ชายในชุดสูทของจิวองชี่มีสีหน้าน่ากลัว“ถ้าคุณไม่สามารถรับผิดชอบทั้งหมดนั้นได้ ผมเกรงว่าคุณคงจะอยู่ในตำแหน่งของคุณได้ไม่นาน“แมงดาตัวนี้ก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้นานเหมือนกัน!”ฮาร์วีย์เหลือบมองชายในชุดจิวองชี่อย่างสงสัย ผู้ชายอะไรจะดุขนาดนั้น!เขาไม่เคารพควินนี่ตั้งแต่การพบกันครั้งแรก!เขาไม่กลัวที่จะตายในมือของชาวยอร์กเหรอ?ท้ายที่สุดแล้วควินนี่ก็ยังมีฐานะอยู่ นั่นคือความจริงที่ไม่มีใครสามารถเพิกเฉยได้หลังจากที่พลิกดูไฟล์ต่าง ๆ ในที่สุดฮาร์วีย์ก็รู้ว่าชายคนนั้นคือใคร ชื่อของเขาคือ ดันเต้ คาสโตร และเขาเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทในขณะเดียวกัน เขาก็มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจทีเดียว ว่ากันว่าเขาเป็นลูกชายของพ่อบ้านของคอรี่และได้รับการเลี้ยงดูมาภายใต้การดูแลของเขา เขาได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจได้ของคอรี่เช่นกันแม้แต่วินซ์ก็ต้องสุภาพกับเขาด้วยด้วยเอกลักษณ์นี้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ดันเต้จะต้องไม่เกรงกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับคนในตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเว้นแต่ดันเต้จะโง่พอที่จะต่อกรกับมาร์เซล ก็ไม่มีใครในบริษัทกล้าต่อกรกับเขานี่คือสาเหตุหลักว่าทำไมเขาถึงโกรธมาก
จากคำพูดของดันเต้ ผู้บริหารคนอื่น ๆ ในห้องก็มีรอยยิ้มขี้เล่นบนใบหน้าพวกเขารู้ว่าดันเต้กำลังใช้โอกาสนี้เพื่อโค่นควินนี่ลงท้ายที่สุด ทุกคนก็รู้ดีว่าองค์กรอชิกาวะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดเนื่องจากราคาถูก สินค้าจึงถูกจำหน่ายไปทั่วโลกพวกเขากำลังพยายามเข้าสู่ตลาดของประเทศ H และกำลังมองหาผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่นแม้แต่เลขาของคอรี่ก็ยังไม่สามารถทำข้อตกลงกับใครได้เนื่องจากเป็นเช่นนั้น ดันเต้จึงไม่มีโอกาสที่จะได้รับความชื่นชมจากบริษัทอย่างแน่นอนต่อให้เขาจะทำได้ องค์กรอชิกาวะก็จะไม่ใช้ข้อแก้ตัวเช่นนี้ในการยกเลิกข้อตกลงหลังจากที่ควินนี่เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาจึงพยายามให้เธอรับผิดแทนท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะโทษใครได้อีก? เธอคือคนที่มีสถานะค่อนข้างสูงที่สุดจากพวกเขาเหล่าผู้บริหารคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ข้างดันเต้ไม่มีใครจะยืนหยัดเพื่อควินนี่แน่นอนทุกคนมองควินนี่ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่รอดูว่าเธอจะรับมือกับการแสดงความแข็งแกร่งของดันเต้อย่างไรหากเธอไม่มีทางแก้ไขสถานการณ์นี้ ตำแหน่งของเธอก็จะถูกปล้นไปจากเธอทันทีฮาร์วีย์เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใจเย็นโดยไม่พูดอะไรสักคำควินนี่เหลือบมองด
ปัง!ก่อนที่ควินนี่จะทันได้พูดอะไร ฮาร์วีย์ก็หยิบที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาแล้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างฉุนเฉียวเสียงดังปังทำให้ผู้คนต่างชะงัก แม้แต่ผู้บริหารที่กำลังอ้าปากค้างเพราะกำลังจะพูดก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งเงียบท้ายที่สุดที่นี่ก็คือห้องประชุม ปกติแล้วทุกคนต่างก็จะเพียงพูดคุยกัน แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนกล้าข่มขู่คนทั้งห้องด้วยการทุบที่เขี่ยบุหรี่ก่อนที่เหล่าผู้บริหารจะได้โต้ตอบ ฮาร์วีย์ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกโง่ไร้ประโยชน์!“พวกคุณทุกคนต่างก็อยู่ในตำแหน่งที่สูงของบริษัท แต่ไม่มีใครสามารถทำข้อตกลงกับบริษัทเล็ก ๆ จากประเทศหมู่เกาะได้เลยเหรอ?“บริษัทเก็บพวกคุณไว้เพื่อช่วงเวลาสำคัญนี้ แต่แล้วเกิดอะไรขึ้น? ไม่มีใครสามารถทำงานง่าย ๆ เช่นนี้สำเร็จได้เลย!“พวกโง่!“พวกคุณแต่งตัวอย่างดี เต็มไปด้วยของหรูหรา…“พวกคุณคงเป็นที่เคารพนับถือของหลาย ๆ คน“แต่แล้ว! พวกคุณไม่เพียงแต่จะไม่สนใจบริษัทของคุณเท่านั้น แต่พวกคุณยังโยนความผิดให้คนอื่นทั้ง ๆ ที่คนที่ควรจะถูกโทษที่สุดคือพวกคุณ!“ถ้าอย่างนั้นพวกขี้เมาอย่างคุณจะอยู่ที่นี่ต่อทำไม?!“พวกคุณไม่สามารถทำข้อตกลงง่าย ๆ กับบริษัทเล็ก ๆ ได้ แต่คุณก็
ดันเต้ตัวสั่นด้วยความโกรธ“ไอ้สารเลว! แกกล้าเรียกทุกคนที่นี่ว่าขยะ?“คิดจะต่อต้านพวกเราทุกคนที่นี่เหรอ?“อยากถูกไล่ออกจากบริษัทหรือไง!“แม้แต่ซีอีโอก็ยังไม่กล้ายุ่งกับเรา! แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าพวกเราทุกคน!"ฉันจะบอกอะไรให้! เพราะซีอีโอยอร์กกิจการของอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นถึงได้พังไม่เป็นท่า! ไม่เท่านั้น!“จะบอกให้ว่า...”เพี๊ยะ เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงฝ่ามือไปบนใบหน้าของดันเต้สองครั้ง ออกแรงในการตบแต่ละครั้งอย่างเฉียบคม“ยังไม่จบเหรอ?“คิดว่าผมสู้กับทุกคนที่นี่ไม่ได้รึไง?“คิดว่าผมกำลังพูดเรื่องไร้สาระอยู่เหรอ?"ว่าไงนะ? คุณโกรธผมเหรอ? หรือคุณมีคำถามเกี่ยวกับวิธีดำเนินงานของซีอีโอยอร์ก?”ฮาร์วีย์นำเอกสารออกมาอย่างใจเย็นและพลิกไปยังหน้าต่าง ๆ ก่อนที่จะกระแทกมันลงบนโต๊ะ“หน้าที่ของแผนกการตลาดคือการหาพันธมิตรทางธุรกิจและทำข้อตกลง“ล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทขนาดใหญ่ หน้าที่ของซีอีโอก็คือควบคุมทุกอย่างให้อยู่ภายใต้การควบคุม“กับอีแค่ข้อตกลงกับบริษัทธรรมดา ๆ จากประเทศหมู่เกาะยังจัดการไม่สำเร็จ จะมีแผนกการตลาดไว้เพื่ออะไรถ้าพวกคุณยังต้องให้ซีอีโอออกหน้า
“ผมได้เห็นเอกสารมาแล้ว อิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นไม่ได้อยู่ในสามบริษัทชั้นนำของประเทศหมู่เกาะด้วยซ้ำเป็นแค่บริษัทที่ขายเครื่องใช้ในบ้านธรรมดา ๆ เท่านั้น มีอะไรให้โอ้อวดกัน?“ในฐานะสมาชิกของล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัด คุณเป็นตัวแทนของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและประเทศ H แต่กับแค่รับมือกับชาวประเทศหมู่เกาะแค่ไม่กี่คนไม่ได้ก็มาโวยวาย แถมยังคิดจะให้ซีอีโอยอร์กมาจัดการปัญหาของตัวเองอีก!“ทำไมคุณถึงกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา แถมยังกล้าอยู่ในบริษัทต่อไปอีก“บริษัทจะยอมเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อจ้างพวกคุณไปเพื่ออะไร ในเมื่อพวกคุณไม่ทำอะไรเลย!”ฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าและตบเบา ๆ ที่ใบหน้าของดันเต้อย่างเย้ยหยัน“ถ้าคิดว่าไม่มีปัญญาจะทำงานของตัวเองได้ ก็ไสหัวไปซะ! เลิกโบ้ยความไร้ความสามารถของตัวเองให้คนอื่นได้แล้ว!"เข้าใจที่ผมพูดไหม?!"ดวงตาของดันเต้กระตุกอย่างต่อเนื่องหลังจากถูกตบหน้าหลายต่อหลายครั้ง...แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้าท้าทายคำพูดของฮาร์วีย์เขารู้ว่าถ้าหากเขาไม่ยอมหยุด เขาคงโดนตบอีกครั้งและถูกโยนออกจากบริษัทเป็นแน่เขาไม่กล้าทิ้งเงินเดือนอันมากมายมหาศาลไปควินนี่สังเกตเหตุการณ์ที่เปล
ฮาร์วีย์มีทั้งรูปภาพและใบแจ้งยอดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของดันเต้ คำถามของเขาทำให้ดันเต้โกรธและหวาดกลัวในเวลาเดียวกันดันเต้คิดว่าเขาสามารถเก็บซ่อนความผิดของตัวเองได้ และจะไม่มีใครล่วงรู้...แต่เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะเปิดเผยเขาได้โดยง่ายเช่นนี้“คุณได้รับเงินนับแสนดอลลาร์ในแต่ละปี! เมื่อเทียบกับพวกผู้บริหารระดับสูงแล้วถือเป็นสองเท่า!“ถึงขนาดนี้แล้วคุณยังไม่พอใจอีก! คุณใช้จ่ายไปราว ๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ทุก ๆ เดือนไปกับเรื่องไร้สาระ!“แล้วถ้าคุณกล้าพูดว่าตัวเองทุ่มเทอย่างหนักเพื่อเรื่องพวกนี้…“ผมก็จะยอมรับฟัง“แต่หลังจากทุ่มเทมากมาย อย่ามาบอกผมว่าคุณไม่ได้รับสัญญาบ้าบอคอแตกอะไรเลยสักฉบับ!“ถ้าเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้ ผมคงต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานหนักของคุณสักหน่อย“ถ้าคุณไม่สามารถทำงานในตำแหน่งของตัวเองให้ดีได้ ผมมั่นใจว่ามีคนอื่นยินดีที่จะเข้ามาแทนที่คุณแน่นอน!”ฮาร์วีย์ไม่เพียงป่าวประกาศให้คนอื่นเห็นถึงเงินเดือนของดันเต้เท่านั้น เขายังพูดถึงเรื่องราวอันอื้อฉาวของอีกฝ่ายออกมาอีกด้วยดวงตาของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นประกายทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์โดยปกติแล้ว
ทุกคนอ้ำอึ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้น พวกเขาไม่เชื่ออย่างยิ่งหนามใหญ่ที่สุดในบริษัท ดันเต้ ถูกฮาร์วีย์โค่นลงอย่างง่ายดาย!ในตอนแรก ทุกคนอยากเห็นว่าควินนี่และฮาร์วีย์จะแสดงความแข็งแกร่งของตนออกมาอย่างไร...ไม่มีใครคาดคิดว่าดันเต้จะยอมแพ้เร็วขนาดนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วจนน่าตกใจบางคนที่อยากจะทำให้ควินนี่เป็นตัวตลกในตอนแรกต่างตกอยู่ในความสับสน“ดีแล้วที่คุณรู้จักยอมรับความผิดของตัวเอง” ฮาร์วีย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ผมจะให้เวลาคุณสามวัน“หากคุณสามารถทำสัญญากับอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นได้ภายในสามวัน เราจะให้เงินคุณตามที่คุณต้องการ“คุณจะได้รายได้ต่อปีตามที่คุณต้องการด้วย“แต่ถ้าทำไม่ได้ ผมอยากให้คุณลาออกจากบริษัท ตกลงไหม?“แน่นอน… ถ้าผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ มั่นใจว่าจะสามารถจัดการสัญญาฉบับนี้ได้ พวกคุณก็ทำได้เหมือนกัน“ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้สัญญาฉบับนั้นมาจะได้รับผลประโยชน์แบบเดียวกับที่ผู้จัดการคาสโตรได้รับ“ผมเป็นคนรักษาคำพูดนะ”'อะไรกัน?!'ฝูงชนต่างพากันคลุ้มคลั่งกับคำประกาศของฮาร์วีย์ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมูลค่าเงินเดือนของดันเต้มาก่อน จึงไม่ค่อยมีใคร
“เอาสิ!”ความกล้าบ้าบิ่นของดันเต้ถูกสร้างขึ้นจากความเกลียดชังเข้ากระดูกของเขา“ถือเป็นอันตกลงกัน!“ถ้านายได้สัญญาฉบับนั้นมาภายในวันเดียว ฉันจะยอมตัดมือตัวเองทิ้งเลย!“แต่ถ้านายทำไม่ได้ หวังว่าฉันจะไม่ได้เห็นหน้าเศร้าเป็นหมาหงอยของนายที่บริษัทนี้อีก!“ทุกคนที่นี่เป็นพยาน!“ใครที่ไม่ทำตามคำพูดจะถือเป็นไอ้ขยะไร้ประโยชน์!”ทั้งห้องเงียบกริบ…ครึ่งชั่วโมงต่อมา ภายในห้องทำงานของผู้บริหารระดับสูงสำนักงานแห่งนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก มันกว้างเพียงพันตารางฟุตเท่านั้น ภายในห้องมีการตกแต่งไม่มากนักเพราะไม่มีใครเคยใช้มันมาก่อน ภายในมีเพียงโต๊ะ เก้าอี้ และโซฟาเท่านั้นแต่เนื่องจากสำนักงานดังกล่าวหันหน้าไปทางทะเล มันจึงมีบรรยากาศค่อนข้างสดชื่น ฮาร์วีย์ค่อนข้างพอใจกับสิ่งนี้เขาเอนกายบนโซฟาขณะหรี่ตามองขอบฟ้า ใบหน้าของเขาดูสงบ“ขอบคุณที่ยืนหยัดเพื่อฉัน”ควินนี่รินชาหนึ่งแก้วแล้วยื่นให้ฮาร์วีย์“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงต้องทรมานน่าดู”"เธอน่ะเหรอ?"ฮาร์วีย์เหลือบมองที่ควินนี่ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“คุณคิดที่จะจัดการกับคนพวกนั้นทั้งหมดในคราวเดียวใช่ไหม?”“ฉันแค่ช่วยให้เธอได้ทำในสิ่งที่ถูกต