ปัง!กลิ่นดินปืนลอยไปในอากาศเมื่อกระสุนถูกยิงออกไปอย่างเด็ดขาดแน่นอนว่าในการยิงนัดนี้จะไม่มีความลังเลหรือความเมตตาใด ๆ เป้าหมายของสโนว์คือการรั้งฮาร์วีย์ ยอร์กเอาไว้ในห้องนี้แต่น่าเสีย ต่อให้สโนว์จะเร็ว แต่ฮาร์วีย์เร็วกว่าฮาร์วีย์กระโจนไปข้างหน้าขณะที่สโนว์เหนี่ยวไกปืนและพุ่งเข้าใส่ลำตัวของเธอปัง!กระสุนหลงไปตรงเพดานสโนว์กระเด็นออกไปทันทีก่อนที่จะชนกับชั้นหนังสือของสเตย์พอร์ทที่ทำจากไม้ลูกแพร์สีเหลือง เธอกระอักเลือดออกมาจำนวนมาก กระดูกของเธอหักไปหลายชิ้นปืนสีเงินกระเด็นออกจากมือของเธอ ขณะที่หมุนไปบนพื้นจนไกลเกินเอื้อมจากเธอ“คุณเป็นทหารชั้นสูงสุดงั้นเหรอ? แต่ทำได้แค่นี้เนี่ยนะ?”ฮาร์วีย์แสดงท่าทีเหยียดหยามอย่างยิ่งคำพูดเหล่านั้นเพียงพอที่จะทำให้สโนว์ตกอยู่ในความสิ้นหวังฮาร์วีย์ไม่พูดอะไรอีกต่อไป เขาเพียงแต่เดินออกจากออฟฟิศไปจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในลิฟต์และไม่นานก็ถึงประตูหน้า“คุณคือใคร?!”“คุณจะทำอะไร?!”บอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งพยายามหยุดฮาร์วีย์ แต่มันก็สายเกินไปฮาร์วีย์เดินผ่านพวกเขาและเอื้อมมือไปทางด้านหลังรถมายบัคก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืนประตูที่ควรจะปิดก็พลัน
”อะไรนะ?“พี่สามจับตัวฮาร์วีย์ ยอร์กไปหลังจากที่เขาออกมาจากวิลล่าในสวนเหรอ?“สโนว์ บอดี้การ์ดส่วนตัวของเขาพิการไปเลยเหรอ?“ไอ้สารเลวนั่นยังตบหน้าพี่สามด้วยเหรอ?!”ภายในห้องพักผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลฮ่องกง เล็กซี่ ยอร์กหายใจรุนแรงขณะที่คุยโทรศัพท์พร้อมกับหั่นแอปเปิ้ลให้วินซ์ ยอร์กสีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหลือเชื่ออย่างยิ่งหลังจากที่เธอวางสายจากนั้นเธอก็ถือจานแอปเปิ้ลไปวางลงบนโต๊ะตรงหน้าวินซ์และค่อย ๆ จิ้มไม้จิ้มฟันเข้าไปในแอปเปิ้ลหนึ่งชิ้นวินซ์วางแล็ปท็อปลงเพื่อพาตัวเองออกมาจากธุรกิจที่ยุ่งวุ่นวายของเขา เขามองเล็กซี่แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”เล็กซี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่“ฉันไม่รู้ว่าพี่สามคิดอะไรของเขา เขาพยายามไปหยุดฮาร์วีย์...“และแน่นอนว่าผลที่ตามมาก็คือเขาทำให้ตัวเองเดือดร้อน“เขายังขายหน้าอีกด้วย”จากนั้นเล็กซี่ก็อธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับวินซ์หลังจากที่กัดแอปเปิ้ลไปคำหนึ่งเขาก็แสดงสีหน้าสับสน“น่าสนใจ จูเลียน ยอร์กถูกกองบังคับคดีของตระกูลยอร์กจับตัวไปและถูกปลดจากอำนาจของเขาเพราะฮาร์วีย์“แต่ลุงสามกลับยังชวนเขาไปคุยที่อาคารสำนักงานของเขาอีกเหรอ?“เขาพยายา
“คุณน้าพูดว่าอะไรนะ?!”วินซ์ ยอร์กชะงักก่อนที่จะกลับมามีสติอีกครั้ง“ดูเหมือนว่าลุงสามกำลังพยายามจะเตะผมออกจากตำแหน่งโดยไม่ให้ใครรู้!“แต่มีหลักฐานไหม?“เขาจะไม่มีวันยอมรับหากเราไม่แสดงหลักฐานใด ๆ”เล็กซี่ ยอร์กแสดงรูปภาพในโทรศัพท์ของเธอให้วินซ์ดู“ตามคำให้การของเขา เขาบอกว่าเขามีหลักฐานเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน นอกจากบ้านหลังที่สามแล้ว ทุกคนในตระกูลมีส่วนร่วมหมด”รูปภาพนั้นเผยให้เห็นฮาร์วีย์ ยอร์ก และโนอหา์ ยอร์กนั่งตรงข้ามกันหลังจากหรี่ตามองรูปภาพนั้นครู่หนึ่ง วินซ์ก็พูดอย่างสงสัย “แต่เขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นด้วย...“ถ้าเขาเปิดเผยหลักฐาน เขาจะฆ่าตัวเองตายก่อนที่จะมาถึงเราด้วยซ้ำ”“จากที่รู้จักสุนัขจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์นั้นและในเมื่อเขาได้หลักฐานไปแล้ว หลักฐานนั้นน่าจะเอาผิดเขาไม่ได้แน่นอน” เล็กซี่ตอบอย่างสงบ“นอกจากนี้เขาอาจจะพยายามให้หลักฐานไปถึงเซลีน่า จัดด์ผ่านฮาร์วีย์ก็ได้“และเนื่องจากเซลีน่าเชื่อใจฮาร์วีย์มากขนาดนั้น เธอจะต้องเชื่อมันอย่างแน่นอนถ้าฮาร์วีย์เป็นคนที่นำหลักฐานนั้นไปให้เธอ!“และถ้าฮาร์วีย์ยอมรับเงื่อนไขของโนอาห์ เราคงเกิดการนอ
พระอาทิตย์ยามเย็นที่อ่าววิคตอเรียช่างงดงามฮาร์วีย์ ยอร์กนั่งบนหลังคาเรือสำราญขณะที่พลิกดูหนังสือพิมพ์หลายสิบฉบับที่ซื้อมาแต่หลังจากที่เขาเสร็จแล้วเขาก็ดูเสียใจเล็กน้อยเขาไม่คิดว่าเหล่านักข่าวจะขี้ขลาดขนาดนี้ เขาป้อนข่าวใหญ่ให้พวกเขา แต่พวกเขาไม่กล้าตีพิมพ์สิ่งที่น่าสนใจด้วยซ้ำเหล่านักข่าวจะไม่กล้าดูหมิ่นวินซ์ ยอร์ก หรือโนอาห์ ยอร์ก“ตามที่คาดไว้จากคนที่รวยและมีอำนาจ“แม้แต่สื่อก็ยังถูกพวกเขาควบคุม”ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังคร่ำครวญเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นก็มีคนหนึ่งเดินขึ้นมาและนั่งบนเก้าอี้เอนกายข้างฮาร์วีย์อย่างสบาย ๆเขาคือมาร์เซล ยอร์ก นายท่านลำดับที่สี่ของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเขาสวมเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้สไตล์ฮาวายและแว่นกันแดดอันใหญ่ เขาไม่ได้พาใครมาด้วยในขณะนี้ถ้าฮาร์วีย์ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาคงเข้าใจผิดว่าเขาเป็นเพียงคนธรรมดาตามท้องถนนฮาร์วีย์ยื่นแก้วกาแฟให้มาร์เซลหลังจากที่เขาเอนกาย“วันนี้คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอนายท่านยอร์ก?”โยอาน่า เมนโดซาจัดสถานที่นี้ให้ฮาร์วีย์ ท้ายที่สุด ณ จุดนี้ เขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับโรงแรม ทรี ซีซั่น เต็มที และเขาไม่สามารถไปที่วิลล่าในสวนได้
โนอาห์ ยอร์กสวมเสื้อกันลม เผยถึงกลิ่นอายของความเป็นคนชนชั้นสูงรอยฝ่ามือบนใบหน้าของเขาได้รับการดูแลโดยแพทย์อย่างเพียงพอแล้วจนเกือบจะไม่สามารถมองเห็นได้แต่เมื่อฮาร์วีย์ ยอร์กเหลือบมองมา เขาก็ยังคงเห็นรอยฝ่ามือจาง ๆ อยู่มาร์เซล ยอร์กมองไปอย่างสงสัยและเต็มไปด้วยความสนใจว่าโนอาห์จะเล่นการใหญ่นี้อย่างไร“นั่นนายเหรอน้องสี่?“อ้าว! นายน้อยยอร์ก! อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”โนอาห์มาโดยไม่ได้ถูกรับเชิญและวิ่งไปที่เรือของฮาร์วีย์ เมื่อเขาขึ้นมาบนหลังคา เขาก็ทำเหมือนกับว่าเขาสนิทกับฮาร์วีย์มันยากที่จะจินตนาการว่าเขาเคยวางแผนที่จะจัดการกับฮาร์วีย์แต่ถูกตบหน้าก่อนหน้านี้ฮาร์วีย์หรี่ตาลงเล็กน้อย เขาต้องยอมรับว่าสุนัขจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์เหล่านี้เก่งกาจเพียงใดฮาร์วีย์ยังคงจำที่เขาตบหน้าโนอาห์ได้อย่างชัดเจน แต่โนอาห์ดูราวกับว่าเขาลืมมันไปแล้วน่าประทับใจ…ทว่า ฮาร์วีย์ไม่ได้จะปล่อยโนอาห์ไป“โลกกลมจังเลยนะนายท่าน!“ผมไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่หลังจากเหตุการณ์เมื่อเช้านี้!“รอยตบบนหน้าคุณเป็นยังไงบ้าง?“ยังเจ็บอยู่ไหม?“การรักษาของคุณคงแพงน่าดู!“ผมขอโทษจริง ๆ ผมเป็นคนขี้เล่น บางครั้งผมมักจะ
โนอาห์ชะงัก เขาไม่สามารถบังคับตัวเองให้ส่งแก้วไปได้โนอาห์หรี่ตามองมาร์เซลชั่วครู่ จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างขมขื่น“ดูเหมือนว่าน้องสี่ของฉันจะไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปหลังจากที่ได้เป็นนายท่านมาเป็นเวลานาน…“ฉันไม่เคยเข้าใจว่าตระกูลที่มีฐานะร่ำรวยจะสามารถห่างเหินกันได้ขนาดไหน แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว”“มีอะไรก็พูดมา อย่าทำให้ผมต้องเสียเวลาเลย” มาร์เซลพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาโนอาห์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นท่าทางที่ไม่แยแสและไร้อารมณ์ของมาร์เซล“พี่สองน่าจะโทรหานายแล้ว” โนอาห์พูดเบา ๆ“ปล่อยลูกชายของฉันซะ”“ทำไม?” มาร์เซลถามอย่างเย็นชา“เขาเป็นลูกชายของฉัน เขาผิดพลาดไปบ้าง แต่เขาไม่สมควรต้องตาย“กองบังคับคดีของตระกูลยอร์กรับผิดชอบคดีของเขา แต่ฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะเคารพการตัดสินใจของนายเช่นกัน“ตระกูลเราไม่ได้มีทายาทชายมากนัก จูเลียนก็ถือว่ามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมด้วย“ฉันไม่ต้องการให้อนาคตของลูกชายของฉันถูกทำลายเพียงเพราะเรื่องแบบนี้“ถ้านายต้องการ ฉันยกเขาให้เป็นลูกชายของนายก็ได้“ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ยังคงเป็นหลานชายของนาย เราทุกคนเป็นตระกูลเดียวกัน พวกเราจะทะเลาะกันทำไม?“
หลังจากที่โนอาห์กลับไปแล้ว ฮาร์วีย์ก็ลุกขึ้นและหยิบแฟ้มขึ้นมา เขาพลิกหน้าต่าง ๆ ดูก่อนที่จะถามเบา ๆ “ตอนนี้คุณคิดจะทำอะไรเหรอนายท่านยอร์ก?“ในเมื่อคุณรู้ว่าสิ่งเหล่านี้อยู่กับโนอาห์ ทำไมไม่ยึดพวกมันจากเขาและให้ความยุติธรรมแก่ลูกชายของคุณล่ะ?“คุณจะชักใยอยู่ทำไม?“คุณจะปล่อยจูเลียนไปและคืนตำแหน่งให้เขาเพียงเพื่อพวกนี้เหรอ?“นั่นดูเหมือนจะเป็นการเสียเปล่า”“ผมได้พวกนี้มาด้วยตนเอง มันแตกต่างกับการมีคนมอบให้“อย่างน้อยก็ต่อหน้าคุณย่ายอร์ก“นอกจากนี้ ผมจำเป็นต้องปล่อยจูเลียน“ถ้าผมไม่ทำ ผมก็จะไม่มีข้อแก้ตัวที่จะปล่อยลูกสาวตัวเอง”รูม่านตาของฮาร์วีย์หดตัว ดูเหมือนว่ามาร์เซลจะเริ่มแผนของเขาแล้ววันเกิดของคุณย่ายอร์กน่าจะเป็นวันที่น่าตื่นเต้นฮาร์วีย์หัวเราะอย่างขบขัน“ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็อยากได้คำเชิญไปงานวันเกิดคุณย่ายอร์กเหมือนกันนายท่าน“ผมคงจะรู้สึกแย่มากถ้าไม่ได้ไปชมเหตุการณ์ด้วยตาของตัวเอง!”มาร์เซลมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่ลึกซึ้งก่อนที่จะยิ้มจาง ๆ“ไม่ต้องห่วง ต่อให้คุณจะไม่อยากไป ผมก็จะลากคุณไปที่นั่นด้วยตัวเอง“ในวันเกิดคุณย่ายอร์ก…“หัวหน้าตระกูลคนต่อไปจะถูกเลือก“ม
ที่ท่าเรือสำราญของอ่าววิคตอเรีย เรือสำราญสีดำสนิทค่อย ๆ เกยฝั่งรถจี-แวเกิ้นสองสามคันจอดเป็นเส้นตรง หลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนมากมายที่แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองก็ก้าวลงจากรถพวกเขาต่างมีรอยยิ้มอันอบอุ่นวินซ์อยู่ภายใต้พวกเขา เขายิ้มจาง ๆ ในขณะที่เขาหรี่ตามองบุคคลที่ออกมาจากคุกที่ไม่สามารถติดตามได้ของหน่วยมังกรลับชายผู้ต้องสงสัยสวมเสื้อผ้าเรียบ ๆ แต่มือของเขายังคงเต็มไปด้วยผ้าพันแผลและเฝือก เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจูเลียนไม่ว่าวินซ์ต้องการให้จูเลียนตายมากแค่ไหน เขาก็ยังคงแสดงรอยยิ้มอันอบอุ่นในขณะที่เขาทักทายคนหลังพร้อมกับควินตัน แมทธิว และคนอื่น ๆ เมื่อพวกเขาเห็นจูเลียน พวกเขาก็แสดงท่าทีกระตือรือร้นและเห็นอกเห็นใจ“โอ้ จูเลียน! พี่น้องของเรายอมสารภาพเพื่อให้คุณได้รับการปล่อยตัว!”“อย่าลืมเลี้ยงอาหารทุกคนเพื่อเป็นการขอบคุณด้วยนะ!”“นายน้อยยอร์ก”จูเลียนรีบเข้าหาวินซ์ก่อนที่จะโค้งคำนับด้วยความเคารพเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนอกเรือนจำ แต่เขารู้ว่าเขาโชคดีมากที่ได้รับการปล่อยตัวยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับตำแหน่งผู้นำของกองทหารของตระกูลยอร์กคืนอีกด้วย นั่นหมายความว่าเขายังคงทำงานเป็นสม
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข