มิยาตะที่เพิ่งมาถึงถูกห้อมล้อมไปด้วยสมาชิกหลงเหมินที่กระตือรือร้นทั่วทั้งภูเขา มีเพียงเอ็ดวินเท่านั้นที่ยังคงอยู่เคียงข้างฮาร์วีย์แม้แต่แคร์รี่ซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น ก็ยังรีบดันตัวไปข้างหน้าเพียงเพื่อประจบมิยาตะ เพราะกลัวว่าจะไปช้าเกินไปและถึงกระนั้นมิยาตะกลับเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด สายตาของเขาจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์ซึ่งยังคงเฉยเมยต่อสถานการณ์ทุกอย่างมิยาตะพินิจวิเคราะห์ฮาร์วีย์ก่อนจะตะคอกออกมา “นายคือฮาร์วีย์ใช่ไหม?“นายคือคนที่ดูหมิ่นศิลปะการต่อสู้ของประเทศหมู่เกาะมาโดยตลอดใช่ไหม?“นายเป็นคนฆ่าศิษย์ของฉันในฮ่องกงพร้อมกับตระกูลทาเคอิทั้งหมดเหรอ?!”ฮาร์วีย์จับถ้วยชาของเขาและตอบอย่างใจเย็นว่า “ตระกูลทาเคอิก่ออาชญากรรมที่ชั่วร้ายและเหยียบย่ำผู้บริสุทธิ์ พวกเขาทุกคนสมควรตาย“ในฐานะนักดาบ นายกล้าที่จะแก้แค้นให้พวกเขาไหมล่ะ?”“แก้แค้น?”ดวงตาของมิยาตะกระตุก“นายไม่มีสิทธิ์ตัดสินว่าศิษย์ของฉันสมควรตายหรือไม่ กฎหมายของประเทศ H ก็เหมือนกัน!“คนที่มีสิทธิ์ตัดสินเรื่องนั้นมีเพียงฉันเท่านั้น!“ฉันไม่สนใจเรื่องความบาดมางระหว่างพวกนาย แต่เนื่องจากนายเป็นคนฆ่าศิษย์จากชินคาเงะเวย์ขอ
มิยาตะนึกอยากจะบีบคอฮาร์วีย์และใช้โอกาสนี้เหยียบย่ำศิลปะการต่อสู้ของประเทศ Hกระนั้น ฮาร์วีย์ก็หลบเลี่ยงการโจมตีได้เสียอย่างนั้นเพียงว่าความตระหนกนั้นเกิดขึ้นกับยอดฝีมืออย่างมิยาตะเพียงครู่เดียวเข้าฟื้นคืนความสงบเงียบได้อย่างรวดเร็วและเริ่มเปิดฉากเตะฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!เสียงผ่าอากาศดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการโจมตีที่รวดเร็วของเขาฝีเท้าของเขาทั้งรวดเร็วและอันตรายถึงชีวิต คนทั่วไปที่ถูกมันโจมตีคงจะหัวระเบิดไปแล้วสการ์เลตต์และทายาทเศรษฐีคนอื่น ๆ ค้นพบว่าพลังและการโจมตีดังกล่าวน่าตื่นเต้นอย่างที่สุดใบหน้าของผู้หญิงเป็นสีแดงสดขณะที่พวกเธอส่งเสียงเชียร์ให้มิยาตะ ทั้งยังชูกำปั้นขึ้นไปในอากาศด้วยความตื่นเต้น ทุกคนต้องการให้ฮาร์วีย์ตายอย่างสิ้นหวังฮาร์วีย์ยังคงสงบเช่นเคย เขายังนั่งอยู่บนเก้าอี้หินพลางจิบชาอย่างสบาย ๆบางครั้งร่างกายของเขาก็แกว่งไปมาเล็กน้อย ในขณะที่เขาหลบการโจมตีของมิยาตะอย่างไม่ยากลำบากแม้จะเตะพลาด แต่มิยาตะก็ยังไม่หยุด กรงเล็บส่องประกายในขณะที่เขาเหวี่ยงมันไปข้างหน้า การเคลื่อนไหวขยับไปพร้อมกับแขนเสื้อกว้างของเขา แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง!เสียงดังก้องไปทั่วอาก
มิทเชล สการ์เลตต์ ไดโตะและคนอื่น ๆ ขมวดคิ้วเนื่องจากมิยาตะซึ่งเป็นนักดาบถึงกับลงมือเอง...พวกเขารู้สึกว่าสำหรับเขาแล้วไม่ยากเลยที่จะฆ่าฮาร์วีย์ภายในสองถึงสามกระบวนท่าเขาเปิดการโจมตีไปมากกว่านั้น แต่ฮาร์วีย์ก็ยังไม่ได้รับบาดเจ็บ แม้แต่ผมของฮาร์วีย์ก็ยังอยู่ทรงและไม่ถูกแตะต้องสิ่งนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย! ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด!“บางทีนักดาบชิโนะสุเกะอาจจะกำลังพยายามทำให้ชาวประเทศ H ย่ามใจ!”สการ์เลตต์ตระหนักได้ถึงบางอย่าง หลังจากเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ“เขาสามารถฆ่าฮาร์วีย์ได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว แต่เขาพยายามทำให้การต่อสู้นานขึ้นแก่เรา“สิ่งนี้แสดงถึงความเมตตาและความอ่อนน้อมถ่อมตนของศิลปะการต่อสู้แห่งประเทศหมู่เกาะ!"คุณชิโนะสุเกะ! ในนามของศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H ขอบคุณคุณด้วย!“เราจะจดจำในการที่คุณเห็นแก่ชื่อเสียงของประเทศของเราไว้!“ประเทศหมู่เกาะและประเทศ H จะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป!“คุณไม่ต้องกังวล หลังจากที่คุณฆ่าฮาร์วีย์แล้ว ฉันจะให้พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงบังคับให้วงศ์ตระกูลและมิตรสหายของเขาต้องได้ชดใช้ความผิด!“ฉันสาบานต่อพระเจ้าเลย โลกแห่งศิลปะการต่
บรรดาทายาทเศรษฐีในขณะนี้ต่างเชื่อว่าเพราะเขามีมารยาทดีเลิศถ้าเทพสงครามเล่นงานพวกเขา พวกเขาคงยอมแพ้ไปนานแล้วพวกเขาจะไม่เหมือนฮาร์วีย์ที่ยืดการต่อสู้อย่างไร้จุดหมายออกไปหน้าด้าน ๆมิทเชล แคร์รี่และสมาชิกทุกคนของกองบังคับคดีหลงเหมินจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความจะถูกเหยียดหยามพวกเขาคิดว่าการกระทำของฮาร์วีย์ทำให้หลงเหมินอับอายขายหน้าเมื่อมองดูท่าทางสงบนิ่งของฮาร์วีย์ สการ์เลตต์รู้สึกว่ามิยาตะควรจะโจมตีให้สุดแรงเพราะหากฮาร์วีย์บ้านั๋นถูกทุบตีจนตายตรงนั้นแล้ว ก็คงจะโล่งใจได้ไม่น้อยสการ์เลตต์ก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยปากอย่างชอบธรรมไปอย่างไม่ต้องคิด “ขอบคุณสำหรับความเมตตาของคุณ คุณชิโนะสุเกะ!“แต่คุณมาที่นี่เพื่อแก้แค้น! ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจพวกเราหรอก!“จบเรื่องนี้ได้แล้ว!“ทำให้ไอ้สารเลวนั่นทุกข์ทรมานตามที่คุณต้องการได้เลย!”สการ์เลตต์มั่นใจว่ามิยาตะจะสู้สุดกำลังหากเธอพูดเช่นนั้นเธอรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ถ้าเธอรู้ว่ามิยาตะจะใจกว้างขนาดนี้ เธอคงบอกเขาเร็วกว่านี้!“คนอย่างฮาร์วีย์ควรถูกกำจัดในทันที! ไม่ต้องเกรงใจเขา! บดขยี้เขาด้วยพลังทั้งหมดของคุณไปเลย!”“นางโง่เอ๊ย!”มิยาตะซ
จากนั้นมิยาตะก็ปล่อยการโจมตีใส่ฮาร์วีย์อีกครั้ง เขาแสดงทักษะวิชาดาบและเซเฟอร์สแลชจากประเทศหมู่เกาะรอยแตกเริ่มก่อตัวขึ้นบนพื้นดิน ต้นไม้ที่น่าสงสารถูกตัดโค่นและล้มลงอยู่เนือง ๆถึงอย่างนั้นฮาร์วีย์ก็ยังคงสงบนิ่งอยู่เสมอ ในความเป็นจริงแล้ว การโจมตีของมิยาตะทำอะไรเขาไม่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวตอนนั้นเองที่สการ์เลตต์และคนอื่น ๆ ตระหนักได้ถึงสิ่งที่สำคัญไม่ใช่ว่ามิยาตะคิดจะออมมือให้กับฮาร์วีย์ ไม่ใช่เช่นนั้นเลย ฮาร์วีย์ต่างหากที่เร็วเกินไป!เขาหลบทุกการโจมตีได้อย่างทันท่วงที!“ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าฆ่ายอดฝีมือแห่งชินคาเงะเวย์และท้าทายมิยาตะทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามิยาตะกำลังมา!“เขาคงพอได้เรียนรู้อะไรแปลก ๆ มาบ้างแล้ว!”สการ์เลตต์กำลังเดือดดาลด้วยความโกรธ“คุณยังกล้าเรียกตัวเองว่าลูกผู้ชายหรอ ฮาร์วีย์?!“คุณแค่เร็วกว่าเขานิดหน่อยและสามารถหลบหลีกการสังหารของคุณชิโนสุเกะได้ แต่แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรอ่ะ!“ในเมื่ออีกฝ่ายสู้กับคุณแบบตายกันไปข้างหนึ่ง แล้วคุณจะเอาแต่หนีไปให้ได้อะไร?!“นี่ไม่เพียงเป็นการดูหมิ่นอีกฝ่าย…“แต่คุณกำลังทำให้โลกของศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H ต้องอับอาย!“คุณกำลั
หลังจากได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยวของสการ์เลตต์ สาว ๆ ก็เริ่มจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเหยียดหยามไม่คิดเลยว่าจะมีผู้ชายหน้าด้านแบบเขาด้วย! ช่างน่าอายจริง ๆ!ผู้ชายทุกคนจากประเทศ H ต้องอับอายเพราะเขา!ช่างน่าละอายเสียจริง!“ไม่หลบแล้วหรือ?”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“เป็นพวกมีงานล้นมือหรือไง?“ในเมื่อนายโง่ขนาดนั้น ฉันจะเลิกหลบเพราะเห็นแก่นายก็แล้วกัน”ทันใดนั้น ฮาร์วีย์ก็ปล่อยออร่าที่ดุร้ายทั้งหมดที่มีออกมาคลื่นที่น่าสะพรึงกลัวซัดเข้าหามิยาตะมิยาตะซึ่งมีใบหน้าอัปลักษณ์ตกตะลึงหลังจากสัมผัสได้ถึงออร่าที่เปลี่ยนไปของฮาร์วีย์ สการ์เลตต์ก็ถึงจะพูดไม่ออก ดวงตาของเธอหรี่ลงด้วยความไม่เชื่ออย่างที่สุดฟุ่บ!ฮาร์วีย์กระโจนไปข้างหน้า ความสงบปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา และเหวี่ยงฝ่ามือของเขาการตบนั้นรวดเร็วและฆ่าคนได้ ความเร็วสูงสุดเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะอยู่เหนือกว่าศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบขณะที่ฮาร์วีย์เหวี่ยงฝ่ามือออกไป เขาก็ปรากฏตัวต่อหน้ามิยาตะสีหน้าของมิยาตะแย่ลงเมื่อเขารู้ว่าเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะหลบ เขาทำได้เพียงเอียงดาบยาวขึ้นเพื่อพยายามสกัดกั้นการตบของฮาร์วีย์เปร
ทุกคนต่างตกตะลึงที่เห็นว่าคน ๆ หนึ่งมีพลังมากขนาดนี้ได้อย่างไรมิทเชล สการ์เลตต์และคนอื่น ๆ พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียวจู่ ๆ ไดโตะก็รู้สึกคอแห้งผาก เขาตบหน้าตัวเองสองสามครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไปมิยาตะเป็นใครน่ะหรือ?!เขาเป็นนักดาบแห่งชินคาเงะเวย์ และเป็นหนึ่งในเทพสงครามของประเทศหมู่เกาะ!คนอย่างเขาเรียกได้ว่าไม่มีวันพ่ายแพ้!ทว่าเขากลับถูกโค่นลงได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียวจากเจ้าแมงดาฮาร์วีย์!เขาไม่ได้ลอยออกไป แต่ภาพที่เห็นก็ยังทำให้ตกตะลึง"เป็นไปไม่ได้! มันยังไงกันแน่?!"คุณชิโนะสุเกะคือเทพสงครามที่แท้จริง! แม้ว่าฮาร์วีย์จะเริ่มฝึกฝนตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ก็ไม่มีทางเทียบชั้นกับเขาได้!“แล้วเขาชนะได้ยังไง!“เขาต้องได้เปรียบจากกลยุทธ์อะไรแผลง ๆ เป็นแน่…“ต้องเป็นอย่างนั้นแน่…!”สการ์เลตต์พึมพำกับตัวเอง ใบหน้าดูเหยเกไปหมด เธอไม่อาจยอมรับสิ่งที่เพิ่งเห็นได้ ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาข้อแก้ตัวเพื่อโน้มน้าวให้ตัวเองเชื่อเหล่าทายาทเศรษฐีของสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ในความเงียบงัน ดวงตาของพวกเขากระตุกอย่างรุนแรง แม้ว่าพวกเขาอยากจะพูด แต่พวกเขา
"ไอ้สารเลว!"สการ์เลตต์เอาชนะความตกใจของตัวเองและกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง เธอโกรธมากเธอปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้มิยาตะจัดการฮาร์วีย์เสียเดี๋ยวนี้ถึงกระนั้น มิยาตะกลับถูกกระทำราวกับหมาข้างถนนสการ์เลตต์คิดหาข้อแก้ตัวอีกครั้งเมื่อเธอเห็นว่าฮาร์วีย์กำลังเหยียบคอของมิยาตะ“หยุดนะฮาร์วีย์!” เธอกรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยว“หยุดเดี๋ยวนี้!“การต่อสู้นี้จบลงแล้ว!“คุณมันป่าเถื่อนจริง ๆ!“ไร้ยางอายที่สุด!“คุณเหนือกว่านักดาบเกินไป!“คุณต้องใช้อาคมอะไรบางอย่างเพื่อเอาชนะเขาแน่!“รอบนี้ไม่นับ!“คุณต้องขอโทษสำหรับการกระทำที่ชั่วร้ายของคุณเดี๋ยวนี้เลย!“ตอนนี้ประเทศ H ไม่อยากที่จะได้รับชัยชนะที่น่าละอายแบบนี้หรอก!“เรายอมเสียชื่อเสียงไม่ได้!”สการ์เลตต์เดินเตร่ไปเรื่อย ๆ อย่างไร้สติ ราวกับว่าเธอพูดถูกอยู่เสมอ“ปล่อยคุณชิโนสุเกะเดี๋ยวนี้ และขอการให้อภัยจากเขา!“ถ้านายยอมทำแบบนั้น เราก็จะไม่เอาเรื่องนาย!”มิทเชลล์กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง และเอ่ยสะท้อนตามสการ์เลตต์ไป“ปล่อยเขาไปฮาร์วีย์!“ยอมรับความพ่ายแพ้ซะ!“ไม่อย่างนั้นแล้ว ถ้านายทำให้คุณลีโฮลด์ไม่พอใจ เกิดเรื่องร้ายแรงตามมา!”
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข