หน้าหลัก / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter 59. รีบออกมาได้แล้ว

แชร์

Chapter 59. รีบออกมาได้แล้ว

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-30 12:57:50

“ฟางเหนียง ...มู่ฟางเหนียง” เขาเรียกนางซ้ำหลายครั้ง ยื่นมือลงไปจุ่มน้ำ น้ำอุ่นเปลี่ยนเป็นน้ำเย็นแล้ว นางหลับในอ่างน้ำแบบนี้จะได้กลายเป็นคนป่วยเสียเอง เขาเรียกนางซ้ำอีกสองสามครั้ง หากนางไม่ขยับเขาคงต้องอุ้มนางขึ้นมา

“ฮือ” หญิงสาวครางรับออกมา น้ำเสียงเกียจคร้าน ภาพในฝันเลือนหาย ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่นางเห็นคือดวงตาคมที่จ้องมองอย่างห่วงใย นางหลับตาลงอีกครั้ง ตั้งสติก่อนลืมตาอีกทีก็เห็นว่าเขายังอยู่ แต่แววตามีรอยตำหนินางชัดเจนจนนางขมวดคิ้ว

‘นางทำอะไรผิดอีกล่ะ’

อิงฮวารู้สึกตัวก็ตกใจ นางยังอยู่ในอ่างอาบน้ำ! เขาเข้ามาได้อย่างไรกัน!

“ท่านเข้ามาได้อย่างไร! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” นางตวาดเสียงสั่น แล้วเลื่อนตัวลงไปในน้ำจนปริ่มปลายคาง

“จะไปได้อย่างไร เจ้าอยู่สภาพนี้นานเท่าไหร่แล้ว!” เขาโกรธควันแทบออกหู

“จะอย่างไรท่านก็ออกไปก่อน!” นางอายจนตัวแดงไปหมด นางยกมือขึ้นปิดทรวงอกสล้าง

จ้าวจิ่นสือได้แต่สะบัดหน้าแล้วหันหลังให้ ยกมือขึ้นกอดอกขบฟันจนแทบกลายเป็นสันนูน

“รีบออกมาได้แล้ว”

“ท่านจะมายืนอะไรตรงนี้ ออกไปสิ” นางตวาดเขาแล้วก็เผลอจามออกมา นี่นางเผลอหลับไปนานเพียงใดแล้ว น้ำในอ่างเย็นหมดแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 60. รักษาโรคประหลาด

    เหนื่อยล้ามาทั้งวัน นางจึงผล็อยหลับไปในที่สุด ไม่รู้ว่าคนตัวสูงที่แกล้งหลับไปนั้นลุกขึ้นมาเดินมาดูใบหน้านางยามหลับ เป็นครั้งแรกที่เขาปรนนิบัติผู้อื่น แต่เพราะเห็นนางเหนื่อยทั้งวัน เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่สิ่งที่รบกวนจิตใจของเขาคือความรู้สึกที่อยากดูแลนางตลอดไปนั้น มันคืออะไรกันล่วงเข้าสู่วันที่สาม แม้มู่ฟางเหนียงจะรั้งชีวิตคนไว้ได้แต่คนป่วยก็ยังมีเพิ่มขึ้น คนไหนที่อาการดีขึ้นนางก็ให้แยกกลับไปพักที่บ้านได้ แต่นางยังแวะเวียนไปตรวจดูอาการอย่างสม่ำเสมอ จ้าวจิ่นสือลอบถอนหายใจ มีเพียงแผ่นหลังของบิดาที่เขาเดินตามเท่านั้น ใครเลยจะรู้ว่าสองสามวันมานี้เขาต้องเดินตามแผ่นหลังของมู่ฟางเหนียง กว่าจะรู้ตัวเขาก็เข้าใจกระจ่างว่าเหตุใดหญิงสาวจึงมักหลงทิศหลงทางอยู่เป็นประจำ เพียงเพราะนางมีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา เขาต้องคอยแตะข้อศอกหรือไม่ก็จูงมือนางไม่ให้เดินเลยไปในทิศทางที่ต้องไป เคยคิดว่าเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่บุรุษต้องมาใส่ใจ แต่เมื่อเอาเข้าจริง เขากลับไม่รู้สึกรำคาญหรือเบื่อหน่าย หากไม่มีเขาอยู่ นางก็คงดูแลตัวเองได้อย่างที่เคยเป็นมา แต่เขาจะอยู่อย่างไร หัวใจเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter61. มาทำอะไรที่นี่

    “หน้าข้ามีอะไรติดอยู่หรือไร” นางแสร้งหันไปมองทางอื่น ทำให้เห็นว่าคนกลุ่มหนึ่งล้อมวงคล้ายทำพิธีกรรมอะไรบางอย่าง “เจ้านี่หัวรั้นไม่ใช่เล่น” พูดพลางยกน้ำชาขึ้นดื่ม แต่เมื่อไม่เห็นนางโต้ตอบจึงมองตามสายตาของนาง ไม่ไกลนักมีคนแต่งกายด้วยหนังสัตว์ บนศีรษะประดับด้วยเขาวัวดูน่ากลัว ใบหน้าแต้มสีจนแทบไม่รู้ว่าใบหน้าเดิมเป็นเช่นไร “พวกเขาทำอะไรเหรอ” ถามแล้วชะเง้อคอยาวด้วยความอยากรู้ “รักษาคนป่วย” “หือ? อะไรนะ” นางหันไปมองเขาด้วยความงุนงง “ข้าไปดูใกล้ๆ ได้ไหม” หน้าตาแบบนี้มีหรือใครจะกล้าขัด จ้าวจิ่นสือเห็นว่าเหล่าผู้เฒ่าไม่ได้สนใจพวกตนแล้วจึงพยักหน้ารับ หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วแทบจะวิ่งไปยังคนกลุ่มนั้น นางยืนดูด้วยความสนใจ เห็นคนแต่งตัวประหลาดผู้นั้นเต้นรำร้องเพลงที่นางไม่เข้าใจ คนป่วยราวสี่คนนั่งอยู่ แต่ละคนปากแห้ง ตัวสั่น ดวงตาเหม่อลอย นางฝืนสงบใจยืนดูอย่างนิ่งเฉยทั้งที่ตัวเองอยากวิ่งเข้าไปพาคนกลุ่มนั้นออกมารักษา ปล่อยให้นั่งตากแดดเที่ยงวันได้อย่างไรกัน หัวใจนางถูกบีบรัดจนต้องยกมือขึ้นทาบอกสะกดความเจ็บปวดนั้นไว้ ครู่ต่อมาผู้ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter62. มาทำอะไรที่นี่

    เท้าเล็กๆ ของนางเดินเร็วๆ แทบจะกลายเป็นวิ่ง เขาเดินตามทันได้สบายอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นห่วงท่าทางร้อนรนของนาง นางเดินไปที่ริมน้ำ สายน้ำที่ไหลผ่าน มีซากสัตว์ปีกตายลอยไปตามน้ำผ่านสายตาของนาง เขาเห็นนางทำท่าจะเดินลงน้ำจึงกระโดดทีเดียวก็มาขวางหน้านางไว้ได้ทัน“ท่านนี่!” นางตวาดเขาเพราะตกใจ“เจ้าจะทำอะไร จะเดินลงน้ำฆ่าตัวตายหรือไรกัน” เขาจับไหล่นางไว้ก่อน“ข้าจะทำเรื่องแบบนั้นทำไมกัน” นางทำหน้างุนงง “ข้าแค่จะไปดูซากสัตว์ที่ลอยน้ำนั่นต่างหาก”คราวนี้เป็นจ้าวจิ่นสือที่ผงะไปเล็กน้อย และเพราะตกใจกับคำพูดของนางจึงถูกนางคว้าข้อมือของเขาให้เดินตามไปที่ตลิ่ง “ท่านดูสิ สัตว์พวกนี้ป่วยอาการเดียวกับคนในหมู่บ้านเลย” นางชี้ให้เขาดูอย่างตื่นเต้น “ท่านพ่อเคยสอนข้า โรคภัยบางชนิดถ่ายทอดจากสัตว์สู่คนและแม้แต่คนก็ไปสู่สัตว์ได้ หลังจากที่นกเป็ดน้ำอพยพมา ก็มีอาการเจ็บป่วย แล้วก็แพร่เชื้อไปสู่สัตว์ปีกที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ จากนั้นก็ติดไปสู่คน”“หมายความว่าเจ้าสามารถรักษาโรคนี้ได้” เขาพลอยตื่นเต้นไปกับนาง“ไม่ได้” นางส่ายหน้าไปมาแต่ใบหน้ามีรอยยิ้ม “สิ่งที่พวกเขาเป็นต้องรักษาตามอาการ เพราะแต่ละคนมีความแข็งแรงมาไม่เท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 63. จะเป็นไปได้อย่างไร

    ไม่ทันได้ส่งเสียงหวีดร้อง ขาก็ไม่ยอมขยับหนี ทำได้แต่หลับตาปี๋อยู่อย่างนั้น แต่เพียงอึดใจร่างนางก็ถูกรวบไปปะทะกับแผงอก หญิงสาวลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าคมคายก้มมองนางด้วยสายตาตำหนิ นางก้มหน้างุดทั้งที่หัวใจเต้นรัว แต่เมื่อตั้งสติได้ก็เงยหน้าขึ้น ได้ยินเสียงโอดครวญของหมอผีผู้นั้นที่นอนคลุกฝุ่นแบบไม่มีผู้ใดกล้ายื่นมือเข้าไปช่วย คงไม่ต้องถามว่าเขาปกป้องนางได้อย่างไร วิทยายุทธ์ระดับรองแม่ทัพแล้ว แค่นี้ไม่คณามือของเขาแน่ เพียงแต่...เขาอยู่ที่ใดกันถึงได้มาช่วยนางได้เร็วนัก “เห็นคนถือมีดพุ่งเข้าใส่ไยไม่หลบ เนื้อตัวทำจากเหล็กกล้าหรือไรกัน” นางอ้าปากจะเอ่ยขอบคุณ แต่พอได้ยินเขาดุ หญิงสาวก็หุบปากแล้วสะบัดหน้าหนี ถ้านางขยับเท้าได้ก็ไม่ต้องมายืนให้เขาทำหน้าดุใส่แบบนี้หรอก! ชิ! เห็นท่าทางของนางแล้วเขาก็กลั้นหัวเราะ แต่เพราะต้องแสร้งทำหน้าขึงขังอยู่ ไม่เช่นนั้นเขาคงแหงนหน้าหัวเราะลั่นไปแล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้ นางกลัวจนขยับเท้าไม่ได้ แม้เขาจะไม่ได้อยู่ใกล้ แต่นางอยู่ในสายตาของเขาตลอด มีหรือที่จะยอมให้มีอันตรายใดมาแตะต้องนางแม้แต่ปลายเล็บ “เจ้า! เจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 64.หัวใจเจ็บแปลบ

    “เจ้าเป็นอะไร ทำไมทำหน้าอย่างนี้” เขาสืบเท้าเข้ามาใกล้ ยื่นหลังมือมาแตะหน้าผากของนาง “ตัวก็ไม่ร้อนนี่”“ข้าไม่ได้เป็นอะไร” นางยกมือขึ้นปัดมือเขาไม่จริงจังนัก“มองหาข้าอยู่ใช่ไหมล่ะ” เขาพูดขึ้น แม้น้ำเสียงราบเรียบแต่แววตามีประกายเจ้าเล่ห์“ไม่ใช่เสียหน่อย” นางก้มหน้ามองเสื้อผ้าที่ประคองไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง“เจ้านี่นะ” เขาหัวเราะออกมา นอกจากจะขี้เหนียวคำขอบคุณแล้วยังไม่ยอมรับความจริง เขาแอบมองอยู่ตั้งนาน เห็นนางยืนเหมือนเด็กหลงทางแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ แต่พอเห็นสีหน้าของนางเหมือนเจ็บปวด เขาก็แทบกระโจนมาหานางในทันที เมื่อเห็นว่านางปากแข็งไม่ยอมรับความจริง เขาก็ได้แต่เดินนำทางให้นางกลับไปที่กระโจมที่พัก มองเห็นเสื้อผ้าชุดใหม่ที่นางถือมาแล้วก็ก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม เขาจับไหล่นางให้เดินเข้าไปในกระโจม“รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย อย่าให้ผู้อื่นต้องรอนาน”“ข้าไม่ใช่คนเช่นนั้นเสียหน่อย”นางหันไปทำตาดุใส่แล้วหมุนตัวเดินไปหลังฉากกั้น อดประหลาดใจไม่ได้ว่าเขาเอาเวลาที่ไหนมาเตรียมน้ำอุ่นให้ ลึกๆ คือความพอใจ แต่อีกเสี้ยวหนึ่งบอกให้ยับยั้งใจไว้ ยังไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วนางกับเขามีความสัมพันธ์ใดกันแน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 65. กล้าหลับ

    จ้าวจิ่นสือก้าวยาวๆ พาร่างที่อ่อนปวกเปียกลงบนที่นอน ลมหายใจของนางทำให้เขาพลอยร้อนระอุไปด้วย ประคองศีรษะนางลงบนหมอน ท่าทางดุจกระต่ายน้อยของนางทำให้มุมปากของเขายกยิ้ม “เรา...เราออกมา..แบบนี้จะดีเหรอ” นางถามไปอย่างนั้น จู่ๆ ก็รู้สึกแปลกๆ ร้อนวูบวาบในอกเหมือนคนเป็นไข้ หรือเพราะสุราที่ดื่มเข้าไปมาก“ข้าไม่ต้องการให้ใครจ้องมองเจ้า” น้ำเสียงแหบพร่าและจ้องมองนางอย่างเป็นเจ้าของ “ข้าไม่ใช่ของท่านเสียหน่อย” นางเถียงเสียงอ้อแอ้ มือเล็กดันแผงอกที่ทาบทับจนเกือบจะแนบชิด และไม่รู้ตัวว่าคำพูดของนางได้ไปยั่วยุเขาเข้าให้แล้ว ร่างใหญ่ลงนอนเคียงข้าง นางขยับตัวถอยห่าง แต่เตียงที่นางยึดครองมาผู้เดียวหลายราตรีมันไม่ได้กว้างอะไรนัก ขยับออกห่างได้แค่นิดเดียวเขากลับพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างนางไว้ ดวงตาดุดันของเขาจ้องมองนาง ร่างกายนางร้อนระอุขึ้นมาทันทีจนต้องปิดเปลือกตาหลบซ่อนตนเองทิ้งเสีย แล้วนางก็ต้องผวาลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อริมฝีปากถูกริมฝีปากหยักสวยกดจูบบดขยี้จนแทบหายใจไม่ออก!นางประท้วงด้วยการทุบแผงอกกำยำแต่ไร้ผล จุมพิตร้อนแรงทำให้นางเปิดปากยอมให้เรียวลิ้นของเขาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นน้อยๆ ของนาง มือที่ทุบแผง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 66.  เจ้าหยามข้า

    อิงฮวาได้แต่พยักหน้ารับหงึกๆ มิรู้ตัวเลยว่าตนเองอิงอยู่บนอกแข็งแกร่งของเขา จนกระทั่งเขาเอี้ยวตัวรินน้ำชาใส่ถ้วยแล้วหันกลับมา นางยื่นมือไปหมายจะรับถ้วยน้ำมาดื่มเอง แต่เขากลับชักมือกลับแล้วกรอกน้ำเข้าปากตนเอง นางอ้าปากจะส่งเสียงประท้วง แต่เพียงพริบตาเดียวริมฝีปากของเขาก็ประกบริมฝีปากของนางปล่อยน้ำอุ่นไหลผ่านลำคอ...อีกครั้ง มือเล็กที่ยกค้างอยู่เงอะงะไม่รู้จะวางตรงที่ใด จึงได้แต่จับสาบเสื้อของเขาไว้ น้ำหยดสุดท้ายอยู่ที่ปลายลิ้น เขาตวัดลิ้นขบริมฝีปากล่างนางอย่างมันเขี้ยว แต่คนตัวเล็กอุทานเบาๆ พวงแก้มแดงจัดขึ้นมาทันที เขาถอนริมฝีปากแล้ว แต่ใบหน้าของเขายังอยู่ใกล้จนลมหายใจร้อนลามเลียใบหน้าของนาง หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกได้แต่กวาดตามองไปรอบๆ คล้ายฟ้าสว่างแล้วเมื่อสว่างแล้วก็ควรออกไปจากเตียง แต่เขากักขังนางไว้อย่างนี้ จะลุกไปไหนได้อย่างไรกัน“เมื่อคืน...” ไม่น่าเลย ไม่น่าเลยจริงๆ นางเมามายจนจำอะไรไม่ได้ แต่พอเห็นใบหน้าตึงของเขาแล้ว นางก็ทำอะไรไม่ถูก พยายามทบทวนอยู่ว่าเมื่อคืนหลังจากนางดื่มเข้าไปแล้ว นางไปเต้นรำรอบกองไฟกับหญิงสาวคนอื่นๆ แล้ว...แล้วเขาก็อุ้มนางกลับมา...แล้ว คิดถึงตอนนี้นางรีบก้ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 67. เชื่อใจข้า

    แม้ปรารถนาจะปลดปล่อยไฟปรารถนาไปพร้อมกับนาง แต่ก็ทำได้เพียงหักห้ามใจ เป็นฝ่ายเร่งเร้านางจนร่างเล็กดิ้นทุรนทุรายบนที่นอน“จิ่นสือ...ข้า...ข้า...” ข้าไม่ไหวแล้ว!ได้แต่กรีดร้องออกมา ถูกเขาทรมานจนร่างกายแทบระเบิด ไฟราคะแผดเผานางจนมอดไหม้ ร่างกายนางกระตุกเกร็งจนผวาเข้ากอดเขาแน่น ใบหน้าซบอยู่ที่ซอกคอของเขา ปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปพร้อมกับระลอกความรัญจวนที่เขาปรนเปรอให้จนนางสำลักล้นกลายเป็นน้ำตาใสๆ“เหนียงเอ๋อร์” เขากระซิบเรียกก่อนจูบน้ำตาของนางเบาๆ ค่อยๆ ถอนนิ้วออกจากกลีบดอกไม้ที่สั่นระริก ประคองนางที่หอบหายใจแรงกอดไว้อย่างปลอบโยน“เจ้าเป็นผู้หญิงของข้า” เขาประกาศความเป็นเจ้าของในตัวนาง “ต่อไปนี้ทุกเรื่องของเจ้าคือเรื่องของข้า ข้าจะดูแลคุ้มครองเจ้า”จ้าวจิ่นสือกอดร่างเปลือยเปล่าที่อ่อนระทวยในวงแขน นางปรือตามองเขา เห็นความมั่นคงฉายในดวงตา หัวใจของนางก็พลันอบอุ่นขึ้น“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะไม่ทอดทิ้งเจ้า” เขายกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมที่ชื้นเหงื่อบนใบหน้าของนาง ไม่กล้าเอ่ยปากพูดไปว่า หากแม้บิดาของนางไม่อยู่หรือหาไม่พบ เขาก็จะไม่ปล่อยให้นางต้องระหกระเหินใช้ชีวิตเร่ร่อนตามลำพังเช่นที่ผ่านมานาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 120. ได้ยินชัดแล้ว

    เหวินเฮ่าหลันคลี่พัดโบกไปมาเชื่องช้าคล้ายเกียจคร้าน แต่ในใจแฝงความกังวลอยู่หลายส่วนนัก สหายรักอย่างจ้าวจิ่นสือมาเมืองหลวงคราใดก็มักมาพักที่คฤหาสน์ตระกูลเหวิน จ้าวจิ่นสือเป็นคนไม่ถือยศศักดิ์ทำให้คบหากันสนิทใจ และเมื่อเขาเดินทางไปชายแดนก็มักจะแวะเวียนเยี่ยมเยือนจ้าวจิ่นสืออยู่เสมอ จะว่าไปบุรุษทั้งสองคนนี้เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วย่อมเป็นจุดเด่น ผู้หนึ่งบุคลิกองอาจสมเป็นบุตรชายทหารผู้แกล้วกล้า ส่วนอีกคนดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญผู้กุมการค้าในเมืองหลวง หากเห็นเหวินเฮ่าหลันตามหอนางโลมก็มิใช่เรื่องแปลก แต่กับจ้าวจิ่นสือนี่สิ สะดุดตาผู้คนเสียยิ่งกว่า “มาเที่ยวหอนางโลมก็เป็นธรรมดาของบุรุษ แต่ตอนนี้เจ้าไม่เหมือนก่อน พี่สาวเจ้าก็เป็นพระชายาไปแล้ว ฐานะเจ้าก็เป็นเครือญาติกับ...” ยังพูดไม่ทันจบประโยค จ้าวจิ่นสือก็โบกมือห้ามไว้ก่อน เขายกจอกสุราขึ้นดื่มแต่สีหน้าไร้แววรื่นเริง ทั้งสองอยู่ในหอนางโลมก็จริงแต่ไม่ได้เรียกนางคณิกาเข้ามาปรนนิบัติ เพียงนั่งดื่มสุราและสนทนากันเรื่องทั่วไป แต่เหวินเฮ่าหลันเป็นคนมีความอดทนน้อยนัก แม้จะรักสนุกชอบเรื่องบันเทิงและดูเกียจคร้านไ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  119.  ไม่คิดว่า

    มู่หยางซัวเอ่ยตอบ ไม่คิดว่าตัวเองไม่ได้ติดต่อกับคนที่นี่ แต่คนที่นี่กลับรู้ความเคลื่อนไหวเป็นไปของเขา แสดงว่า... พวกเขารอให้สองพ่อลูกกลับมานานแล้วจริงๆ “ว่าแต่เจ้าสองคนพ่อลูกพักที่ใดกัน” ท่านยายถามแล้วยื่นมือไปลูบเนื้อตัวมู่ฟางเหนียงอย่างเอ็นดู พอพิศดูใกล้ๆ แล้วก็เห็นว่า แท้จริงแล้วมู่ฟางเหนียงไม่ได้เหมือนอี้เฟยนัก แต่มีเค้าโครงหน้าอ่อนหวานเหมือนกัน ดวงตาเป็นประกายสดใสดุจแสงตะวันกระทบผิวน้ำยามเย็น แต่มีท่าทางเฉลียวฉลาดสุขุมเหมือนผู้เป็นพ่อ “โรงเตี๊ยมไม่ไกลที่นี่นักเจ้าค่ะ” นางเอ่ยชื่อโรงเตี๊ยมออกไป “ไอ้โรงเตี๊ยมนั่นมันเล็กนิดเดียว อาหารก็ไม่อร่อย ไปพักได้อย่างไรกัน หึ!” ท่านตาทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ “ไปเก็บข้าวของมาพักด้วยกันที่นี่” มู่ฟางเหนียงหันไปทางบิดา เห็นท่าทีอ้ำอึ้งก็เข้าใจ พ่อของนางเป็นเด็กกำพร้า ไม่คุ้นชินกับการอยู่แบบครอบครัวใหญ่ ที่ผ่านมาก็มีกันแค่สองคนพ่อลูก และไม่ได้เผื่อใจว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดี ดูท่าท่านพ่อที่ได้ฉายาหมอเทวดาไร้เงาผู้แสนจะสุขุมและไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด จะพ่ายแพ้แก่พ่อตาแม่ยายเสียแล้ว “ท่านพ่อกับห

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   118. ห้ามถอยเด็ดขาด

    เคอหลิ่งหลินบังเอิญได้พบคุณชายเฉินและแอบหลงรักเขา ส่วนนางกับพ่อรู้จักคุณชายเฉินเพราะเป็นคนป่วยที่ตามหาท่านหมอเทวดาไร้เงามาถึงชายแดนที่นางกับพ่ออยู่เคอหลิ่งหลินนิสัยโลดโผน เปิดเผย และจริงใจ นางชอบคุณชายเฉินก็แสดงออกว่าตนชอบ ไม่ปิดบัง ทำให้บิดาของนางต้องส่ายหน้าทุกที เคอหลิ่งหลินอาศัยติดตามบิดาของนางไปพบคุณชายเฉินบ่อยๆ และนางช่วยสอนเป่าขลุ่ยเพราะเห็นคุณชายเฉินบรรเลงเพลงขลุ่ยแสนไพเราะ นางรู้ว่าพี่สาวที่แสนดีผู้นี้อุทิศตนเองเพื่อความรักที่มีต่อคุณชายเฉินมากเพียงใด เมื่อรู้ข่าวว่าเคอหลิ่งหลินได้เคียงข้างครองคู่กับคนที่นางรักและรักนาง มู่ฟางเหนียงก็รู้สึกยินดีและดีใจด้วยอย่างจริงใจส่วนนางนั้น พยายามไม่คิดเรื่องของตนเอง นางรู้ว่าสิ่งที่นางทำ ผิดจารีตประเพณีที่สตรีพึงกระทำ แต่นางก็ไม่นึกเสียใจ อย่างน้อยนางก็รู้ใจตัวเองว่ารักเขามาก และอาจมากเกินกว่าที่จะยอมแบ่งปันเขาให้หญิงอื่น มิอาจทำใจใช้สามีร่วมกับผู้ใด มู่หยางซัวพาลูกสาวเดินมาตามเส้นทางที่คุ้นเคยในอดีต จนมาหยุดที่หน้าร้านขายยาใหญ่โตร้านหนึ่ง สิบกว่าปีที่ผ่านมา จากร้านขายยาเล็กๆ กลายเป็นร้านใหญ่โตไปแล้ว ลูกสาวเห็นสีหน้าเคร่งเ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   117.  ข้าจะแบกเจ้าเอง

    “เป็นท่านพ่อที่ต้องการเตรียมตัวเตรียมใจมากกว่าลูกกระมัง” นางอดหยอกล้อบิดาไม่ได้ “เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งเป็นผู้หญิงเถิด พ่อเกรงว่าตากับยายของเจ้าจะตำหนิพ่อเอาเสียเปล่าๆ” พูดแล้วก็ถอนหายใจหนักหน่วง “ตั้งแต่พาแม่ของเจ้าออกเดินทางมาจนเจ้าตัวโตขนาดนี้ ก็มิรู้ทั้งสองจะยังอยู่หรือไม่” “ลูกไม่เคยได้ยินท่านพ่อพูดถึงท่านตากับท่านยาย เลยไม่รู้ว่าพวกท่านเป็นคนอย่างไร” นางถามระหว่างรับประทานอาหารกลางวันที่โรงเตี๊ยมที่เข้าพักอยู่ “แม่ของเจ้าเป็นลูกสาวพ่อค้าร้านขายยา” “เอ๋? ท่านพ่อก็เป็นหมอ ท่านแม่เป็นลูกสาวร้านขายยา ไยถึงหนีตามกันเล่า” นางอดประหลาดใจไม่ได้ ตั้งแต่จำความได้ ก็รู้เพียงแค่ว่าท่านพ่อกับท่านแม่รักใคร่ชอบพอกัน แต่ท่านตากับท่านยายไม่ยอมรับในตัวลูกเขยที่ไร้ชาติตระกูล ซ้ำยังยากจนนัก ท่านพ่อจึงพาท่านแม่หนีออกมาและใช้ชีวิตเดินทางรักษาคนทั่วไป มีความสุขตามอัตภาพ “ตอนนั้นท่านตาของเจ้าหวังทำการค้ามากกว่าจะรักษาคน พ่อซึ่งตอนนั้นก็ทระนงตน ไม่ฟังผู้ใด ท่านตาอยากให้พ่อไปนั่งตรวจคนเจ็บป่วยที่ร้านขายยาของท่านตา ทีแรกพ่อก็ไปตาม

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   116.  ท่านรักข้าบ้างหรือเปล่า

    “ท่านพ่อของเจ้าบอกข้าแล้วว่าจะเดินทางไปเมืองหลวง”มู่ฟางเหนียงนิ่งงันไป พ่อเพิ่งคุยกับนางเมื่อครู่แต่บอกกับคนผู้นี้ไปก่อนแล้ว แสดงว่าท่านตัดสินใจแล้ว คงไม่มีเหตุผลให้นางยื้อเวลาที่จะอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว‘ท่านจะให้เราสองคนห่างกันอย่างนั้นหรือ?’เสียงของหมอมู่หยางซัวแทรกเข้ามาในหัวสมองของเขา จ้าวจิ่นสือกอดนางแน่นขึ้น กลัวว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กอดนางไว้แนบอกเช่นนี้ ยศถาบรรดาศักดิ์หรือแม้แต่ตำแหน่งรองแม่ทัพที่มีอยู่ไม่ได้ทำให้เขามีความสุขได้มากเท่ากับที่มีนางอยู่เคียงข้าง“จากนี้เดินทางไปเมืองหลวงจะสะดวกกว่า ข้าจะเตรียมรถม้าพร้อมผู้ติดตามไปส่งเจ้ากับพ่อให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย”ทำไม... ทำไมเขาพูดเหมือนอยากให้นางไปไกลห่างเช่นนี้ด้วยเล่า“สิ่งของของเจ้าที่อยู่ที่บ้านข้า ข้าจะให้คนเก็บรักษาไว้อย่างดี หรือเจ้าต้องการสิ่งใดก็ขอให้บอก ข้าจะให้คนส่งตามไปให้เจ้า”ถ้อยคำแห่งความหวังดีกลับกลายเป็นโบยตีหัวใจนางให้เจ็บปวด นี่เขาคิดแทนนางถึงเพียงเชียวหรือ? กลัวว่านางจะไปไม่พ้นหน้าเขาหรืออย่างไรกันจะติดตามนางไปด้วยก็ไม่ได้ แค่นี้เขาก็หงุดหงิดเต็มประดาแล้ว“ท่านไม่ต้องกังวลเกินกว่าเหตุไป ครา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   115. ทรมาน

    “ฟางเหนียง พ่อเห็นว่างานที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว พ่อคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกันเสียที”“อะไรนะเจ้าคะ” นางตื่นตกใจอย่างเก็บอาการไม่อยู่ เร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“เจ้าไม่อยากไปกับพ่อแล้วหรือ?”“มิได้ ลูกแค่... เรายังไม่ได้เตรียมตัว”“เตรียมตัว?” มู่หยางซัวทวนคำแล้วหัวเราะในลำคอ “พวกเราเคยเตรียมตัวกันด้วยรึ ถ้าไม่นับที่เราอยู่ชายแดนมาสองปี ที่ผ่านมาเราก็แทบไม่เคยเตรียมตัวก่อนออกเดินทางสักครั้ง”“แต่ว่า เรามีข้าวของอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าว”“เจ้าใส่ใจของพวกนั้นด้วยรึ พ่อไม่เคยนึกถึงเรื่องพวกนั้น” รอยยิ้มกึ่งล้อทำให้มู่ฟางเหนียงแอบค้อนเข้าให้“ข้ามีของที่ได้รับมาจากมิตรสหายเผ่าเอ้อหลุนชุน ถึงมันอาจไม่ได้มีราคาค่างวดมากมาย แต่มีค่ากับจิตใจของข้ามากนัก”“จากที่นี่เดินทางไปเมืองหลวงจะใกล้กว่า ถ้าเจ้าอยากย้อนกลับไปก็จะเสียเวลามาก”“แต่ว่า...” นางนึกถึงเครื่องประดับที่ทำจากหินหรือกระดูกสัตว์ที่นางได้มา คิดถึงเสื้อคลุมหนังหมาป่าที่จินปู๋กับนางลู่อู๋มอบให้ คิดถึงบันทึกการรักษาที่ท่านหมอผู้เฒ่ามอบให้ สิ่งเหล่านั้นมีภาพของชายผู้นั้นปรากฏขึ้นมาด้วย“ฟางเหนียง บางสิ่งที่เจ้าเผชิญอยู่มัน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  114. ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “ท่านหมอมู่” จ้าวจิ่นสือพยายามคุมสติและปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ “ท่านอาจไม่ทราบ ข้ากับฟางเหนียง...” มู่หยางซัวยกมือขึ้นห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูดออกมา “ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร” มือของเขาเคยแต่จับมีดช่วยคน เพิ่งเคยรู้สึกอยากจับมีดฆ่าคนก็คราวนี้ “ข้าจริงใจกับนาง หวังให้ท่านเข้าใจ” “เจ้าหวังให้ผู้อื่นเข้าใจเจ้า แล้วเจ้าเข้าใจผู้อื่นรึ” “ข้าตั้งใจว่ากลับจากซูโจวจะให้ท่านพ่อสู่ขอฟางเหนียงกับท่าน” “แล้วอย่างไร?” ปกติมู่หยางซัวเป็นคนใจเย็น จะเห็นสีหน้าเคืองโกรธก็น้อยครั้งเหลือเกิน “เจ้าตบแต่งนางเข้าตระกูลเจ้าแล้ว ก็ใช่ว่าเจ้าจะรับหญิงอื่นเข้ามาไม่ได้อีก ตอนนี้เจ้าก็พูดได้ แต่อนาคตเจ้าจะไม่รับใครเข้ามาอีกรึ เจ้าไม่ใช่คนธรรมดา ฐานะชาติกำเนิดของเจ้า เจ้าย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ” “ความหมายของท่านคือไม่ยินดียกนางให้ข้า” แม้จะข่มน้ำเสียงตัวเองให้ราบเรียบ แต่กรุ่นไอโทสะแผ่กระจายออกมาจนอีกฝ่ายยังรู้สึกได้ “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น” มู่หยางซัวทำน้ำเสียงเยาะในลำคอ แค่นี้ก็โกรธจนไอโท

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 113. ข้าเป็นพ่อนาง ข้ามิได้ตาบอดจะได้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “พ่อไม่พูดใช่ว่าไม่รู้” มู่หยางซัวจับไหล่ของลูกสาวให้ก้าวเข้าไปนั่งบนเตียง ส่วนตนนั้นก็เลื่อนเก้าอี้กลมมานั่งใกล้ๆ “เจ้ารู้ว่าพ่อพูดถึงเรื่องจ้าวจิ่นสืออยู่” “ท่านพ่อ” นางหลุบตาลง เป็นฝ่ายไม่กล้าสบตาเสียเอง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าสักวันเรื่องนี้พ่อต้องเอ่ยปากกับนาง “เจ้ารักคนผู้นั้นมากเลยหรือ” น้ำเสียงที่ถามเป็นน้ำเสียงตัดพ้อมากกว่าต้องการคำตอบ “พ่อรู้ อย่างไรก็ต้องมีวันนี้... อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวของตัวเอง เจ้าจะทำตัวติดกับพ่อตลอดไปไม่ได้หรอก” “ท่านพ่ออย่าพูดเช่นนั้น ท่านพ่อตัวคนเดียว ลูกไม่ยอมทิ้งท่านพ่อเด็ดขาด หากลูกจะแต่งงานกับผู้ใด คนผู้นั้นก็ต้องยอมรับท่านพ่อได้ด้วยเช่นกัน” “เราผ่านอะไรกันมามากมายเหลือเกิน เจ้าอาจได้เห็นโลกกว้างมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน” มู่หยางซัวตบหลังมือของลูกสาวเบาๆ “เจ้าก็เห็นแล้ว ทั้งเศรษฐี ทั้งขุนนาง ทั้งยาจก ทั้งคนยากไร้ เจ้าย่อมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งสูงศักดิ์มากเพียงใด ก็ยิ่งแก่งแย่งแข่งขันกันมากเพียงนั้น แล้วเจ้าจะรับมือเรื่องราวเหล่านั้นได้ไหวหรือไม่ เมื่อกลายเป็นคนของเขาไปแล้ว เจ้า

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  112. หายดี

    มู่ฟางเหนียงเดินเคียงข้างจ้าวจิ่นสือไปถึงศาลาหกเหลี่ยมที่องค์ชายไท่หยางประทับอยู่ องค์ชายไท่หยางเชื้อเชิญให้ทั้งสองนั่ง รอจนบ่าวรับใช้รินน้ำชาเรียบร้อยแล้ว จึงโบกมือไล่ให้ผู้อื่นออกไปให้หมด แม้จะไม่เห็นเงาร่างแต่ก็รู้ว่าต้าซื่อองครักษ์ขององค์ชายเฝ้าอารักขาอยู่“ข้าต้องยอมรับความสามารถในการจัดการของรองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือ ต่อให้ข้ามิได้มา เจ้าก็คงจัดการที่นี่ได้อย่างราบรื่นด้วยดี”“เป็นเพราะพระบารมีขององค์ฮ่องเต้และองค์ชาย ทำให้การงานครั้งนี้ลุล่วงด้วยดีพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าเองสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ครั้นจะให้องค์รัชทายาทเสด็จมาเองก็เกรงว่าจะมีคนลอบเอาชีวิต คราวที่แล้วยังหาตัวผู้บงการมิได้ ครั้งนี้ข้าเลยต้องมาเอง ข้าอาจจะทำอะไรได้ไม่เต็มที่นัก อย่างไรก็ต้องฝากเจ้าดูแลต่อด้วย”“ข้าน้อยรับพระบัญชา”มู่ฟางเหนียงนั่งฟังนิ่งๆ แล้วลอบมองคุณชายเฉิน ไม่สิ ตอนนี้คนผู้นี้คือองค์ชายไท่หยางที่มักพูดออกตัวว่าตนเองสุขภาพไม่แข็งแรง แต่เท่าที่นางเห็นตอนนี้ ช่างเป็นองค์ชายที่สุขภาพแข็งแรงดีเหลือเกิน“ความจริงที่เรียกเจ้าทั้งสองมาดื่มน้ำชาที่นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องงาน ข้าอยากคุยเรื่องเคอหลิ่งหลิน”จ้าวจิ่นสือเงยหน้าสบด

DMCA.com Protection Status