สีหน้าของลูอิสเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ความเย่อหยิ่งของเขาเหือดหายไปนานแล้วนี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่งสำหรับเขาเขาท่องไปในดาร์ก ไอส์แลนและเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นคนที่กล้าบ้าบิ่นถึงกระนั้น ในขณะนี้ เขากลับถูกคนอื่นข่มไว้ได้อย่างเด็ดขาดชายคนนั้นกลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมกว่าเขามาก ระเบิดในมือจะระเบิดในไม่กี่วินาทีนี้แล้ว และผู้คนกำลังจะตายจริง ๆลูอิสคิดว่าเขาเป็นคนที่ไม่กลัวความตาย และสามารถทำให้ทุกคนตื่นตกใจได้ด้วยข้อเท็จจริงนี้แต่วันนี้ชายที่ปรากฏตัวขึ้นทำให้เขารู้ถึงได้ถึงความกลัวในหัวใจของเขาทัศนคติที่เย่อหยิ่งและเผด็จการของเขาเกิดจากการที่เขาปราศจากความกลัวตายแต่หลังจากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ เขาก็ตระหนักได้ว่าเขามีโอกาสที่จะพินาศในมือของคนอื่น...เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ เขาจะยอมแพ้แต่โดยดีทันที!การตระหนักรู้นี้ทำให้ใบหน้าของลูอิสบิดเบี้ยวอย่างน่าสยดสยอง“นายกล้าดีนี่ ไอ้หนู! แกเป็นหนึ่งในคนของตระกูลเมนโดซางั้นเหรอ! แน่จริงก็บอกชื่อของนายมาสิ!“พรุ่งนี้ฉันจะไปเผาคนทั้งตระกูลของนายให้วอดเลย!”ลูอิสมองชายคนนั้นด้วยท่าทางเคร่งขรึม พยายามทำเสียงให้น่ากลัวและหน้าเก
ดวงตาของลูอิสกระตุกอย่างบ้าคลั่ง เขาเป็นคนที่ดื้อรั้นเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฮาร์วีย์เขากลับรู้สึกเทียบอะไรไม่ได้เลย“นายไม่กลัวตายจริง ๆ เหรอ?!” เขาอุทาน น้ำเสียงเคร่งขรึม“แน่นอน กลัวสิ ใครจะไม่กลัว?”“แต่ฉันมันก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง แต่กับนายล่ะ?" ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น“นายเป็นถึงหนึ่งในสี่นายน้อยแห่งฮ่องกง นักสู้ไร้พ่ายผู้ท่องไปในดาร์ก ไอส์แลน นายยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า!“ถ้าเราต้องตายไปด้วยกัน ฉันก็ไม่มีอะไรต้องเสีย“เพราะฉันตาย ทุกคนก็จะลืมฉัน“แต่พวกเขาจะจดจำนายไว้ในฐานะตัวตลกที่ยอมตายเพื่อความภาคภูมิใจอันไร้สาระ!”ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างสบาย ๆ แต่เฮเลน่าและคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างหลังดวงตากระตุกอย่างรุนแรงแค่คนบ้าคนเดียวก็น่ากลัวมากพอแล้วแต่การมีอยู่ถึงสองคนนั้นน่ากลัวมาก!พวกเขาเกือบจะฉี่ราดกางเกงอยู่รอมร่อ ลูอิสถอนหายใจและพยายามผ่อนปรน“ฉันต้องยอมรับเลยไอ้หนู นายกล้าได้กล้าเสีย! แถมยังแข็งแกร่ง! ต้องขอชมเลย!“ฉันจะยอมรับความพ่ายแพ้ในเรื่องนี้!"ฉันขอโทษ!"ฉันผิดไปแล้ว! ขอโทษด้วยทุกคน!”“นี่ไม่ใช่การขอโทษที่เหมาะที่ควรเลย นายน้อยคาสโตร” ฮาร์วีย
ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง!ระเบิดตกลงบนพื้นและกลิ้งไปสองสามครั้ง แต่มันไม่ระเบิด มันยังคงแกว่งไปมาแทนฝูงชนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น ตัวสั่นด้วยความกลัว"เฮ้อ มันไม่ระเบิดเหรอ?”"โทษที สงสัยอันนี้ต้องพังแล้วแน่ ๆ”ฮาร์วีย์แสดงท่าทางประหลาดใจก่อนจะดึงระเบิดอีกลูกบนหน้าอกของลูอิสออกมาอย่างไม่แยแสและถอดสลักออก“ฉันจะปล่อยเธอไป! ฉันจะคืนเธอให้พวกนายเดี๋ยวนี้เลย!”ก่อนที่ลูอิสจะทันได้ตอบโต้ เคทลินก็กระโดดออกมาจากที่ซ่อนทันทีและกรีดร้องอย่างยอมจำนนทันทีไม่มีใครอยากตาย เคทลินยิ่งไม่อยากเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเครียดกับความตายระยะเผาขนชีวิตของเธอราบรื่นดีมาตลอด แน่นอนว่าเธอไม่อยากตายเหมือนหมาข้างถนนอยู่ที่นี่!ลูอิสสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัวในขณะเดียวกัน เขาก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากร่างกายของเขาเขาอยากจะเอาหัวโขกพื้นให้สลบไปเขาไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้รู้สึกกลัวขนาดนี้ด้วยการโทรศัพท์จากเคทลิน ผู้คุ้มกันสองสามคนพาไอรีนออกมาหลังจากนั้นไม่นานใบหน้าของเธอซีดเผือด แต่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บไม่ว่าอย่างไรพวกเขาล้วนเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีบางอย่างที่แม
ใบหน้าของลูอิสแทบจะจมลงไปกับพื้นในขณะนี้ ขณะที่สัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าของฮาร์วีย์ เขากัดฟันและบังคับตัวเองให้สำลักคำว่า “ฉันขอโทษ”ฮาร์วีย์ยิ้มหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขายกขาขึ้นช้า ๆ แล้วปล่อยลูอิสให้เป็นอิสระลูอิสยังไม่ลุกขึ้นทันทีเช่นกันเขาคุกเข่า หลังตรงในขณะที่เงยหน้ามองฮาร์วีย์ด้วยท่าทางเหยียดหยาม เขาดูคล้ายกับสัตว์ร้ายที่เลี้ยงไม่เชื่อง“ฮาร์วีย์? นายคือฮาร์วีย์คนนั้นน่ะเหรอ!"ดี! ฉันจะจำทุกอย่างวันนี้เอาไว้!“นายควรรู้ว่ามีคนที่แข็งแกร่งกว่านายเสมอ ฮาร์วีย์!“ฉันจะคิดบัญชีในสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายในคืนนี้อย่างแน่นอน!”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“รู้ไหมว่าฉันเกลียดอะไรที่สุด? คนพูดมากไงล่ะ!”ฮาร์วีย์คว้าคอของลูอิสทันทีเขาดันระเบิดมือที่ไม่มีสลักเข้าไปในปากของลูอิสโดยไม่ลังเล!“ในเมื่อพูดมากขนาดนี้ ก็หาอะไรอุดไว้ซะหน่อยดีกว่า“ถ้านายอ้าปากพูดอีกครั้ง และระเบิดลูกนี้ทำงานขึ้นมาก็อย่ามาโทษฉันล่ะ!”ฮาร์วีย์เอื้อมมือไปตบหน้าลูอิสอย่างเย้ยหยัน“หวังว่าครั้งต่อไปที่เราได้เจอกัน นายจะยังมีชีวิตอยู่”ลูอิสอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาทำได้เพียงจ้องมองฮาร์วีย์อย่างไม่พอใจฮาร์
เล็กซี่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ก่อนที่จะถามว่า “เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ? เขาขว้างระเบิดลงบนพื้นเนี่ยนะ?“สลักนิรภัยถูกถอดออกไปแล้วเหรอ? แล้วทำไมมันไม่ระเบิด?”วินซ์จิบชาก่อนจะตอบ“มีคนตรวจสอบระเบิดหลังจากเรื่องทั้งหมดผ่านไป ปรากฎว่ามันพังไปแล้ว วัตถุระเบิดข้างในมีความผิดพลาดจริง“ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้สารเลวนั่นโชคเข้าข้างหรือเปล่าระเบิดถึงได้พังไปก่อน หรือว่าเขารู้เรื่องนี้แล้ว…“แต่สิ่งที่เขาทำ ทำให้ทุกคนประหลาดใจ”จากนั้นวินซ์ก็เล่นวิดีโอบนโทรศัพท์และดูมันไปพร้อมกับเล็กซี่ทั้งสองได้เห็นกับตาว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไรหลังจากดูวิดีโอซ้ำประมาณสามครั้ง ทั้งคู่ก็ส่งสายตาหากันอย่างเงียบ ๆไม่สำคัญว่าฮาร์วีย์จะทำได้อย่างไร แต่เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในเอ็มเมอรัลด์ คลับเล็กซี่ถอนหายใจอีกครั้งขณะที่เธอชำเลืองมองที่หน้าจออย่างสิ้นหวัง“ผู้ชายคนนี้โชคดีเรื่องผู้หญิงมาก…“โยอาน่า เลสลี่ และตอนนี้ยังมีไอรีนอีกคน…“ทั้งสามคนค่อนข้างมีสถานะทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัส“ตอนนี้ เพราะความประมาทเลินเล่อของเคทลิน ทั้งตระกูลจอห์นสัน
#เอ็ดวินดูเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนทัศนคติที่ขี้เล่นและอู้ฟู่ของหนุ่มเจ้าสำราญก่อนหน้านี้ของเขาถูกแทนที่ด้วยความเข้มงวดกวดขัน เขาไม่เคยดูจริงจังขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิตฮาร์วีย์รู้สึกโล่งใจ ดูเหมือนว่าบทเรียนที่ได้รับเมื่อคืนนี้จะคุ้มค่า“นายถูกเล่นงานมาทั้งคืนแล้ว ทำไมไม่พักผ่อนสักหน่อยล่ะ?” เขาแนะนำจากนั้นเขาก็รินชาให้ตัวเองก่อนที่จะยกขึ้นจิบเอ็ดวินตัวสั่นเมื่อเห็นฮาร์วีย์“ผมอยากจะแจ้งคุณเกี่ยวกับข้อมูลที่ผมได้รับเพิ่มเติมมาครับ คุณยอร์ก” เขาเริ่มพูด น้ำเสียงฟังดูค่อนข้างลังเล“แต่เพราะคุณกำลังพักผ่อน ผมถึงไม่อยากรบกวน”“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของนายนะ” ฮาร์วีย์กล่าว"ไม่เป็นไรหรอกครับ"เอ็ดวินส่ายหน้าโบกมือรับคำชม“ผมนอนไม่หลับอยู่แล้ว”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“นอนไม่หลับเหรอ? นายยังโกรธอยู่ใช่หรือเปล่า? หรือกำลังอาฆาตแค้นอยู่?”"ไม่ใช่ทั้งสองอย่างครับ"เอ็ดวินส่ายหน้าอีกครั้ง“ในตอนที่ผมอยู่ในค่ายศัสตราวุธ คุณบอกว่าผมต้องเผชิญหน้ากับหัวใจของตัวเองเพื่อให้มีความกล้าหาญอย่างแท้จริง เพราะเหตุนี้ ผมถึงจะสามารถไต่อันดับและก้าวขึ้นไปเป็นเทพสงครามได้“ผมไม่
ในขณะนี้ ทุกคนในตระกูลจอห์นสันกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นที่สว่างไสวด้วยท่าทางเคร่งขรึม ดูเหมือนพวกเขากำลังรออะไรบางอย่างอยู่ไม่มีใครสนใจที่จะต้อนรับการกลับบ้านของไอรีนเลยปัง!ท่ามกลางความไม่สบายใจของพวกเขา ประตูหน้าก็เกิดเสียงดังขึ้นทันทีหลังจากนั้น รถตู้สีดำหลายคันก็ปรากฏขึ้นสาวกของกองบังคับคดีหลงเหมินก้าวออกจากรถพร้อมอาวุธและมีท่าทีเป็นปรปักษ์ พวกเขาดูพร้อมที่จะฆ่าใครก็ตามที่เข้ามาขวางสาวกของหลงเหมินที่ดูแลบ้านพักจอห์นสันดูค่อนข้างตกใจ พวกเขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้าเหล่าสาวกของกองบังคับคดีของหลงเหมินยิ้มเยาะอย่างเย้ยหยันก่อนที่จะล้อมรอบสถานที่ทั้งหมดเอาไว้แคร์รี่โผล่ออกมา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความชอบธรรมที่องอาจ เธอก้าวไปข้างหน้าอย่างเย่อหยิ่ง ตามด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาที่หยิ่งยโสพอๆ กัน"คุณคิดจะทำอะไร?" ไอรีนเอ่ยฝากถามตามสัญชาตญาณเพี๊ยะ!แคร์รี่ไม่สนใจเธอและส่งเธอบินไปพร้อมกับตบหน้าจากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและหรี่ตาลงพิเคราะห์ไอรีนอย่างมีนัยยะ “ผู้หญิงคนนี้แหละ พาเธอไปที่บูโดกัน! นี่เป็นคำสั่งของนายน้อยบาวเออร์!”ตามคำสั่งของเธอ สมาชิกกองบังค
“พวกแกจะทำอะไรกันแน่?!”พ่อของไอรีนโกรธจัดตระกูลของพวกเขาไม่เคยประสบกับความอัปยศอดสูเช่นนี้มาก่อน แม้หลังจากเข้าปกครองหลงเหมินสาขาฮ่องกงและลาสเวกัสมาหลายปีแล้วก็ตามเพราะเขาไม่รู้ว่ามอร์แกนอยู่ที่ไหน และตอนนี้ ลูกสาวของเขาเองก็ยังถูกลากตัวออกไปอีกคนเหล่านี้พยายามทำอะไร“พวกเราจะทำอะไรน่ะเหรอ?” แคร์รี่พูดอย่างใจเย็น“ง่ายจะตาย เรากำลังตามหาประจักษ์พยานและหลักฐานอยู่ยังไงล่ะ ฉันมั่นใจว่าพวกคุณจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้พวกเราได้ เมื่อมองจากความสำเร็จของตระกูลของคุณ“ฉันจะให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมงในการหาหลักฐานว่าตระกูลของคุณสมคบคิดกับคนนอก“ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าโทษฉันล่ะที่ต้องเป็นคนหาหลักฐานในตระกูลของพวกคุณเอง!”สีหน้าของสมาชิกตระกูลจอห์นสันทั้งหมดแย่ลงหลังจากได้ยินคำพูดของแคร์รี่เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้กำลังวางแผนที่จะใส่ร้ายพวกเขา“หากพวกแกทำแบบนี้ พวกแกจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน!” พ่อของไอรีนตวาดลั่นเพี๊ยะ!แคร์รี่ส่งเขาให้ลอยไปพร้อมกับตบหน้าเขาอีกครั้ง"ลงโทษงั้นเหรอ?!"พูดต่อไปสิ! บอกฉันมาหน่อยว่าฉันจะโดนลงโทษยังไง!“ค้นที่นี่ให้ทั่ว!“พวกคุณทุกคนถอยไปให้หมด! ฉันต้องกา