่ทำไม?คอรี่ ยอร์กสามารถสงบสติอารมณ์ได้ก่อนที่จะคิดหาทางจัดการกับไทจิ“คุณอิชิกาวะ นายน้อยอิชิกาวะ เชิญทางนี้!”เมื่อคอรี่และคนอื่น ๆ ยืนขึ้นโดยคิดที่จะต้อนรับการมาของไทจิและคนอื่น ๆ พนักงานต้อนรับส่วนหน้าได้นำคนหลายสิบคนมาที่ห้องประชุมแล้วคนตรงหน้าเป็นหญิงสาวที่ดูคล้ายชาวประเทศหมู่เกาะซึ่งกำลังสวมชุดสูทหรูหราใบหน้าของเธอแสดงรอยยิ้มอย่างมืออาชีพขณะที่เธอเดินตามพนักงานหญิงจากแผนกต้อนรับมาอย่างรวดเร็วคนที่อยู่เบื้องหลังเธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไทอิจิซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอย่างยิ่งเลขาอากินะยังมีรอยฝ่ามืออยู่บนใบหน้าของเธอมาที่นี่พร้อมกับผู้ช่วย ฝ่ายกฎหมาย บอดี้การ์ด และคนอื่น ๆ...ฮาร์วีย์ ยอร์กชำเลืองมองผู้หญิงคนนั้นอย่างสงสัยและจำเธอได้ทันทีว่าชื่อยูกิโกะ อิชิกาวะ เธอเป็นผู้หญิงที่ฮาร์วีย์เหยียบย่ำในมอร์ดูเมื่อไม่นานนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ เขาคงจำปลาซิวปลาสร้อยแบบเธอไม่ได้เลยจ
คอรี่ ยอร์กแสดงท่าทีกระตือรือร้น“หากคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร เราจะทำทุกอย่างเท่าที่เราทำได้อย่างแน่นอน“ยิ่งไปกว่านั้น ในฮ่องกงหรือลาสเวกัสไม่มีอะไรที่ผมช่วยคุณไม่ได้!“แม้ว่าผู้คนจากล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดจะสามารถสร้างความขุ่นเคืองให้กับตระกูลอิชิกาวะอันทรงเกียรติ แต่ผมก็รับรองได้ว่าผมจะต้องชี้แจงกับคุณอย่างยุติธรรมได้อย่างแน่นอน”โดยธรรมชาติแล้ว คอรี่ยังคงคิดว่ายูกิโกะ อิชิกาวะพาคนมากมายมาที่นี่พร้อมกับเธอเพื่อเรียกร้องคำชี้แจงไม่อย่างนั้นแล้ว ด้วยสถานะของยูกิโกะ ทำไมเธอต้องเดินทางจากมอร์ดูมาที่นี่ด้วย?การที่เธอรีบร้อนมาที่นี่ แปลว่าเธอกำลังมีปัญหาอย่างชัดเจนส่วนเรื่องที่เธอสุภาพเช่นนี้ คอรี่ก็มองว่าเธอเป็นเรื่องปกติเพราะไม่ว่าอย่างไรก็ควรเจรจากันด้วยสันติก่อนเริ่มสงครามเสมอผู้คนจากประเทศหมู่เกาะเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศแห่งมารยาท แม้ว่าพวกเขาจะปะทะเข้ากับคนที่สังหารทั้งตระกูลของเขาลง พวกเขาก็ยังคงโค้งคำนับให้กันอย่างถูกต้องก่อนที่จะเริ่มฟาดฟันจึงไม่แปลกเลยที่ยูกิโกะจะยังสุภาพอยู่เช่นนี้ดันเต้ คาสโตรยิ้มและเดินไปข้างหน้าหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น“ประธานของเราคร
คอรี่ ยอร์กแข็งตัวเล็กน้อยก่อนที่จะฝืนยิ้ม“คุณอิชิกาวะ คุณคงเข้าใจอะไรผิดแล้ว“นายน้อยของตระกูลคือวินซ์ ยอร์ก ไม่ใช่ฮาร์วีย์ ยอร์กเสียหน่อย”ความหมายของคำเหล่านั้นนั้นเรียบง่าย ฮาร์วีย์ไม่ได้มาจากตระกูลยอร์กในฮ่องกงด้วยซ้ำ และไม่จำเป็นที่เธอต้องสุภาพต่อเขาขนาดนี้จากนั้นคอรี่ก็เดินไปทางไทอิจิ อิชิกาวะ พร้อมแสดงรอยยิ้มอันอบอุ่น“ผมได้ยินในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้แล้ว นายน้อยอิชิกาวะ “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไปเถอะ กรุณาลุกขึ้น"จากนั้นเขาก็พยายามยกไทอิจิขึ้นจากพื้นไทจิเพิกเฉยต่อเขาโดยสิ้นเชิงและยังคงคุกเข่าตบหน้าตัวเองอยู่แบบนั้น“ผมรู้สึกซาบซึ้งกับความมีน้ำใจของคุณมาก ประธานยอร์ก แต่เราต้องยอมรับความผิดพลาดของเรา! นี่คือกฎของตระกูลอิชิกาวะ!“เรามาที่นี่วันนี้เพื่อขอการอภัยจากคุณยอร์ก”ยูกิโกะเมินคอรี่และโค้งคำนับต่อหน้าฮาร์วีย์เห็นได้ชัดว่าคอรี่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรกับเรื่องนี้ และมีเพียงฮาร์วีย์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ แต่เธอไม่ได้พูดออกมาดัง ๆการแสดงออกของคอรี่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าทำไมยูกิโกะถึงแสดงความเคารพต่อฮาร์วีย์ขนาดนี้ และเขาไม่ป
คอรี่ ยอร์กและผู้บริหารระดับสูงหรี่ตาลงทุกคนรู้ดีว่าฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังเชือดไก่ให้ลิงดูที่ปรึกษาของควินนี่ ยอร์กกำลังเหยียบย่ำพวกเขาราวกับฝูงซากศพในอนาคตใครจะกล้าต่อต้านควินนี่อีก?พูดง่าย ๆ ก็คือ ตำแหน่งของควินนี่ในฐานะซีอีโอจะมั่นคงขึ้นหลังจากเหตุการณ์นี้“ขอบคุณคุณยอร์กให้ดีและปรับปรุงตัวเสีย”ยูกิโกะ อิชิกาวะเหลือบมองไทจิ อิชิกาวะ ขณะที่เธอโค้งคำนับอยู่ตลอดเวลา“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณยอร์ก บ่ายวันนี้นายคงโดนโยนไปทำอาหารปลาแล้ว "จงขอบคุณเขาซะ!"ทุกคนอ้าปากค้างหลังจากได้ยินคำพูดด้วยน้ำเสียงสงบของยูกิโกะ'ชาวประเทศหมู่เกาะโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้เชียว! พวกเขาไม่เพียงแต่ไร้ความปรานีต่อศัตรูเท่านั้น แต่ยังไม่สงสารพวกเดียวกันอีกด้วย!'ฮาร์วีย์เหลือบมองยูกิโกะด้วยความสนใจก่อนจะออกปากเตือนเธอเขารู้ว่าถ้าเขาไม่สามารถจัดการยูกิโกะได้ก่อน เขาคงจะต้องเป็นฝ่ายที่ต้องคุกเข่าและหักมือของตัวเองไม่ใช่ไทจิเนื่องจากการมาปรากฏตัวและความสุภาพของยูกิโกะ ฮาร์วีย์จึงไม่มีเหตุผลที่จะเล่นงานตระกูลอิชิกาวะอีก พูดง่าย ๆ ก็คือการอ่อนน้อมถ่อมตนของยูกิโกะทำให้เธอได้เปรียบเป็นอย่างมากในขณะนั้นเอง ฮาร