ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก สตีฟ ลีนั่นเองสตีฟคิดว่าคนที่สามารถฆ่าแคม ลีได้ ต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสามารถแม้ว่ารังสีของฮาร์วีย์ ยอร์กจะค่อนข้างไม่ธรรมดา แต่ก็ดูเหมือนยังอายุน้อย เขาไม่เห็นว่าฮาร์วีย์จะมีอะไรพิเศษแม้แต่ตำแหน่งที่ปรึกษาของรัฐบาลก็ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนความคิดนั้นแต่ในสายตาของคนอย่างสตีฟ ถึงแม้ฮาร์วีย์จะเป็นที่ปรึกษาของประเทศ H ก็ไม่น่าจะกล้าสู้หน้าที่ปรึกษาของเซาท์ไลท์ได้‘ฉันเดาว่าการบอกว่าน้องชายคนเล็กแสนไร้ค่าของเขาเป็นพวกหาสาระไม่ได้นั้นดูจะไม่มีปัญหา!’‘เขาไม่มีปัญญาจัดการกับคนแบบนี้ได้ ทั้งที่มีหนึ่งในแปดราชันย์แห่งสวรรค์อยู่ข้างกาย แถมยังพาตัวเองไปตายอีกต่างหาก ช่างเป็นคนที่ไร้ประโยชน์เสียจริง’สตีฟแสดงสีหน้าผิดหวัง“คุณต้องคุกเข่าก่อนที่จะตอบนายท่านลี ไม่รู้รึไง?”ชายวัยกลางคนหนึ่งในสามคนเดินเข้ามาช้า ๆ หลังจากเห็นสีหน้าเฉยเมยของฮาร์วีย์และเอ่ยปากดุเขาฮาร์วีย์ไม่สนใจชายคนนั้นและหันมาวิเคราะห์สตีฟ จากนั้นเขาก็เอ่ยถามอย่างใจเย็นว่า “คุณเป็นพ่อหรือพี่ชายของแคม?”ชายที่เดินออกไปใบหน้าเปลี่ยนสีด้วยความตระหนก แล้วตอบอย่างเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ ยอร์ก คุณกล้
โดมินิก พาร์ค ฝืนยิ้มจาง ๆ และตอบว่า “ท่านที่ปรึกษายอร์ก นายท่านลีรู้ทุกอย่างครับ”“แต่เขาชอบผูกมิตรและเต็มใจที่เป็นเพื่อนกับคุณ หากคุณฉลาดเลือก ไม่เพียงแต่เขาจะทำให้การตายของแคม ลีดูราวไม่เคยเกิดขึ้น แต่ยังมีโอกาสอีกมากมายที่สตาร์ แชโบลในบัควู้ดจะได้ร่วมงานกับคุณในอนาคตด้วยนะครับ!”“สตาร์ แชโบลคงใช้เวลาไม่นานในการขึ้นเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง!”ในขณะที่โดมินิกกำลังพูด ราชันย์แห่งสวรรค์ทั้งสามคนและเลขานุการต่างก็เย้ยหยันฮาร์วีย์ ยอร์กในสายตาของพวกเขา แม้ฮาร์วีย์จะมีฐานะไม่สูงนัก แต่การเป็นสามีในนามของใครบางคนก็ย่อมหมายความว่าเขาไม่ได้มีเงินมากมายเงื่อนไขของสตีฟนั้นแสนจะใจกว้างมาก มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะไม่รู้ว่าต้องเลือกอะไรก็แค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย!ด้วยชีวิตของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพียงชีวิตเดียว ปัญหาก็สามารถถูกแก้ไขได้ในทันที ไหนจะผลประโยชน์ที่รอเขาอยู่ เขาน่าจะเลือกได้ไม่ยาก!ในสายตาของผู้คนในประเทศ J ในตอนนี้ฮาร์วีย์ควรจะโค้งคำนับและขอบคุณพระเจ้าด้วยว้ำสตีฟ ลีเป็นบุตรนอกสมรส ก็สมควรแล้วที่เขาจะทำอะไรแบบนี้ได้“คุณจะไม่คุกเข่าเพื่อตอบแทนความเอื้ออาทรของเจ้านาย
อย่างที่คาดไว้ สตีฟ ลี รู้ว่าเขาควบคุมฮาร์วีย์ ยอร์กได้โดยตัดสินจากคำพูดของเขาเลขานุการที่สง่างามของเขาหลายคนจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม ด้วยความคิดว่า คนที่ยอมคุกเข่าต่อหน้าสตีฟนั้น มีแต่พวกไร้ประโยชน์ภายใต้แรงกดดันของสตีฟ ความสนใจของฮาร์วีย์ก็ถูกกระตุ้น“คุณคิดว่าผมต้องการสิ่งที่คุณเรียกว่าโอกาสจริง ๆ หรือ?”“หรือบางทีคุณอาจเข้าใจผิดจนคิดไปว่าคุณสามารถกดดันผมได้จริง ๆ”สตีฟยิ้ม“ผมไม่อยากทำให้คุณเสียใจ ที่ปรึกษายอร์ก แต่แค่ที่ปรึกษาเพียงอย่างเดียวไม่ควรมีปัญหากับคนมีอำนาจบางคนหรอก”“ถ้าเป็นไปได้ การไม่ยั่วโมโหคนอื่นถือเป็นการดีที่สุด นี่ก็เพื่อประโยชน์ของคุณเอง!”สตีฟรู้สึกว่าเขามีความอดทนสูงมากทีเดียวถ้าไม่ใช่เพราะชายตรงหน้าเขาฆ่าแคม ลี ถ้าเขาไม่ได้วางแผนที่จะใช้เขาฆ่าปีเตอร์ ลี เขาคงตบฮาร์วีย์ให้ลงไปกองกับพื้นแล้ว "มีอยู่สองอย่าง…"ฮาร์วีย์ไม่คิดจะพูดให้เปลืองน้ำลายไปมากกว่านี้"หนึ่ง การตายของแคมน่ะสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว จะไม่มีใครต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ผมคิดอย่างนั้น”“สอง ไหน ๆ ตอนนี้คุณก็อยู่ที่นี่แล้ว ส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเยตส์จากอเมริกามาใ
“ตอนนี้ ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย มอบตัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมา แล้วหักแขนและขาอย่าละข้างตามพอต้องการของคุณภายในสิบนาที ถ้าคุณยอมทำ ผมจะปล่อยคุณไป!”“หากหลังจากผ่านไปสิบนาทีแล้ว คุณยังโอหังไม่เลิก ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่ามาโทษผมแล้วกัน!”หลังจากกล่าวจบ สตีฟ ลีนั่งลงบนโซฟาอย่างสบาย ๆ จากนั้นก็ยกขาไขว้ทับอีกข้าง ขณะเหล่มองฮาร์วีย์ ยอร์กเมื่อเลขาสาวสวยมองไปที่สตีฟ ดวงตาของพวกเธอล้วนเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจนี่คือตัวละครที่ยิ่งใหญ่ในตำนาน ซีอีโอผู้ยิ่งใหญ่ในตำนาน!นี่คือชายผู้ที่สามารถชนะการต่อสู้ได้ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ!และเมื่อเทียบกับเขาแล้ว ฮาร์วีย์ก็เป็นเพียงเศษธุลีดินฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เห็นภาพนั้น“ดูเหมือนคุณจะฉลาดกว่าน้องชายที่ตายไปอยู่สักหน่อย อย่างน้อยคุณก็รู้ว่าคุณต้องใช้ความแข็งแกร่งมากสักหน่อยเพื่อจัดการผม…”สตีฟตอบอย่างใจเย็น “นี่ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งเรื่องจำนวน เรามีกันอยู่สองร้อยคน ใขณะที่คุณอยู่ตัวคนเดียว และต่อให้คุณเรียกคนมาพันคนได้ เราจะยังมีคนอีกสองร้อยคนเหมือนเดิม”"เข้าใจแล้ว ผมจะจัดให้ตามที่คุณขอ”ฮาร์วีย์ยิ้มและกดหมายเลขบนโทรศัพท์ขอ
สตีฟ ลี อยู่ในประเทศ H มาหลายปีแล้ว เขาได้ยินทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องนายท่านลำดับที่สี่ของโวลซิ่ง ไปจนถึงเจ้าชายลำดับที่หกของมอร์ดูฮาร์วีย์ ยอร์กควรมีตำแหน่งอันทรงเกียรติสำหรับความแข็งแกร่งของเขา แต่สตีฟตรวจสอบภูมิหลังก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเขามากนักและภายในเงานั้น เขาเห็นชายอีกคนหนึ่ง‘ไทสัน วูดส์?!’'ไทสัน วูดส์ ราชาคนใหม่แห่งถนนเซาธ์ไลท์?!'แม้ว่าสตาร์ แชโบลจะไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ กับเซาท์ไลท์มาก่อน แต่พวกเขาก็ตรวจสอบผู้มีอำนาจทุกคนในเซาท์ไลท์มาอย่างเพียงพอก่อนที่จะมาที่นี่และในบรรดาคนที่พวกเขาตรวจสอบทุกคน ไทสันคือคนที่พวกเขาจับตาดูมากที่สุดตามแผนของสตาร์ แชโบล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าใกล้ไทสันและด้วยการสนับสนุนจากท้องถนนของเซาท์ไลท์ สตาร์ แชโบลสามารถทำสิ่งที่พวกเขาต้องการได้แต่พวกเขาไม่คิดว่าตำนานคนใหม่ที่พึ่งกระโดดเข้ามารับตำแหน่งอย่างไทสันจะนำคนกว่าพันคนมายกระดับฮาร์วีย์ด้วยความเคารพอย่างที่สุดเช่นนี้สตีฟต้องตรวจสอบภูมิหลังของฮาร์วีย์อีกครั้งเพราะเหตุนี้“ในประเทศ H มีประชากรปทั้งหมดหนึ่งร้อยห้าสิบล้านคน พลเมืองที่มีความสามารถเหล่านี้
สีหน้าของสตีฟ ลีนั้นแย่มาก เขาอุทานอย่างไร้อารมณ์ “ฮาร์วีย์…”“เรายอมแพ้!”“ได้โปรดอย่าฆ่าพวกเรา!”แต่ก่อนที่สตีฟจะทันได้ออกคำสั่ง นักเทควันโดสายดำจากประเทศ J ก็คุกเข่าลงกับพื้นไปหมดแล้ว หลายคนยกมือขึ้นเหนือหัวเป็นสัญญาณว่าพวกเขาไร้เจตนาร้ายต่อหน้าอันธพาลที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีนับพันคน การยอมรับความพ่ายแพ้อย่างหมดจดคือทางเลือกเพียงอย่างเดียว เมื่อการยอมจำนนขะทำให้มีชีวิตรอด ทำไมพวกเขาจะไม่ทำ?ฮาร์วีย์ ยอร์กเอียงศีรษะเล็กน้อยจากนั้นไทสัน วูดส์ก็ออกมาพร้อมกับคนอื่น ๆ อีกสองสามคนเพื่อมัดพวกที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเทควันโดสายดำมีเพียงสตีฟและเลขาสาวสวยของเขาเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ท่ามกลางทุกคนจากสตาร์ แชโบลที่แข็งแกร่งและดุดัน“ฮาร์วีย์ ยอร์ก!”“คุณกำลังล้ำเส้น!”“อย่างไรซะ ผมก็ยังคงเป็นลูกชายของตัวแทนลีจากสตาร์ แชโบล ผมเป็นหัวเรือใหญ่เมื่อเทียบกับทุกคนในบริษัท!”“ผมไม่ใช่คนที่คุณจะเหยียดหยามยังไงก็ได้!”สตีฟเดือดดาลด้วยความโกรธ เห็นได้ชัดว่าความภาคภูมิใจจากประเทศ J พลุ่งพล่านอยู่ในเส้นเลือดในกายน้ำเสียงของฮาร์วีย์เย็นชาราวกับน้ำแข็งในขณะนี้“คุกเข่าแล้วค่อยพูด”“ให้ผมคุกเข่
หน้าของสตีฟ ลีบวมอย่างกับหมู เขากรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยวในขณะที่ปากและจมูกของเขามีเลือดท่วมเขาเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศ J เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมและทักษะการต่อสู้!เขายังเป็นศิษย์คนสุดท้ายของปรมาจารย์เทควันโดในสมัยนั้นอีกด้วย!ตัวแทนรุ่นเยาว์ของสตาร์ แชโบล!ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เขายังคงมีบทบาทสำคัญเสมอแต่ตอนนี้ เขาเป็นเพียงสุนัขที่จมน้ำต่อหน้าฮาร์วีย์ เขาหมดเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กลับสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หากฮาร์วีย์ใช้ท่าไม้ตายในตำนานอะไรก็ตามกับสตีฟ เขาจะยอมรับความพ่ายแพ้อย่างแน่นอนแต่ฮาร์วีย์แค่ใช้ฝ่ามือเท่านั้น'ฉันไม่สนใจว่าท่าทางของสตีฟจะอลังการหรือน่ากลัวแค่ไหน’'ฉันพร้อมจะเข้าไปตบหน้าเขา’สิ่งสำคัญคือเขาไม่สามารถป้องกันฮาร์วีย์ได้อย่างที่ต้องการเลยสักนิด การหลบหลีกก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้เช่นกัน!เพี๊ยะ!สตีฟก็กระเด็นลอยเพราะการถูกตบอีกครั้ง“มาสิ บุคลากรผู้ยิ่งใหญ่จากประเทศ J โปรดบอกผมที”“ว่าคุณหมายความว่าอย่างไร ที่คุณไม่ยืนหยัดต่อความอัปยศอดสูอะไรนั่น”ในขณะนี้ ความอดทนต่อเรื่องอัปยศอดสูนั้นเป็นเพียงเรื่องตลกสตีฟทนต่อการตบแล้วตบอีกทั่วใบหน้าของเ
ที่ชั้นล่างของการ์เด้น เรสซิเด้นท์ มีรถโรลส์รอยซ์แฟนทอมสีชมพูจอดอยู่ในพื้นที่จอดรถเฉพาะ ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังแสดงอารมณ์ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ชื่นชมไปจนถึงอิจฉาเมื่อพวกเขาเดินผ่านมีชายรูปร่างสูงเพรียวยืนพิงอยู่ข้างรถ ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็หลงใหลในสายตาของเขาผู้หญิงหลายคนคิดว่าเขาเป็นเจ้าชายชาร์มมิ่งด้วยซ้ำหลังจากนั้นไม่นาน ผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างมากก็เดินออกมาจากการ์เด้น เรสซิเด้นท์สายตาของแมนดี้ ซิมเมอร์ตกตะลึงเมื่อเห็นฮาร์วีย์ ยอร์ก‘เขายังเป็นสามีในนามของเธออยู่หรือเปล่า?’เมื่อฮาร์วีย์เห็นแมนดี้กำลังมา เขาก็โบกมือให้แมนดี้ทันทีและพูดว่า “ขึ้นมาเลย คนสวย!”ไม่นานหลังจากที่ทั้งคู่เข้าไปในรถ มันก็สตาร์ทเองโดยอัตโนมัติ ภาพที่เห็นทำให้ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงตกตะลึงภายในรถ ฮาร์วีย์โยนเอกสารให้แมนดี้ แล้วพูดว่า"เอกสารทั้งหมดอยู่ในนี้"แมนดี้รับเอกสารและดูอย่างรวดเร็วในขณะที่แสดงสีหน้าแปลก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นชื่อของเธอเองบนข้อมูลประจำตัว เธอถามอย่างอยากรู้อยากเห็นว่า “แคม ลีเป็นคนว่าง่ายอย่างนั้นเชียวเหรอ? เขาเตรียมเอกสารไว้ให้พร้อมด้วยเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มแล้วตอบว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข