Home / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter 66.  เจ้าหยามข้า

Share

Chapter 66.  เจ้าหยามข้า

last update Last Updated: 2024-12-02 14:54:03

อิงฮวาได้แต่พยักหน้ารับหงึกๆ มิรู้ตัวเลยว่าตนเองอิงอยู่บนอกแข็งแกร่งของเขา จนกระทั่งเขาเอี้ยวตัวรินน้ำชาใส่ถ้วยแล้วหันกลับมา นางยื่นมือไปหมายจะรับถ้วยน้ำมาดื่มเอง แต่เขากลับชักมือกลับแล้วกรอกน้ำเข้าปากตนเอง นางอ้าปากจะส่งเสียงประท้วง แต่เพียงพริบตาเดียวริมฝีปากของเขาก็ประกบริมฝีปากของนางปล่อยน้ำอุ่นไหลผ่านลำคอ...อีกครั้ง

มือเล็กที่ยกค้างอยู่เงอะงะไม่รู้จะวางตรงที่ใด จึงได้แต่จับสาบเสื้อของเขาไว้ น้ำหยดสุดท้ายอยู่ที่ปลายลิ้น เขาตวัดลิ้นขบริมฝีปากล่างนางอย่างมันเขี้ยว แต่คนตัวเล็กอุทานเบาๆ พวงแก้มแดงจัดขึ้นมาทันที เขาถอนริมฝีปากแล้ว แต่ใบหน้าของเขายังอยู่ใกล้จนลมหายใจร้อนลามเลียใบหน้าของนาง หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกได้แต่กวาดตามองไปรอบๆ คล้ายฟ้าสว่างแล้ว

เมื่อสว่างแล้วก็ควรออกไปจากเตียง แต่เขากักขังนางไว้อย่างนี้ จะลุกไปไหนได้อย่างไรกัน

“เมื่อคืน...”

ไม่น่าเลย ไม่น่าเลยจริงๆ นางเมามายจนจำอะไรไม่ได้ แต่พอเห็นใบหน้าตึงของเขาแล้ว นางก็ทำอะไรไม่ถูก พยายามทบทวนอยู่ว่าเมื่อคืนหลังจากนางดื่มเข้าไปแล้ว นางไปเต้นรำรอบกองไฟกับหญิงสาวคนอื่นๆ แล้ว...แล้วเขาก็อุ้มนางกลับมา...แล้ว คิดถึงตอนนี้นางรีบก้ม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 67. เชื่อใจข้า

    แม้ปรารถนาจะปลดปล่อยไฟปรารถนาไปพร้อมกับนาง แต่ก็ทำได้เพียงหักห้ามใจ เป็นฝ่ายเร่งเร้านางจนร่างเล็กดิ้นทุรนทุรายบนที่นอน“จิ่นสือ...ข้า...ข้า...” ข้าไม่ไหวแล้ว!ได้แต่กรีดร้องออกมา ถูกเขาทรมานจนร่างกายแทบระเบิด ไฟราคะแผดเผานางจนมอดไหม้ ร่างกายนางกระตุกเกร็งจนผวาเข้ากอดเขาแน่น ใบหน้าซบอยู่ที่ซอกคอของเขา ปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปพร้อมกับระลอกความรัญจวนที่เขาปรนเปรอให้จนนางสำลักล้นกลายเป็นน้ำตาใสๆ“เหนียงเอ๋อร์” เขากระซิบเรียกก่อนจูบน้ำตาของนางเบาๆ ค่อยๆ ถอนนิ้วออกจากกลีบดอกไม้ที่สั่นระริก ประคองนางที่หอบหายใจแรงกอดไว้อย่างปลอบโยน“เจ้าเป็นผู้หญิงของข้า” เขาประกาศความเป็นเจ้าของในตัวนาง “ต่อไปนี้ทุกเรื่องของเจ้าคือเรื่องของข้า ข้าจะดูแลคุ้มครองเจ้า”จ้าวจิ่นสือกอดร่างเปลือยเปล่าที่อ่อนระทวยในวงแขน นางปรือตามองเขา เห็นความมั่นคงฉายในดวงตา หัวใจของนางก็พลันอบอุ่นขึ้น“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะไม่ทอดทิ้งเจ้า” เขายกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมที่ชื้นเหงื่อบนใบหน้าของนาง ไม่กล้าเอ่ยปากพูดไปว่า หากแม้บิดาของนางไม่อยู่หรือหาไม่พบ เขาก็จะไม่ปล่อยให้นางต้องระหกระเหินใช้ชีวิตเร่ร่อนตามลำพังเช่นที่ผ่านมานาง

    Last Updated : 2024-12-02
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 68. ไม่เหนื่อย

    อิงฮวาเห็นโจวฟู่หรงก็แย้มยิ้มเดินเข้าไปย่อตัวคารวะ แล้วเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มกระจ่างใส เช่นเดียวกับแววตาของนางที่เป็นประกาย นางทำท่าจะเอ่ยปากถามเรื่องอาการบาดเจ็บ แต่เห็นว่าตรงนี้มีคนอยู่มากเกินไป เกรงว่าจะเป็นการเปิดเผยเรื่องบาดแผลนั่น จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้าเขา ร้อยทั้งร้อยคนที่พบเขามักก้มหน้าหลบสายตา บางคนถึงขั้นตัวสั่นงันงก มีแต่นางที่กล้าสบตากับเขาโดยไร้แววหวาดกลัวเช่นนี้ ดวงตากลมสุกใส นางไม่ได้งดงามเฉิดฉันแต่เป็นความงามที่ให้ความรู้สึกสงบและเย็นใจ “คงเหนื่อยไม่น้อยเลยสินะ” โจวฟู่หรงเปิดปากพูดก่อน “ได้ยินเรื่องของเจ้าที่หมู่บ้านแล้ว” “ไม่เหนื่อยอันใด” อิงฮวาส่ายหน้าไปมา “แล้ว...ท่าน...” “ดีขึ้นมากแล้ว” แม้นางจะไม่เอ่ยปากถาม เขาก็รู้ว่านางจะพูดอะไร พอพูดไปก็เห็นรอยยิ้มของนางมากขึ้น จ้าวจิ่นสือสั่งเด็กรับใช้ให้ขนข้าวของไปไว้ที่ห้องของหญิงสาว เมื่อสั่งงานเรียบร้อยแล้ว เขาก็ก้าวยาวๆ ไปยืนเคียงข้างมู่ฟางเหนียง สายตาทั้งสองที่ปะทะกัน มีบางอย่างที่ทำให้โจวฟู่หรงเผลอหรี่ตามองคนตัวเล็กที่ยังเข้าใจว่าผู้ชายสามารถใช้

    Last Updated : 2024-12-02
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 69.กระต่ายน้อย

    เห็นคนตัวเล็กแสดงท่าทีฮึดฮัดเอาจริง เขาก็ได้แต่กลั้นยิ้ม เอาเถอะ ตอนนี้ไม่ได้ ก่อนนอนค่อยแวะมากล่อมนางก็ได้ คิดได้ดังนั้นก็ยอมถอยออกไปอย่างง่ายดาย ยืนมองจนนางปิดประตูแล้วเขาจึงหมุนตัวเดินออกมา เพราะความอ่อนเพลียจากการเดินทาง หลังจากอาบน้ำชำระล้างคราบเหงื่อไคลออกหมดจดแล้ว นางแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะทำสิ่งใดได้อีก แม้แต่กับข้าวมื้อเย็นที่ปกตินางจะเข้าครัวไปช่วยปาน่า แต่กลายเป็นว่าเมื่อนางนั่งบนเตียงตั้งใจแค่นั่งพักสักครู่จะเดินออกไป นางกลับผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว หญิงรับใช้ที่เข้ามาเชิญอิงฮวาไปร่วมโต๊ะมื้อเย็นกับโจวฟู่หรงเห็นหญิงสาวหลับคอพับอยู่ ลองเรียกสองสามครั้งนางก็ไม่ขยับตัว หญิงรับใช้จนใจจึงค่อยๆ เดินออกไปรายงานหัวหน้าโจวให้ทราบ “หลับ? นางหลับอย่างนั้นรึ ให้คนจัดเตรียมอาหารไว้ในห้องของนางก็แล้วกัน เผื่อนางจะตื่นมาแล้วหิว” โจวฟู่หรงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแล้วย้ายสายตามาที่บุรุษที่นั่งอยู่ตรงข้าม“เห็นทีมื้อนี้ท่านต้องทนกินข้าวพร้อมข้าเสียแล้ว” “เป็นเช่นนั้นก็ดียิ่ง ข้ามีเรื่องอยากหารือกับท่านเช่นกัน” จ้าวจิ่นสือเพียงคีบเนื้อเข

    Last Updated : 2024-12-02
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 70. ไออุ่นจากเรือนกายของเขา

    มือใหญ่ทาบที่บานประตูอย่างลังเลครู่หนึ่งก่อนค่อยๆ ผลักเข้าไปอย่างเบามือ ใบหน้าเคร่งเครียดเลือนหายไปทันทีเมื่อเห็นร่างเล็กยังเอนตัวนั่งหลับ เขาเดินเข้าไปนั่งเคียงข้าง ค่อยๆ ประคองศีรษะของนางให้เอนมาพิงเขา “กระต่ายน้อย เจ้าจะหลับเช่นนี้ไม่ได้นะ” “ฮือ” นางครางในลำคออย่างหงุดหงิด “กระต่ายน้อย เจ้าจะไม่กินอะไรสักนิดเลยหรือ” เขาปลุกนางที่ริมหู “ข้าง่วงนอนจะแย่ อย่ามากวนข้า” นางดุเสียงที่รบกวนนาง เมื่อร่างกายได้ไออุ่นที่ถูกใจแล้ว จากที่ขยับตัวซุกเข้าไปกลายเป็นโถมตัวเข้าใส่ ชายหนุ่มไม่ทันระวังแต่ก็ยอมให้นางเป็นฝ่ายผลักเขาเอนลงนอนโดยมีนางนอนก่ายบนอกของเขาอีกที “ฟางเหนียง” เขาเรียกไม่ดังนัก แต่ได้ยินเสียงนางงึมงำ ทว่าเขาก็พอใจที่เป็นฝ่ายถูกกกกอดไม่น้อย เห็นนางไม่มีท่าทีจะตื่น จึงเอื้อมไปหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างทั้งสอง สะบัดปลายนิ้วมือเล็กน้อยเทียนในห้องก็ดับวูบไป “ฟางเหนียง เป็นเจ้าที่ล่วงเกินข้าก่อนนะ” เขาจูบแก้มนวลของนาง ความสุขและความอิ่มเอมก็แล่นเข้าสู่หัวใจ มีนางอยู่ในอ้อมแขน ได้นอนกอดตระกองนางไว้เช่นนี้ หากท

    Last Updated : 2024-12-02
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 71.บอกข้ามาก่อน  

    “เจ้าบอกข้ามาก่อน เจ้าคิดอะไรกับโจวฟู่หรงกันแน่!” เผลอขึ้นเสียงใส่นางเข้าจนได้“ท่านก็บอกเหตุผลที่ข้าต้องบอกท่านมาก่อนสิ” นางเชิดหน้าท้าทายโดยไม่คิดว่ามือใหญ่ของเขาจะยื่นมาประกบใบหน้านาง แล้วริมฝีปากของเขาก็ทาบลงมาอย่างรวดเร็ว เร็วเสียจนนางไม่ทันได้ปิดปาก ทำให้อีกฝ่ายแทรกลิ้นเรียวเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของนางได้ จุมพิตเหมือนคนละโมบที่ทำราวกับจะไม่ยอมหยุดแค่นี้ มือเล็กทำได้เพียงแค่จับสาบเสื้อของเขาไว้เพื่อพยุงตัวเอง แม้เพียงช่วงอึดใจ แต่นางกลับรู้สึกเหมือนกำลังจะหมดอากาศหายใจ พยายามดิ้นรนเพื่อประท้วง ทว่าอีกฝ่ายกลับบดจุมพิตแรงขึ้นและร้อนแรงขึ้นจนนางไร้เรี่ยวแรงขัดขืน เขาจึงยอมถอนริมฝีปากตนเอง“คราวนี้เข้าใจหรือยัง”เห็นแววตาราวกับมีลูกไฟอยู่ในนั้นแล้ว นางก็หลุบตาแล้วพยักหน้าหงึกๆ เขายกนิ้วโป้งแตะริมฝีปากที่แดงและเจ่อขึ้นเล็กน้อยเพราะจุมพิตของเขา“ห้ามเจ้าคิดถึงผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม”หญิงสาวอ้าปากจะประท้วง แต่พอเห็นสายตาของเขาแล้วนางก็ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น เก็บกลืนคำพูดลงท้องไปหมดสิ้น เมื่อเห็นนางยอมเชื่อฟัง แม้จะเหลือแววพยศอยู่บ้าง เขาก็คลายความกังวลลงไปได้เล็กน้อย

    Last Updated : 2024-12-04
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 72. พวกท่านทำอะไรกัน 

    “สิ่งที่ทำในตอนนี้ต่างหากที่จะทำให้ข้าไม่กลับมาที่นี่อีก!” แววตานางจ้องมองเขาอย่างไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย แผ่นหลังของนางเกร็งและตั้งตรงเหมือนแมวที่กำลังพองขนขู่อีกฝ่ายให้กลัว “อิงฮวา” เขาครางเรียกชื่อนางอย่างเศร้าหมอง เขาชอบนางที่ร่าเริงและอ่อนหวาน ในขณะเดียวกันนี้ นางก็เข้มแข็งจนชวนให้หลงใหล เขาอ้าปากกำลังจะพูดบางสิ่ง หางตาก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังวิ่งเข้ามา เขาชะงักไปเล็กน้อย หญิงสาวเห็นท่าทางของเขาแล้วก็เอะใจ นางหันไปทางประตูและเพียงพริบตา ร่างเล็กของซุนเย่ผิงก็วิ่งพรวดพราดเข้ามา“พวกท่านทำอะไรกัน!” ซุนเย่ผิงกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเห็นบนตักของโจวฟู่หรงมีหญิงอื่นนั่งอยู่ นางแทบอยากเข้าไปกระชากออกมาแล้วฉีกเป็นชิ้นๆ ซ้ำเสื้อผ้าของโจวฟู่หรงยังไม่เรียบร้อยอีกต่างหาก นางชี้หน้าอิงฮวาแล้วกรีดร้อง“ท่านหญิง ท่านเข้าใจผิดแล้ว” อิงฮวาอาศัยจังหวะที่เขาคลายข้อมือ รีบลุกขึ้นแล้วถอยห่าง “ก็เห็นอยู่ตำตา เจ้าจะแก้ตัวอะไรอีก!”“ข้าน้อยเพียงแค่ทำแผลให้หัวหน้าโจว แล้วซุ่มซ่ามล้มลงเท่านั้น” “แผล? พี่ฟู่หรงมีบาดแผลอะไรกัน ไยข้าไม่รู้” ซุนเย่ผิงรีบเดินเข้ามาใกล้ๆ พอเห็นบาดแผลของโจวฟู่หรงแ

    Last Updated : 2024-12-04
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 73.  คงไม่เป็นอะไรหรอกนะ

    “กลับบ้าน? เจ้าจะกลับบ้านที่ไหนอิงฮวา เจ้าจำได้แล้วรึ” ลู่อู๋จับแขนของหญิงสาวด้วยแววตาตื่นเต้นดีใจ แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าน้อยๆ “ข้ายังจำอะไรได้ไม่หมด แต่ข้ารู้สึกว่ามีบิดาที่รักและเป็นห่วงข้ามาก ตอนนี้ได้ข่าวจากจวนแม่ทัพจ้าวว่าได้ช่วยบิดาของข้าไว้และพักอยู่ที่นั่น ข้าจะกลับไปพร้อมกับคุณชายจ้าว” “ดีจริง ในที่สุดเจ้าก็จะได้กลับไปเจอครอบครัว” ลู่อู๋ดีใจจนแทบจะหลั่งน้ำตา แม้จะอยู่ด้วยกันเวลาสั้นๆ แต่นางก็รักและเอ็นดูหญิงสาวผู้นี้นัก “จะ เจ้า จะ ดะ เดิน ทะ ทาง เมื่อใดกัน” จินปู๋ถามขึ้น เขาเองก็ดีใจที่รู้ว่าอิงฮวาจะได้กลับไปเจอครอบครัว“วันมะรืน” นางตอบแล้วเดินไปหยิบกระจาดที่ใส่อุปกรณ์เย็บปักถักร้อย “ท่านน้า อาการปวดหัวของท่านดีขึ้นหรือไม่ ข้าจะเขียนเทียบยาไว้ให้ท่านนะ”หญิงสาวเองก็รู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย แม้จะดีใจที่จะได้กลับไปเจอบิดาของตน ช่วงระยะเวลาตั้งแต่นางฟื้นที่ตีนภูเขาและพบจินปู๋นั้นราวหนึ่งเดือน ความรู้สึกผูกพันย่อมมีไม่น้อย กลับไปครั้งนี้แล้วก็ไม่รู้อีกนานเพียงใดจะได้พบกันอีก คิดถึงตอนนี้แล้วนางก็ปรารถนาจะทำอะไรให้พวกเขาได้มากกว่านี้ แต่นางเ

    Last Updated : 2024-12-04
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 74. รัก

    อิงฮวาขยับมือไล่ให้จินปู๋ที่ละล้าละลังว่าจะทำอย่างไรดี เขาเป็นห่วงทั้งสองแต่อีกคนก็เอาแต่ใจตนเอง เร่งเดินเข้าไปไม่รออีกคนที่เพิ่งเดินมาถึง หญิงสาวมองเห็นแผ่นหลังของจินปู๋ก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง อย่างน้อยเขาก็ตัวโตจนนางมองเห็นได้ชัดถนัดตาไม่ต้องกลัวหลง คราวก่อนที่เข้าป่ามาหาเม็ดบัวไปต้มเป็นยาบำรุงให้ท่านน้าลู่อู๋ นางก็ใช้วิธีนี้ทำให้ไม่พลัดหลงกับเขา หญิงสาวรวบชายกระโปรงแล้วเดินไปตามทางเส้นเล็กๆ คนที่นี่คงเข้าป่ามาสักการะเทพภูเขาอยู่บ่อยๆ เพราะเส้นทางที่เดินคล้ายกับเดินจนเป็นรอยทางเดินไปแล้ว เพราะตั้งใจไปหาเม็ดบัวให้ลู่อู๋ ทำให้ครั้งนั้นนางพบโจวฟู่หรงโดยบังเอิญ ในคราวนั้นนางไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ชายร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ เส้นสายบนใบหน้าดูกระด้างทว่าแววตาแน่วแน่เด็ดเดี่ยว กลิ่นอายของเขาเหมือนราชสีห์ที่เพียงแค่สบตาสัตว์น้อยใหญ่ก็พากันหวาดกลัวตัวสั่น ทว่า... นางกลับรู้สึกว่านั่นเป็นเพียงเกราะที่เขาสร้างขึ้นเพื่อมิให้ผู้ใดเข้าใกล้ แท้จริงแล้ว เขาเป็นคนที่ห่วงใยผู้อื่นที่สุด ครั้งนี้ที่บาดเจ็บก็เพราะตนเองไปปกป้องลูกน้อง นางไม่ได้กลัวเขา ที่ผ่านมาเขาออกจะมีเมตตากับนางไม่น้

    Last Updated : 2024-12-04

Latest chapter

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  130. น้อยใจ

    “เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” “ข้าหายดีแล้ว จะไปหาฟางเหนียง” เขาควรรีบไปอธิบายกับนาง เมื่อวานส่งจดหมายแจ้งให้ท่านพ่อทราบเรื่องภารกิจลับเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับพร้อมรับมู่ฟางเหนียงไปด้วยเลย โธ่! ยังมิทันไรก็เป็นพวก ‘เกรงใจภรรยา’ เสียแล้ว เหวินเฮ่าหลันได้แต่คลี่พัดโบกไปมา ปกปิดสีหน้าระอาใจ เป็นบุรุษองอาจ ไฉนต้องมาพะวักพะวนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “เจ้ารออยู่นี่แหละ เดี๋ยวนางก็มาแล้ว” “เฮ่ย!” “เจ้าจะร้องอะไร” เหวินเฮ่าหลันเห็นอาการของสหายแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะไปมา ได้ยินมาจากเคอหลิ่งหลินว่าจ้าวจิ่นสือบาดเจ็บแต่ไม่ให้เรียกมู่ฟางเหนียงมาทำแผลเพราะเกรงใจที่เป็นเวลาพักผ่อนของนางแล้ว อย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาอยู่แล้ว หน้าที่ภรรยาดูแลสามีก็ถูกแล้ว จะค่ำหรือสว่างจะเป็นไรไป เดือดร้อนต้องไปตามหมอผู้อื่นมารักษาให้ แม้จะไม่ใช่บาดแผลสาหัสก็เถอะ “ข้ายังไม่ได้อธิบายกับนาง นางมาเจอข้าแบบนี้...” “เจ้านี่! เป็นถึงรองแม่ทัพ! อย่ามาทำตัวกลัวเมียให้เสียชื่อหน่อยเลย!” เหวินเฮ่าหลันกดเสียงต่ำ เรื่องแบบนี้พ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 129. อย่าได้แบกความโกรธแค้นไว้เลย

    เคอหลิ่งหลินก็เห็นหญิงสาวในชุดแดงหน้าตาซีดเซียว นางมาไม่ทันจึงไม่รู้ว่าหญิงนางนี้มีเรื่องแค้นใดกับจ้าวจิ่นสือ แต่ด้วยความสงสารในท่าทีสับสนและดูเคว้งคว้างของนางจึงเดินเข้าไปใกล้ หมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ“แม่นาง อย่างไรแล้วค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถิด เจ้ามีบาดแผล ให้ข้าดูหน่อยจะเป็นไร” เคอหลิ่งหลินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทำให้ร่างของหญิงสาวในชุดแดงแข็งทื่อ กวาดตาจ้องมองคนทั้งหมด คนพวกนี้พูดคุยเหมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่นางนั้นเล่า ไร้ผู้ใดไม่มีใครอีกแล้ว ความเศร้าหมองและหดหู่กัดกินจิตใจ มือบางกำด้ามกริชแน่นขึ้น หมายมั่นจะเอาชีวิตของจ้าวจิ่นสือให้ได้ นางพุ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดหวาดกลัวและไม่สนใจว่านางอาจถูกฝ่ามือซัดกลับจนถึงแก่ชีวิตช่างปะไร นางจะได้ไม่ต้องเดียวดายอีกแล้ว“จิ่นสือ!” เป็นเสียงเคอหลิ่งหลินที่หวีดร้องอย่างตกใจ น้องชายนางกลับไม่หลบยืนนิ่งปล่อยให้หญิงนางนั้นแทงกริชเข้าชายโครงด้านซ้ายของเขา เพราะคิดว่าจ้าวจิ่นสือจะหลบหลีกหรือตอบโต้ได้ จึงไม่มีใครขวางหรือเข้าไปช่วย ทุกคนจึงตื่นตะลึง แม้แต่หญิงผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ“เจ้า! ไยไม่หลบข้า!” หญิงสาวในชุดแดงปล

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 128. ไม่ลดความพยายาม

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่ลดความพยายาม เตรียมพุ่งกริชเล่มเดิมนั้นใส่จ้าวจิ่นสืออีก นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่นางต้องการชีวิต ร่างบางง้างมือขึ้นแต่ยังไม่ทันไร แสงวาบหนึ่งก็พุ่งผ่านเฉียดมือนางไปเล็กน้อย แต่ก็กรีดผิวเรียกเลือดสีเข้มกระเซ็นออกมา หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแต่ไม่ยอมทิ้งกริชเพียงแค่ยกมือกุมบาดแผลแล้วมองมีดสั้นที่ปักบนผนังห้องก่อนจะตวัดสายตามองไปทางหน้าต่าง ผู้มาใหม่กระโจนเข้ามา ใบหน้ามีหน้ากากอสูรปกปิดครึ่งหน้าด้านบน แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่เห็นนาง คราวนี้จ้าวจิ่นสือจับกระบี่ขึ้นมา แต่หัตถ์เทวะกลับยกมือโบกไปมาคล้ายไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ แล้วเดินวนเวียนรอบกายหญิงสาว ดวงตาคู่งามนั้นไร้แววหวาดกลัวแต่กลับวาวโรจน์ดุจแมวป่า ‘ช่างน่าสนใจนัก!’ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป็นจ้าวจิ่นสือที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เห็นชัดว่าชายผู้นั้นไม่ได้รู้จักหญิงสาวในชุดสีแดง “เป็นข้าควรถามเจ้ามากกว่า” หัตถ์เทวะหันมาทางจ้าวจิ่นสือ “ข้านึกว่าเรามีเรื่องสนทนากันตามลำพัง” “เจ้าไม่ได้ส่งนางผู้นี้มาทำร้ายข้าหรอกหรือ” ฝีมืออย่างนาง... จ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status