วินซ์ดูสับสนเล็กน้อยเมื่อเขามองไปที่ผู้หญิงคนนั้นควินนี่ไม่มีเจตนาที่จะไปร่วมกับคนอื่น ๆ เธอกลับรอให้ผู้คนแยกย้ายก่อนที่จะลงมาจากเรือวินซ์หรี่ตามองควินนี่ครู่หนึ่งก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า เขาส่งยิ้มอันอบอุ่นให้เธอ“ยินดีต้อนรับกลับมานะควินนี่”“พวกเราจะไปเลี้ยงฉลองให้จูเลียน คุณจะไปด้วยไหม?”ควินนี่เหลือบมองวินซ์ ความสงสัยปรากฏชัดในแววตาของเธอ เธอแตกต่างกับจูเลียน ก่อนที่เธอจะออกมาจากคุก เธอก็รู้อยู่แล้วว่าทำไมเธอถึงถูกปล่อยตัวเธอมาที่นี่เพื่อแข่งกับวินซ์วินซ์ก็คงได้ข่าวแล้วเช่นกันแม้สถานการณ์เช่นนี้ วินซ์ก็ยังคงสุภาพต่อเธอมาก เธอรู้สึกงุนงง“วินซ์ คุณน่าจะรู้ว่าทำไมฉันถึงได้กลับมาในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้“คุณแน่ใจเหรอว่าจะชวนฉันไปกินข้าว?”ควินนี่ยิ้มให้เขารอยยิ้มของวินซ์แข็งทื่อ แน่นอนว่าเขารู้ดีว่าทำไมเธอถึงได้รับการปล่อยตัวในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับข่าว แต่เขาจะสามารถเดามันได้อยู่ดีท้ายที่สุดแล้วมาร์เซลก็ไม่มีลูก ควินนี่เป็นคนเดียวที่เขาสามารถใช้แข่งกับวินซ์ได้อย่างไรก็ตาม ลูกสาวบุญธรรมไม่มีสิทธิ์ที่จะแข่งขันกับทายาทสายตรงอยู่แล้ว!นี่มันจะเป็น
“คุณพูดถูก ฉันเสียใจอยู่เสมอที่ได้เกิดเป็นผู้หญิง“แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว”ควินนี่ยิ้ม“ถ้าฉันเป็นผู้ชายแล้วจะยังไง?“ถ้าฉันไม่ใช่แล้วจะยังไง?“พวกเขาว่ากันว่าผู้ชายจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้เสมอ!“แต่บางคนก็ว่ากันว่า…“ผู้หญิงก็ไม่ได้มีความสามารถน้อยไปกว่าผู้ชาย!“ฉันรอมานานแล้ว!“ผ่านมาตั้งหลายปี!“สิ่งที่ฉันเพียงต้องการมาโดยตลอดคือโอกาส…“โอกาสให้ฉันได้สู้!“ฉันไม่ได้มาเพื่อพิสูจน์ว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน…“ฉันมาเพื่อบอกทุกคนว่าฉันสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกันแม้ว่าฉันจะเป็นผู้หญิงก็ตาม!”ฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะปรบมือ“ประทับใจ อย่างที่คาดไว้จากลูกสาวของนายท่านเลย“ไม่น่าแปลกใจเลยที่วินซ์พยายามสร้างสันติภาพกับเธอแม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ก็ตาม“เขายังพยายามล่อเธอด้วยตำแหน่งนายหญิงของตระกูล“เขารู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอจะไม่สนใจเงินทองหรือผลประโยชน์ สิ่งที่เธอต้องการคืออำนาจสมบูรณ์“สำหรับชาวยอร์กแห่งฮ่องกง เธอสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ด้วยการเป็นนายท่านหรือนายหญิงของตระกูลเท่านั้น“และถ้าเขาเปลี่ยนใจเธอไม่ได้ เธอคงจะเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดของเขา”“ในอดีตฉันอาจเ
ควินนี่หรี่ตามองฮาร์วีย์และจ้องเขาอยู่ครู่หนึ่ง เธอบอกได้เลยว่าเขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเธอเลยเธอส่งเสียงเยาะเย้ยอย่างเย้นชา“ก็ได้ ฉันไม่แกล้งคุณแล้ว” เธอเยาะเย้ย“คุณพ่อบอกฉันแล้วว่าฉันจะต้องทำอะไรเมื่อออกมา“เขาต้องการให้ฉันเข้าควบคุม ล็อกซัส หุ้นส่วนจำกัด บริษัทที่ทำงานภายใต้ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงก่อนวันเกิดของคุณย่ายอร์ก“ฉันจะมีโอกาสสู้วินซ์ได้ก็ต่อเมื่อฉันควบคุมพวกเขา”“โชคดีล่ะ ฉันจะช่วยทุกวิถีทางที่ทำได้” ฮาร์วีย์พูดพร้อมกับยิ้มให้เธอในขณะเดียวกันฮาร์วีย์ก็บอกให้เอ็ดวินค้นหาที่ตั้งของบริษัทก่อนที่จะไปส่งควินนี่ที่นั่นหลังจากนั้นฮาร์วีย์ก็จะเป็นไทควินนี่หยิบแล็ปท็อปข้างตัวเธอขึ้นมาแล้วเช็กอีเมลของเธอ“คุณพ่อโอนหุ้นทั้งหมดของเขาจากล็อกซัสมาให้ฉัน“ทั้งหมดสามสิบเปอร์เซ็นต์พอดี“แต่เมื่อเขาลงนามในข้อตกลง ฉันได้แนะนำเขาบางอย่าง“ฉันอยากให้ครึ่งหนึ่งเป็นชื่อของคุณ“พูดง่าย ๆ ก็คือ คุณก็มีส่วนร่วมในบริษัทเช่นกัน“มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันต้องบอกคุณ“ประธานของบริษัทคือคอรี่ ยอร์ก“เขาเป็นพ่อที่แท้จริงของวินซ์และเป็นลุงของฉันด้วย“ในขณะเดียวกันเขาคือคนที่ต้องการให้คุ
ปัง!“บัดซบ!“พวกเขาพยายามจะแย่งแหล่งที่มาของอำนาจผมงั้นเหรอ?”สีหน้าของวินซ์ชั่วร้ายจนไม่อาจบรรยายได้“ตลอดหลายปีที่ผ่านมาบริษัทอยู่ภายใต้การควบคุมของบ้านใหญ่มาตลอด…“คนนอกอย่างเขามีสิทธิ์ที่จะมาโอ้อวดในถิ่นของเราตั้งแต่เมื่อไหร่?!“พวกเขาคิดว่าพวกเราเป็นแค่คนขี้ขลาดงั้นเหรอ?”…หลังจากที่ทานอาหารง่าย ๆ กับจูเลียนและส่งเขากลับบ้านแล้ววินซ์ก็รีบไปที่อาคารสำนักงานของเขาที่อ่าววิคตอเรียเขาเดินเข้าไปด้วยสีหน้าเคร่งขรีม เมื่อเขาเข้าไป เขาก็เห็นเล็กซี่ในชุดคลุมของเธอและกำลังเล่นเปียโนอย่างสง่างามเธอกำลังเล่นบทที่เก้าของน็อกเทิร์น ซึ่งเป็นเพลงที่ชวนให้นึกถึงความอาฆาตและการล้างแค้นอย่างไม่สิ้นสุดวินซ์ไม่มีอารมณ์ที่จะเพลิดเพลินไปกับผลงานชิ้นเอกนี้ เขาเดินไปข้างหน้าทันทีและกระแทกมือไปที่คีย์เปียโนและทำลายช่วงเวลานั้น“คุณน้ารู้ไหมว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?! คุณน้ายังมีอารมณ์ที่จะเล่นเปียโนอีกเหรอ?!“คุณน้าบอกว่าจูเลียนจะต้องติดคุกใช่ไหม?!“เขาไม่เพียงแต่จะออกมาแล้ว แต่ผมยังต้องเลี้ยงข้าวเขาอีกด้วย!“นี่คือสิ่งที่พี่สามของคุณน้าต้องการ!”เล็กซี่ขมวดคิ้วก่อนที่จะตอบเบา ๆ “บ้านหล
รถโตโยต้า พราโด้วิ่งเข้ามาจอดข้างหน้าบริษัทเล็กซัส หุ้นส่วนจำกัด ควินนี่คุยโทรศัพท์สองสามสายระหว่างทางเพื่อให้คนส่งรถตู้พร้อมชุดและเครื่องสำอางมาให้เธอเมื่อก้าวออกจากรถตู้ครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็กลายเป็นสาวงามทีเดียวด้วยวิถีทางอันแน่วแน่ของเธอ เธอจะไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อที่เธอจะได้ขึ้นสู่อำนาจหลังจากที่โทรศัพท์อีกสองสามครั้ง เธอก็ตระหนักว่าตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงสุดของเธอไม่ได้ต่ำเลย จากทั้งบริษัท เธอจะเป็นผู้บังคับบัญชาคนที่สองแต่บุคลากรและอำนาจทางการเงินยังคงถูกควบคุมโดยคอรี่ ยอร์ก หัวหน้าของบ้านใหญ่ควินนี่รับผิดชอบด้านการตลาดไม่มีใครกล้าคัดค้านการตัดสินใจของคอรี่เช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นหัวหน้าของเล็กซัส หุ้นส่วนจำกัดอย่างแท้จริง เขาเป็นถึงประธานและผู้บริหารของบริษัทคอรี่แสดงความเคารพมากพอที่จะมอบหมายให้ควินนี่เป็นผู้บริหารระดับสูงสุดหลังจากที่มาร์เซลโทรหาเขาเพียงครั้งเดียวควินนี่รู้ดีว่าบางสิ่งไม่สามารถเร่งรีบได้เธออาจเป็นลูกสาวบุญธรรมของนายท่าน แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะควบคุมบริษัทได้เนื่องจากหัวหน้าบ้านใหญ่ได้ปกครองบริษัทมาหลายปีแล้ว
ฮาร์วีย์ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เขายืนอยู่ข้างหลังควินนี่อย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าเขาเป็นบอกดี้การ์ดของเธอเขาต้องการเห็นว่าผู้หญิงที่มีความสามารถคนนี้จะควบคุมผู้คนรอบตัวเธออย่างไรควินนี่เพิกเฉยต่อสายตาของผู้คนโดยสิ้นเชิงและนั่งลงที่เก้าอี้ของประธาน“ฉันชื่อควินนี่ ยอร์ก ฉันว่าทุกคนคงรู้ว่าฉันเป็นใคร ดังนั้นฉันจะเข้าเรื่องเลย“วันนี้ฉันเรียกประชุมเพื่อบอกทุกคนว่านายท่านได้แต่งตั้งให้ฉันรับตำแหน่งนี้ด้วยตัวของเขาเอง“ทุกคนที่นี่ต่างก็มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับตระกุลยอร์กแห่งฮ่องกง“ฉันหวังว่าเราทุกคนจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันและอยู่เคียงข้างกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น“ฉัน ควินนี่ จะไม่มีวันทำอะไรโดยที่ไม่นึกถึงพวกคุณเลย“อีกอย่าง ฉันขอแนะนำให้พวกคุณรู้จักกับอีกคนหนึ่ง ฮาร์วีย์ ยอร์ก“เขาไม่มีตำแหน่งอะไรในบริษัท เขาเป็นแค่ที่ปรึกษา“แต่คำพูดของเขามีค่าเท่ากับคำพูดของฉันเอง“คำขอของเขาก็เหมือนกับคำขอของฉัน!“ถ้าคุณต่อต้านเขา ก็เท่ากับคุณต่อต้านฉัน“เข้าใจไหม?!”มติของควินนี่ได้เรียกความสนใจของทุกคน เธอไม่เพียงแต่เปิดเผยการสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอเท่านั้น เธอยังมอบตำแหน่งอย่
ชายในชุดสูทของจิวองชี่มีสีหน้าน่ากลัว“ถ้าคุณไม่สามารถรับผิดชอบทั้งหมดนั้นได้ ผมเกรงว่าคุณคงจะอยู่ในตำแหน่งของคุณได้ไม่นาน“แมงดาตัวนี้ก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้นานเหมือนกัน!”ฮาร์วีย์เหลือบมองชายในชุดจิวองชี่อย่างสงสัย ผู้ชายอะไรจะดุขนาดนั้น!เขาไม่เคารพควินนี่ตั้งแต่การพบกันครั้งแรก!เขาไม่กลัวที่จะตายในมือของชาวยอร์กเหรอ?ท้ายที่สุดแล้วควินนี่ก็ยังมีฐานะอยู่ นั่นคือความจริงที่ไม่มีใครสามารถเพิกเฉยได้หลังจากที่พลิกดูไฟล์ต่าง ๆ ในที่สุดฮาร์วีย์ก็รู้ว่าชายคนนั้นคือใคร ชื่อของเขาคือ ดันเต้ คาสโตร และเขาเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทในขณะเดียวกัน เขาก็มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจทีเดียว ว่ากันว่าเขาเป็นลูกชายของพ่อบ้านของคอรี่และได้รับการเลี้ยงดูมาภายใต้การดูแลของเขา เขาได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจได้ของคอรี่เช่นกันแม้แต่วินซ์ก็ต้องสุภาพกับเขาด้วยด้วยเอกลักษณ์นี้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ดันเต้จะต้องไม่เกรงกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับคนในตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเว้นแต่ดันเต้จะโง่พอที่จะต่อกรกับมาร์เซล ก็ไม่มีใครในบริษัทกล้าต่อกรกับเขานี่คือสาเหตุหลักว่าทำไมเขาถึงโกรธมาก
จากคำพูดของดันเต้ ผู้บริหารคนอื่น ๆ ในห้องก็มีรอยยิ้มขี้เล่นบนใบหน้าพวกเขารู้ว่าดันเต้กำลังใช้โอกาสนี้เพื่อโค่นควินนี่ลงท้ายที่สุด ทุกคนก็รู้ดีว่าองค์กรอชิกาวะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดเนื่องจากราคาถูก สินค้าจึงถูกจำหน่ายไปทั่วโลกพวกเขากำลังพยายามเข้าสู่ตลาดของประเทศ H และกำลังมองหาผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่นแม้แต่เลขาของคอรี่ก็ยังไม่สามารถทำข้อตกลงกับใครได้เนื่องจากเป็นเช่นนั้น ดันเต้จึงไม่มีโอกาสที่จะได้รับความชื่นชมจากบริษัทอย่างแน่นอนต่อให้เขาจะทำได้ องค์กรอชิกาวะก็จะไม่ใช้ข้อแก้ตัวเช่นนี้ในการยกเลิกข้อตกลงหลังจากที่ควินนี่เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาจึงพยายามให้เธอรับผิดแทนท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะโทษใครได้อีก? เธอคือคนที่มีสถานะค่อนข้างสูงที่สุดจากพวกเขาเหล่าผู้บริหารคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ข้างดันเต้ไม่มีใครจะยืนหยัดเพื่อควินนี่แน่นอนทุกคนมองควินนี่ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่รอดูว่าเธอจะรับมือกับการแสดงความแข็งแกร่งของดันเต้อย่างไรหากเธอไม่มีทางแก้ไขสถานการณ์นี้ ตำแหน่งของเธอก็จะถูกปล้นไปจากเธอทันทีฮาร์วีย์เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใจเย็นโดยไม่พูดอะไรสักคำควินนี่เหลือบมองด