หน้าหลัก / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter 78. เสียงกระดูกข้อมือลั่น

แชร์

Chapter 78. เสียงกระดูกข้อมือลั่น

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-05 21:47:47

พูดจบนางก็มองไปทางหัวหน้าเผ่าเสือดำแล้วร้องเสียงหลงก่อนจะทรุดลงนั่งพับเพียบลงไปกับพื้น บุรุษร่างสูงหนาราวกับหมีป่าชะงักแล้วหันกลับมามองด้วยสายตาเกียจคร้าน มองหญิงสาวที่พูดมากนั่งลูบเท้าตัวเองป้อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นเดินต่อไปง่ายๆ เขาจึงจำใจหมุนตัวเดินย้อนกลับมาดูนาง

“เป็นอะไร”

“ข้อเท้าแพลงเจ้าค่ะ” อิงฮวาลูบเท้าไปก็แสร้งทำเป็นเช็ดหางตา “ข้าน้อยไม่เคยเดินขึ้นเขา เผลอเดินสะดุดก้อนหินเข้าจนเท้าอยู่ในสภาพนี้”

หัวหน้าเผ่าเสือดำทำเสียงรำคาญในลำคอ เขาไม่มีทางลดเกียรติมาอุ้มผู้หญิงเป็นแน่ กวาดตามองลูกน้องที่เดินประกบอยู่ แต่ละคนก็ไม่มีใครจะยอมมาอุ้มผู้หญิงให้เสียมือ

“ต้องขออภัยด้วย ข้าน้อยขอนั่งพักสักครู่เถิด ท่านหญิงเองก็เหน็ดเหนื่อยเช่นกัน”

หัวหน้าเผ่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเอ่ยตอบ “ก็ได้ ครู่เดียวนะ”

“เจ้าค่ะ”

แสดงกิริยาอ่อนน้อมจนอีกฝ่ายตายใจ ยอมให้นางรั้งเวลาอีกหน่อย นางเชื่อสุดใจว่าถ้าเขาเห็นว่านางยังไม่กลับไป จะต้องออกมาตามหาอย่างแน่นอน ขณะหาที่นั่งพักบนหญ้านุ่ม นางก็ลอบมองไปรอบๆ มีคนติดตามเพียงสิบกว่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 79. ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน

    “เป็นเจ้าที่ร้องขอความตายจากกระบี่ของข้า!!”เขาหันกลับเพียงนิดเดียวก็ตวัดกระบี่ปะทะกับดาบของหัวหน้าเผ่าเสือดำ ด้วยกำลังภายในที่ส่งผ่านทำให้ดาบเล่มโตหัก แรงสั่นสะเทือนทำให้เจ้าของดาบไม่อาจจับด้ามดาบไว้ได้มั่น พลิ้วตัวอีกครั้งกระบี่ของเขาก็แทงทะลุตัดขั้วหัวใจทันทีจ้าวจิ่นสือหมุนตัวกลับ ไม่รอดูร่างใหญ่ที่โงนเงนส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มตึงลงไป เหล่าลูกน้องคนสนิทเห็นเข้าก็ทำอะไรไม่ถูก เข้าไปรุมล้อมร่างหัวหน้าเผ่า เฝ้ามองจนลมหายใจหมดไปแล้วจึงแหงนหน้าส่งเสียงร้องโหยหวนเจ็บปวด พากันหามร่างของหัวหน้าเผ่าหายไปในป่าราวกับไม่เคยมีการนองเลือดเกิดขึ้นที่นี่“ท่านหญิง ท่านบาดเจ็บหรือไม่” จินปู๋คลายวงแขนออก เขากอดนางเหมือนแม่ไก่ที่กางปีกปกป้องลูกไก่ ซุนเย่ผิงส่ายหน้าเร็วๆ แต่ใบหน้ายังซีดด้วยความตกใจ“อิงฮวา” นางเป็นห่วงหญิงสาวอีกคน “เจ้ารีบไปตามหานางเร็วเข้า”จินปู๋พยักหน้ารับ แต่พอลุกขึ้นยืนและหันหลังให้ ซุนเย่ผิงถึงกับกรีดร้องด้วยความตกใจ แผ่นหลังของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือด ซ้ำยังมีมีดปักอยู่อีกด้วยจ้าวจิ่นสือใช้วิชาตัวเบาแทบจะเหาะเหินเหยียบยอดไม้แล้วลงไปหาหญิงสาว เขาตะโกนเรียกแต่ไร้เสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 80. เสียงหัวเราะเยาะ

    เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของเขาทำให้นางโกรธจนคิดอะไรไม่ออก ไม่ดิ้นรนก็จะกลายเป็นเต็มอกเต็มใจ พอดิ้นรนก็กลายเป็นยั่วยวนอีกฝ่าย นางอยู่มาสิบหกปีไม่เคยมีชายใดทำกับนางอย่างนี้มาก่อน แม้จะเป็นหมอหญิงถูกสายตาดูถูกดูแคลนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยมีใครกล่าวหาว่าร้ายนางให้เสียเกียรติเช่นนี้ นางโกรธเขาแต่โกรธตัวเองมากกว่าที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางคิดเสมอว่าตัวเองนั้นเก่งกาจสามารถดูแลตัวเองและท่านพ่อได้ ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกว่าแท้จริงแล้วนางอ่อนแอเกินไป ไม่รู้วิธีรับมือเหตุการณ์เช่นนี้เลยด้วยซ้ำชายหนุ่มเห็นนางเริ่มนิ่งไป พอก้มลงมองก็เห็นเพียงนางก้มหน้าอยู่ จึงปล่อยนางออกจากวงแขนแล้วยกมือขึ้นประคองใบหน้าเล็กให้เงยหน้าขึ้น เพียงชั่วพริบตานางกลับจับมือใหญ่ของเขาแล้วงับเข้าไปเต็มแรง“โอ๊ย!” จ้าวจิ่นสือถึงกับร้องเสียงหลง อาศัยจังหวะที่เขาปล่อยนาง รีบผละออก หมุนตัวรีบก้าวเร็วๆ จะออกไปจากห้องนี้ ทว่า ข้อมือถูกกระชากไว้พร้อมกับร่างของนางที่ถูกหมุนกลับไป รวดเร็วจนไม่ทันกะพริบตา ริมฝีปากของนางก็ถูกประกบด้วยริมฝีปากของเขา ดวงตาสีนิลเบิกกว้างอย่างตกใจ ร่างเล็กถูกรวบมากอดแน่น แต่กระนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 81. ไม่มีบ้าน

    ใช้เวลาสามวันทุกอย่างจึงสิ้นสุด จ้าวจิ่นสือกลับมาและพบว่านางยังไม่ได้สติ แม้หมอผู้เฒ่าจะมาคอยดูอาการอยู่ แต่เขาก็ไม่วางใจ ทำให้ตัวเองกินไม่ได้นอนไม่หลับเอาแต่เฝ้านาง หวังให้นางเห็นเขาเป็นคนแรกที่ลืมตามันไม่เหมือนกันแม้แต่นิดเดียวเมื่อคราวที่เคอหลิ่งหลินหลับไปนานนับเดือน เขาเป็นห่วง ทุกข์ร้อน กระวนกระวายใจ แต่ไม่รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออกเช่นที่รู้ว่าคนเบื้องหน้าคือมู่ฟางเหนียง เขานึกถึงคำพูดของบิดาก่อนออกเดินทาง ครั้งนี้เขาได้รู้ใจตัวเอง ว่าแท้จริงแล้วเขารู้สึกอย่างไรกับเคอหลิ่งหลิน และมากกว่าความใกล้ชิดเขารู้สึกอย่างไรกับมู่ฟางเหนียง“จินปู๋กับท่านหญิงล่ะ” นางถามสีหน้ากังวล“ทั้งสองปลอดภัยดี” เขาละเว้นไม่ได้เล่าเรื่องที่จินปู๋เอาแผ่นหลังของตนเองแทนโล่ ปกป้องซุนเย่ผิงจนเสียเลือดไปไม่น้อย “เจ้าห่วงตัวเองเถิด ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว”หญิงสาวปวดขมับ ยกมือขึ้นกดจุดที่ปวด แล้วก็ร้องเสียงหลง ลืมตามองข้อมือของตนเองที่มีผ้าพันไว้“ข้อมือเจ้าหัก” เขาบอกเพื่อให้นางไม่ต้องขยับใช้งานมือข้างนั้นมากเกินไป “หิวหรือไม่ ข้าจะให้คนไปเตรียมโจ๊กร้อนๆ ให้” เขาลุกขึ้นโดยไม่ทันฟังคำตอบจากนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 82.นานเกินไป

    “รถม้า” ให้รถม้านาง นางจะไม่มีเรื่องเหมือนครั้งที่แล้วอีกรึ หัวคิ้วขมวดมุ่นอย่างครุ่นคิด มิใช่เพราะรถม้าหรอกหรือ? ที่ทำให้นางถูกลอบทำร้าย รถม้านั้นมีตราของเศรษฐีกู่หลิน หรือคนกลุ่มนั้นจะเข้าใจผิดว่านางเป็นคนของเศรษฐีกู่หลิน แต่พวกนั้นย้ำนักว่าเป็นนาง ผู้หญิงแพศยา... “อิงฮวา” โจวฟู่หรงเห็นอาการตัวเกร็งของนางก็อดเป็นห่วงไม่ได้ หากทำได้เขาอยากไปส่งนางเสียเอง ติดที่เขาเพิ่งปราบเผ่าเสือดำไป เกรงว่าอาจมีคนที่อยากแก้แค้นหลงเหลือ หรือรอจังหวะที่เขาไม่อยู่มาโจมตีเผ่าของเขา จะไม่มีใครปกป้องคนของเขา “ข้าขอบคุณท่านยิ่งนัก” หญิงสาวตื่นจากภวังค์แล้วคลี่ยิ้มให้เขา “เป็นข้าที่ควรขอบคุณเจ้าไม่ใช่รึ” เขาบีบมือนางเบาๆ “เจ้าทำเพื่อคนในเผ่าของข้ามากมายนัก” “เป็นข้าต่างหากที่ได้รับความช่วยเมตตาจากท่านและผู้อื่น ทั้งจินปู๋ ท่านน้าลู่อู๋ ท่านหมอผู้เฒ่า และคนอื่นๆ ล้วนดีต่อข้า คนแปลกหน้าพลัดถิ่น สิ่งที่ข้าทำนั้นเทียบกับสิ่งที่พวกท่านทำให้ข้ามิได้หรอก” “แล้วข้าล่ะ” “ท่าน?” นางเบิกตากว้าง เห็นแววอาลัยในแววตาของเขาแล้วก็ต้องรีบก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 83. เพราะเจ้านั้นแหละ  

    “ที่จินปู๋ดีขึ้นคงเพราะถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง ไม่ใช่เพราะข้ารักษา” นางยืนยันอีกครั้ง แต่ลู่อู๋ส่ายหน้าไปมาแล้วส่งยิ้ม “เป็นเพราะเจ้านั่นแหละ”“ไปกันเถิด” จ้าวจิ่นสือเรียกหญิงสาวจึงผละจากทุกคน เขาช่วยอุ้มนางขึ้นรถม้า นางมองดูคฤหาสน์ตระกูลโจว ราวกับจะมองหาใครบางคน เขาไม่ออกมาส่งนาง นางเข้าใจดี หญิงสาวได้แต่ก้มศีรษะลงแสดงความเคารพและขอบคุณเขาที่ให้ความช่วยเหลือนาง“รอเดี๋ยว!” ซุนเย่ผิงรีบกระโดดลงจากม้า แล้วเอาของที่อยู่หลังม้าลงมาด้วย “ท่านหญิง” มู่ฟางเหนียงมองซุนเย่ผิงจากหน้าต่างรถม้า จะลงจากรถแต่ซุนเย่ผิงโบกมือห้ามไว้ก่อน “ข้าเอาเสื้อคลุมขนจิ้งจอกมาให้ เจ้าแพ้อากาศเย็น เมื่อถึงฤดูหนาวจะได้มีเสื้อคลุมอุ่นๆ” นางให้จินปู๋เอาเสื้อคลุมไปใส่ในรถม้า “อย่าลืมข้านะ แวะมาเยี่ยมข้าบ้าง”“แน่นอน ข้าจะไม่ลืมท่านหญิง” มู่ฟางเหนียงยิ้มอ่อนโยน “โปรดดูแลหัวหน้าโจวด้วย เขาต้องการคนดูแลหัวใจของเขา”“ข้ารู้แล้ว” ซุนเย่ผิงยิ้มกว้าง นางตั้งใจแล้ว อย่างไรนางจะต้องเป็นเจ้าสาว เป็นภรรยาที่น่ารักของโจวฟู่หรงให้ได้ จ้าวจิ่นสือเห็นทุกคนบอกลากันเรียบร้อยแล้วก็นั่งอยู่ด้านหน้า บังคับม้าให้เคลื่อนตัวออกไป มุ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 84. เดินทาง(กลับ)

    “ม้าจ๋า อย่ากลัวนะ อย่ากลัว” นางยื่นมือไปลูบจมูกมันเบาๆ พยายามทำให้มันสงบแต่มือของนางก็ถูกฉวยไว้ก่อน นางสะดุ้งเฮือก พอหันไปมองก็เห็นจ้าวจิ่นสือมายืนประชิดตัวแล้ว ใบหน้าของเขามีความเคร่งเครียดปรากฏชัด“หยิบของใช้จำเป็นแล้วไปยืนรอตรงโน้น” เขาสั่งเสียงดุ แล้วเป็นฝ่ายลูบหน้าม้าพยายามให้มันสงบ นางรีบเดินไปหยิบห่อย่ามใส่อาหารกับกระเป๋าน้ำแล้วเดินไปรอเขาอยู่ไม่ไกลนัก ฝนเทลงมาหนักเหลือเกิน เขาปลดสายพันธนาการออก จูงม้าหาที่หลบฝนโดยทิ้งรถไว้ด้านหลัง หญิงสาวกอดตัวเองแน่นแล้วเดินไปทางรถม้า ฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก นางเม้มริมฝีปากแน่น ข่มโทสะที่เกิดขึ้นในใจ ไยเขาไม่พานางไปหลบฝนก่อนเล่า นี่เขาห่วงม้ามากกว่านางหรือไงนะ! นางตำหนิเขาแล้วคิดจะปีนเข้าไปหลบฝนในรถม้า แต่ขยับเท้าได้เพียงครึ่งก้าว ร่างบางก็ถูกจับขึ้นบนบ่าอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันส่งเสียงหวีดร้อง เขาแบกนางฝ่าสายฝนเข้าไปในถ้ำแล้วจ้าวจิ่นสือวางร่างบางลงยืนแล้วเดินไปทางกองไฟที่ก่อทิ้งไว้ก่อนแล้ว เขาโยนฟืนใส่เข้าไปอีกสองสามชิ้น ฝนกระหน่ำสาดซัด ละอองไอเย็นเข้ามาปะทะคนที่ยืนงงอยู่จนต้องขยับเข้าไปด้านใน พอเขาหันกลับมาก็เห็นร่างของมู่ฟางเหนียงยืน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 85. ข้ารักท่าน

    “จิ่นสือ... จิ่นสือ” มู่ฟางเหนียงละล่ำละลักเรียกชื่อเขา เวลานี้เขาร้อนแรงยิ่งกว่าเปลวไฟ เขากำลังเผาไหม้นางด้วยไฟเสน่หา“เชื่อใจข้า” เขากระซิบกับผิวอ่อนนุ่ม เป่าลมหายใจร้อนที่จุดอ่อนไหว แหวกเรียวขาของนางให้แยกออกเพื่อที่เขาจะได้ชิมความหวานจากน้ำหวานที่เอ่อล้น“อ๊า.....” นางร้องครางเมื่อถูกลิ้นร้อนฉกไปในกลีบดอกไม้สาว หัวใจเต้นระรัวและร่างกายก็บิดเร่าไปมา รู้ทั้งรู้ว่าต้องห้ามเขา ต้องปฏิเสธ และผลักไส แต่กลับทำได้แค่วางมือข้างที่ไม่เจ็บบนกลุ่มผมของเขา น่าอายเหลือเกินที่ร่างกายของนางยอมรับทุกการกระทำของเขา ซ้ำยังรู้สึกราวกับโหยหารสชาติที่ไม่เคยพานพบ นางผวาเฮือกเมื่อรู้ว่านิ้วกร้านของเขาแทรกเข้าไปสำรวจกลีบดอกไม้ของนาง เขาพรมจูบราวกับบูชามันพร้อมกับขยับนิ้วเข้าออกช้าๆเสียงครวญของนางเย้ายวนยากเกินจะถอนใจได้ เขาเร่งเร้าเพื่อให้นางพร้อมก่อนที่เขาจะผสานร่างกายที่ต้องการเติมเต็มจากนาง นางจวนเจียนจะต้านทานไม่ไหว แล้วเขาก็ถอนริมฝีปากออกจากกลีบดอกไม้ที่ฉ่ำหวานด้วยน้ำหวานก่อนจะละเลงลิ้นที่ยอดอกที่แข็งเป็นตุ่มไตของนางความปรารถนาที่จะถูกเติมเต็มทำให้นางสิ้นอาย ได้แต่ร้องวิงวอนเขา ทั้งที่ตนเองก็ไม่ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 86. เสียงพร่า

    “เอ่อ... ไม่รู้สิ ข้าแค่รู้สึกว่าเส้นทางนี้คุ้นๆ” นางไหวไหล่น้อยๆ นางอาจจะเป็นคนหลงทิศ แต่นางคุ้นเคยกับทิวทัศน์ที่เห็น คล้ายว่าเป็นเส้นทางที่นางเคยไปบ่อน้ำพุร้อนกับเคอหลิ่งหลิน ใช่... ต้องใช้แน่ๆ นี่ไม่ใช่ทางที่จะกลับเข้าเมือง “เจ้ารู้สึกคุ้นๆ” เขาถามย้ำ ในอกพลันเกิดความรู้สึกเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจ นางจำไม่ได้ก็ดี พอคิดว่าถ้านางฟื้นความทรงจำได้ จะนึกถึงเรื่องที่เขาเคยทำไม่ดีกับนางมากนัก หากเป็นไปได้ เขาอยากให้นางจดจำแต่เรื่องราวดีๆ ที่เขามีต่อนาง “อืม” นางพยักหน้า ไม่อยากพูดมากให้เขาผิดสังเกต แต่นางอยากรู้ว่าทำไมเขาไม่พานางตรงกลับจวนแม่ทัพจ้าว ทั้งสองเดินทางช้ากว่าปกติมาก หรือเขาอยากซ่อนตัวนางไว้เป็นนางบำเรอจริงๆ “เมื่อก่อนเคอหลิ่งหลิน... พี่สาวข้า... เคยพามาข้ามาที่บ่อน้ำพุร้อน ยามเมื่อได้รับบาดเจ็บหรือร่างกายบอบช้ำ ข้าเลยจะพาเจ้าไปแช่น้ำพุร้อนก่อนกลับเข้าจวน” “นอกจากข้อมือที่หักนี่แล้ว ข้าก็ไม่ได้บาดเจ็บที่ใดนี่” นางย่นจมูก แต่ยังไม่คลายกังวล ใครจะรู้ว่าเขาคิดอะไรกันแน่ “ข้าทำเจ้าเป็นรอยจ้ำช้ำแบบนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 120. ได้ยินชัดแล้ว

    เหวินเฮ่าหลันคลี่พัดโบกไปมาเชื่องช้าคล้ายเกียจคร้าน แต่ในใจแฝงความกังวลอยู่หลายส่วนนัก สหายรักอย่างจ้าวจิ่นสือมาเมืองหลวงคราใดก็มักมาพักที่คฤหาสน์ตระกูลเหวิน จ้าวจิ่นสือเป็นคนไม่ถือยศศักดิ์ทำให้คบหากันสนิทใจ และเมื่อเขาเดินทางไปชายแดนก็มักจะแวะเวียนเยี่ยมเยือนจ้าวจิ่นสืออยู่เสมอ จะว่าไปบุรุษทั้งสองคนนี้เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วย่อมเป็นจุดเด่น ผู้หนึ่งบุคลิกองอาจสมเป็นบุตรชายทหารผู้แกล้วกล้า ส่วนอีกคนดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญผู้กุมการค้าในเมืองหลวง หากเห็นเหวินเฮ่าหลันตามหอนางโลมก็มิใช่เรื่องแปลก แต่กับจ้าวจิ่นสือนี่สิ สะดุดตาผู้คนเสียยิ่งกว่า “มาเที่ยวหอนางโลมก็เป็นธรรมดาของบุรุษ แต่ตอนนี้เจ้าไม่เหมือนก่อน พี่สาวเจ้าก็เป็นพระชายาไปแล้ว ฐานะเจ้าก็เป็นเครือญาติกับ...” ยังพูดไม่ทันจบประโยค จ้าวจิ่นสือก็โบกมือห้ามไว้ก่อน เขายกจอกสุราขึ้นดื่มแต่สีหน้าไร้แววรื่นเริง ทั้งสองอยู่ในหอนางโลมก็จริงแต่ไม่ได้เรียกนางคณิกาเข้ามาปรนนิบัติ เพียงนั่งดื่มสุราและสนทนากันเรื่องทั่วไป แต่เหวินเฮ่าหลันเป็นคนมีความอดทนน้อยนัก แม้จะรักสนุกชอบเรื่องบันเทิงและดูเกียจคร้านไ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  119.  ไม่คิดว่า

    มู่หยางซัวเอ่ยตอบ ไม่คิดว่าตัวเองไม่ได้ติดต่อกับคนที่นี่ แต่คนที่นี่กลับรู้ความเคลื่อนไหวเป็นไปของเขา แสดงว่า... พวกเขารอให้สองพ่อลูกกลับมานานแล้วจริงๆ “ว่าแต่เจ้าสองคนพ่อลูกพักที่ใดกัน” ท่านยายถามแล้วยื่นมือไปลูบเนื้อตัวมู่ฟางเหนียงอย่างเอ็นดู พอพิศดูใกล้ๆ แล้วก็เห็นว่า แท้จริงแล้วมู่ฟางเหนียงไม่ได้เหมือนอี้เฟยนัก แต่มีเค้าโครงหน้าอ่อนหวานเหมือนกัน ดวงตาเป็นประกายสดใสดุจแสงตะวันกระทบผิวน้ำยามเย็น แต่มีท่าทางเฉลียวฉลาดสุขุมเหมือนผู้เป็นพ่อ “โรงเตี๊ยมไม่ไกลที่นี่นักเจ้าค่ะ” นางเอ่ยชื่อโรงเตี๊ยมออกไป “ไอ้โรงเตี๊ยมนั่นมันเล็กนิดเดียว อาหารก็ไม่อร่อย ไปพักได้อย่างไรกัน หึ!” ท่านตาทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ “ไปเก็บข้าวของมาพักด้วยกันที่นี่” มู่ฟางเหนียงหันไปทางบิดา เห็นท่าทีอ้ำอึ้งก็เข้าใจ พ่อของนางเป็นเด็กกำพร้า ไม่คุ้นชินกับการอยู่แบบครอบครัวใหญ่ ที่ผ่านมาก็มีกันแค่สองคนพ่อลูก และไม่ได้เผื่อใจว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดี ดูท่าท่านพ่อที่ได้ฉายาหมอเทวดาไร้เงาผู้แสนจะสุขุมและไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด จะพ่ายแพ้แก่พ่อตาแม่ยายเสียแล้ว “ท่านพ่อกับห

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   118. ห้ามถอยเด็ดขาด

    เคอหลิ่งหลินบังเอิญได้พบคุณชายเฉินและแอบหลงรักเขา ส่วนนางกับพ่อรู้จักคุณชายเฉินเพราะเป็นคนป่วยที่ตามหาท่านหมอเทวดาไร้เงามาถึงชายแดนที่นางกับพ่ออยู่เคอหลิ่งหลินนิสัยโลดโผน เปิดเผย และจริงใจ นางชอบคุณชายเฉินก็แสดงออกว่าตนชอบ ไม่ปิดบัง ทำให้บิดาของนางต้องส่ายหน้าทุกที เคอหลิ่งหลินอาศัยติดตามบิดาของนางไปพบคุณชายเฉินบ่อยๆ และนางช่วยสอนเป่าขลุ่ยเพราะเห็นคุณชายเฉินบรรเลงเพลงขลุ่ยแสนไพเราะ นางรู้ว่าพี่สาวที่แสนดีผู้นี้อุทิศตนเองเพื่อความรักที่มีต่อคุณชายเฉินมากเพียงใด เมื่อรู้ข่าวว่าเคอหลิ่งหลินได้เคียงข้างครองคู่กับคนที่นางรักและรักนาง มู่ฟางเหนียงก็รู้สึกยินดีและดีใจด้วยอย่างจริงใจส่วนนางนั้น พยายามไม่คิดเรื่องของตนเอง นางรู้ว่าสิ่งที่นางทำ ผิดจารีตประเพณีที่สตรีพึงกระทำ แต่นางก็ไม่นึกเสียใจ อย่างน้อยนางก็รู้ใจตัวเองว่ารักเขามาก และอาจมากเกินกว่าที่จะยอมแบ่งปันเขาให้หญิงอื่น มิอาจทำใจใช้สามีร่วมกับผู้ใด มู่หยางซัวพาลูกสาวเดินมาตามเส้นทางที่คุ้นเคยในอดีต จนมาหยุดที่หน้าร้านขายยาใหญ่โตร้านหนึ่ง สิบกว่าปีที่ผ่านมา จากร้านขายยาเล็กๆ กลายเป็นร้านใหญ่โตไปแล้ว ลูกสาวเห็นสีหน้าเคร่งเ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   117.  ข้าจะแบกเจ้าเอง

    “เป็นท่านพ่อที่ต้องการเตรียมตัวเตรียมใจมากกว่าลูกกระมัง” นางอดหยอกล้อบิดาไม่ได้ “เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งเป็นผู้หญิงเถิด พ่อเกรงว่าตากับยายของเจ้าจะตำหนิพ่อเอาเสียเปล่าๆ” พูดแล้วก็ถอนหายใจหนักหน่วง “ตั้งแต่พาแม่ของเจ้าออกเดินทางมาจนเจ้าตัวโตขนาดนี้ ก็มิรู้ทั้งสองจะยังอยู่หรือไม่” “ลูกไม่เคยได้ยินท่านพ่อพูดถึงท่านตากับท่านยาย เลยไม่รู้ว่าพวกท่านเป็นคนอย่างไร” นางถามระหว่างรับประทานอาหารกลางวันที่โรงเตี๊ยมที่เข้าพักอยู่ “แม่ของเจ้าเป็นลูกสาวพ่อค้าร้านขายยา” “เอ๋? ท่านพ่อก็เป็นหมอ ท่านแม่เป็นลูกสาวร้านขายยา ไยถึงหนีตามกันเล่า” นางอดประหลาดใจไม่ได้ ตั้งแต่จำความได้ ก็รู้เพียงแค่ว่าท่านพ่อกับท่านแม่รักใคร่ชอบพอกัน แต่ท่านตากับท่านยายไม่ยอมรับในตัวลูกเขยที่ไร้ชาติตระกูล ซ้ำยังยากจนนัก ท่านพ่อจึงพาท่านแม่หนีออกมาและใช้ชีวิตเดินทางรักษาคนทั่วไป มีความสุขตามอัตภาพ “ตอนนั้นท่านตาของเจ้าหวังทำการค้ามากกว่าจะรักษาคน พ่อซึ่งตอนนั้นก็ทระนงตน ไม่ฟังผู้ใด ท่านตาอยากให้พ่อไปนั่งตรวจคนเจ็บป่วยที่ร้านขายยาของท่านตา ทีแรกพ่อก็ไปตาม

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   116.  ท่านรักข้าบ้างหรือเปล่า

    “ท่านพ่อของเจ้าบอกข้าแล้วว่าจะเดินทางไปเมืองหลวง”มู่ฟางเหนียงนิ่งงันไป พ่อเพิ่งคุยกับนางเมื่อครู่แต่บอกกับคนผู้นี้ไปก่อนแล้ว แสดงว่าท่านตัดสินใจแล้ว คงไม่มีเหตุผลให้นางยื้อเวลาที่จะอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว‘ท่านจะให้เราสองคนห่างกันอย่างนั้นหรือ?’เสียงของหมอมู่หยางซัวแทรกเข้ามาในหัวสมองของเขา จ้าวจิ่นสือกอดนางแน่นขึ้น กลัวว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กอดนางไว้แนบอกเช่นนี้ ยศถาบรรดาศักดิ์หรือแม้แต่ตำแหน่งรองแม่ทัพที่มีอยู่ไม่ได้ทำให้เขามีความสุขได้มากเท่ากับที่มีนางอยู่เคียงข้าง“จากนี้เดินทางไปเมืองหลวงจะสะดวกกว่า ข้าจะเตรียมรถม้าพร้อมผู้ติดตามไปส่งเจ้ากับพ่อให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย”ทำไม... ทำไมเขาพูดเหมือนอยากให้นางไปไกลห่างเช่นนี้ด้วยเล่า“สิ่งของของเจ้าที่อยู่ที่บ้านข้า ข้าจะให้คนเก็บรักษาไว้อย่างดี หรือเจ้าต้องการสิ่งใดก็ขอให้บอก ข้าจะให้คนส่งตามไปให้เจ้า”ถ้อยคำแห่งความหวังดีกลับกลายเป็นโบยตีหัวใจนางให้เจ็บปวด นี่เขาคิดแทนนางถึงเพียงเชียวหรือ? กลัวว่านางจะไปไม่พ้นหน้าเขาหรืออย่างไรกันจะติดตามนางไปด้วยก็ไม่ได้ แค่นี้เขาก็หงุดหงิดเต็มประดาแล้ว“ท่านไม่ต้องกังวลเกินกว่าเหตุไป ครา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   115. ทรมาน

    “ฟางเหนียง พ่อเห็นว่างานที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว พ่อคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกันเสียที”“อะไรนะเจ้าคะ” นางตื่นตกใจอย่างเก็บอาการไม่อยู่ เร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“เจ้าไม่อยากไปกับพ่อแล้วหรือ?”“มิได้ ลูกแค่... เรายังไม่ได้เตรียมตัว”“เตรียมตัว?” มู่หยางซัวทวนคำแล้วหัวเราะในลำคอ “พวกเราเคยเตรียมตัวกันด้วยรึ ถ้าไม่นับที่เราอยู่ชายแดนมาสองปี ที่ผ่านมาเราก็แทบไม่เคยเตรียมตัวก่อนออกเดินทางสักครั้ง”“แต่ว่า เรามีข้าวของอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าว”“เจ้าใส่ใจของพวกนั้นด้วยรึ พ่อไม่เคยนึกถึงเรื่องพวกนั้น” รอยยิ้มกึ่งล้อทำให้มู่ฟางเหนียงแอบค้อนเข้าให้“ข้ามีของที่ได้รับมาจากมิตรสหายเผ่าเอ้อหลุนชุน ถึงมันอาจไม่ได้มีราคาค่างวดมากมาย แต่มีค่ากับจิตใจของข้ามากนัก”“จากที่นี่เดินทางไปเมืองหลวงจะใกล้กว่า ถ้าเจ้าอยากย้อนกลับไปก็จะเสียเวลามาก”“แต่ว่า...” นางนึกถึงเครื่องประดับที่ทำจากหินหรือกระดูกสัตว์ที่นางได้มา คิดถึงเสื้อคลุมหนังหมาป่าที่จินปู๋กับนางลู่อู๋มอบให้ คิดถึงบันทึกการรักษาที่ท่านหมอผู้เฒ่ามอบให้ สิ่งเหล่านั้นมีภาพของชายผู้นั้นปรากฏขึ้นมาด้วย“ฟางเหนียง บางสิ่งที่เจ้าเผชิญอยู่มัน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  114. ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “ท่านหมอมู่” จ้าวจิ่นสือพยายามคุมสติและปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ “ท่านอาจไม่ทราบ ข้ากับฟางเหนียง...” มู่หยางซัวยกมือขึ้นห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูดออกมา “ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร” มือของเขาเคยแต่จับมีดช่วยคน เพิ่งเคยรู้สึกอยากจับมีดฆ่าคนก็คราวนี้ “ข้าจริงใจกับนาง หวังให้ท่านเข้าใจ” “เจ้าหวังให้ผู้อื่นเข้าใจเจ้า แล้วเจ้าเข้าใจผู้อื่นรึ” “ข้าตั้งใจว่ากลับจากซูโจวจะให้ท่านพ่อสู่ขอฟางเหนียงกับท่าน” “แล้วอย่างไร?” ปกติมู่หยางซัวเป็นคนใจเย็น จะเห็นสีหน้าเคืองโกรธก็น้อยครั้งเหลือเกิน “เจ้าตบแต่งนางเข้าตระกูลเจ้าแล้ว ก็ใช่ว่าเจ้าจะรับหญิงอื่นเข้ามาไม่ได้อีก ตอนนี้เจ้าก็พูดได้ แต่อนาคตเจ้าจะไม่รับใครเข้ามาอีกรึ เจ้าไม่ใช่คนธรรมดา ฐานะชาติกำเนิดของเจ้า เจ้าย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ” “ความหมายของท่านคือไม่ยินดียกนางให้ข้า” แม้จะข่มน้ำเสียงตัวเองให้ราบเรียบ แต่กรุ่นไอโทสะแผ่กระจายออกมาจนอีกฝ่ายยังรู้สึกได้ “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น” มู่หยางซัวทำน้ำเสียงเยาะในลำคอ แค่นี้ก็โกรธจนไอโท

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 113. ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “พ่อไม่พูดใช่ว่าไม่รู้” มู่หยางซัวจับไหล่ของลูกสาวให้ก้าวเข้าไปนั่งบนเตียง ส่วนตนนั้นก็เลื่อนเก้าอี้กลมมานั่งใกล้ๆ “เจ้ารู้ว่าพ่อพูดถึงเรื่องจ้าวจิ่นสืออยู่” “ท่านพ่อ” นางหลุบตาลง เป็นฝ่ายไม่กล้าสบตาเสียเอง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าสักวันเรื่องนี้พ่อต้องเอ่ยปากกับนาง “เจ้ารักคนผู้นั้นมากเลยหรือ” น้ำเสียงที่ถามเป็นน้ำเสียงตัดพ้อมากกว่าต้องการคำตอบ “พ่อรู้ อย่างไรก็ต้องมีวันนี้... อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวของตัวเอง เจ้าจะทำตัวติดกับพ่อตลอดไปไม่ได้หรอก” “ท่านพ่ออย่าพูดเช่นนั้น ท่านพ่อตัวคนเดียว ลูกไม่ยอมทิ้งท่านพ่อเด็ดขาด หากลูกจะแต่งงานกับผู้ใด คนผู้นั้นก็ต้องยอมรับท่านพ่อได้ด้วยเช่นกัน” “เราผ่านอะไรกันมามากมายเหลือเกิน เจ้าอาจได้เห็นโลกกว้างมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน” มู่หยางซัวตบหลังมือของลูกสาวเบาๆ “เจ้าก็เห็นแล้ว ทั้งเศรษฐี ทั้งขุนนาง ทั้งยาจก ทั้งคนยากไร้ เจ้าย่อมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งสูงศักดิ์มากเพียงใด ก็ยิ่งแก่งแย่งแข่งขันกันมากเพียงนั้น แล้วเจ้าจะรับมือเรื่องราวเหล่านั้นได้ไหวหรือไม่ เมื่อกลายเป็นคนของเขาไปแล้ว เจ้า

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  112. หายดี

    มู่ฟางเหนียงเดินเคียงข้างจ้าวจิ่นสือไปถึงศาลาหกเหลี่ยมที่องค์ชายไท่หยางประทับอยู่ องค์ชายไท่หยางเชื้อเชิญให้ทั้งสองนั่ง รอจนบ่าวรับใช้รินน้ำชาเรียบร้อยแล้ว จึงโบกมือไล่ให้ผู้อื่นออกไปให้หมด แม้จะไม่เห็นเงาร่างแต่ก็รู้ว่าต้าซื่อองครักษ์ขององค์ชายเฝ้าอารักขาอยู่“ข้าต้องยอมรับความสามารถในการจัดการของรองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือ ต่อให้ข้ามิได้มา เจ้าก็คงจัดการที่นี่ได้อย่างราบรื่นด้วยดี”“เป็นเพราะพระบารมีขององค์ฮ่องเต้และองค์ชาย ทำให้การงานครั้งนี้ลุล่วงด้วยดีพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าเองสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ครั้นจะให้องค์รัชทายาทเสด็จมาเองก็เกรงว่าจะมีคนลอบเอาชีวิต คราวที่แล้วยังหาตัวผู้บงการมิได้ ครั้งนี้ข้าเลยต้องมาเอง ข้าอาจจะทำอะไรได้ไม่เต็มที่นัก อย่างไรก็ต้องฝากเจ้าดูแลต่อด้วย”“ข้าน้อยรับพระบัญชา”มู่ฟางเหนียงนั่งฟังนิ่งๆ แล้วลอบมองคุณชายเฉิน ไม่สิ ตอนนี้คนผู้นี้คือองค์ชายไท่หยางที่มักพูดออกตัวว่าตนเองสุขภาพไม่แข็งแรง แต่เท่าที่นางเห็นตอนนี้ ช่างเป็นองค์ชายที่สุขภาพแข็งแรงดีเหลือเกิน“ความจริงที่เรียกเจ้าทั้งสองมาดื่มน้ำชาที่นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องงาน ข้าอยากคุยเรื่องเคอหลิ่งหลิน”จ้าวจิ่นสือเงยหน้าสบด

DMCA.com Protection Status