หน้าหลัก / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter 78. เสียงกระดูกข้อมือลั่น

แชร์

Chapter 78. เสียงกระดูกข้อมือลั่น

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-05 21:47:47

พูดจบนางก็มองไปทางหัวหน้าเผ่าเสือดำแล้วร้องเสียงหลงก่อนจะทรุดลงนั่งพับเพียบลงไปกับพื้น บุรุษร่างสูงหนาราวกับหมีป่าชะงักแล้วหันกลับมามองด้วยสายตาเกียจคร้าน มองหญิงสาวที่พูดมากนั่งลูบเท้าตัวเองป้อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นเดินต่อไปง่ายๆ เขาจึงจำใจหมุนตัวเดินย้อนกลับมาดูนาง

“เป็นอะไร”

“ข้อเท้าแพลงเจ้าค่ะ” อิงฮวาลูบเท้าไปก็แสร้งทำเป็นเช็ดหางตา “ข้าน้อยไม่เคยเดินขึ้นเขา เผลอเดินสะดุดก้อนหินเข้าจนเท้าอยู่ในสภาพนี้”

หัวหน้าเผ่าเสือดำทำเสียงรำคาญในลำคอ เขาไม่มีทางลดเกียรติมาอุ้มผู้หญิงเป็นแน่ กวาดตามองลูกน้องที่เดินประกบอยู่ แต่ละคนก็ไม่มีใครจะยอมมาอุ้มผู้หญิงให้เสียมือ

“ต้องขออภัยด้วย ข้าน้อยขอนั่งพักสักครู่เถิด ท่านหญิงเองก็เหน็ดเหนื่อยเช่นกัน”

หัวหน้าเผ่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเอ่ยตอบ “ก็ได้ ครู่เดียวนะ”

“เจ้าค่ะ”

แสดงกิริยาอ่อนน้อมจนอีกฝ่ายตายใจ ยอมให้นางรั้งเวลาอีกหน่อย นางเชื่อสุดใจว่าถ้าเขาเห็นว่านางยังไม่กลับไป จะต้องออกมาตามหาอย่างแน่นอน ขณะหาที่นั่งพักบนหญ้านุ่ม นางก็ลอบมองไปรอบๆ มีคนติดตามเพียงสิบกว่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 79. ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน

    “เป็นเจ้าที่ร้องขอความตายจากกระบี่ของข้า!!”เขาหันกลับเพียงนิดเดียวก็ตวัดกระบี่ปะทะกับดาบของหัวหน้าเผ่าเสือดำ ด้วยกำลังภายในที่ส่งผ่านทำให้ดาบเล่มโตหัก แรงสั่นสะเทือนทำให้เจ้าของดาบไม่อาจจับด้ามดาบไว้ได้มั่น พลิ้วตัวอีกครั้งกระบี่ของเขาก็แทงทะลุตัดขั้วหัวใจทันทีจ้าวจิ่นสือหมุนตัวกลับ ไม่รอดูร่างใหญ่ที่โงนเงนส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มตึงลงไป เหล่าลูกน้องคนสนิทเห็นเข้าก็ทำอะไรไม่ถูก เข้าไปรุมล้อมร่างหัวหน้าเผ่า เฝ้ามองจนลมหายใจหมดไปแล้วจึงแหงนหน้าส่งเสียงร้องโหยหวนเจ็บปวด พากันหามร่างของหัวหน้าเผ่าหายไปในป่าราวกับไม่เคยมีการนองเลือดเกิดขึ้นที่นี่“ท่านหญิง ท่านบาดเจ็บหรือไม่” จินปู๋คลายวงแขนออก เขากอดนางเหมือนแม่ไก่ที่กางปีกปกป้องลูกไก่ ซุนเย่ผิงส่ายหน้าเร็วๆ แต่ใบหน้ายังซีดด้วยความตกใจ“อิงฮวา” นางเป็นห่วงหญิงสาวอีกคน “เจ้ารีบไปตามหานางเร็วเข้า”จินปู๋พยักหน้ารับ แต่พอลุกขึ้นยืนและหันหลังให้ ซุนเย่ผิงถึงกับกรีดร้องด้วยความตกใจ แผ่นหลังของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือด ซ้ำยังมีมีดปักอยู่อีกด้วยจ้าวจิ่นสือใช้วิชาตัวเบาแทบจะเหาะเหินเหยียบยอดไม้แล้วลงไปหาหญิงสาว เขาตะโกนเรียกแต่ไร้เสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 80. เสียงหัวเราะเยาะ

    เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของเขาทำให้นางโกรธจนคิดอะไรไม่ออก ไม่ดิ้นรนก็จะกลายเป็นเต็มอกเต็มใจ พอดิ้นรนก็กลายเป็นยั่วยวนอีกฝ่าย นางอยู่มาสิบหกปีไม่เคยมีชายใดทำกับนางอย่างนี้มาก่อน แม้จะเป็นหมอหญิงถูกสายตาดูถูกดูแคลนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยมีใครกล่าวหาว่าร้ายนางให้เสียเกียรติเช่นนี้ นางโกรธเขาแต่โกรธตัวเองมากกว่าที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางคิดเสมอว่าตัวเองนั้นเก่งกาจสามารถดูแลตัวเองและท่านพ่อได้ ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกว่าแท้จริงแล้วนางอ่อนแอเกินไป ไม่รู้วิธีรับมือเหตุการณ์เช่นนี้เลยด้วยซ้ำชายหนุ่มเห็นนางเริ่มนิ่งไป พอก้มลงมองก็เห็นเพียงนางก้มหน้าอยู่ จึงปล่อยนางออกจากวงแขนแล้วยกมือขึ้นประคองใบหน้าเล็กให้เงยหน้าขึ้น เพียงชั่วพริบตานางกลับจับมือใหญ่ของเขาแล้วงับเข้าไปเต็มแรง“โอ๊ย!” จ้าวจิ่นสือถึงกับร้องเสียงหลง อาศัยจังหวะที่เขาปล่อยนาง รีบผละออก หมุนตัวรีบก้าวเร็วๆ จะออกไปจากห้องนี้ ทว่า ข้อมือถูกกระชากไว้พร้อมกับร่างของนางที่ถูกหมุนกลับไป รวดเร็วจนไม่ทันกะพริบตา ริมฝีปากของนางก็ถูกประกบด้วยริมฝีปากของเขา ดวงตาสีนิลเบิกกว้างอย่างตกใจ ร่างเล็กถูกรวบมากอดแน่น แต่กระนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 81. ไม่มีบ้าน

    ใช้เวลาสามวันทุกอย่างจึงสิ้นสุด จ้าวจิ่นสือกลับมาและพบว่านางยังไม่ได้สติ แม้หมอผู้เฒ่าจะมาคอยดูอาการอยู่ แต่เขาก็ไม่วางใจ ทำให้ตัวเองกินไม่ได้นอนไม่หลับเอาแต่เฝ้านาง หวังให้นางเห็นเขาเป็นคนแรกที่ลืมตามันไม่เหมือนกันแม้แต่นิดเดียวเมื่อคราวที่เคอหลิ่งหลินหลับไปนานนับเดือน เขาเป็นห่วง ทุกข์ร้อน กระวนกระวายใจ แต่ไม่รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออกเช่นที่รู้ว่าคนเบื้องหน้าคือมู่ฟางเหนียง เขานึกถึงคำพูดของบิดาก่อนออกเดินทาง ครั้งนี้เขาได้รู้ใจตัวเอง ว่าแท้จริงแล้วเขารู้สึกอย่างไรกับเคอหลิ่งหลิน และมากกว่าความใกล้ชิดเขารู้สึกอย่างไรกับมู่ฟางเหนียง“จินปู๋กับท่านหญิงล่ะ” นางถามสีหน้ากังวล“ทั้งสองปลอดภัยดี” เขาละเว้นไม่ได้เล่าเรื่องที่จินปู๋เอาแผ่นหลังของตนเองแทนโล่ ปกป้องซุนเย่ผิงจนเสียเลือดไปไม่น้อย “เจ้าห่วงตัวเองเถิด ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว”หญิงสาวปวดขมับ ยกมือขึ้นกดจุดที่ปวด แล้วก็ร้องเสียงหลง ลืมตามองข้อมือของตนเองที่มีผ้าพันไว้“ข้อมือเจ้าหัก” เขาบอกเพื่อให้นางไม่ต้องขยับใช้งานมือข้างนั้นมากเกินไป “หิวหรือไม่ ข้าจะให้คนไปเตรียมโจ๊กร้อนๆ ให้” เขาลุกขึ้นโดยไม่ทันฟังคำตอบจากนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 82.นานเกินไป

    “รถม้า” ให้รถม้านาง นางจะไม่มีเรื่องเหมือนครั้งที่แล้วอีกรึ หัวคิ้วขมวดมุ่นอย่างครุ่นคิด มิใช่เพราะรถม้าหรอกหรือ? ที่ทำให้นางถูกลอบทำร้าย รถม้านั้นมีตราของเศรษฐีกู่หลิน หรือคนกลุ่มนั้นจะเข้าใจผิดว่านางเป็นคนของเศรษฐีกู่หลิน แต่พวกนั้นย้ำนักว่าเป็นนาง ผู้หญิงแพศยา... “อิงฮวา” โจวฟู่หรงเห็นอาการตัวเกร็งของนางก็อดเป็นห่วงไม่ได้ หากทำได้เขาอยากไปส่งนางเสียเอง ติดที่เขาเพิ่งปราบเผ่าเสือดำไป เกรงว่าอาจมีคนที่อยากแก้แค้นหลงเหลือ หรือรอจังหวะที่เขาไม่อยู่มาโจมตีเผ่าของเขา จะไม่มีใครปกป้องคนของเขา “ข้าขอบคุณท่านยิ่งนัก” หญิงสาวตื่นจากภวังค์แล้วคลี่ยิ้มให้เขา “เป็นข้าที่ควรขอบคุณเจ้าไม่ใช่รึ” เขาบีบมือนางเบาๆ “เจ้าทำเพื่อคนในเผ่าของข้ามากมายนัก” “เป็นข้าต่างหากที่ได้รับความช่วยเมตตาจากท่านและผู้อื่น ทั้งจินปู๋ ท่านน้าลู่อู๋ ท่านหมอผู้เฒ่า และคนอื่นๆ ล้วนดีต่อข้า คนแปลกหน้าพลัดถิ่น สิ่งที่ข้าทำนั้นเทียบกับสิ่งที่พวกท่านทำให้ข้ามิได้หรอก” “แล้วข้าล่ะ” “ท่าน?” นางเบิกตากว้าง เห็นแววอาลัยในแววตาของเขาแล้วก็ต้องรีบก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 83. เพราะเจ้านั้นแหละ  

    “ที่จินปู๋ดีขึ้นคงเพราะถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง ไม่ใช่เพราะข้ารักษา” นางยืนยันอีกครั้ง แต่ลู่อู๋ส่ายหน้าไปมาแล้วส่งยิ้ม “เป็นเพราะเจ้านั่นแหละ”“ไปกันเถิด” จ้าวจิ่นสือเรียกหญิงสาวจึงผละจากทุกคน เขาช่วยอุ้มนางขึ้นรถม้า นางมองดูคฤหาสน์ตระกูลโจว ราวกับจะมองหาใครบางคน เขาไม่ออกมาส่งนาง นางเข้าใจดี หญิงสาวได้แต่ก้มศีรษะลงแสดงความเคารพและขอบคุณเขาที่ให้ความช่วยเหลือนาง“รอเดี๋ยว!” ซุนเย่ผิงรีบกระโดดลงจากม้า แล้วเอาของที่อยู่หลังม้าลงมาด้วย “ท่านหญิง” มู่ฟางเหนียงมองซุนเย่ผิงจากหน้าต่างรถม้า จะลงจากรถแต่ซุนเย่ผิงโบกมือห้ามไว้ก่อน “ข้าเอาเสื้อคลุมขนจิ้งจอกมาให้ เจ้าแพ้อากาศเย็น เมื่อถึงฤดูหนาวจะได้มีเสื้อคลุมอุ่นๆ” นางให้จินปู๋เอาเสื้อคลุมไปใส่ในรถม้า “อย่าลืมข้านะ แวะมาเยี่ยมข้าบ้าง”“แน่นอน ข้าจะไม่ลืมท่านหญิง” มู่ฟางเหนียงยิ้มอ่อนโยน “โปรดดูแลหัวหน้าโจวด้วย เขาต้องการคนดูแลหัวใจของเขา”“ข้ารู้แล้ว” ซุนเย่ผิงยิ้มกว้าง นางตั้งใจแล้ว อย่างไรนางจะต้องเป็นเจ้าสาว เป็นภรรยาที่น่ารักของโจวฟู่หรงให้ได้ จ้าวจิ่นสือเห็นทุกคนบอกลากันเรียบร้อยแล้วก็นั่งอยู่ด้านหน้า บังคับม้าให้เคลื่อนตัวออกไป มุ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 84. เดินทาง(กลับ)

    “ม้าจ๋า อย่ากลัวนะ อย่ากลัว” นางยื่นมือไปลูบจมูกมันเบาๆ พยายามทำให้มันสงบแต่มือของนางก็ถูกฉวยไว้ก่อน นางสะดุ้งเฮือก พอหันไปมองก็เห็นจ้าวจิ่นสือมายืนประชิดตัวแล้ว ใบหน้าของเขามีความเคร่งเครียดปรากฏชัด“หยิบของใช้จำเป็นแล้วไปยืนรอตรงโน้น” เขาสั่งเสียงดุ แล้วเป็นฝ่ายลูบหน้าม้าพยายามให้มันสงบ นางรีบเดินไปหยิบห่อย่ามใส่อาหารกับกระเป๋าน้ำแล้วเดินไปรอเขาอยู่ไม่ไกลนัก ฝนเทลงมาหนักเหลือเกิน เขาปลดสายพันธนาการออก จูงม้าหาที่หลบฝนโดยทิ้งรถไว้ด้านหลัง หญิงสาวกอดตัวเองแน่นแล้วเดินไปทางรถม้า ฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก นางเม้มริมฝีปากแน่น ข่มโทสะที่เกิดขึ้นในใจ ไยเขาไม่พานางไปหลบฝนก่อนเล่า นี่เขาห่วงม้ามากกว่านางหรือไงนะ! นางตำหนิเขาแล้วคิดจะปีนเข้าไปหลบฝนในรถม้า แต่ขยับเท้าได้เพียงครึ่งก้าว ร่างบางก็ถูกจับขึ้นบนบ่าอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันส่งเสียงหวีดร้อง เขาแบกนางฝ่าสายฝนเข้าไปในถ้ำแล้วจ้าวจิ่นสือวางร่างบางลงยืนแล้วเดินไปทางกองไฟที่ก่อทิ้งไว้ก่อนแล้ว เขาโยนฟืนใส่เข้าไปอีกสองสามชิ้น ฝนกระหน่ำสาดซัด ละอองไอเย็นเข้ามาปะทะคนที่ยืนงงอยู่จนต้องขยับเข้าไปด้านใน พอเขาหันกลับมาก็เห็นร่างของมู่ฟางเหนียงยืน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 85. ข้ารักท่าน

    “จิ่นสือ... จิ่นสือ” มู่ฟางเหนียงละล่ำละลักเรียกชื่อเขา เวลานี้เขาร้อนแรงยิ่งกว่าเปลวไฟ เขากำลังเผาไหม้นางด้วยไฟเสน่หา“เชื่อใจข้า” เขากระซิบกับผิวอ่อนนุ่ม เป่าลมหายใจร้อนที่จุดอ่อนไหว แหวกเรียวขาของนางให้แยกออกเพื่อที่เขาจะได้ชิมความหวานจากน้ำหวานที่เอ่อล้น“อ๊า.....” นางร้องครางเมื่อถูกลิ้นร้อนฉกไปในกลีบดอกไม้สาว หัวใจเต้นระรัวและร่างกายก็บิดเร่าไปมา รู้ทั้งรู้ว่าต้องห้ามเขา ต้องปฏิเสธ และผลักไส แต่กลับทำได้แค่วางมือข้างที่ไม่เจ็บบนกลุ่มผมของเขา น่าอายเหลือเกินที่ร่างกายของนางยอมรับทุกการกระทำของเขา ซ้ำยังรู้สึกราวกับโหยหารสชาติที่ไม่เคยพานพบ นางผวาเฮือกเมื่อรู้ว่านิ้วกร้านของเขาแทรกเข้าไปสำรวจกลีบดอกไม้ของนาง เขาพรมจูบราวกับบูชามันพร้อมกับขยับนิ้วเข้าออกช้าๆเสียงครวญของนางเย้ายวนยากเกินจะถอนใจได้ เขาเร่งเร้าเพื่อให้นางพร้อมก่อนที่เขาจะผสานร่างกายที่ต้องการเติมเต็มจากนาง นางจวนเจียนจะต้านทานไม่ไหว แล้วเขาก็ถอนริมฝีปากออกจากกลีบดอกไม้ที่ฉ่ำหวานด้วยน้ำหวานก่อนจะละเลงลิ้นที่ยอดอกที่แข็งเป็นตุ่มไตของนางความปรารถนาที่จะถูกเติมเต็มทำให้นางสิ้นอาย ได้แต่ร้องวิงวอนเขา ทั้งที่ตนเองก็ไม่ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 86. เสียงพร่า

    “เอ่อ... ไม่รู้สิ ข้าแค่รู้สึกว่าเส้นทางนี้คุ้นๆ” นางไหวไหล่น้อยๆ นางอาจจะเป็นคนหลงทิศ แต่นางคุ้นเคยกับทิวทัศน์ที่เห็น คล้ายว่าเป็นเส้นทางที่นางเคยไปบ่อน้ำพุร้อนกับเคอหลิ่งหลิน ใช่... ต้องใช้แน่ๆ นี่ไม่ใช่ทางที่จะกลับเข้าเมือง “เจ้ารู้สึกคุ้นๆ” เขาถามย้ำ ในอกพลันเกิดความรู้สึกเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจ นางจำไม่ได้ก็ดี พอคิดว่าถ้านางฟื้นความทรงจำได้ จะนึกถึงเรื่องที่เขาเคยทำไม่ดีกับนางมากนัก หากเป็นไปได้ เขาอยากให้นางจดจำแต่เรื่องราวดีๆ ที่เขามีต่อนาง “อืม” นางพยักหน้า ไม่อยากพูดมากให้เขาผิดสังเกต แต่นางอยากรู้ว่าทำไมเขาไม่พานางตรงกลับจวนแม่ทัพจ้าว ทั้งสองเดินทางช้ากว่าปกติมาก หรือเขาอยากซ่อนตัวนางไว้เป็นนางบำเรอจริงๆ “เมื่อก่อนเคอหลิ่งหลิน... พี่สาวข้า... เคยพามาข้ามาที่บ่อน้ำพุร้อน ยามเมื่อได้รับบาดเจ็บหรือร่างกายบอบช้ำ ข้าเลยจะพาเจ้าไปแช่น้ำพุร้อนก่อนกลับเข้าจวน” “นอกจากข้อมือที่หักนี่แล้ว ข้าก็ไม่ได้บาดเจ็บที่ใดนี่” นางย่นจมูก แต่ยังไม่คลายกังวล ใครจะรู้ว่าเขาคิดอะไรกันแน่ “ข้าทำเจ้าเป็นรอยจ้ำช้ำแบบนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  130. น้อยใจ

    “เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” “ข้าหายดีแล้ว จะไปหาฟางเหนียง” เขาควรรีบไปอธิบายกับนาง เมื่อวานส่งจดหมายแจ้งให้ท่านพ่อทราบเรื่องภารกิจลับเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับพร้อมรับมู่ฟางเหนียงไปด้วยเลย โธ่! ยังมิทันไรก็เป็นพวก ‘เกรงใจภรรยา’ เสียแล้ว เหวินเฮ่าหลันได้แต่คลี่พัดโบกไปมา ปกปิดสีหน้าระอาใจ เป็นบุรุษองอาจ ไฉนต้องมาพะวักพะวนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “เจ้ารออยู่นี่แหละ เดี๋ยวนางก็มาแล้ว” “เฮ่ย!” “เจ้าจะร้องอะไร” เหวินเฮ่าหลันเห็นอาการของสหายแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะไปมา ได้ยินมาจากเคอหลิ่งหลินว่าจ้าวจิ่นสือบาดเจ็บแต่ไม่ให้เรียกมู่ฟางเหนียงมาทำแผลเพราะเกรงใจที่เป็นเวลาพักผ่อนของนางแล้ว อย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาอยู่แล้ว หน้าที่ภรรยาดูแลสามีก็ถูกแล้ว จะค่ำหรือสว่างจะเป็นไรไป เดือดร้อนต้องไปตามหมอผู้อื่นมารักษาให้ แม้จะไม่ใช่บาดแผลสาหัสก็เถอะ “ข้ายังไม่ได้อธิบายกับนาง นางมาเจอข้าแบบนี้...” “เจ้านี่! เป็นถึงรองแม่ทัพ! อย่ามาทำตัวกลัวเมียให้เสียชื่อหน่อยเลย!” เหวินเฮ่าหลันกดเสียงต่ำ เรื่องแบบนี้พ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 129. อย่าได้แบกความโกรธแค้นไว้เลย

    เคอหลิ่งหลินก็เห็นหญิงสาวในชุดแดงหน้าตาซีดเซียว นางมาไม่ทันจึงไม่รู้ว่าหญิงนางนี้มีเรื่องแค้นใดกับจ้าวจิ่นสือ แต่ด้วยความสงสารในท่าทีสับสนและดูเคว้งคว้างของนางจึงเดินเข้าไปใกล้ หมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ“แม่นาง อย่างไรแล้วค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถิด เจ้ามีบาดแผล ให้ข้าดูหน่อยจะเป็นไร” เคอหลิ่งหลินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทำให้ร่างของหญิงสาวในชุดแดงแข็งทื่อ กวาดตาจ้องมองคนทั้งหมด คนพวกนี้พูดคุยเหมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่นางนั้นเล่า ไร้ผู้ใดไม่มีใครอีกแล้ว ความเศร้าหมองและหดหู่กัดกินจิตใจ มือบางกำด้ามกริชแน่นขึ้น หมายมั่นจะเอาชีวิตของจ้าวจิ่นสือให้ได้ นางพุ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดหวาดกลัวและไม่สนใจว่านางอาจถูกฝ่ามือซัดกลับจนถึงแก่ชีวิตช่างปะไร นางจะได้ไม่ต้องเดียวดายอีกแล้ว“จิ่นสือ!” เป็นเสียงเคอหลิ่งหลินที่หวีดร้องอย่างตกใจ น้องชายนางกลับไม่หลบยืนนิ่งปล่อยให้หญิงนางนั้นแทงกริชเข้าชายโครงด้านซ้ายของเขา เพราะคิดว่าจ้าวจิ่นสือจะหลบหลีกหรือตอบโต้ได้ จึงไม่มีใครขวางหรือเข้าไปช่วย ทุกคนจึงตื่นตะลึง แม้แต่หญิงผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ“เจ้า! ไยไม่หลบข้า!” หญิงสาวในชุดแดงปล

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 128. ไม่ลดความพยายาม

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่ลดความพยายาม เตรียมพุ่งกริชเล่มเดิมนั้นใส่จ้าวจิ่นสืออีก นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่นางต้องการชีวิต ร่างบางง้างมือขึ้นแต่ยังไม่ทันไร แสงวาบหนึ่งก็พุ่งผ่านเฉียดมือนางไปเล็กน้อย แต่ก็กรีดผิวเรียกเลือดสีเข้มกระเซ็นออกมา หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแต่ไม่ยอมทิ้งกริชเพียงแค่ยกมือกุมบาดแผลแล้วมองมีดสั้นที่ปักบนผนังห้องก่อนจะตวัดสายตามองไปทางหน้าต่าง ผู้มาใหม่กระโจนเข้ามา ใบหน้ามีหน้ากากอสูรปกปิดครึ่งหน้าด้านบน แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่เห็นนาง คราวนี้จ้าวจิ่นสือจับกระบี่ขึ้นมา แต่หัตถ์เทวะกลับยกมือโบกไปมาคล้ายไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ แล้วเดินวนเวียนรอบกายหญิงสาว ดวงตาคู่งามนั้นไร้แววหวาดกลัวแต่กลับวาวโรจน์ดุจแมวป่า ‘ช่างน่าสนใจนัก!’ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป็นจ้าวจิ่นสือที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เห็นชัดว่าชายผู้นั้นไม่ได้รู้จักหญิงสาวในชุดสีแดง “เป็นข้าควรถามเจ้ามากกว่า” หัตถ์เทวะหันมาทางจ้าวจิ่นสือ “ข้านึกว่าเรามีเรื่องสนทนากันตามลำพัง” “เจ้าไม่ได้ส่งนางผู้นี้มาทำร้ายข้าหรอกหรือ” ฝีมืออย่างนาง... จ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status