ดันเต้ตัวสั่นด้วยความโกรธ“ไอ้สารเลว! แกกล้าเรียกทุกคนที่นี่ว่าขยะ?“คิดจะต่อต้านพวกเราทุกคนที่นี่เหรอ?“อยากถูกไล่ออกจากบริษัทหรือไง!“แม้แต่ซีอีโอก็ยังไม่กล้ายุ่งกับเรา! แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าพวกเราทุกคน!"ฉันจะบอกอะไรให้! เพราะซีอีโอยอร์กกิจการของอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นถึงได้พังไม่เป็นท่า! ไม่เท่านั้น!“จะบอกให้ว่า...”เพี๊ยะ เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงฝ่ามือไปบนใบหน้าของดันเต้สองครั้ง ออกแรงในการตบแต่ละครั้งอย่างเฉียบคม“ยังไม่จบเหรอ?“คิดว่าผมสู้กับทุกคนที่นี่ไม่ได้รึไง?“คิดว่าผมกำลังพูดเรื่องไร้สาระอยู่เหรอ?"ว่าไงนะ? คุณโกรธผมเหรอ? หรือคุณมีคำถามเกี่ยวกับวิธีดำเนินงานของซีอีโอยอร์ก?”ฮาร์วีย์นำเอกสารออกมาอย่างใจเย็นและพลิกไปยังหน้าต่าง ๆ ก่อนที่จะกระแทกมันลงบนโต๊ะ“หน้าที่ของแผนกการตลาดคือการหาพันธมิตรทางธุรกิจและทำข้อตกลง“ล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทขนาดใหญ่ หน้าที่ของซีอีโอก็คือควบคุมทุกอย่างให้อยู่ภายใต้การควบคุม“กับอีแค่ข้อตกลงกับบริษัทธรรมดา ๆ จากประเทศหมู่เกาะยังจัดการไม่สำเร็จ จะมีแผนกการตลาดไว้เพื่ออะไรถ้าพวกคุณยังต้องให้ซีอีโอออกหน้า
“ผมได้เห็นเอกสารมาแล้ว อิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นไม่ได้อยู่ในสามบริษัทชั้นนำของประเทศหมู่เกาะด้วยซ้ำเป็นแค่บริษัทที่ขายเครื่องใช้ในบ้านธรรมดา ๆ เท่านั้น มีอะไรให้โอ้อวดกัน?“ในฐานะสมาชิกของล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัด คุณเป็นตัวแทนของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและประเทศ H แต่กับแค่รับมือกับชาวประเทศหมู่เกาะแค่ไม่กี่คนไม่ได้ก็มาโวยวาย แถมยังคิดจะให้ซีอีโอยอร์กมาจัดการปัญหาของตัวเองอีก!“ทำไมคุณถึงกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา แถมยังกล้าอยู่ในบริษัทต่อไปอีก“บริษัทจะยอมเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อจ้างพวกคุณไปเพื่ออะไร ในเมื่อพวกคุณไม่ทำอะไรเลย!”ฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าและตบเบา ๆ ที่ใบหน้าของดันเต้อย่างเย้ยหยัน“ถ้าคิดว่าไม่มีปัญญาจะทำงานของตัวเองได้ ก็ไสหัวไปซะ! เลิกโบ้ยความไร้ความสามารถของตัวเองให้คนอื่นได้แล้ว!"เข้าใจที่ผมพูดไหม?!"ดวงตาของดันเต้กระตุกอย่างต่อเนื่องหลังจากถูกตบหน้าหลายต่อหลายครั้ง...แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้าท้าทายคำพูดของฮาร์วีย์เขารู้ว่าถ้าหากเขาไม่ยอมหยุด เขาคงโดนตบอีกครั้งและถูกโยนออกจากบริษัทเป็นแน่เขาไม่กล้าทิ้งเงินเดือนอันมากมายมหาศาลไปควินนี่สังเกตเหตุการณ์ที่เปล
ฮาร์วีย์มีทั้งรูปภาพและใบแจ้งยอดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของดันเต้ คำถามของเขาทำให้ดันเต้โกรธและหวาดกลัวในเวลาเดียวกันดันเต้คิดว่าเขาสามารถเก็บซ่อนความผิดของตัวเองได้ และจะไม่มีใครล่วงรู้...แต่เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะเปิดเผยเขาได้โดยง่ายเช่นนี้“คุณได้รับเงินนับแสนดอลลาร์ในแต่ละปี! เมื่อเทียบกับพวกผู้บริหารระดับสูงแล้วถือเป็นสองเท่า!“ถึงขนาดนี้แล้วคุณยังไม่พอใจอีก! คุณใช้จ่ายไปราว ๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ทุก ๆ เดือนไปกับเรื่องไร้สาระ!“แล้วถ้าคุณกล้าพูดว่าตัวเองทุ่มเทอย่างหนักเพื่อเรื่องพวกนี้…“ผมก็จะยอมรับฟัง“แต่หลังจากทุ่มเทมากมาย อย่ามาบอกผมว่าคุณไม่ได้รับสัญญาบ้าบอคอแตกอะไรเลยสักฉบับ!“ถ้าเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้ ผมคงต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานหนักของคุณสักหน่อย“ถ้าคุณไม่สามารถทำงานในตำแหน่งของตัวเองให้ดีได้ ผมมั่นใจว่ามีคนอื่นยินดีที่จะเข้ามาแทนที่คุณแน่นอน!”ฮาร์วีย์ไม่เพียงป่าวประกาศให้คนอื่นเห็นถึงเงินเดือนของดันเต้เท่านั้น เขายังพูดถึงเรื่องราวอันอื้อฉาวของอีกฝ่ายออกมาอีกด้วยดวงตาของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นประกายทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์โดยปกติแล้ว
ทุกคนอ้ำอึ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้น พวกเขาไม่เชื่ออย่างยิ่งหนามใหญ่ที่สุดในบริษัท ดันเต้ ถูกฮาร์วีย์โค่นลงอย่างง่ายดาย!ในตอนแรก ทุกคนอยากเห็นว่าควินนี่และฮาร์วีย์จะแสดงความแข็งแกร่งของตนออกมาอย่างไร...ไม่มีใครคาดคิดว่าดันเต้จะยอมแพ้เร็วขนาดนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วจนน่าตกใจบางคนที่อยากจะทำให้ควินนี่เป็นตัวตลกในตอนแรกต่างตกอยู่ในความสับสน“ดีแล้วที่คุณรู้จักยอมรับความผิดของตัวเอง” ฮาร์วีย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ผมจะให้เวลาคุณสามวัน“หากคุณสามารถทำสัญญากับอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นได้ภายในสามวัน เราจะให้เงินคุณตามที่คุณต้องการ“คุณจะได้รายได้ต่อปีตามที่คุณต้องการด้วย“แต่ถ้าทำไม่ได้ ผมอยากให้คุณลาออกจากบริษัท ตกลงไหม?“แน่นอน… ถ้าผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ มั่นใจว่าจะสามารถจัดการสัญญาฉบับนี้ได้ พวกคุณก็ทำได้เหมือนกัน“ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้สัญญาฉบับนั้นมาจะได้รับผลประโยชน์แบบเดียวกับที่ผู้จัดการคาสโตรได้รับ“ผมเป็นคนรักษาคำพูดนะ”'อะไรกัน?!'ฝูงชนต่างพากันคลุ้มคลั่งกับคำประกาศของฮาร์วีย์ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมูลค่าเงินเดือนของดันเต้มาก่อน จึงไม่ค่อยมีใคร
“เอาสิ!”ความกล้าบ้าบิ่นของดันเต้ถูกสร้างขึ้นจากความเกลียดชังเข้ากระดูกของเขา“ถือเป็นอันตกลงกัน!“ถ้านายได้สัญญาฉบับนั้นมาภายในวันเดียว ฉันจะยอมตัดมือตัวเองทิ้งเลย!“แต่ถ้านายทำไม่ได้ หวังว่าฉันจะไม่ได้เห็นหน้าเศร้าเป็นหมาหงอยของนายที่บริษัทนี้อีก!“ทุกคนที่นี่เป็นพยาน!“ใครที่ไม่ทำตามคำพูดจะถือเป็นไอ้ขยะไร้ประโยชน์!”ทั้งห้องเงียบกริบ…ครึ่งชั่วโมงต่อมา ภายในห้องทำงานของผู้บริหารระดับสูงสำนักงานแห่งนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก มันกว้างเพียงพันตารางฟุตเท่านั้น ภายในห้องมีการตกแต่งไม่มากนักเพราะไม่มีใครเคยใช้มันมาก่อน ภายในมีเพียงโต๊ะ เก้าอี้ และโซฟาเท่านั้นแต่เนื่องจากสำนักงานดังกล่าวหันหน้าไปทางทะเล มันจึงมีบรรยากาศค่อนข้างสดชื่น ฮาร์วีย์ค่อนข้างพอใจกับสิ่งนี้เขาเอนกายบนโซฟาขณะหรี่ตามองขอบฟ้า ใบหน้าของเขาดูสงบ“ขอบคุณที่ยืนหยัดเพื่อฉัน”ควินนี่รินชาหนึ่งแก้วแล้วยื่นให้ฮาร์วีย์“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงต้องทรมานน่าดู”"เธอน่ะเหรอ?"ฮาร์วีย์เหลือบมองที่ควินนี่ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“คุณคิดที่จะจัดการกับคนพวกนั้นทั้งหมดในคราวเดียวใช่ไหม?”“ฉันแค่ช่วยให้เธอได้ทำในสิ่งที่ถูกต
“นี่คุณกำลังหมายถึง…?”ควินนี่ขมวดคิ้ว เธอไม่แน่ใจว่าฮาร์วีย์กำลังวางแผนอะไรอยู่“พาเจ้าหน้าที่จากอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นมาที่นี่ตอนบ่ายวันนี้”“บอกพวกเขาให้มาตอนบ่ายสามโมงตรง ถ้าพวกเขามาไม่ทัน เราจะยุติข้อตกลงทันที” ฮาร์วีย์อธิบาย“แน่ใจเหรอว่าพวกเขาจะมา?” ควินนี่ถามอย่างสงสัย"พวกเขามาแน่"ใบหน้าของฮาร์วีย์ว่างเปล่า“ฉันก็บอกเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอ? เพราะเขาอยากจะเข้ามากอบโกยในตลาดของประเทศ H จนตัวสั่นแต่ไม่เคยมีโอกาส“ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรต่ำของพวกเขาถูกเร่ขายอย่างกับให้เปล่า“ทั้งนานาประเทศและบริษัทต่าง ๆ ย่อมไม่อนุญาตให้พวกเขาทำแบบนั้น“เพราะท้ายที่สุดแล้วมันจะส่งผลกระทบต่อตลาดภายในประเทศ“นอกจากนี้เครื่องใช้ในครัวเรือนยังเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน การที่พวกเขาเทขายสินค้าของตัวเองแบบนี้ ชีวิตของประชาชนก็จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เลวร้ายได้ถึงขนาดทำให้เกิดความไม่สงบภายในบ้านเมืองได้เลยด้วยซ้ำ“พูดง่าย ๆ ก็คือการเข้าสู่ตลาดประเทศ H ของอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นล้วนไม่มีเจตนาดีเลยแม้แต่น้อย“พวกเขารู้ดีว่ากลุ่มตระกูลหรือบริษัทธรรมดา ๆ ทั่วไปไม่กล้าที่จะใช้ประเทศของเราเป็นถังขยะ
เวลาบ่ายสามโมง ฮาร์วีย์และควินนี่มาถึงห้องประชุมแม้ว่าฮาร์วีย์อยากจะบดขยี้ชาวประเทศหมู่เกาะเหล่านี้มากเพียงใด แต่ธุรกิจก็คือธุรกิจ เนื่องจากเขาขอให้ทุกคนมาพบกันตอนบ่ายสามโมง เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำอย่างที่ปากพูด นี่เป็นหนึ่งในกฎพื้นฐานของโลกธุรกิจก่อนที่ทั้งสองจะเข้าไปในห้องโถง แขกก็ได้ยินเสียงตบดังลั่นขึ้นเพี๊ยะ!“เจ้าบ้า!“ไอ้สารเลวพวกนั้น! พวกเขากล้าดียังไงให้ตัวแทนของเรารอมาห้านาทีเต็ม!“พวกคุณจะเอาแต่เอ้อระเหยลอยชายไปแบบนี้เหรอ?!“ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้เหรอว่าเธอต้องมาถึงก่อนเวลานัด?!“พวกคุณมันไม่รู้จักรักษาเวลา! มันถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมประเทศหมู่เกาะถึงได้เปรียบในดินแดนตะวันออกไกล!“บอกควินนี่ว่าเธอเหลือเวลาอีกเพียงสามนาทีเท่านั้น!“ถ้าถึงตอนนั้นเธอยังไม่มาที่นี่ ทั้งเธอและล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดจะต้องชดใช้เรื่องนี้!”ฮาร์วีย์และควินนี่ขมวดคิ้ว เป็นไปอย่างที่ฮาร์วีย์คาดเอาไว้ บริษัท อิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นอยากจะร่วมมือกับล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดมากกว่าเสียอีกโดยปกติแล้ว อิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นควรจะถ่อมตัวอย่างถึงที่สุดนั่นเพราะพวกเขาคือคนที่กำลังมองหาความช่วยเหล
“เขารีบมาเพราะเขาเป็นคนฉลาด เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าถ้าเขาไม่มาที่นี่ก่อนบ่ายสามโมง เราจะยกเลิกข้อตกลง”"ทำไมล่ะ?"ควินนี่ขมวดคิ้ว“ตามข้อตกลงของคุณกับดันเต้ คุณจะต้องเก็บข้าวของและออกจากบริษัท หากคุณไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในหนึ่งวัน”“คุณต้องเป็นฝ่ายกลัวไม่ใช่เหรอ?”“ทำไมฉันต้องกลัวด้วย?“แค่บอกว่าฉันจะต้องได้รับเอกสารสัญญา แต่ไม่เคยพูดออกมาจะต้องได้มันมาจากใคร” ฮาร์วีย์พูดอย่างสงบ“หากข้อตกลงถูกยกเลิกที่นี่ ฉันจะทำให้หัวหน้าตระกูลอิชิกาวะ คุกเข่าต่อหน้าฉัน และขอร้องให้ฉันเซ็นสัญญาในเช้าวันพรุ่งนี้”เมื่อเห็นท่าทางไม่แยแสของฮาร์วีย์ ควินนี่เข้าใจความหมายของคำว่าเผด็จการทันทีฮาร์วีย์และควินนี่เดินเข้าไปหาพนักงานหญิงสองสามคนในขณะที่พวกเธอกำลังคุยกันผู้หญิงสวมแว่นตากรอบทองที่ดูคล้ายจะอยู่ในตำแหน่งเลขาสาวก้าวไปข้างหน้า“คุณสองคนดูหยิ่งผยองมากเลยนะ คุณต้องเป็นคนที่ดูแลล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดใช่ไหม?” ผู้หญิงคนนั้นเรียกร้องอย่างรุนแรง“คุณคือคนที่โทรหานายน้อยอิชิกาวะ และเรียกร้องให้เขามาถึงที่นี่ก่อนบ่ายสามโมง ไม่เช่น