หน้าหลัก / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter 88. ถอนหายใจหนักหน่วง

แชร์

Chapter 88. ถอนหายใจหนักหน่วง

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-07 15:12:56

“ท่าน... ท่าน... พ่อ”

“เอาละ ให้พ่อลูกได้พูดคุยกันดีกว่า จิ่นสือตามพ่อออกไปข้างนอก” แม่ทัพจ้าวซื่อก่วงลุกขึ้นแล้วเรียกลูกชายให้เดินตามออกไป เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นมู่ฟางเหนียงไม่มองมาทางเขาอีก ก็ยอมเดินตามบิดาออกไปเงียบๆ

เมื่อไม่มีใครอื่นแล้ว มู่ฟางเหนียงก็ดึงมือบิดาไปนั่งที่เก้าอี้ นางจ้องมองบิดาพลางเช็ดน้ำตาตัวเอง

“พ่อ...”

“ท่านพ่อเจ็บตรงไหนหรือไม่” นางเอ่ยถามแล้วส่งยิ้มอ่อนหวาน เป็นรอยยิ้มที่มอบให้บิดามาตลอดยี่สิบปี

“เจ้า?” หมอมู่หยางซัวเห็นลูกจำเขาได้ก็ประหลาดใจพอสมควร

“ท่านพ่อฟังข้าก่อน” นางรีบพูดขึ้น “ก่อนหน้านี้ข้าได้รับความกระทบกระเทือนจนจดจำอะไรไม่ได้ บังเอิญกองคาราวานพ่อค้าชาวเอ้อหลุนชุนผ่านไปพบเข้าและช่วยเหลือข้า ในครานั้นข้าเองก็ไม่รู้ว่าตนเป็นใคร จึงติดตามเขาไปถึงเผ่าเอ้อหลุนชุน จนได้พบจ้าวจิ่นสือเข้า เขาจึงช่วยเหลือให้ลูกได้กลับมาพบท่านอีกครั้ง”

มู่หยางซัวฟังลูกสาวพูด ก็ตรงกับที่แม่ทัพจ้าวบอกเล่าให้เขาฟังจากจดหมายที่บุตรชายท่านแม่ทัพส่งมาจากเผ่าเอ้อหลุนชุน เขาพยักหน้ารับให้ลูกสาวพูดต่อ

“ระหว่างอยู่ที่นั่น ข้าฝันเห็นท่านพ่อตลอด แต่ในฝันนั้นใบหน้าท่านไม่แจ่ม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 89. จำได้ว่า

    หญิงสาวจำได้ว่า ตอนที่อยู่เผ่าเอ้อหลุนชุน ในจดหมายที่แจ้งเรื่องบิดาของนางยังมีชีวิตอยู่ ก็แจ้งข่าวให้จ้าวจิ่นสือกลับมาเตรียมตัวไปช่วยชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย หญิงสาวได้แต่ยิ้มขืนๆ มองบิดาที่เอาแต่สำรวจว่านางบาดเจ็บที่ใดอีก เห็นรอยคล้ำใต้ดวงตาของบิดาแล้ว นางก็ตระหนักดีว่าบิดาต้องทุกข์ทรมานใจเพียงใด เรื่องของนางนั้นไม่สลักสำคัญอะไรเลย คงต้องทนอยู่ไปก่อน แล้วค่อยหาทางออกจากจวนแม่ทัพจ้าว หากรีบจากไปก็เกรงว่าจะถูกมองว่าอกตัญญู แต่นางก็กลัวใจตัวเองที่อยู่ใกล้คนผู้นั้นแล้ว นางกลัวว่าตัวเองจะไปจากเขาไม่ได้ แล้วสุดท้ายนางก็คงตรอมตรมในฐานะอนุหรือนางบำเรอคนหนึ่งจ้าวจิ่นสือเดินตามบิดาไปที่ห้องหนังสือ แม่ทัพจ้าวโบกมือไล่คนรับใช้ออกไปแล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้กลม ลูกชายรีบรินน้ำชาให้ทันที“ดูเหมือนครั้งนี้เจ้าจะสร้างผลงานไม่น้อย” แม่ทัพจ้าวหมายถึงที่บุตรชายกำจัดหัวหน้าเผ่าเสือดำไปได้“สถานการณ์พาไป จึงจำเป็นต้องทำ”“เอาเถอะ ถึงเจ้าจะทำเกินหน้าที่แต่ก็เป็นผลดีของเรา เรื่องนี้พ่อจะไม่เอาความกับเจ้า”ใบหน้าคมคายเพียงแค่ก้มศีรษะลงเล็กน้อย แม่ทัพจ้าวมองหน้าลูกชายอยู่อึดใจใหญ่ก่อนส่ายหน้าไปมา “นี่ต้องให้พ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 90. ท่านพ่อ

    ครู่หนึ่งเด็กรับใช้ก็เข้ามาเชิญให้ทั้งสองไปร่วมรับประทานอาหารกลางวัน สองพ่อลูกมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่คนเป็นพ่อจะพยักหน้าเหมือนชักชวนให้ออกไป ในขณะที่ลูกสาวยังทำหน้ามุ่ย เพราะคิดว่าจะได้นั่งคุยกับบิดามากกว่านี้ สายตาอ่อนโยนของผู้เป็นพ่อมองลูกสาวอย่างเข้าใจก่อนจะหัวเราะออกมา นานนับเดือนที่เขาไม่ได้หัวเราะออกมาเช่นนี้ “เรายังมีเวลาคุยกันอีกนะลูก” “ก็ได้เจ้าค่ะ” หญิงสาวเบ้ปากเล็กน้อย “ลูกจะได้ดูท่านกินข้าวด้วย ดูสิ ท่านผอมมาก แก้มก็ซูบตอบ เดี๋ยวไปตลาดแล้ว ข้าจะหาซื้อไก่ดำตัวอวบๆ มาตุ๋นน้ำแกงบำรุงท่าน” เห็นนางอารมณ์ดีขึ้น มู่หยางซัวก็เบาใจ แท้จริงแล้วเขาเป็นคนตามใจลูกสาวคนเดียวคนนี้มาก แต่เพราะเขาเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดจา จึงดูคล้ายเป็นคนดุและลูกสาวอยู่ในโอวาท ในความจริงแล้วผู้เป็นพ่ออย่างเขาต่างหากเล่า ที่น่าจะเรียกว่าอยู่ในโอวาทของนาง เดือนเศษที่ไม่ได้พบหน้า ไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน มิรู้ชะตากรรม จากที่คลุ้มคลั่งกลายเป็นสงบและทบทวนตัวเองในสิ่งที่ผ่านมา สักวันนางก็ต้องออกเรือน มีครอบครัวของนาง จะมาใช้ชีวิตเร่ร่อนไม่ได้อีกแล้ว แท้จริงการตัด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  91. เรื่องรักษาคนต้องมาก่อนเสมอ

    “ซื้อเสื้อและของใช้จำเป็น ในนี้อาจมีเงินไม่มากนัก เจ้าซื้อมาสักสองสามชุดก่อนก็แล้วกัน” พูดไปแล้วก็น่าละอาย แต่เงินนี้เป็นค่าตอบแทนที่แม่ทัพจ้าวให้เขามา “ไม่ต้องห่วง ลูกดูแลจัดการได้” แน่นอน เรื่องบัญชีค่าใช้จ่ายในบ้านเป็นนางที่ต้องคิดใคร่ครวญ สิ่งใดควรซื้อ สิ่งใดจำเป็น นางย่อมรู้ดีที่สุด จ้าวจิ่นสือมองมู่หยางซัวเดินออกไปพร้อมพ่อบ้านแล้ว เขาก็ชวนนางออกมา ตลาดอยู่ไม่ไกล เดินไปก็ไม่ลำบาก เขาเองก็ไม่ได้ไปนานแล้ว หญิงสาวดูอิดออดไม่น้อย แต่ก็ยอมเดินออกมาพร้อมเขา “ทีแรกข้านึกว่าเจ้าจะพักผ่อน” “ก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรนี่” นางเดินไปเรื่อยๆ สองปีที่นางอยู่เมืองนี้แทบไม่ค่อยได้มาเดินตลาดนัก เหตุเพราะนางหลงทิศและบิดาก็ยุ่งกับการตรวจคนเจ็บคนป่วยแทบตลอดเวลา นานวันเข้า นางก็ไม่อยากเอานิสัยไร้เหตุผลมาเป็นข้ออ้างให้พ่อพาเดินเที่ยวตลาด นานๆ นางจึงจะได้มาเดินเล่นสักครั้ง พอเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น ผู้คนก็หนาตา ร้านรวงก็มากมาย นางไม่ได้เห็นความคึกคักเช่นนี้นานแล้ว ความหงุดหงิดที่มีอยู่เดิมเลือนหาย ไม่มีเสียงชวนพูดคุยของเขา แต่นางก็รู้ว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  92. แล้วอย่างไร

    จ้าวจิ่นสือรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมอง เขาตวัดสายตาดุดันจ้องกลับ ต่อให้เป็นผู้หญิงเขาก็ไม่สน หากใครคิดจะทำร้ายผู้หญิงของเขา คนผู้นั้นได้เจอดีแน่!“ข้ารู้สึกเหนื่อยแล้ว” นางพึมพำบอกเขา เพียงเพราะอยากไปให้พ้นจากตรงนี้“ได้ เจ้าได้เสื้อผ้าที่ต้องการหรือยัง” เขาถามแล้วมองไปยังเสื้อผ้าที่นางเลือกไว้ “ยังเลย ข้าตัดใจไม่ได้ คิดว่าจะซื้อแค่สองสามชุดก็พอ” การชวนคุยของเขาทำให้นางคลายความประหม่าลง“แล้วอย่างไร เจ้าชอบตัวไหนก็เอาไปสิ” เขาทำหน้าดุใส่นาง เรียกเด็กในร้านที่ยืนคอยอยู่ใกล้ๆ มา “เสื้อผ้าที่นางเลือกมีกี่ชุดเอาไปให้หมด แล้วส่งกลับไปที่จวนแม่ทัพ”“ขอรับคุณชายจ้าว”“นี่!” นางห้ามเขาไม่ทันแล้ว เห็นเด็กๆ มาช่วยกันขนเสื้อผ้าไปราวกับกลัวลูกค้าจะเปลี่ยนใจ นางก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้“อย่าคิดมาก” เขาจิ้มหน้าผากนางเบาๆ ขำท่าทีมักน้อยของนางนัก “ไปหาที่นั่งดื่มน้ำชา เจ้าจะได้พักสักครู่ด้วย”“ไม่แล้ว ข้าอยากกลับบ้าน” นางส่ายหน้าไปมา แล้วก็นึกได้ว่าพลั้งปากเรียกจวนแม่ทัพจ้าวว่า ‘บ้าน’ ออกไป“ได้ งั้นเรากลับบ้านกัน”หัวใจของจ้าวจิ่นสือพองโตจนคับอก แค่ความรู้สึกที่นางยอมรับเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   93. เบิกตากว้าง

    “ได้” “เอ๋?” นางเบิกตากว้างอย่างงุนงง “ทำไม ก็เจ้าอยากไป ข้าก็จะพาไป ขืนปล่อยให้เจ้าแอบติดตามไป ข้าก็เป็นกังวลจนทำงานการไม่ได้นะสิ เอาเจ้าไว้ข้างกายข้าน่าจะดีที่สุด” “อ้ะ!” นางร้องอย่างตกใจ “ท่านไปด้วยรึ!” “เป็นข้าที่คุมพลทหารไปในครั้งนี้” เขากระตุกยิ้มร้ายกาจออกมา “เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมก็แล้วกัน อีกสองวันจะเดินทางแล้ว แต่ถ้าร่างกายของเจ้าไม่ไหวก็พักผ่อนที่นี่เถิด” “ไม่ๆ ข้าจะไปด้วย” นางเหมือนเด็กถูกจับได้ว่าจะทำผิด ถึงไม่อยากอยู่ข้างกายเขา แต่นางอยากติดตามบิดาไปด้วย อยู่ที่นี่วันๆ นางคงได้แต่นั่งๆ นอนๆ เป็นแน่ “ดี” เขากวาดมือออกไปหมายจะโอบร่างนางไว้ในอ้อมอก แต่นางกลับขยับเท้าถอยหลัง อารามตกใจจึงไม่ทันระวังตัวว่าตนเองยืนอยู่ริมสระบัว เท้าที่เหยียบพื้นดินอ่อนนุ่มทำให้นางเสียหลักจะหงายหลัง แต่จ้าวจิ่นสือยื่นมือไปจับแขนของนาง กระตุกร่างบางเข้ามาซุกซบที่อกได้อย่างหวุดหวิด “ฟางเหนียง” เขาระบายลมหายใจออกทางปาก แล้วลูบแผ่นหลังของนาง “เดินทางครั้งนี้เห็นทีข้าต้องล่ามเจ้าตัวติดกับข้าเสียแล้ว”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  94. ข้าไม่ไว้ใจเจ้า

    หญิงสาวเผลอยิ้มแล้วเดินไปเอนตัวลงบนที่นอน วางปิ่นไว้ข้างหมอนอย่างระวังกลัวจะนอนทับ แต่กระนั้นนางก็อดคิดถึงใบหน้าของเขาไม่ได้ ‘ฟางเหนียง’ จะเป็นอะไรไหม? ถ้านางบอกว่าชอบเวลาที่เขาเรียกนางอย่างอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นคู่สามีภรรยาธรรมดาคู่หนึ่ง ชอบยามที่เขากอดนางไว้ราวกับของล้ำค่า เพราะความเหนื่อยอ่อน นางหลับไปอย่างรวดเร็ว และหลับลึกจนไม่รู้ว่าหน้าต่างห้องของนางถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย ร่างสูงกระโดดเข้ามาอย่างเงียบเชียบราวกับสายลมพัดผ่าน แม้ในความมืด เขาก็เห็นใบหน้าอ่อนโยนของนางมีรอยยิ้ม และสิ่งที่ทำให้เขายิ้มกว้างก็คือนางเอาปิ่นที่เขาซื้อให้มาวางข้างหมอน เขาเลิกม่านมุ้ง ยื่นมือไปหยิบปิ่นวางบนโต๊ะ แล้วค่อยๆ เอนตัวลงนอน เพราะไออุ่นที่คุ้นเคย ทำให้นางไม่ผลักไส ขยับศีรษะเข้าซุกกับแผงอกอุ่นเช่นที่เคยทำมาตลอดการเดินทางไกล เขากอดนางไว้ รับเอากลิ่นหอมละมุนของนางเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจของเขา แล้วจ้าวจิ่นสือก็ตระหนักได้ว่า เขาปรารถนาสุดจิตสุดใจที่จะมีนางไว้ในอ้อมกอดอย่างนี้ ทุกวัน ทุกคืน ตลอดไป และต้องเป็นนางเพียงคนเดียวเท่านั้น.

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  95. ท่านรังแกข้า

    “ก็ข้าเป็นห่วงเจ้า กลัวผิดที่ผิดทางแล้วเจ้าจะนอนไม่หลับ ไม่คิดว่าพอหัวเจ้าถึงหมอนก็ผล็อยหลับไปทันที” นางเบ้ปากแล้วแสร้งมองไปทางอื่น “ท่านนี่ใจดีกับแขกที่มาเยือนแบบนี้ทุกคนรึ”“ก็ต้องดูก่อนว่าเป็นใคร” น้ำเสียงราบเรียบเหมือนจะยั่วเย้านางอยู่ในที เมื่อสายตาปรับกับความมืดได้แล้ว เขาก็ยิ้มกริ่มที่เห็นดวงตานางเคืองโกรธ เขายื่นหน้าไปขบริมฝีปากล่างของนางอย่างห้ามใจไม่อยู่ ตลอดคืนเห็นนางหลับสบายก็ไม่อยากปลุก นางเหมือนดอกไม้เล็กๆ ที่เขาใช้อุ้งมือประคองไว้ ทะนุถนอมดุจของล้ำค่าที่ไม่อาจสูญเสียไปได้นางยื่นมือจะผลักเขาออก แต่มือใหญ่ประคองมือนางไว้ กลัวนางจะลืมตัวทำตัวเองเจ็บอีก คนปากไม่ตรงกับใจอย่างนาง แต่จูบทีไรก็ทำให้เคลิบเคลิ้มและอุ่นซ่านไปทั่วร่าง ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นผู้หญิงขี้หึงที่ทำตัวน่ารังเกียจอยู่ทั่วไป คิดอยู่ในใจว่าถ้าต้องเจอผู้หญิงแบบนี้คงแย่ แต่เมื่อเห็นนางหึงเขา กลับอารมณ์ดีอย่างประหลาด อยากเห็นนางหึงเขาบ่อยๆ มีนางอยู่ข้างกายเช่นนี้ เขาจะเอาสายตาที่ไหนไปเหลือบแลหญิงอื่น“อื้อ...” นางส่งเสียงประท้วง บังคับตัวเองไม่ให้เผลออ่อนไหวไปกับรสจุมพิตที่ร้อนแรงขึ้นทุกขณะของเขา “พอ..พอแล้ว”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  96. นางเป็นของลูกแล้ว

    “ไม่ต้องๆ ข้าจัดการตัวเอง ขอน้ำร้อนให้ข้า ข้าจะเช็ดตัวเสียหน่อย เมื่อคืนข้ามีไข้เหงื่อออกท่วมตัว” จัดการเช็ดตัวเองเสร็จก็อยากไปทำอาหารเช้าให้ท่านพ่อ ให้หญิงรับใช้พาไป แต่พอถึงห้องครัวก็ถูกปฏิเสธ นางถึงได้เดินหน้ามุ่ยมาตามหาเขาเช่นนี้ เห็นเขาร่ายรำเพลงกระบี่แต่เช้าตรู่ นี่เขา... ไม่เหน็ดเหนื่อยบ้างหรือไรจ้าวจิ่นสือรู้นานแล้วว่านางยืนดูเขาอยู่ แต่เห็นนางเหม่อลอยจึงยังรำกระบี่ต่อไปจนจบเพลง หางตาเห็นดอกไป๋ฉาน (ดอกพุดซ้อน) สีขาวคลี่กลีบรับน้ำค้าง เขาตวัดปลายกระบี่ตัดดอกไม้สีขาวกลิ่นหอมนั่นแล้วยื่นให้นาง“ข้านึกว่าเจ้าจะตื่นสายกว่านี้” เขายิ้มกริ่มมู่ฟางเหนียงรับดอกไม้จากเขาแก้เก้อ มิใช่ครั้งแรกที่เห็นแผ่นอกของเขาเสียหน่อย แต่จะว่าไปก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นชัดๆ เพราะเวลานั้นนางหลับตาอยู่ ไม่กล้ามองเขาตรงๆโอ๊ย! แย่แล้ว! มู่ฟางเหนียงเอ๋ย! ไยเจ้าเป็นคนหมกมุ่นเรื่องกามารมณ์เช่นนี้นะ!เห็นท่าทางประหลาดของนางแล้วเขาก็อดสาวเท้าเข้าไปใกล้ไม่ได้ ยกหลังมือขึ้นแตะหน้าผาก ร่างกายนางอุ่นเป็นปกติไม่ได้เป็นไข้ ที่หน้าแดงคงเพราะเรื่องก่อนฟ้าสางสินะ ก็เพราะนางนั่นแหละ อุตส่าห์ข่มใจนอนกอดได้ทั้งคืน แต่พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 120. ได้ยินชัดแล้ว

    เหวินเฮ่าหลันคลี่พัดโบกไปมาเชื่องช้าคล้ายเกียจคร้าน แต่ในใจแฝงความกังวลอยู่หลายส่วนนัก สหายรักอย่างจ้าวจิ่นสือมาเมืองหลวงคราใดก็มักมาพักที่คฤหาสน์ตระกูลเหวิน จ้าวจิ่นสือเป็นคนไม่ถือยศศักดิ์ทำให้คบหากันสนิทใจ และเมื่อเขาเดินทางไปชายแดนก็มักจะแวะเวียนเยี่ยมเยือนจ้าวจิ่นสืออยู่เสมอ จะว่าไปบุรุษทั้งสองคนนี้เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วย่อมเป็นจุดเด่น ผู้หนึ่งบุคลิกองอาจสมเป็นบุตรชายทหารผู้แกล้วกล้า ส่วนอีกคนดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญผู้กุมการค้าในเมืองหลวง หากเห็นเหวินเฮ่าหลันตามหอนางโลมก็มิใช่เรื่องแปลก แต่กับจ้าวจิ่นสือนี่สิ สะดุดตาผู้คนเสียยิ่งกว่า “มาเที่ยวหอนางโลมก็เป็นธรรมดาของบุรุษ แต่ตอนนี้เจ้าไม่เหมือนก่อน พี่สาวเจ้าก็เป็นพระชายาไปแล้ว ฐานะเจ้าก็เป็นเครือญาติกับ...” ยังพูดไม่ทันจบประโยค จ้าวจิ่นสือก็โบกมือห้ามไว้ก่อน เขายกจอกสุราขึ้นดื่มแต่สีหน้าไร้แววรื่นเริง ทั้งสองอยู่ในหอนางโลมก็จริงแต่ไม่ได้เรียกนางคณิกาเข้ามาปรนนิบัติ เพียงนั่งดื่มสุราและสนทนากันเรื่องทั่วไป แต่เหวินเฮ่าหลันเป็นคนมีความอดทนน้อยนัก แม้จะรักสนุกชอบเรื่องบันเทิงและดูเกียจคร้านไ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  119.  ไม่คิดว่า

    มู่หยางซัวเอ่ยตอบ ไม่คิดว่าตัวเองไม่ได้ติดต่อกับคนที่นี่ แต่คนที่นี่กลับรู้ความเคลื่อนไหวเป็นไปของเขา แสดงว่า... พวกเขารอให้สองพ่อลูกกลับมานานแล้วจริงๆ “ว่าแต่เจ้าสองคนพ่อลูกพักที่ใดกัน” ท่านยายถามแล้วยื่นมือไปลูบเนื้อตัวมู่ฟางเหนียงอย่างเอ็นดู พอพิศดูใกล้ๆ แล้วก็เห็นว่า แท้จริงแล้วมู่ฟางเหนียงไม่ได้เหมือนอี้เฟยนัก แต่มีเค้าโครงหน้าอ่อนหวานเหมือนกัน ดวงตาเป็นประกายสดใสดุจแสงตะวันกระทบผิวน้ำยามเย็น แต่มีท่าทางเฉลียวฉลาดสุขุมเหมือนผู้เป็นพ่อ “โรงเตี๊ยมไม่ไกลที่นี่นักเจ้าค่ะ” นางเอ่ยชื่อโรงเตี๊ยมออกไป “ไอ้โรงเตี๊ยมนั่นมันเล็กนิดเดียว อาหารก็ไม่อร่อย ไปพักได้อย่างไรกัน หึ!” ท่านตาทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ “ไปเก็บข้าวของมาพักด้วยกันที่นี่” มู่ฟางเหนียงหันไปทางบิดา เห็นท่าทีอ้ำอึ้งก็เข้าใจ พ่อของนางเป็นเด็กกำพร้า ไม่คุ้นชินกับการอยู่แบบครอบครัวใหญ่ ที่ผ่านมาก็มีกันแค่สองคนพ่อลูก และไม่ได้เผื่อใจว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดี ดูท่าท่านพ่อที่ได้ฉายาหมอเทวดาไร้เงาผู้แสนจะสุขุมและไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด จะพ่ายแพ้แก่พ่อตาแม่ยายเสียแล้ว “ท่านพ่อกับห

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   118. ห้ามถอยเด็ดขาด

    เคอหลิ่งหลินบังเอิญได้พบคุณชายเฉินและแอบหลงรักเขา ส่วนนางกับพ่อรู้จักคุณชายเฉินเพราะเป็นคนป่วยที่ตามหาท่านหมอเทวดาไร้เงามาถึงชายแดนที่นางกับพ่ออยู่เคอหลิ่งหลินนิสัยโลดโผน เปิดเผย และจริงใจ นางชอบคุณชายเฉินก็แสดงออกว่าตนชอบ ไม่ปิดบัง ทำให้บิดาของนางต้องส่ายหน้าทุกที เคอหลิ่งหลินอาศัยติดตามบิดาของนางไปพบคุณชายเฉินบ่อยๆ และนางช่วยสอนเป่าขลุ่ยเพราะเห็นคุณชายเฉินบรรเลงเพลงขลุ่ยแสนไพเราะ นางรู้ว่าพี่สาวที่แสนดีผู้นี้อุทิศตนเองเพื่อความรักที่มีต่อคุณชายเฉินมากเพียงใด เมื่อรู้ข่าวว่าเคอหลิ่งหลินได้เคียงข้างครองคู่กับคนที่นางรักและรักนาง มู่ฟางเหนียงก็รู้สึกยินดีและดีใจด้วยอย่างจริงใจส่วนนางนั้น พยายามไม่คิดเรื่องของตนเอง นางรู้ว่าสิ่งที่นางทำ ผิดจารีตประเพณีที่สตรีพึงกระทำ แต่นางก็ไม่นึกเสียใจ อย่างน้อยนางก็รู้ใจตัวเองว่ารักเขามาก และอาจมากเกินกว่าที่จะยอมแบ่งปันเขาให้หญิงอื่น มิอาจทำใจใช้สามีร่วมกับผู้ใด มู่หยางซัวพาลูกสาวเดินมาตามเส้นทางที่คุ้นเคยในอดีต จนมาหยุดที่หน้าร้านขายยาใหญ่โตร้านหนึ่ง สิบกว่าปีที่ผ่านมา จากร้านขายยาเล็กๆ กลายเป็นร้านใหญ่โตไปแล้ว ลูกสาวเห็นสีหน้าเคร่งเ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   117.  ข้าจะแบกเจ้าเอง

    “เป็นท่านพ่อที่ต้องการเตรียมตัวเตรียมใจมากกว่าลูกกระมัง” นางอดหยอกล้อบิดาไม่ได้ “เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งเป็นผู้หญิงเถิด พ่อเกรงว่าตากับยายของเจ้าจะตำหนิพ่อเอาเสียเปล่าๆ” พูดแล้วก็ถอนหายใจหนักหน่วง “ตั้งแต่พาแม่ของเจ้าออกเดินทางมาจนเจ้าตัวโตขนาดนี้ ก็มิรู้ทั้งสองจะยังอยู่หรือไม่” “ลูกไม่เคยได้ยินท่านพ่อพูดถึงท่านตากับท่านยาย เลยไม่รู้ว่าพวกท่านเป็นคนอย่างไร” นางถามระหว่างรับประทานอาหารกลางวันที่โรงเตี๊ยมที่เข้าพักอยู่ “แม่ของเจ้าเป็นลูกสาวพ่อค้าร้านขายยา” “เอ๋? ท่านพ่อก็เป็นหมอ ท่านแม่เป็นลูกสาวร้านขายยา ไยถึงหนีตามกันเล่า” นางอดประหลาดใจไม่ได้ ตั้งแต่จำความได้ ก็รู้เพียงแค่ว่าท่านพ่อกับท่านแม่รักใคร่ชอบพอกัน แต่ท่านตากับท่านยายไม่ยอมรับในตัวลูกเขยที่ไร้ชาติตระกูล ซ้ำยังยากจนนัก ท่านพ่อจึงพาท่านแม่หนีออกมาและใช้ชีวิตเดินทางรักษาคนทั่วไป มีความสุขตามอัตภาพ “ตอนนั้นท่านตาของเจ้าหวังทำการค้ามากกว่าจะรักษาคน พ่อซึ่งตอนนั้นก็ทระนงตน ไม่ฟังผู้ใด ท่านตาอยากให้พ่อไปนั่งตรวจคนเจ็บป่วยที่ร้านขายยาของท่านตา ทีแรกพ่อก็ไปตาม

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   116.  ท่านรักข้าบ้างหรือเปล่า

    “ท่านพ่อของเจ้าบอกข้าแล้วว่าจะเดินทางไปเมืองหลวง”มู่ฟางเหนียงนิ่งงันไป พ่อเพิ่งคุยกับนางเมื่อครู่แต่บอกกับคนผู้นี้ไปก่อนแล้ว แสดงว่าท่านตัดสินใจแล้ว คงไม่มีเหตุผลให้นางยื้อเวลาที่จะอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว‘ท่านจะให้เราสองคนห่างกันอย่างนั้นหรือ?’เสียงของหมอมู่หยางซัวแทรกเข้ามาในหัวสมองของเขา จ้าวจิ่นสือกอดนางแน่นขึ้น กลัวว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กอดนางไว้แนบอกเช่นนี้ ยศถาบรรดาศักดิ์หรือแม้แต่ตำแหน่งรองแม่ทัพที่มีอยู่ไม่ได้ทำให้เขามีความสุขได้มากเท่ากับที่มีนางอยู่เคียงข้าง“จากนี้เดินทางไปเมืองหลวงจะสะดวกกว่า ข้าจะเตรียมรถม้าพร้อมผู้ติดตามไปส่งเจ้ากับพ่อให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย”ทำไม... ทำไมเขาพูดเหมือนอยากให้นางไปไกลห่างเช่นนี้ด้วยเล่า“สิ่งของของเจ้าที่อยู่ที่บ้านข้า ข้าจะให้คนเก็บรักษาไว้อย่างดี หรือเจ้าต้องการสิ่งใดก็ขอให้บอก ข้าจะให้คนส่งตามไปให้เจ้า”ถ้อยคำแห่งความหวังดีกลับกลายเป็นโบยตีหัวใจนางให้เจ็บปวด นี่เขาคิดแทนนางถึงเพียงเชียวหรือ? กลัวว่านางจะไปไม่พ้นหน้าเขาหรืออย่างไรกันจะติดตามนางไปด้วยก็ไม่ได้ แค่นี้เขาก็หงุดหงิดเต็มประดาแล้ว“ท่านไม่ต้องกังวลเกินกว่าเหตุไป ครา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   115. ทรมาน

    “ฟางเหนียง พ่อเห็นว่างานที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว พ่อคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกันเสียที”“อะไรนะเจ้าคะ” นางตื่นตกใจอย่างเก็บอาการไม่อยู่ เร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“เจ้าไม่อยากไปกับพ่อแล้วหรือ?”“มิได้ ลูกแค่... เรายังไม่ได้เตรียมตัว”“เตรียมตัว?” มู่หยางซัวทวนคำแล้วหัวเราะในลำคอ “พวกเราเคยเตรียมตัวกันด้วยรึ ถ้าไม่นับที่เราอยู่ชายแดนมาสองปี ที่ผ่านมาเราก็แทบไม่เคยเตรียมตัวก่อนออกเดินทางสักครั้ง”“แต่ว่า เรามีข้าวของอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าว”“เจ้าใส่ใจของพวกนั้นด้วยรึ พ่อไม่เคยนึกถึงเรื่องพวกนั้น” รอยยิ้มกึ่งล้อทำให้มู่ฟางเหนียงแอบค้อนเข้าให้“ข้ามีของที่ได้รับมาจากมิตรสหายเผ่าเอ้อหลุนชุน ถึงมันอาจไม่ได้มีราคาค่างวดมากมาย แต่มีค่ากับจิตใจของข้ามากนัก”“จากที่นี่เดินทางไปเมืองหลวงจะใกล้กว่า ถ้าเจ้าอยากย้อนกลับไปก็จะเสียเวลามาก”“แต่ว่า...” นางนึกถึงเครื่องประดับที่ทำจากหินหรือกระดูกสัตว์ที่นางได้มา คิดถึงเสื้อคลุมหนังหมาป่าที่จินปู๋กับนางลู่อู๋มอบให้ คิดถึงบันทึกการรักษาที่ท่านหมอผู้เฒ่ามอบให้ สิ่งเหล่านั้นมีภาพของชายผู้นั้นปรากฏขึ้นมาด้วย“ฟางเหนียง บางสิ่งที่เจ้าเผชิญอยู่มัน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  114. ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “ท่านหมอมู่” จ้าวจิ่นสือพยายามคุมสติและปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ “ท่านอาจไม่ทราบ ข้ากับฟางเหนียง...” มู่หยางซัวยกมือขึ้นห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูดออกมา “ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร” มือของเขาเคยแต่จับมีดช่วยคน เพิ่งเคยรู้สึกอยากจับมีดฆ่าคนก็คราวนี้ “ข้าจริงใจกับนาง หวังให้ท่านเข้าใจ” “เจ้าหวังให้ผู้อื่นเข้าใจเจ้า แล้วเจ้าเข้าใจผู้อื่นรึ” “ข้าตั้งใจว่ากลับจากซูโจวจะให้ท่านพ่อสู่ขอฟางเหนียงกับท่าน” “แล้วอย่างไร?” ปกติมู่หยางซัวเป็นคนใจเย็น จะเห็นสีหน้าเคืองโกรธก็น้อยครั้งเหลือเกิน “เจ้าตบแต่งนางเข้าตระกูลเจ้าแล้ว ก็ใช่ว่าเจ้าจะรับหญิงอื่นเข้ามาไม่ได้อีก ตอนนี้เจ้าก็พูดได้ แต่อนาคตเจ้าจะไม่รับใครเข้ามาอีกรึ เจ้าไม่ใช่คนธรรมดา ฐานะชาติกำเนิดของเจ้า เจ้าย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ” “ความหมายของท่านคือไม่ยินดียกนางให้ข้า” แม้จะข่มน้ำเสียงตัวเองให้ราบเรียบ แต่กรุ่นไอโทสะแผ่กระจายออกมาจนอีกฝ่ายยังรู้สึกได้ “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น” มู่หยางซัวทำน้ำเสียงเยาะในลำคอ แค่นี้ก็โกรธจนไอโท

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 113. ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “พ่อไม่พูดใช่ว่าไม่รู้” มู่หยางซัวจับไหล่ของลูกสาวให้ก้าวเข้าไปนั่งบนเตียง ส่วนตนนั้นก็เลื่อนเก้าอี้กลมมานั่งใกล้ๆ “เจ้ารู้ว่าพ่อพูดถึงเรื่องจ้าวจิ่นสืออยู่” “ท่านพ่อ” นางหลุบตาลง เป็นฝ่ายไม่กล้าสบตาเสียเอง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าสักวันเรื่องนี้พ่อต้องเอ่ยปากกับนาง “เจ้ารักคนผู้นั้นมากเลยหรือ” น้ำเสียงที่ถามเป็นน้ำเสียงตัดพ้อมากกว่าต้องการคำตอบ “พ่อรู้ อย่างไรก็ต้องมีวันนี้... อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวของตัวเอง เจ้าจะทำตัวติดกับพ่อตลอดไปไม่ได้หรอก” “ท่านพ่ออย่าพูดเช่นนั้น ท่านพ่อตัวคนเดียว ลูกไม่ยอมทิ้งท่านพ่อเด็ดขาด หากลูกจะแต่งงานกับผู้ใด คนผู้นั้นก็ต้องยอมรับท่านพ่อได้ด้วยเช่นกัน” “เราผ่านอะไรกันมามากมายเหลือเกิน เจ้าอาจได้เห็นโลกกว้างมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน” มู่หยางซัวตบหลังมือของลูกสาวเบาๆ “เจ้าก็เห็นแล้ว ทั้งเศรษฐี ทั้งขุนนาง ทั้งยาจก ทั้งคนยากไร้ เจ้าย่อมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งสูงศักดิ์มากเพียงใด ก็ยิ่งแก่งแย่งแข่งขันกันมากเพียงนั้น แล้วเจ้าจะรับมือเรื่องราวเหล่านั้นได้ไหวหรือไม่ เมื่อกลายเป็นคนของเขาไปแล้ว เจ้า

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  112. หายดี

    มู่ฟางเหนียงเดินเคียงข้างจ้าวจิ่นสือไปถึงศาลาหกเหลี่ยมที่องค์ชายไท่หยางประทับอยู่ องค์ชายไท่หยางเชื้อเชิญให้ทั้งสองนั่ง รอจนบ่าวรับใช้รินน้ำชาเรียบร้อยแล้ว จึงโบกมือไล่ให้ผู้อื่นออกไปให้หมด แม้จะไม่เห็นเงาร่างแต่ก็รู้ว่าต้าซื่อองครักษ์ขององค์ชายเฝ้าอารักขาอยู่“ข้าต้องยอมรับความสามารถในการจัดการของรองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือ ต่อให้ข้ามิได้มา เจ้าก็คงจัดการที่นี่ได้อย่างราบรื่นด้วยดี”“เป็นเพราะพระบารมีขององค์ฮ่องเต้และองค์ชาย ทำให้การงานครั้งนี้ลุล่วงด้วยดีพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าเองสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ครั้นจะให้องค์รัชทายาทเสด็จมาเองก็เกรงว่าจะมีคนลอบเอาชีวิต คราวที่แล้วยังหาตัวผู้บงการมิได้ ครั้งนี้ข้าเลยต้องมาเอง ข้าอาจจะทำอะไรได้ไม่เต็มที่นัก อย่างไรก็ต้องฝากเจ้าดูแลต่อด้วย”“ข้าน้อยรับพระบัญชา”มู่ฟางเหนียงนั่งฟังนิ่งๆ แล้วลอบมองคุณชายเฉิน ไม่สิ ตอนนี้คนผู้นี้คือองค์ชายไท่หยางที่มักพูดออกตัวว่าตนเองสุขภาพไม่แข็งแรง แต่เท่าที่นางเห็นตอนนี้ ช่างเป็นองค์ชายที่สุขภาพแข็งแรงดีเหลือเกิน“ความจริงที่เรียกเจ้าทั้งสองมาดื่มน้ำชาที่นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องงาน ข้าอยากคุยเรื่องเคอหลิ่งหลิน”จ้าวจิ่นสือเงยหน้าสบด

DMCA.com Protection Status