แชร์

บทที่ 209

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
ซือเจ๋อเยว่จึงกล่าวว่า “ข้าจำชื่อที่เป็นทางการของค่ายกลนั่นไม่ได้แล้ว แต่กลับรู้คุณสมบัติของมันอยู่”

“นั่นเป็นค่ายกลที่ใช้หลักแผนภูมิแปดทิศห้าธาตุเป็นพื้นฐาน ใช้การสังเวยชีวิตมนุษย์เพื่อพลิกผันดวงชะตาของผู้อื่น ทั้งชั่วร้ายและอำมหิต”

“ข้าจำได้ว่าตอนที่อดีตหนิงกั๋วกงติดตามเสด็จพ่อของข้า ผลงานที่เขาได้สร้างไว้ไม่นับว่ายิ่งใหญ่ เมื่ออยู่ในหมู่ขุนนางราชสำนักก็ไม่นับว่าโดดเด่นกระไร”

“แต่หลายปีมานี้ ขุนนางผู้มีผลงานในตอนนั้น ที่แก่ก็แก่ ป่วยก็ป่วย ตายก็ตาย พิการก็พิการ มีเพียงจวนหนิงกั๋วกงเท่านั้นที่เจริญรุ่งเรืองอยู่จวนเดียว”

“ในเรื่องนี้ ใต้เท้าเหวยไม่รู้สึกแปลกหรือ?”

ก่อนที่นางกล่าวเปิดโปงออกมา เหวยอิ้งหวนก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้จริงๆ

คล้ายกับว่าความเข้าใจที่เขามีต่อจวนหนิงกั๋วกงก็คือ ในปีนั้น อดีตหนิงกั๋วกงได้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ ประกอบกับที่อวิ๋นไท่เฟยอภิเษกกับอดีตฮ่องเต้กลายเป็นฮองเฮาอีก จึงได้มีจวนหนิงกั๋วกงในวันนี้

แต่หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่แถลงไขออกมาแล้ว เหวยอิ้งหวนก็ได้ลองคิดทบทวนถึงข้อมูลในอดีตที่เขารู้อย่างละเอียด ผลงานที่หนิงกั๋วกงสร้างไว้ก็ไม่ถือว่ายิ่งใหญ่จริงๆ

ความรู้ส
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 210

    แววตาที่เยียนเซียวหรานใช้มองคนทั้งสองขรึมลงเล็กน้อย เขากล่าวเรียบๆ ว่า “ค่ายกลชั่วนั่นชั่วร้ายอำมหิตอย่างถึงที่สุด”“ครั้งนี้หากองค์หญิงไม่ทรงทำลายค่ายกลนั่นไป ก็ไม่รู้ว่าจวนหนิงกั๋วกงจะทำร้ายผู้คนอีกเท่าใด”ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าวสนับสนุนว่า “ใช่ๆ ๆ น้องสามกล่าวได้ถูกต้อง!”“ใต้เท้าเหวยก็จริงๆ เลย ทำคดีมามากมายขนาดนั้นแล้ว กลับจับประเด็นสำคัญไม่ได้”เหวยอิ้งหวนมองนางด้วยแววตาลึกซึ้ง พลางกล่าวว่า “คดีที่ข้าทำมีมาก แต่ไม่เคยมีผู้ใดสามารถทำลายซากกระดูกนับพันของผู้อื่นในคราเดียวเลย…”ซือเจ๋อเยว่ “...”คราวนี้จบไม่ลงแล้วใช่ไหม!หลังซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานจากไป อารมณ์ของเหวยอิ้งหวนก็ออกจะซับซ้อนอยู่บ้างหากเป็นเมื่อก่อน หากผู้ใดไม่มีหลักฐานแล้วมาพูดเช่นนี้กับเขา เขาคงไล่คนออกไปในทันทีแล้วแต่หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่เบิกตาทิพย์ให้เขาในคืนนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดใดเขาก็เชื่อแล้วเนื่องจากนางไม่มีแรงจูงใจในการให้ร้ายจวนหนิงกั๋วกงต่อให้ความสัมพันธ์ฉันท์แม่ลูกระหว่างซือเจ๋อเยว่กับอวิ๋นไท่เฟยจะย่ำแย่เช่นไร จวนหนิงกั๋วกงก็ถือเป็นตระกูลฝั่งมารดาของนางต่อให้เหวยอิ้งหวนไม่เคยได้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 211

    นางรู้สึกถึงสายตาของเยียนเซียวหราน จึงถามขึ้น "มีอันใดหรือ?" เยียนเซียวหรานไม่สามารถบอกนางได้ว่าคืนนี้พระจันทร์สวยงาม ลมพัดเบาๆ เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเสวนาเรื่องรักใคร่ เขามีสีหน้าที่เรียบเฉย "ไม่มีอันใด แค่รู้สึกว่าคืนนี้ถนนดูเงียบเหงากว่าปกติ" ซือเจ๋อเยว่มองดูแล้วเอ่ยขึ้น "ข้ามาเมืองหลวงได้ไม่นาน ดูไม่ออก" เยียนเซียวหรานถามนาง "องค์หญิงเคยไปเดินตลาดกลางคืนหรือไม่?" ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า "ไม่เคย หลายปีนี้ข้าจะอยู่ที่สำนักเต๋าอ่านตำราเรียนธรรมะ หรือไม่ก็เดินทางท่องโลกไปกับท่านอาจารย์" "เจ้าอาจไม่รู้ อาจารย์ของข้าทุกคนเป็นคนแก่หงำเหงือก ทั้งน่าเบื่อทั้งไม่น่าสนใจ ไม่มีผู้ใดชอบเดินตลาด" "พวกเขาไม่เดิน ก็ไม่ให้ข้าเดิน ยามเป็นเด็ก บอกว่าชะตาของข้าแปลก หากออกไปจะถูกวิญญาณร้ายกิน" "พอโตขึ้นร่างกายก็เริ่มไม่ดี พวกเขาก็บอกว่าการเดินตลาดทำให้เสียพลังงาน จะทำให้อายุสั้น" เยียนเซียวหรานได้ยินแล้วรู้สึกแปลกใจ "ข้างหน้ามีตลาดกลางคืน องค์หญิงอยากไปเดินเล่นหรือไม่?" ดวงตาของซือเจ๋อเยว่เป็นประกายขึ้นมาในทันที "ได้ ได้สิ!" เรื่องการเดินตลาดเป็นสิ่งที่สตรีน้อยคนจะไม่ชอบ หลายปี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 212 

    ซือเจ๋อเยว่มองถนนที่เงียบสงัดและผู้คนแปลกหน้าทั้งหลาย พลางพึมพำขึ้น "คงเป็นเพราะข้ามองผิดไป เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่" เยียนเซียวหรานเอ่ยถาม "เขาเป็นผู้ใด?" ซือเจ๋อเยว่ตอบไป "อาจารย์ใหญ่ของข้า...เงาหลังนั้นคล้ายเขาจริงๆ!" เยียนเซียวหรานรู้ว่านางมีอาจารย์ทั้งหมดเก้าคน คนเขาได้ยินมากที่สุดคืออาจารย์ใหญ่และอาจารย์สาม เขารู้ว่านางและอาจารย์ของนางมีความสัมพันธ์ที่ดียิ่ง จึงถามขึ้น "อยากไปหาดูหรือไม่?" ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า "ไม่จำเป็น หากเป็นอาจารย์ใหญ่แล้วละก็ เมื่อเขาไม่อยากเจอข้า โอกาสที่ข้าจะหาเขาเจอก็มีน้อยยิ่งนัก" "หากไม่ใช่เขา ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลา" "เจ้ายังอยากซื้ออันใดอีกหรือไม่? หากไม่ซื้อเราก็กลับจวนกัน" เยียนเซียวหรานในมือเปี่ยมไปด้วยของที่นางเพิ่งซื้อมา แท้จริงแล้วเขาไม่ชอบเดินตลาด เพียงแค่ได้ยินนางบอกว่าไม่เคยเดินตลาดกลางคืนจึงพานางมา เดิมทีเขาตั้งใจจะซื้อของที่นางชอบให้นาง แต่กลับกลายเป็นว่านางซื้อของให้เขาแทน ความรู้สึกนี้ยากที่จะอธิบาย เขาจึงเอ่ยขึ้น "กลับเรือนเถอะ!"ซือเจ๋อเยว่กำลังเตรียมตัวกลับกับเขา แต่ทันใดนั้นรู้สึกถึงอันใดบางอย่าง จึ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 213

    นางชอบมันมาก จึงให้นางกำนัลไปจับ นางกำนัลกลัวว่าเมื่อวิ่งลงไปหิ่งห้อยจะหนี จึงให้ซือเจ๋อเยว่จับ เพราะของอวิ๋นไท่เฟยเป็นเหตุ ซือเจ๋อเยว่จึงไม่ค่อยมีความรู้สึกดีต่อองค์หญิงสามเท่าใดนัก นางเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย "แม้แต่ข้าก็ยังไม่รู้จัก ก็ไม่รู้ว่าผู้ใดกันที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง" องค์หญิงสามอยากจะระเบิดอารมณ์ แต่เมื่อเห็นเยียนเซียวหรานที่อยู่ข้างกายนาง ก็มีแววตาของความอาฆาตเพิ่มขึ้น นางเปลี่ยนทิศทางการเอ่ย "เดิมข้าก็สงสัยว่าเหตุใดนางถึงยอมแต่งงานกับคนตาย ที่แท้ก็คิดจะทำเรื่องเสื่อมโทรมในศีลธรรมนี่เอง" "ออกมาเดินเล่นกับน้องสามีกลางดึกเช่นนี้ ดูก็รู้ว่ามีความสัมพันธ์ลับ ทำให้ราชวงศ์ต้องเสียหน้า" สีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ซือเจ๋อเยว่กลับหัวเราะ "จากที่เจ้าเอ่ยมานี้ ผู้ใดที่อยู่ใกล้เจ้าก็จะมีความสัมพันธ์กับเจ้าหมด เจ้าคนนี้ไม่รู้จักละอายเลยหรือไร?" คำกล่าวของนางทำให้องค์หญิงสามโกรธจนแทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ "เจ้าเอ่ยอะไรไร้สาระ!" ซือเจ๋อเยว่กอดอก "ไร้สาระ? ข้าเอ่ยกับเจ้านั่นแหละ" "อะไรกัน เจ้าสามารถใส่ร้ายข้าได้ แต่ข้าเอ่ยกับเจ้าบ้างไม่ได้หรือ?" อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 214

    เขาเอ่ยจบก็เอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิใจอีกครั้ง "สมกับที่เป็นคนที่ข้าเลี้ยงดูมา สายตาดีจริงๆ มองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นข้า" "ดูจากท่าทางของนาง คงคิดถึงข้าอยู่บ้าง" ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นความคิดถึงเล็กน้อย แต่ความคิดถึงนั้นก็พลันหายไปอย่างรวดเร็ว "จะให้นางรู้ว่าข้าเป็นราชครูของราชสำนักไม่ได้" "หากนางรู้แล้วละก็ คงจะถอนหนวดของข้าจนหมด" เขานึกถึงเรื่องเก่าๆ เมื่อครั้งหนึ่งเขาหลอกซือเจ๋อเยว่ เมื่อถูกนางจับได้ แม้ว่าปกตินางจะดูเป็นเด็กสาวที่อารมณ์ดี แต่ครั้งนั้นนางกลับกระโดดขึ้นมาดึงหนวดของเขา ครั้งนั้นนางดึงหนวดของเขาออกไปกว่าครึ่ง ไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงใจร้ายได้ถึงเพียงนั้น ครั้งนั้นเด็กสาวตัวน้อยเอ่ยด้วยความโกรธ "ข้าเกลียดคนที่หลอกข้าที่สุด!" คำกล่าวนั้นทำให้เขารู้สึกผิดอย่างยิ่งเพราะเขาและคนที่แสร้งเป็นอาจารย์ของนางสำนักเต๋า ทุกคนล้วนแต่มีความลับของตนเอง ซึ่งความลับเหล่านั้น พวกเขาตั้งใจจะปิดบังนางไปชั่วชีวิต เรื่องที่นางดึงหนวดของเขานั้น เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่สำคัญ แต่กลับทำให้นางโกรธถึงเพียงนั้นแล้ว หากนางรู้ว่าเขาเป็นราชครูของราชสำนัก คงไม่เพียงแค่ถอนหนวดขอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 215

    ดวงตาขององค์หญิงสามเบิกกว้าง ไม่กล้าเชื่อว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นนางเอ่ยอีกประโยคหนึ่ง แต่กลับต้องปิดปากตนเองด้วยความตกใจ นางคิดว่าหากภายภาคหน้านางเอ่ยแล้วกลายเป็นเสียงไก่ ชีวิตนี้ก็คงจะจบสิ้นแล้ว ใบหน้าของนางซีดเผือดด้วยความกลัว พลันมีน้ำตาไหลออกมา ซือเจ๋อเยว่ไม่รู้ว่าหลังจากนางจากไป ราชครูได้สั่งสอนองค์หญิงสาม นางกับเยียนเซียวหรานเดินย่ำใต้แสงจันทร์กลับเรือนอย่างมีความสุข แต่เมื่อทั้งสองคนมาถึงจวนเยียนอ๋อง ก็เห็นว่าเยียนเหนียนเหนียนเดินไปมาด้วยความกังวลที่หน้าประตู เมื่อนางเห็นทั้งสองกลับมา ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก "พวกท่านกลับมาเสียที!" "หากพวกท่านไม่กลับมา ท่านย่าคงจะไปตามหาที่จวนหนิงกั๋วกงแล้ว" ที่แท้หลังจากที่พวกเขาไปจวนหนิงกั๋วกงในวันนี้ เหล่าไท่จวินก็เป็นกังวลอย่างยิ่ง นางเคยมีปฏิสัมพันธ์กับคนในจวนหนิงกั๋วกงมาก่อน ครอบครัวนั้นให้ความรู้สึกไม่ดีแก่นาง แม้นางจะรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเป็นเด็กฉลาด แต่หอกที่มองเห็นได้ง่ายก็หลบได้ แต่ลูกศรที่มองไม่เห็นนั้นยากที่จะหลบเลี่ยง ยากจะรับประกันว่าจวนหนิงกั๋วกงจะไม่ใช้วิธีการสกปรกอันใด แม้ว่าพวกเขาฉลาดและเก่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 216

    ซือเจ๋อเยว่พยุงเหล่าไท่จวินเอาไว้ ไม่รู้ว่าเอ่ยเรื่องตลกอันใด ถึงทำให้เหล่าไท่จวินหัวเราะออกมา ริ้วรอยร่องลึกนั้นเปี่ยมไปด้วยความเมตตายามนี้เขาเห็นสีหน้าของเหล่าไท่จวินและซือเจ๋อเยว่ มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวเพราะการมาถึงของซือเจ๋อเยว่ ช่วยให้จวนเยียนอ๋องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมาได้และเป็นเพราะซือเจ๋อเยว่ คนในจวนจึงเริ่มค่อย ๆ ออกจากความโศกเศร้าได้ยามนี้จวนเยียนอ๋อง ก็ค่อย ๆ กลับสู่ความเป็นปกติหลังจากพวกเขากลับมาที่จวน ก็เจอพระชายาเยียนอ๋องที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วง ทุกคนจึงไปที่ที่พักของเหล่าไท่จวินด้วยกันเมื่อเยียนเหนียนเหนียนเห็นว่าพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัยก็เข้าไปด้วย เพราะอยากรู้ว่าแท้จริงแล้ววันนี้เกิดอันใดขึ้นที่จวนหนิงกั๋วกงเมื่อถึงที่พักของเหล่าไท่จวิน ซือเจ๋อเยว่ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่จวนหนิงกั๋วกงในวันนี้อย่างคร่าวๆแต่ในยามที่เล่าออกไป นางก็จงใจเลี่ยงไม่เอ่ยถึงการพบกับงูยักษ์และเงาดำ เพราะกลัวเหล่าไท่จวินจะเป็นห่วงจากคำกล่าวของนาง วันนี้พวกเขาไปที่จวนหนิงกั๋วกง สามารถเอ่ยได้ว่าพบเทพฆ่าเทพ พบพระฆ่าพระ ยโสโอหังอย่างยิ่งเหล่าไท่จวินรู

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 217

    "ยามนี้ข้าได้ทำลายค่ายกลของพวกเขาแล้ว ผลกระทบของค่ายกลที่มีต่อคนอื่นก็จะค่อยๆ ลดลง""ดวงชะตาที่พวกเขาขโมยมา จะค่อยๆ กลับคืนสู่เจ้าของเดิม"คนเช่นนี้ ไม่สมควรได้รับชื่อเสียงที่ดีเช่นนั้นแต่ถึงกระนั้นนางก็รู้ว่าปัจจุบันนี้จวนหนิงกั๋วกงนับว่าเป็นยักษ์ใหญ่ การจะโค่นล้มพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายค่ายกลนั้นได้ก่อตัวมาแล้วนานนับยี่สิบปี เวลานานเพียงนี้ก็เพียงพอให้พวกเขาทำการเตรียมการต่างๆแม้ซือเจ๋อเยว่จะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของราชสำนัก แต่ก็รู้ว่าจวนหนิงกั๋วกงยามนี้มีอำนาจที่สูงส่งยิ่งนักหากไม่เอ่ยในสิ่งที่ไม่เกินงามเกินไป ก็อาจกล่าวได้ว่าพวกเขามีคนของตนเองในสามกระทรวงหกกรมหลังจากที่เยียนอ๋องเสียชีวิตในสงครามครั้งนั้น พวกเขาก็ฉวยโอกาสแย่งชิงอำนาจทางทหารไปไม่น้อยยามนี้ในราชสำนัก บอกว่าหนิงกั๋วกงไม่ใช่ผู้ที่อยู่ใต้บัญชาของคน ๆ เดียว เหนือคนนับหมื่น แต่ก็ใกล้เคียงแล้วจวนหนิงกั๋วกงเช่นนี้ แม้จะให้ซือเจ๋อเยว่บุกเข้าไปอีกครั้ง นางก็ยังต้องคิดให้ดีไม่มีอันใด แต่เพราะพวกเขามีฝีมือที่มากมายเกินไปเหล่าไท่จวินยื่นมือไปลูบศีรษะของซือเจ๋อเยว่พลางเอ่ยขึ้น "วันนี้ลำบากองค์หญิงแล้ว"ซือเจ๋อเยว่

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 274

    นางสวมรองเท้ามือเป็นระวิง เพียงแต่ยิ่งลนลาน ก็ยิ่งทำได้ไม่ดีเดิมทีรองเท้าที่สวมได้อย่างง่ายดายมากเป็นเพราะนางตกตะลึงสวมห้าหกครั้งก็ยังไม่เข้าเยียนเซียวหรานยื่นมือออกไปจับข้อเท้าของนางเอาไว้ นางหันหน้าไปมองเขา เขากลับไม่ได้มองนาง แต่ยกรองเท้าข้างหนึ่งขึ้นมา ค่อย ๆ สวมเข้าไปที่เท้าของนางซือเจ๋อเยว่ “...”นางรู้สึกว่าตนเองในเวลานี้โง่นิด ๆหลังจากเยียนเซียวหรานสวมรองเท้าในนางเสร็จข้างหนึ่งแล้ว ก็สวมอีกข้างอีกให้นางนางกระโดดลงจากเตียงอย่างว่องไว “ลำบากเจ้าแล้ว”นางพูดจบคิดจะหนี กลับถูกเยียนเซียวหรานจับข้อมือขาวเล็กเอาไว้นางมองเขาแล้วถาม “ยังมีธุระอะไรอีกหรือ?”เยียนเซียวหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยื่นมือออกไปแล้วช่วยติดจัดปกคอเสื้อให้นาง ช่วยนางปรับสายคาดเอวให้เรียบร้อย ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”นางหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเยียนเซียวหรานหวีผมให้นางอีก กล่าวเสียงเรียบ “เสร็จแล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเขา ดวงตาของเขาล้ำลึกตามเดิม นางมองเห็นเงาสะท้อนของตนเองในดวงตาของเขาการเต้นของหัวใจนางเริ่มเต้นรัวขึ้นอีกครั้ง นางรู้ว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่เข้าท่า จึงรีบกระโดดหนีออกทางหน้าต่า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 273

    ตอนนี้สมองของซือเจ๋อเยว่ไม่พอใช้แล้ว เมื่อได้ยินเขาถามแบบนี้ นางตอบว่า‘อืม’ทีหนึ่ง ไม่ได้เข้าใจความหมายของเขาจริง ๆเยียนเซียวหรานจับมือของนาง ดึงแขนเสื้อของนางขึ้น เส้นแดงที่อยู่ภายในก็ปรากฏขึ้นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าว “ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”ในที่สุดซือเจ๋อเยว่ก็เข้าใจความหมายของเขา นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลับกล่าวขึ้น “อาจจะเป็นเพราะห่างกันไปหน่อย”ครู่ต่อมา มือของเขาประคองเอวนาง ทันทีที่ออกแรงเพียงเล็กน้อย ก็อุ้มนางขึ้นมาวางไว้บนต้นขาของเขาซือเจ๋อเยว่ “...”ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”อยู่ ๆ เขากลายเป็นคนที่เร่าร้อนจนเกินไป นางรับมือไม่ค่อยไหว!เยียนเซียวหรานสูงกว่านางมาก แล้วก็แข็งแรงกว่านางมาก ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน ชุดนอนของเขาคลุมไว้แค่ครึ่งเดียว นางรู้สึกเหมือนกับถูกฝังอยู่ในอ้อมอกของเขาภายในหัวใจของซือเจ๋อเยว่มีความตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร ทั้งยังจูบลงมาบนริมฝีปากนางนางใช้มือดันแผ่นออกของเขาอย่างไม่รู้ตัว เขาหันไปมองนาง ภายในดวงตาที่ดำขลับคู่นั้นสะท้อนให้เห็นถึงแววตาที่เขามองไม่ออกน้ำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย “มีขั้นตอนไหนที่ข้าทำไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 272

    ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ถาม “เจ้ามีธุระอะไรอีกอย่างนั้นหรือ?”มุมปากของเยียนเซียวหรานยกขึ้นเล็กน้อย “ไหน ๆ คืนนี้องค์หญิงก็มาแล้ว ไม่เติมอายุขัยสักหน่อยแล้วค่อยไปหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางร้อง‘หา’ทีหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้สติอยู่ครู่หนึ่งเยียนเซียวหรานเหลือบตาขึ้น สายตาจดจ้องไปที่นางกล่าว “องค์หญิงอยากจะอายุยืนยาวร้อยปีไม่ใช่หรือ?”“ข้าเกรงว่าข้าไม่ให้ความร่วมมือ วันข้างหน้าองค์หญิงจะมาหาเรื่องข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางคิดว่าเขาค่อนข้างผูกพยาบาทวันนั้นนางก็แค่พูดเล่นกับเขาต่อหน้าของเหล่าไท่จวินเท่านั้น เขากลับจำได้อย่างแม่นยำในเวลานี้นางรู้ว่านางมีตัวเลือกอยู่สองข้อ ข้อแรกคืออยู่ต่อเสียเลย ข้อสองคือรีบหนีไปอย่างแรกจะน่าอายเกินไปหน่อย อย่างหลังจะขี้ขลาดเกินไปหน่อยนางครุ่นคิดครู่หนึ่ง คิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะเริ่มจากทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของตัวเองหากทำตัวขี้ขลาดในเวลาแบบนี้ ต่อไปนางจะมาหาเขาได้อย่างไร? ต่อให้มาหาเขาด้วยอย่างหน้าด้านอีก คิดว่าก็อาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะเอาได้ดังนั้นนางจึงถอดรองเท้า แล้วกระโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 271

    ตอนที่นางได้ยินก็ไม่ได้ประหลาดใจมากเท่าใดนัก ดวงสมรสของลู่จิ่นเหนียง นั่นก็ทำได้เพียงเป็นอนุของคนอื่นเท่านั้นปกติการเป็นอนุ ขอเพียงแค่ฝั่งผู้ชายชอบนาง ทุกอย่างจะปรากฏขึ้นในดวงสมรสสิ่งเหล่านี้สามารถยืนยันได้ว่า อวิ๋นเยว่หยางรับลู่จิ่นเหนียงเป็นอนุเพราะมีจุดประสงค์อื่น เขาไม่ได้ชอบลู่จิ่นเหนียงเมื่อซือเจ๋อเยว่นึกถึงท่าทางที่หยิ่งผยองเกินความเป็นจริงของลู่จิ่นเหนียง รู้ว่าหากครั้งนี้ลู่จิ่นเหนียงไม่เอาชีวิตไปทิ้งที่จวนหนิงกั๋วกง ก็ต้องได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจเพียงแต่เรื่องนี้ตามที่เหล่าไท่จวินได้กล่าว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนอ๋องแล้ว นางก็คร้านจะช่วยเป็นธุระให้ลู่จิ่นเหนียงบัดนี้สิ่งที่นางเป็นกังวลยิ่งกว่าก็คือเรื่องที่อวิ๋นเยว่หยางขโมยดวงชะตาของเยียนเซียวหรานไปสองครั้งก่อนนางได้ตามหาค่ายกลนั่นแต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว แล้วก็ตามหาค่ายกลอันนั้นไม่เจออีก เกรงว่าดวงชะตาของเยียนเซียวหรานจะถูกขโมยไปจนหมดแล้วหลายวันมานี้ซือเจ๋อเยว่คิดอยู่หลายวิธี หลังจากตัดออกไปจำนวนหนึ่ง ก็รู้สึกว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้หรือว่าแบบนั้น ความเสี่ยงก็มากทั้งนั้นนางคิดอยู่หลายตลบ คิดว่าบางทีอาจจะสาม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 270

    ซุ่ยซุ่ยของนางยังไม่ออกเรือน สถานการณ์ของจวนเยียนอ๋องเป็นแบบนี้ นางต้องปลุกใจให้ฮึกเหิมเสียหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ควรเป็นภาระของพวกเขาเหล่าไท่จวินที่อยู่ข้าง ๆ กล่าว “แม้ว่าวันนี้เวินชิงจะรับปากองค์หญิง ต้องทำตามที่รับปาก”“ต่อไปเจ้ามีเวลาว่าง ก็มาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่อย่างข้า”เบ้าตาของจู้อี๋เหนียงแดงเล็กน้อย คุกเข่าลงบนพื้นกล่าวเสียงเบา “ลูกอกตัญญู ทำให้เหล่าไท่จวินต้องเป็นห่วง”เหล่าไท่จวินยื่นมือออกไปประคองนางลุกขึ้น จับมือของนางแล้วตบเบา ๆ “เรื่องในอดีตก็ให้ผ่านไป พวกเราต้องมองไปข้างหน้า”จู้อี๋เหนียงเช็ดน้ำตากล่าว “ข้าเชื่อฟังเหล่าไท่จวิน”ซือเจ๋อเยว่ชอบบรรยากาศของจวนเยียนอ๋องที่สุด เหล่าไท่จวินเป็นคนชราที่เฉลียวฉลาด ถึงแม้คนในจวนจะมากมาย แต่นางกลับน่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งตอนที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง คนที่ได้รับความกระทบกระเทือนมากที่สุดไม่ใช่เหล่าไท่จวิน แล้วก็ไม่ใช่พระชายาเยียนอ๋อง แต่ทว่าเป็นจู้อี๋เหนียงก่อนหน้านี้จู้อี๋เหนียงเป็นคนอมทุกข์มาตลอด ออกจากเรือนน้อยมากเหล่าไท่จวินไปปลอบใจจู้อี๋เหนียงเป็นประจำในจวนมีของของดีอะไร เหล่าไท่จวินก็จะคิดถึงนาง ไม่ใช่เพราะว่านางเป็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 269

    “อย่างไรเสียจวนหนิงกั๋วกงก็ดีกว่าจวนเยียนอ๋อง สิ่งที่เรียกว่าชื่อเสียงของจวนเยียนอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินดีช่วยพี่ชายของเจ้าให้เลื่อนตำแหน่ง”“ตามที่ข้ามอง จวนเยียนอ๋องที่ไม่มีน้ำใจ ไม่รู้จักปรับตัวเช่นนี้ก็สมควรล่มสลาย!”ลู่จิ่นเหนียงได้ฟังคำพูดพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกมีตรงไหนผิดปกติ เดิมทีจวนเยียนอ๋องก็ยึดติดกับหลักการมากเกินไปต่อให้เยียนซื่อจะปฏิบัติต่อนางดีมากแค่ไหน ทันทีที่นางพูดเรื่องที่ให้เขาช่วยเหลือ เขาก็จะชักสีหน้าทันทีเมื่อเปรียบเทียบกัน จวนหนิงกั๋วกงมีความเปิดกว้างมากกว่า แล้วก็เต็มไปด้วยความจริงใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีเรื่องนี้ เมื่อนางมองเห็นเครื่องประดับและผ้าเหล่านี้ ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นแบบเก่าอีกแล้วลู่ฮูหยินกล่าวอีกว่า “คุณชายรองให้ความสำคัญกับเจ้าเป็นอย่างมาก อยากจะให้เจ้ารีบเจ้าจวนเร็วหน่อย”“วันนี้ข้าได้ปรึกษากับท่านพ่อของเจ้าแล้ว พรุ่งนี้จะส่งตัวเจ้าเข้าจวนหนิงกั๋วกง ตามความต้องการของจวนกั๋วกง”ลู่จิ่นเหนียงตกตะลึงไปทันที “ไปจวนหนิงกั๋วกงวันพรุ่งนี้? นี่มันจะรีบเกินไปหน่อยหรือไม่?”ลู่ฮูหยินตอบ “รีบที่ไหนกัน นี่เห็นได้ชัดเจนว่าจวนหนิงกั๋วกงให้ความสำคัญกับ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 268

    นางพ่นลมหายใจกล่าว “องค์หญิงอย่างไรเสียก็จัดการเรื่องของตนเองให้ดีเถอะ เลิกริษยาคนอื่น ใจกว้าง บางทีอาจจะสามารถมีชีวิตได้ถึงสิบแปดปี!”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดถากถางของลู่จิ่นเหนียงไม่เพียงไม่โกรธ ทั้งยังรู้สึกน่าขันเล็กน้อยนางทำอะไรด้วยใจมาตลอด ในเวลานี้เตือนสติลู่จิ่นเหนียงก็เป็นเพราะเยียนซื่อแต่น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ความคิดบิดเบี้ยวตั้งแต่ภายใน กระเสือกกระสนรนหาที่ตาย ต่อให้เทพต้าหลัวมาที่นี่ เกรงว่าก็คงจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ได้นางพยักหน้ากล่าว “ข้าคิดว่าที่เจ้าพูดนั้นมีเหตุผลมาก คนที่จิตใจคับแคบ จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานจริง ๆ”นางพูดจบก็คร้านจะสนใจลู่จิ่นเหนียงอีก กล่าวกับเยียนเซียวหราน “น้องสาม พวกเราไปกันเถอะ!”ลู่จิ่นเหนียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก เยียนเซียวหรานมองนางด้วยสายตาเย็นยะเยือกแวบหนึ่งสายตานั้นเย็นยะเยือกเข้ากระดูก ความน่าสะพรึงกลัวเต็มเปี่ยม ลู่จิ่นเหนียงเห็นก็รู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง คำพูดที่กำลังจะพูดออกมาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นนางก็พบว่า เยียนเซียวหรานแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง บนร่างกายของเขามีพลังอำนาจอันแข็งแกร่ง ที่ไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 267

    นางกับเยียนเซียวหรานตรงไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งด้านในร้านมีผ้าหลากหลายที่สุดเยียนเซียวหรานกลัวว่านางจะเกิดเรื่อง จึงเดินตามหลังนางตลอดทุกฝีก้าวซือเจ๋อเยว่เลือกผ้าให้แต่ละคน รวมกันทั้งหมดสิบกว่าพับ พวกเขาไม่สะดวกถือไปด้วย จึงให้เถ้าแก่มอบหมายให้คนส่งไปที่จวนเยียนอ๋องทันทีที่ซือเจ๋อเยว่จ่ายเงินเสร็จ ก็เห็นลู่จิ่นเหนียงพาสาวใช้เดินเข้ามาหา ทั้งสองคนพบกันโดยบังเอิญ จึงมีความประหลาดใจเล็กน้อยลู่จิ่นเหนียงเป็นเพราะครั้งก่อนซือเจ๋อเยว่เคยฉีกหน้านาง นางจึงไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เป็นอย่างยิ่งในเวลานี้เมื่อเจอกัน นางยังคงกล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม “องค์หญิง ไม่เจอกันนานเลย”ซือเจ๋อเยว่คุ้นเคยกับการมองหน้านางแวบหนึ่ง ใต้ตาของนางดำคล้ำ คาดว่านางน่าจะเอาเด็กออกแล้ว ต่อไปก็คงจะไม่มีลูกของตัวเองอีกนอกจากนี้แล้ว ชีวิตในวังหลวงของนางมีเต็มความซับซ้อน เมื่อเห็นฉากนี้ ต่อไปลู่จิ่นเหนียงคงจะใช้ชีวิตอย่างค่อนข้างขรุขระสีหน้าของนางยังนับว่าพอถูไถไปได้ ใบหน้าเหมือนว่ายังพอมีความสุขอยู่บ้างในเมื่ออีกฝ่ายยอมรับผิดแล้วก็ย่อมให้อภัย ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตอบ ตั้งใจที่จะออกไปพร้อมกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 266

    ซือเจ๋อเยว่ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยหมดสติไปเพราะตื่นเต้นเกินไป พวกท่านส่งนางกลับไปเถอะ”คำพูดที่นางพูดกับอวิ๋นไท่เฟยเมื่อครู่นี้ บรรดาคนในวังหลวงที่อยู่ใกล้ต่างก็ได้ยินกันหมดพวกเขามองซือเจ๋อเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในเวลานี้มีคนหลายคนร่วมแรงกันประคองอวิ๋นไท่เฟยขึ้นมา แล้วรีบวิ่งออกไปคนของวังหลวงที่ถูกวิญญาณรายล้อมคนนั้น ในเวลานี้วิญญาณปล่อยนางไปแล้ว ทันทีที่นางได้รับอิสระ ก็รีบวิ่งหนีอย่างโซซัดโซเซกลางวันแสก ๆ เลยนะ!พวกเขาเจอเรื่องแบบนี้ น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ!ฮองเฮามองไม่เห็นวิญญาณ เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้อวิ๋นไท่เฟยตกใจจนหมดสติไปทันที จากนั้นกลุ่มคนก็วิ่งหนีกันฉี่ราดสารรูปเช่นนี้ของพวกเขา ตอนที่มาอวดดีมากขนาดไหน ตอนกลับไปก็ดูไม่จืดมากเท่านั้นฮองเฮากับอวิ๋นไท่เฟยประมือกันมาหลายครั้ง ถึงแม้นางจะชนะมากกว่าแพ้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการสู้กันด้วยวาจา ไฉนเลยจะมีความสุขเท่าครั้งนี้?นางมองซือเจ๋อเยว่กล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าทำอะไรพวกเขา?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “หม่อมฉันก็อาศัยอยู่ในสำนักเต๋ามาเป็นเวลานาน ถึงอย่างไรก็ยังพอมีความสามารถเป็นของ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status