ลูอิสจ้องไปที่เอ็ดวินซึ่งกำลังสงบปากสงบคำอย่างถูกทรมาน ก่อนจะหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม ความเย่อหยิ่งเด่นหราอยู่บนใบหน้าของเขาเขาหรี่ตาและส่งเสียงปลุกพลัง “เอาล่ะ เอ็ดวิน ในเมื่อนายไม่ได้สูงส่งและทรงพลังอีกต่อไปแล้ว งั้นฉันขอถามหน่อยอีกครั้ง…”“นายจะยอมคุกเข่าหรือเปล่า!”ใบหน้าของเลสลี่กลายเป็นน้ำแข็ง“อย่าล้ำเส้นให้มากนักนะ ลูอิส!” เธอคำราม หน้านิ่ง"ล้ำเส้น?"ลูอิสพิเคราะห์มองเลสลี่ด้วยท่าทางเหยียดหยาม“คิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธอเพียงเพราะพ่อของเธอเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของฮ่องกงอย่างนั้นเหรอ?”“ก็ลองหยุดฉันดูสิ เพราะถ้าฉันจัดการกับหมอนี่แล้วเธอจะเป็นรายต่อไป!”ลูอิสบีบแก้มของเธออย่างคุกคาม สายตาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามจากนั้นเขาก็หันเหความสนใจกลับไปที่เอ็ดวิน“ฉันจะนับถึงสาม คุกเข่าลงแล้วฉันจะให้โอกาสนายได้คุยกับเคทลิน” เขาเตือนอย่างเคร่งขรึม“แล้วถ้านายไม่ทำ ฉันจะฆ่านายเดี๋ยวนี้เลย”“แน่นอน นายจะขัดขืนก็ได้ แต่ถ้านายทำแบบนั้น ฉันจะฆ่าพวกนายทุกคน!”ลูอิสแสยะยิ้มอย่างพอใจ มั่นใจว่าตนเหนือกว่า"สาม! สอง! หนึ่ง…"เอ็ดวินไม่มีทางเลือก เขารู้สึกได้ถึงเจตนาสังหาร
“แล้วอีกอย่าง ในตอนนี้พี่สาวของนายน้อยเมนโดซาก็มีอำนาจควบคุมวังมังกรของฮ่องกงอยู่ด้วย“พวกเขามีชื่อเสียงทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัส ด้วยสถานะที่ทรงพลังแบบนั้น! นายได้คิดถึงผลที่ตามมาของการทำให้เขาขุ่นเคืองแล้วหรือยัง?!“ถึงนายจะไม่กลัว แต่โยอาน่าจะพาคนของเธอมาที่นี่ทันทีถ้านายฆ่าเขา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าชื่อเสียงของเอ็มเมอรัลด์ คลับของฉันแปดเปื้อนเพราะการกระทำของนายกัน?”ใบหน้าของเคทลินเต็มไปด้วยความขมขื่น“นายน้อยเมนโดซามาที่นี่เพื่อขอโทษ เขามาที่นี่เพื่อเจรจาอย่างสันติ! แล้วเขาจะแสดงความจริงใจของตัวเองได้ยังไงหลังจากที่ถูกนายบังคับให้คุกเข่าด้วยปืนแบบนี้?”แม้ว่าเสียงของเคทลินจะไพเราะและอ่อนโยน แต่น้ำเสียงที่เธอพูดกลับเย็นชาและห่างเหินทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนยังคงลุกโชนอยู่ในใจของเธอ เธอยังจำทุกอย่างได้อย่างชัดเจนเนื่องจากเอ็ดวินเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฮาร์วีย์ เคทลินจึงยินดีที่จะเหยียบย่ำเขาไปด้วยแน่นอนว่าเธออยากจะรู้ว่าเอ็ดวินมีกลอุบายอะไร ก่อนที่จะจัดการกับเขาให้อยู่หมัด"ดี! เพราะเห็นแก่คุณ คืนนี้ผมจะไว้ชีวิตเขา”ลูอิสส่งสัญญาณมือให้บริกรที่อยู่ใกล้ ๆ จากนั้นบริกรก็นำแ
“สงบศึก?!“ฮะ! นายคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ในเรื่องนั้นเหรอ!”ลูอิสตัดบทสนทนาและจ้องเขม็งไปที่เอ็ดวิน ความเย้ยหยันถูกเขียนขึ้นทั่วใบหน้าของเขา ขณะที่เขามองเอ็ดวินด้วยความเกลียดชัง จากนั้นเขาก็หยิบระเบิดออกมาวางไว้บนโต๊ะ“ฉันจะยอมทำตามข้อเสนอของเคทลิน ถ้านายกล้ากลืนมันลงไป!”ดวงตาของฮาร์วีย์กระตุกเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นว่าลูอิสมีระเบิดอีกหลายลูกคาดอยู่ที่เอวของเขาถือเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่เพิ่งกลับมาจากดาร์ก ไอส์แลน เขาสามารถนำสิ่งของเหล่านั้นติดตัวไปด้วยได้...เขาไม่กลัวที่ที่จะทำให้ตัวเองต้องตายไปพร้อมกับทุกคนรอบตัวหรือ ถ้าเขาบังเอิญไปปลดชนวนระเบิดมือลูกหนึ่งเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ?ดูเหมือนว่าทุกคนจะรับรู้ในสิ่งเดียวกันกับฮาร์วีย์ และใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยมีสาวสวยสองสามคนที่ใบหน้าซีดเซียวเมื่อได้ยินเช่นนั้น ในขณะเดียวกัน สายตาของพวกเธอก็ดูเย้ายวนขึ้นผู้ชายที่พกอาวุธทำลายล้างเช่นนี้ทำให้พวกเธอหวาดกลัว แต่ด้วยเหตุผลบางประการ พวกเธอกลับสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ที่แผ่ออกมาจากตัวของลูอิสท้ายที่สุดแล้ว หญิงสาวมักจะยอมจำนนต่อผู้ชายที่แข็งแกร่งอย่างไรก็ตาม เอ็ดวินไม่สนใจลูอิสเลยแ
เสียงแหลมดังขึ้นในอากาศขณะที่เอ็ดวินถูกตบหน้ารอยฝ่ามือสีแดงปรากฏขึ้นบนแก้มของเขา เกิดรอยเด่นหรา สายตาที่น่าสมเพชนั้นช่างน่าอัปยศอดสูเสียจริง“เคทลิน!” เอ็ดวินคำรามอย่างหมดความอดทนทันทีที่เสียงของเขาดังขึ้น ผู้คุ้มกันของตระกูลพาร์สันก็พุ่งไปข้างหน้าพวกเขาเล็งปืนไปที่ศีรษะของเอ็ดวินหากเอ็ดวินต้องเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน พวกเขาไม่ลังเลที่จะเหนี่ยวไกเลยแม้แต่น้อยฮาร์วีย์และเลสลี่ก้าวออกจากฝูงชนเช่นกัน“นายคิดว่าตัวเองจะเรียกชื่อฉันได้ตามต้องการอย่างนั้นเหรอ?”“นายคิดว่านายมีสิทธิ์อย่างนั้นหรือ?”เคทลินเอ่ยถาม น้ำเสียงของเธอดูแคลน“ตระกูลเมนโดซาเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง! นายคิดว่าตัวเองเป็นคนยิ่งใหญ่ที่นี่เพียงเพราะพี่สาวของนายมีอำนาจควบคุมสาขาของวังมังกรใช่ไหม?“นายลืมไปหรือเปล่าว่านายมาได้ไกลถึงเพียงนี้เพราะตระกูลแฮมิลตัน“นายสูบเลือดสูบเนื้อตระกูลแฮมิลตัน แล้วนายก็ตีสนิทกับฮาร์วีย์…“ตระกูลของนายยังมีศักดิ์ศรีบ้างหรือเปล่า?“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีตของเรา ฉันจะทำให้พวกเขาเหนี่ยวไกเดี๋ยวนี้เลย!“นายยังกล้าพูดกับฉันเรื่องความเกรงใจและความรับผิดชอ
ดวงตาของเอ็ดวินกระตุกขณะที่เขามองไปที่ใบหน้าที่ไม่พอใจของเคทลินมือขวาของเขาสั่น แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เหวี่ยงมันออกไปยิ่งกว่านั้นคือ เขาบังคับตัวเองด้วยกำลังทั้งหมดที่มีเพี๊ยะ!เมื่อเคทลินเห็นว่าเอ็ดวินยังคงนิ่งอยู่ เธอจึงตบหน้าเขาที่แก้มอีกข้าง“ไอ้ขยะโสโครก! นายได้แต่เห่าแต่ไม่รู้จักกัด! นายดูยิ่งใหญ่ แต่ก็ไร้ประโยชน์!“นายโดนผู้หญิงตบแต่ไม่มีปัญญาตอบโต้กลับด้วยซ้ำ!“ไม่ละอายแก่ใจบ้างหรือไง?!”“เธอ?!”เอ็ดวินรู้สึกอับอายที่ถูกเคทลินตบ'แม้แต่ตอนที่นายเป็นหนึ่งในอัจฉริยะรุ่นเยาว์แห่งลาสเวกัส นายก็ยังไม่กล้าต่อกรกับฉันเลยด้วยซ้ำ!''นายนี่ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ!''มาถึงขั้นนี้แล้ว นายน่าจะตาย ๆ ไปซะ!'เอ็ดวินยกมือขึ้นกุมใบหน้า เลือดเริ่มซึมออกจากริมฝีปาก เขาดูน่าสังเวชอย่างยิ่ง การแสดงออกดูแย่อย่างที่สุดคนที่ดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันหัวเราะและชนแก้วกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่พวกเขาเพลิดเพลินไปกับสถานการณ์ตรงหน้า บางคนถึงกับยกมือขึ้นถ่ายวีดีโอไว้ด้วยโทรศัพท์ เหตุการณ์น่าอัปยศออกสู่ของนายน้อยแบบนี้จะเป็นวิดีโอไวรัลอย่างแน่นอนหากถูกโพสต์ลงในแพลตฟอร์มออนไลน์!“เธอกำลังล้ำเส้นแล้
“นอกจากนี้ นั่นคือส่วนแบ่งของคุณจอห์นสัน ไม่ใช่ของนาย! นายไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนพวกเขาด้วยซ้ำ!“หรือนายกำลังบอกว่าเจ้านายของนายกลัวเกินกว่าจะมาเผชิญหน้ากับเรา? ว่างั้นเขาถึงได้ยอมรับเงื่อนไขที่น่าอัปยศเช่นนี้?”เคทลินจ้องมองไปที่เอ็ดวินอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าเธออยากจะรู้ว่าเขาจะตอบสนองอย่างไร เพื่อที่เธอจะได้ดำเนินการตามแผนของเธอต่อไปถึงกระนั้น เอ็ดวินยังคงสงบนิ่ง“เลิกไร้สาระได้แล้ว คุณพาร์สัน ผมจะถามคุณอีกครั้ง คุณยินดีรับเงื่อนไขหรือไม่”เคทลินขยับเข้าใกล้เอ็ดวินมากขึ้น ก่อนจะเดินเข้ามากระซิบข้างหูเขา“แน่นอนว่าฉันยินดีรับเงื่อนไขที่ดีแบบนี้ แต่ช่างน่าเสียดาย! เพราะฉันไม่ได้พาคุณจอห์นสันไป!“และถึงแม้ว่าฉันจะพาเธอไป… ในเมื่อเจ้านายของนายพยายามอย่างหนักที่จะช่วยชีวิตเธอ ถ้าฉันเลือกที่จะเก็บเธอไว้ที่นี่และมองดูตระกูลจอห์นสันแยกทางกับเขา มันจะไม่สนุกยิ่งกว่านี้เหรอ?“เจ้านายของนายคิดว่าเขาสามารถสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ในฮ่องกงและลาสเวกัสได้เพียงเพราะเขาฉลาดและมีพรสวรรค์เล็ก ๆ น้อย ๆ เนี่ยนะ?“ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!“เขาไม่โผล่หัวมาเองด้วยซ้ำ แต่ให้นายมาแทน! เขาก็เป็นแค่ขยะโ
“ถ้าใช่แล้วจะทำไมล่ะ”“ถ้าฉันอยากจะมีปัญหากับนายแล้วจะทำไมล่ะ?”เคทลินเดินกลับไปที่โซฟาของเธออย่างสงบก่อนที่จะนั่งลงไปไขว่ห้างอย่างเย่อหยิ่งรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปากของเธอขณะที่เธอมองเอ็ดวินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“ไม่คิดจะลงมือหลังจากพยายามกล้ำกลืนความอัปยศอดสูทั้งหมดนั้นอย่างหนักงั้นหรือ?“หรือคิดจะทำร้ายฉัน?"เอาเลยสิ! ลองดูสักตั้ง!“ฉันอยากจะรู้นะว่านายจะทำยังไง!”"เธอ…"เอ็ดวินกำลังจะก้าวไปข้างหน้าขณะที่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เป็นระเบียบจากด้านหลังคนในเครื่องแบบหลายคนที่มีอาวุธครบมือล้อมรอบไปทั่วทั้งบริเวณโยอาน่าซึ่งสวมชุดเครื่องแบบเดียวกัน ก้าวออกมาจากฝูงชนด้วยเสียงฝีเท้าที่ดังกึกก้อง“เธอกล้าแตะต้องคนในครอบครัวของฉันอย่างนั้นเหรอ เคทลิน? คิดดีแล้วหรือยัง?“เธอจะแบกรับผลที่ตามมาได้อย่างนั้นใช่ไหม?!”สีหน้าของโยอาน่าแย่ลงเมื่อเธอเห็นใบหน้าที่บวมของน้องชายและเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง“โอ้ พระเจ้า! หญิงสาวจากตระกูลเมนโดซา หัวหน้าโยอาน่า เมนโดซามาเองเลยเหรอ?"อะไรกัน? แค่เพราะเธอมีสาขาของวังมังกรอยู่ในมือแค่ไม่กี่วันแล้วคิดว่าตัวเองมีอำนาจใหญ่โตคับฟ้าหร
ใบหน้าที่สวยงามของโยอาน่ากลายเป็นน้ำแข็ง และคิ้วที่ขมวดเป็นปมของเธออาจผูกเข้าเป็นโบว์ได้โดย การตบของลูอิสและทำให้เส้นความอดทนของเธอขาดผึงเธอเป็นตัวแทนของวังมังกรสาขาฮ่องกงและลาสเวกัส รวมถึงผลประโยชน์ของฮาร์วีย์ด้วยเธอไม่ยอมให้ตัวเองถูกตบอย่างง่าย ๆ แน่เธอชักปืนด้ามสวยของเธอออกมาเป็นการตอบโต้“นายคิดว่าตำแหน่งหัวหน้าของฉันเป็นแค่ตำแหน่งลอย ๆ อย่างนั้นเหรอ ลูอิส?” เธอเอ่ยน้ำเสียงเยือกเย็น“นายคิดว่าฉันฆ่านายไม่ได้หรือไง”ตามคำสั่งของเธอ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอโน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับกดเซฟตี้ของปืนและเล็งไปที่ลูอิสแต่การป้องกันนี้ไร้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดสำหรับลูอิส เขาชำเลืองมองโยอาน่าอย่างไม่กลัวเกรงและคำราม “เธอบุกเข้ามาในเอ็มเมอรัลด์ คลับและท้าทายอำนาจของเคทลิน! แน่นอนว่าฉันต้องตบหน้าเธออยู่แล้ว!“ฉันจะบอกอะไรให้นะ โยอาน่า…“ชื่อเสียงของเธออาจจะทำให้คนส่วนใหญ่ตกใจได้ แต่มันไม่ได้ผลอะไรกับฉันหรอก! ถ้าคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์มาช่วยน้องชายของตัวเองเหรอ!“ฝันไปเถอะ!”“ดูเหมือนว่านายพร้อมที่จะสู้กับฉันแล้วสินะ!” โยอาน่าพูดอย่างเย็นชาลูอิสหัวเราะ“เอาเลยสิ! ยิงฉันเลย!”“ถ้า