ฮาร์วีย์ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เขายืนอยู่ข้างหลังควินนี่อย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าเขาเป็นบอกดี้การ์ดของเธอเขาต้องการเห็นว่าผู้หญิงที่มีความสามารถคนนี้จะควบคุมผู้คนรอบตัวเธออย่างไรควินนี่เพิกเฉยต่อสายตาของผู้คนโดยสิ้นเชิงและนั่งลงที่เก้าอี้ของประธาน“ฉันชื่อควินนี่ ยอร์ก ฉันว่าทุกคนคงรู้ว่าฉันเป็นใคร ดังนั้นฉันจะเข้าเรื่องเลย“วันนี้ฉันเรียกประชุมเพื่อบอกทุกคนว่านายท่านได้แต่งตั้งให้ฉันรับตำแหน่งนี้ด้วยตัวของเขาเอง“ทุกคนที่นี่ต่างก็มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับตระกุลยอร์กแห่งฮ่องกง“ฉันหวังว่าเราทุกคนจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันและอยู่เคียงข้างกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น“ฉัน ควินนี่ จะไม่มีวันทำอะไรโดยที่ไม่นึกถึงพวกคุณเลย“อีกอย่าง ฉันขอแนะนำให้พวกคุณรู้จักกับอีกคนหนึ่ง ฮาร์วีย์ ยอร์ก“เขาไม่มีตำแหน่งอะไรในบริษัท เขาเป็นแค่ที่ปรึกษา“แต่คำพูดของเขามีค่าเท่ากับคำพูดของฉันเอง“คำขอของเขาก็เหมือนกับคำขอของฉัน!“ถ้าคุณต่อต้านเขา ก็เท่ากับคุณต่อต้านฉัน“เข้าใจไหม?!”มติของควินนี่ได้เรียกความสนใจของทุกคน เธอไม่เพียงแต่เปิดเผยการสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอเท่านั้น เธอยังมอบตำแหน่งอย่
ชายในชุดสูทของจิวองชี่มีสีหน้าน่ากลัว“ถ้าคุณไม่สามารถรับผิดชอบทั้งหมดนั้นได้ ผมเกรงว่าคุณคงจะอยู่ในตำแหน่งของคุณได้ไม่นาน“แมงดาตัวนี้ก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้นานเหมือนกัน!”ฮาร์วีย์เหลือบมองชายในชุดจิวองชี่อย่างสงสัย ผู้ชายอะไรจะดุขนาดนั้น!เขาไม่เคารพควินนี่ตั้งแต่การพบกันครั้งแรก!เขาไม่กลัวที่จะตายในมือของชาวยอร์กเหรอ?ท้ายที่สุดแล้วควินนี่ก็ยังมีฐานะอยู่ นั่นคือความจริงที่ไม่มีใครสามารถเพิกเฉยได้หลังจากที่พลิกดูไฟล์ต่าง ๆ ในที่สุดฮาร์วีย์ก็รู้ว่าชายคนนั้นคือใคร ชื่อของเขาคือ ดันเต้ คาสโตร และเขาเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทในขณะเดียวกัน เขาก็มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจทีเดียว ว่ากันว่าเขาเป็นลูกชายของพ่อบ้านของคอรี่และได้รับการเลี้ยงดูมาภายใต้การดูแลของเขา เขาได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจได้ของคอรี่เช่นกันแม้แต่วินซ์ก็ต้องสุภาพกับเขาด้วยด้วยเอกลักษณ์นี้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ดันเต้จะต้องไม่เกรงกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับคนในตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเว้นแต่ดันเต้จะโง่พอที่จะต่อกรกับมาร์เซล ก็ไม่มีใครในบริษัทกล้าต่อกรกับเขานี่คือสาเหตุหลักว่าทำไมเขาถึงโกรธมาก
จากคำพูดของดันเต้ ผู้บริหารคนอื่น ๆ ในห้องก็มีรอยยิ้มขี้เล่นบนใบหน้าพวกเขารู้ว่าดันเต้กำลังใช้โอกาสนี้เพื่อโค่นควินนี่ลงท้ายที่สุด ทุกคนก็รู้ดีว่าองค์กรอชิกาวะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดเนื่องจากราคาถูก สินค้าจึงถูกจำหน่ายไปทั่วโลกพวกเขากำลังพยายามเข้าสู่ตลาดของประเทศ H และกำลังมองหาผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่นแม้แต่เลขาของคอรี่ก็ยังไม่สามารถทำข้อตกลงกับใครได้เนื่องจากเป็นเช่นนั้น ดันเต้จึงไม่มีโอกาสที่จะได้รับความชื่นชมจากบริษัทอย่างแน่นอนต่อให้เขาจะทำได้ องค์กรอชิกาวะก็จะไม่ใช้ข้อแก้ตัวเช่นนี้ในการยกเลิกข้อตกลงหลังจากที่ควินนี่เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาจึงพยายามให้เธอรับผิดแทนท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะโทษใครได้อีก? เธอคือคนที่มีสถานะค่อนข้างสูงที่สุดจากพวกเขาเหล่าผู้บริหารคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ข้างดันเต้ไม่มีใครจะยืนหยัดเพื่อควินนี่แน่นอนทุกคนมองควินนี่ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่รอดูว่าเธอจะรับมือกับการแสดงความแข็งแกร่งของดันเต้อย่างไรหากเธอไม่มีทางแก้ไขสถานการณ์นี้ ตำแหน่งของเธอก็จะถูกปล้นไปจากเธอทันทีฮาร์วีย์เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใจเย็นโดยไม่พูดอะไรสักคำควินนี่เหลือบมองด
ปัง!ก่อนที่ควินนี่จะทันได้พูดอะไร ฮาร์วีย์ก็หยิบที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมาแล้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างฉุนเฉียวเสียงดังปังทำให้ผู้คนต่างชะงัก แม้แต่ผู้บริหารที่กำลังอ้าปากค้างเพราะกำลังจะพูดก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งเงียบท้ายที่สุดที่นี่ก็คือห้องประชุม ปกติแล้วทุกคนต่างก็จะเพียงพูดคุยกัน แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนกล้าข่มขู่คนทั้งห้องด้วยการทุบที่เขี่ยบุหรี่ก่อนที่เหล่าผู้บริหารจะได้โต้ตอบ ฮาร์วีย์ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกโง่ไร้ประโยชน์!“พวกคุณทุกคนต่างก็อยู่ในตำแหน่งที่สูงของบริษัท แต่ไม่มีใครสามารถทำข้อตกลงกับบริษัทเล็ก ๆ จากประเทศหมู่เกาะได้เลยเหรอ?“บริษัทเก็บพวกคุณไว้เพื่อช่วงเวลาสำคัญนี้ แต่แล้วเกิดอะไรขึ้น? ไม่มีใครสามารถทำงานง่าย ๆ เช่นนี้สำเร็จได้เลย!“พวกโง่!“พวกคุณแต่งตัวอย่างดี เต็มไปด้วยของหรูหรา…“พวกคุณคงเป็นที่เคารพนับถือของหลาย ๆ คน“แต่แล้ว! พวกคุณไม่เพียงแต่จะไม่สนใจบริษัทของคุณเท่านั้น แต่พวกคุณยังโยนความผิดให้คนอื่นทั้ง ๆ ที่คนที่ควรจะถูกโทษที่สุดคือพวกคุณ!“ถ้าอย่างนั้นพวกขี้เมาอย่างคุณจะอยู่ที่นี่ต่อทำไม?!“พวกคุณไม่สามารถทำข้อตกลงง่าย ๆ กับบริษัทเล็ก ๆ ได้ แต่คุณก็
ดันเต้ตัวสั่นด้วยความโกรธ“ไอ้สารเลว! แกกล้าเรียกทุกคนที่นี่ว่าขยะ?“คิดจะต่อต้านพวกเราทุกคนที่นี่เหรอ?“อยากถูกไล่ออกจากบริษัทหรือไง!“แม้แต่ซีอีโอก็ยังไม่กล้ายุ่งกับเรา! แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าพวกเราทุกคน!"ฉันจะบอกอะไรให้! เพราะซีอีโอยอร์กกิจการของอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นถึงได้พังไม่เป็นท่า! ไม่เท่านั้น!“จะบอกให้ว่า...”เพี๊ยะ เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงฝ่ามือไปบนใบหน้าของดันเต้สองครั้ง ออกแรงในการตบแต่ละครั้งอย่างเฉียบคม“ยังไม่จบเหรอ?“คิดว่าผมสู้กับทุกคนที่นี่ไม่ได้รึไง?“คิดว่าผมกำลังพูดเรื่องไร้สาระอยู่เหรอ?"ว่าไงนะ? คุณโกรธผมเหรอ? หรือคุณมีคำถามเกี่ยวกับวิธีดำเนินงานของซีอีโอยอร์ก?”ฮาร์วีย์นำเอกสารออกมาอย่างใจเย็นและพลิกไปยังหน้าต่าง ๆ ก่อนที่จะกระแทกมันลงบนโต๊ะ“หน้าที่ของแผนกการตลาดคือการหาพันธมิตรทางธุรกิจและทำข้อตกลง“ล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทขนาดใหญ่ หน้าที่ของซีอีโอก็คือควบคุมทุกอย่างให้อยู่ภายใต้การควบคุม“กับอีแค่ข้อตกลงกับบริษัทธรรมดา ๆ จากประเทศหมู่เกาะยังจัดการไม่สำเร็จ จะมีแผนกการตลาดไว้เพื่ออะไรถ้าพวกคุณยังต้องให้ซีอีโอออกหน้า
“ผมได้เห็นเอกสารมาแล้ว อิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นไม่ได้อยู่ในสามบริษัทชั้นนำของประเทศหมู่เกาะด้วยซ้ำเป็นแค่บริษัทที่ขายเครื่องใช้ในบ้านธรรมดา ๆ เท่านั้น มีอะไรให้โอ้อวดกัน?“ในฐานะสมาชิกของล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัด คุณเป็นตัวแทนของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงและประเทศ H แต่กับแค่รับมือกับชาวประเทศหมู่เกาะแค่ไม่กี่คนไม่ได้ก็มาโวยวาย แถมยังคิดจะให้ซีอีโอยอร์กมาจัดการปัญหาของตัวเองอีก!“ทำไมคุณถึงกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา แถมยังกล้าอยู่ในบริษัทต่อไปอีก“บริษัทจะยอมเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อจ้างพวกคุณไปเพื่ออะไร ในเมื่อพวกคุณไม่ทำอะไรเลย!”ฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าและตบเบา ๆ ที่ใบหน้าของดันเต้อย่างเย้ยหยัน“ถ้าคิดว่าไม่มีปัญญาจะทำงานของตัวเองได้ ก็ไสหัวไปซะ! เลิกโบ้ยความไร้ความสามารถของตัวเองให้คนอื่นได้แล้ว!"เข้าใจที่ผมพูดไหม?!"ดวงตาของดันเต้กระตุกอย่างต่อเนื่องหลังจากถูกตบหน้าหลายต่อหลายครั้ง...แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้าท้าทายคำพูดของฮาร์วีย์เขารู้ว่าถ้าหากเขาไม่ยอมหยุด เขาคงโดนตบอีกครั้งและถูกโยนออกจากบริษัทเป็นแน่เขาไม่กล้าทิ้งเงินเดือนอันมากมายมหาศาลไปควินนี่สังเกตเหตุการณ์ที่เปล
ฮาร์วีย์มีทั้งรูปภาพและใบแจ้งยอดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของดันเต้ คำถามของเขาทำให้ดันเต้โกรธและหวาดกลัวในเวลาเดียวกันดันเต้คิดว่าเขาสามารถเก็บซ่อนความผิดของตัวเองได้ และจะไม่มีใครล่วงรู้...แต่เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะเปิดเผยเขาได้โดยง่ายเช่นนี้“คุณได้รับเงินนับแสนดอลลาร์ในแต่ละปี! เมื่อเทียบกับพวกผู้บริหารระดับสูงแล้วถือเป็นสองเท่า!“ถึงขนาดนี้แล้วคุณยังไม่พอใจอีก! คุณใช้จ่ายไปราว ๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ทุก ๆ เดือนไปกับเรื่องไร้สาระ!“แล้วถ้าคุณกล้าพูดว่าตัวเองทุ่มเทอย่างหนักเพื่อเรื่องพวกนี้…“ผมก็จะยอมรับฟัง“แต่หลังจากทุ่มเทมากมาย อย่ามาบอกผมว่าคุณไม่ได้รับสัญญาบ้าบอคอแตกอะไรเลยสักฉบับ!“ถ้าเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้ ผมคงต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานหนักของคุณสักหน่อย“ถ้าคุณไม่สามารถทำงานในตำแหน่งของตัวเองให้ดีได้ ผมมั่นใจว่ามีคนอื่นยินดีที่จะเข้ามาแทนที่คุณแน่นอน!”ฮาร์วีย์ไม่เพียงป่าวประกาศให้คนอื่นเห็นถึงเงินเดือนของดันเต้เท่านั้น เขายังพูดถึงเรื่องราวอันอื้อฉาวของอีกฝ่ายออกมาอีกด้วยดวงตาของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นประกายทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์โดยปกติแล้ว
ทุกคนอ้ำอึ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้น พวกเขาไม่เชื่ออย่างยิ่งหนามใหญ่ที่สุดในบริษัท ดันเต้ ถูกฮาร์วีย์โค่นลงอย่างง่ายดาย!ในตอนแรก ทุกคนอยากเห็นว่าควินนี่และฮาร์วีย์จะแสดงความแข็งแกร่งของตนออกมาอย่างไร...ไม่มีใครคาดคิดว่าดันเต้จะยอมแพ้เร็วขนาดนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วจนน่าตกใจบางคนที่อยากจะทำให้ควินนี่เป็นตัวตลกในตอนแรกต่างตกอยู่ในความสับสน“ดีแล้วที่คุณรู้จักยอมรับความผิดของตัวเอง” ฮาร์วีย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ผมจะให้เวลาคุณสามวัน“หากคุณสามารถทำสัญญากับอิชิกาวะ คอร์ปอเรชั่นได้ภายในสามวัน เราจะให้เงินคุณตามที่คุณต้องการ“คุณจะได้รายได้ต่อปีตามที่คุณต้องการด้วย“แต่ถ้าทำไม่ได้ ผมอยากให้คุณลาออกจากบริษัท ตกลงไหม?“แน่นอน… ถ้าผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ มั่นใจว่าจะสามารถจัดการสัญญาฉบับนี้ได้ พวกคุณก็ทำได้เหมือนกัน“ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้สัญญาฉบับนั้นมาจะได้รับผลประโยชน์แบบเดียวกับที่ผู้จัดการคาสโตรได้รับ“ผมเป็นคนรักษาคำพูดนะ”'อะไรกัน?!'ฝูงชนต่างพากันคลุ้มคลั่งกับคำประกาศของฮาร์วีย์ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมูลค่าเงินเดือนของดันเต้มาก่อน จึงไม่ค่อยมีใคร
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข