ฮาร์วี่ย์ยิ้มและไม่พูดอะไรอย่างไรก็ตามไทสันซึ่งอยู่ตรงข้ามกลับตัวสั่นโดยไม่รู้ตัวนักเลงคนนี้ที่มักจะฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมรู้สึกว่าเขาเริ่มมือเท้าเย็นและกำลังจะเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเมื่อมาถึงจุดนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้สบตาฮาร์วี่ย์ สายคู่นั้นทำให้เขาเหงื่อแตกและไม่สามารถพูดอะไรได้ไปชั่วขณะหนึ่งดอนซึ่งอยู่ข้างหลังไทสันรู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาหยุดนิ่ง จากนั้นเขาก็พูดว่า “บราเทอร์ไทสัน ไม่ต้องกังวล เขาเป็นเพียงไอ้สวะและเป็นลูกเขยที่ไร้ค่าจัดการมันซะ! ตัดมือของมัน!”ดอนโวยวายอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของเขาเริ่มเป็นสีแดงและเขาแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะเห็นฮาร์วี่ย์ถูกฟันจนตาย“คนที่คุณต้องการกำจัดคือเขางั้นเหรอ?” ในที่สุดไทสันก็ได้สติตอบ เขาหันหน้าไปมองดอนอย่างขมขื่นไทสันน้ำตาแทบไหล ‘ดอน คุณยอมรับไปจะดีกว่าว่าคุณจำคนผิด ไม่งั้น…’“ใช่ คือมันนั่นแหละ! บราเทอร์ไทสันจัดการมันเลยครับ!” ดอนชี้ไปที่ฮาร์วี่ย์และตะโกนออกมาสำหรับคนตระกูลซิมเมอร์ ทุกคนดูฉากนี้ด้วยความตื่นเต้นที่ฉายชัดบนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาทุกคนรู้ว่าไอ้คนงี่เง่าคนนี้จะต้องตายในวันนี้อย่างแน่นอน แต่พวกเขาก็อยากรอดูว่า
เพียะ เพียะ เพียะ!ดอนถูกตบหน้าสองสามทีโดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ทำให้หน้าของเขาบวม กลายเป็นหัวหมูในทันที!ดอนเกิดอาหารมึนงง “บราเทอร์ไทสัน ผมขอให้คุณจัดการไอ้ขยะนั่น…ทำไมคุณถึง…”ในตอนนี้ทุก ๆ คน รวมทั้งดอนต่างงงงวยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดอะไรขึ้น?ไทสันไม่ใช่พี่ชายที่แสนดีของดอนหรอกหรือ?เขาจะเลิกคบดอนง่ายๆได้ยังไง?“คุณกำลังจะฆ่าตัวเองตายและกำลังจะทำให้ผมเดือดร้อนด้วยซ้ำ วันนี้ผมต้องได้ทำลายคุณให้ย่อยยับ…” ไทสันเตะดอนจนเขาไถลไปไกลหลายเมตร จากนั้นเขาก็พูดอย่างโหดเหี้ยม “ซ้อมมัน จัดการมันให้หนัก!"ลูกน้องที่ติดตามเขาในตอนแรกรู้สึกงุนงงเล็กน้อย แต่ตอนนี้พวกเขาต้องทำตามคำสั่ง เมื่อเจ้านายพูดแล้วพวกเขาจะแค่ดู และอยู่นิ่ง ๆ ได้อย่างไร?จัดการเขาซะ!ในวินาทีถัดมาชายฉกรรจ์หลายสิบคนก็เข้ามารุมเตะดอน "ทำไม?! บราเทอร์ไทสัน ทำไมคุณถึงให้พวกเขาทำร้ายผม!”ดอนร้องโหยหวนและกลิ้งไปมา นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ!สมาชิกทุกคนในตระกูลซิมเมอร์ มองกันไปมา ดอนคงไม่ถูกรุมซ้อมจนตายที่นี่ใช่ไหม?ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขากระแอมไอและพูดว่า “บราเทอร์ไทสัน ได้โปรด…”“ฉ
นี่คือสิ่งที่พวกเขาเห็นจริง ๆ หรือเป็นเพียงแค่ความฝัน? เหตุใดไทสัน วูดส์ - เจ้าพ่อธุรกิจจึงให้ความเคารพต่อลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ ท่าทีของเขาราวกับว่าเขากำลังเห็นพ่อบังเกิดเกล้าของเขาเสียอย่างนั้นไอ้สวะที่ไร้ประโยชน์นี้สามารถทำได้อย่างไร?หลายคนอดไม่ได้ที่จะหยิกตัวเอง นี่พวกเขาต้องฝันไปแน่! มันต้องเป็นอย่างนั้นสิ!แมนดี้ก็ตะลึงเช่นกัน ความกังวลของเธอในแรกเริ่มกลายเป็นความตกใจอย่างสิ้นเชิง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?ไทสันไม่ได้สนใจท่าทีของคนในตระกูลซิมเมอร์เลย ในตอนนี้เขาได้ทำทุกอย่างแล้วยกเว้นแค่เพียงการคุกเข่าเท่านั้น จากนั้นเขาก็กระซิบว่า “ผมไม่รู้ว่าเป็นท่าน ผมไม่มีวันมาที่นี่อย่างแน่นอนหากรู้ว่าเป็นท่าน ได้โปรด…อย่าโกรธเคืองผมนะครับท่าน…”"พอแล้ว" ฮาร์วี่ย์ขมวดคิ้วและพูดอย่างเยือกเย็นออกมา “หลังจากผ่านไปหลายปีคุณยังคงพัวพันกับเรื่องวุ่นวายเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ คุณตกต่ำขนาดนี้ได้ยังไง” “เป็นเพราะไอ้สารเลวคนนี้ช่วยให้ผมได้ลงทุนในหุ้นบางตัว…” ไทสันไม่กล้าปิดบังซ่อนมันจากฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ส่ายหัวและพูดอย่างใจเย็น “ตอนนี้เขาล้มละลายแล้ว เอาล่ะ คุณคงรู้แล้วสินะว่าต้องทำอย่างไร”เข
ไทสันตบหน้าดอนและพูดเอ่ยบอกเสียงเย็น "คุณไม่รู้งั้นเหรอว่าทำไมผมถึงสั่งให้ซ้อมคุณ คุณไม่รู้ว่าท่านฮาร์วี่ย์คือใครงั้นเหรอ? คุณกล้าทำให้ท่านขุ่นเคืองได้ยังไง”“เขา…เขาเป็นลูกเขยที่มาเกาะคนอื่นกินทั้งยังไร้ประโยชน์ของตระกูลซิมเมอร์ไม่ใช่เหรอ?”ตอนนี้ดอนเสียใจมากจนแทบจะอาเจียนเป็นเลือด คนที่เขาเรียกมากลับทุบตีเขาแบบนี้และเป็นเพราะฮาร์วี่ย์ไอ้สารเลวนั่น เขาไม่เข้าใจ!“ลูกเขยที่มาเกาะคนอื่นกินงั้นเหรอ” ไทสันหัวเราะเยาะ เมื่อเขากำลังจะเปิดเผยตัวตนของฮาร์วี่ย์ เขาบังเอิญเห็นฮาร์วี่ย์เหลือบมองมายังเขา เขาสั่นสะท้านและและเหมือนถูกสาปไปโดยไม่รู้ตัว “ผมขอถามคุณ คุณล้มละลายงั้นเหรอ? งั้นมันหมายความว่าผมสูญเสียเงินห้าล้านที่ผมให้คุณไปนั้นเหรอ”ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์ไม่กล้าที่จะโน้มน้าวเขา ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกำลังตกตะลึงในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของไทสันเขาก้าวเดินไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัวและพูดว่า “บราเทอร์ไทสัน…คุณบอกว่ามิสเตอร์แซนเดอร์ล้มละลายงั้นเหรอ? นั่นเป็นความจริงหรือไม่”คนอย่างผู้อาวุโสใหญ่แห่ง
"มิสเตอร์แซนเดอร์ คุณช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม? ผมเพิ่งขอให้คนตรวจสอบ เช็คของคุณไม่สามารถขึ้นเงินได้”ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์วางสายโทรศัพท์และเดินออกเข้ามา เขาแกว่งมือไปมาและโยนเช็คลงบนใบหน้าของดอนอย่างเยือกเย็นในตอนแรกเขาคิดว่าเขามีเงินทุนหมุนเวียนประมาณสิบล้านดอลลาร์ แต่โดยไม่คาดคิดคำพูดของไทสันเมื่อกี้นี้กระตุกเข้า เขารีบถามใครคนหนึ่งเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพียงแค่นั้นเขาก็รู้ความจริงผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ในตอนนี้นั้นรู้สึกเกลียดดอนมากนั่นเพราะเขาห่วงเรื่องหน้าตาทางสังคมของเขามากที่สุดในชีวิต ทางเลือกของเขาคือดอน แต่ตอนนี้ดอนไม่เหลืออะไรแล้วและกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ทันที เขาจะต้องพบเจอกับคนเหล่านั้นได้อย่างไร ...ดอนเช็ดเลือดบนใบหน้าและยิ้มอย่างอึกอัก “ท่านซิมเมอร์อย่าลืมสิครับว่าผมยังทำงานที่ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ แม้ว่าตอนนี้ผมจะล้มละลาย แต่ผมก็ยังสามารถลุกขึ้นมาได้อีกในทุกนาที…”ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ขมวดคิ้วออกมาโดยไม่รู้ตัวทันทีที่เขาพูดแบบนี้ ดอนกำลังข่มเขา!ยอร์ก เป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ในเซาท์ไลท์ เป็นตระกูลที่อยู่เบื้องหลัง ยอร์ก เอ็นเทอร์ไ
ลิเลียนพยักหน้า จากนั้นเธอก็รีบเดินไปหาฮาร์วี่ย์และเอ็ดเขา “แกได้ยินแล้วใช่ไหม? รีบไปเป็นตัวประกันสิ มันยิ่งไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าขยะอย่างแกไม่ได้เป็นตัวประกัน แกอยู่ในตระกูลซิมเมอร์มาสามปีแล้วและเราได้ให้ข้าวให้น้ำและปฏิบัติต่อแกด้วยความเมตตา แล้วตอนนี้แกกำลังทำให้เราตกต่ำไปกับแก ถ้าแกยังปฏิเสธที่จะเป็นตัวประกัน ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่!”ฮาร์วี่ย์ดูเฉยชา แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าซีดเซียวของแมนดี้หัวใจของเขาก็อ่อนลง ใครบอกให้เขาตกหลุมรักเธออย่างหมดหัวใจเช่นนี้?"ตกลง!" เขาหายใจเข้าลึก ๆ และไม่สนใจลิเลียน เขาเดินไปหาดอนและพูดเบา ๆ ว่า “ดอน ผมจะเป็นตัวประกันของคุณ ปล่อยภรรยาของผมไป”แมนดี้ตกใจมาก เธอมองไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างไม่อยากจะเชื่อและพูดว่า “ไม่ อย่าทำแบบนี้…”“ไม่ต้องกังวล คุณเป็นภรรยาของผมและผมจะปกป้องคุณเอง” ฮาร์วี่ย์ยิ้มอย่างอ่อนโยนและเดินเข้าไปหาดอน เขาปล่อยให้ดอนถือมีดจ่อคอเขา “ตอนนี้คุณจะปล่อยเธอไปได้แล้วใช่ไหม”แมนดี้รู้สึกว่าตอนนี้น้ำตาของเธอเอ่อคลอเต็มดวงตาของเธอ แม้ว่าชายคนนี้ไม่มีความมั่งคั่งร่ำรวยและอำนาจมากมาย แถมยังไร้ประโยชน์ แต่เขาก็เต็มใจที่จะรับเป็นตัวประกันแทนเธอ“
“ทำไม” ดอนกำลังจะบ้าตาย คืนนี้เขาได้รับโทรศัพท์และเขาก็ล้มละลายอย่างหาคำอธิบายไม่ได้ เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมฮาร์วี่ย์ยิ้มและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรซ้ำไปที่หมายเลขนั้น ตอนนี้อีวอนน์ส่งหมายเลขโทรศัพท์ของเธอให้เขาแล้วโทรศัพท์ได้รับการติดต่ออย่างรวดเร็วและเสียงของอีวอนน์ก็ดังออกมาจากปลายสายของโทรศัพท์ “ท่านประธานคะ ดิฉันดำเนินการไล่ ดอน แซนเดอร์ ตามคำสั่งของคุณแล้ว ในตอนนี้ดิฉันกำลังให้ทนายความติดตามเงินโครงการของบริษัทที่เขายักยอกไป”“คุณ…คุณซาเวียร์…” ดอนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ในตอนนี้เขารู้สึกมึนงงและสายตาของเขาเริ่มพล่ามัวมีดในมือของเขาร่วงหล่นลงบนพื้น เขาพึมพำออกมา “เป็นไปได้ยังไง? คนไร้ประโยชน์อย่างแกจะเป็นประธานบริษัทคนใหม่ได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้!" “เป็นไปไม่ได้! รุ่นปัจจุบันของตระกูลยอร์กต่างก็รู้จักกันดี แกไม่มีทางเป็น…” ดอนส่ายหัวไปมา ตอนนี้เขากำลังจะบ้าตายแล้ว เขาเดาถูกแล้ว แต่เขาปฏิเสธที่จะเชื่อ ไอ้ขยะที่เขาดูถูกอาจทำลายเขาได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับการบดขยี้มดตัวเล็ก ๆ“ขอเถอะ ช่วยบอกฉันทีว่าแกเป็นใคร? แม้ว่าแกต้องการให้ฉั
“ผมกลัวว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้น…” ฌอนขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อย ถ้ามันง่ายขนาดนั้นพวกเขาคงไม่คิดที่จะหวังพึ่งดอนตั้งแต่แรกผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์กระแทกโต๊ะเบา ๆ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าใครสามารถเอาเงินทุนนี้มาได้ ก็จะได้เป็นผู้จัดการโครงการสร้างศูนย์การค้า!”โครงการศูนย์การค้าถือเป็นโครงการที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของตระกูลซิมเมอร์ในตอนนี้หากใครคนใดคนหนึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการของโครงการนั้น เขาอาจได้รับช่วงต่อดูแลตระกูลซิมเมอร์และกลายเป็นผู้นำของตระกูลซิมเมอร์ในนาทีที่ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์กล่าวออกมาเช่นนั้น ทุกคนล้วนดูแปลกไปแต่มันก็เป็นไปได้ยาก หากทุกคนต้องการที่จะติดต่อเกี่ยวข้องกับ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์“คุณปู่ครับ” แซ็คลุกขึ้นยืนทันที “ไม่นานมานี้ ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งจาก ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ และเธอก็เป็นผู้จัดการอยู่ที่นั่น ดูเหมือนเธอค่อนข้างมีสิทธิพิเศษในบริษัท และคนอื่น ๆ ก็เชื่อฟังเธอ ทำไมผมไม่ไปหาเธอและชวนเธอพูดคุยกันเรื่องนี้ใช่ไหมครับ”ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ขมวดคิ้วและพูดว่า “เธอเป็นแค่ผู้จัดการ คนอื่นจะเชื่อฟังเธอได้อย่างไร
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข