หน้าหลัก / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter 72. พวกท่านทำอะไรกัน 

แชร์

Chapter 72. พวกท่านทำอะไรกัน 

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 14:09:27

“สิ่งที่ทำในตอนนี้ต่างหากที่จะทำให้ข้าไม่กลับมาที่นี่อีก!” แววตานางจ้องมองเขาอย่างไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย แผ่นหลังของนางเกร็งและตั้งตรงเหมือนแมวที่กำลังพองขนขู่อีกฝ่ายให้กลัว

“อิงฮวา” เขาครางเรียกชื่อนางอย่างเศร้าหมอง เขาชอบนางที่ร่าเริงและอ่อนหวาน ในขณะเดียวกันนี้ นางก็เข้มแข็งจนชวนให้หลงใหล เขาอ้าปากกำลังจะพูดบางสิ่ง หางตาก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังวิ่งเข้ามา เขาชะงักไปเล็กน้อย หญิงสาวเห็นท่าทางของเขาแล้วก็เอะใจ นางหันไปทางประตูและเพียงพริบตา ร่างเล็กของซุนเย่ผิงก็วิ่งพรวดพราดเข้ามา

“พวกท่านทำอะไรกัน!”

ซุนเย่ผิงกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเห็นบนตักของโจวฟู่หรงมีหญิงอื่นนั่งอยู่ นางแทบอยากเข้าไปกระชากออกมาแล้วฉีกเป็นชิ้นๆ ซ้ำเสื้อผ้าของโจวฟู่หรงยังไม่เรียบร้อยอีกต่างหาก นางชี้หน้าอิงฮวาแล้วกรีดร้อง

“ท่านหญิง ท่านเข้าใจผิดแล้ว” อิงฮวาอาศัยจังหวะที่เขาคลายข้อมือ รีบลุกขึ้นแล้วถอยห่าง

“ก็เห็นอยู่ตำตา เจ้าจะแก้ตัวอะไรอีก!”

“ข้าน้อยเพียงแค่ทำแผลให้หัวหน้าโจว แล้วซุ่มซ่ามล้มลงเท่านั้น”

“แผล? พี่ฟู่หรงมีบาดแผลอะไรกัน ไยข้าไม่รู้” ซุนเย่ผิงรีบเดินเข้ามาใกล้ๆ พอเห็นบาดแผลของโจวฟู่หรงแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 73.  คงไม่เป็นอะไรหรอกนะ

    “กลับบ้าน? เจ้าจะกลับบ้านที่ไหนอิงฮวา เจ้าจำได้แล้วรึ” ลู่อู๋จับแขนของหญิงสาวด้วยแววตาตื่นเต้นดีใจ แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าน้อยๆ “ข้ายังจำอะไรได้ไม่หมด แต่ข้ารู้สึกว่ามีบิดาที่รักและเป็นห่วงข้ามาก ตอนนี้ได้ข่าวจากจวนแม่ทัพจ้าวว่าได้ช่วยบิดาของข้าไว้และพักอยู่ที่นั่น ข้าจะกลับไปพร้อมกับคุณชายจ้าว” “ดีจริง ในที่สุดเจ้าก็จะได้กลับไปเจอครอบครัว” ลู่อู๋ดีใจจนแทบจะหลั่งน้ำตา แม้จะอยู่ด้วยกันเวลาสั้นๆ แต่นางก็รักและเอ็นดูหญิงสาวผู้นี้นัก “จะ เจ้า จะ ดะ เดิน ทะ ทาง เมื่อใดกัน” จินปู๋ถามขึ้น เขาเองก็ดีใจที่รู้ว่าอิงฮวาจะได้กลับไปเจอครอบครัว“วันมะรืน” นางตอบแล้วเดินไปหยิบกระจาดที่ใส่อุปกรณ์เย็บปักถักร้อย “ท่านน้า อาการปวดหัวของท่านดีขึ้นหรือไม่ ข้าจะเขียนเทียบยาไว้ให้ท่านนะ”หญิงสาวเองก็รู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย แม้จะดีใจที่จะได้กลับไปเจอบิดาของตน ช่วงระยะเวลาตั้งแต่นางฟื้นที่ตีนภูเขาและพบจินปู๋นั้นราวหนึ่งเดือน ความรู้สึกผูกพันย่อมมีไม่น้อย กลับไปครั้งนี้แล้วก็ไม่รู้อีกนานเพียงใดจะได้พบกันอีก คิดถึงตอนนี้แล้วนางก็ปรารถนาจะทำอะไรให้พวกเขาได้มากกว่านี้ แต่นางเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 74. รัก

    อิงฮวาขยับมือไล่ให้จินปู๋ที่ละล้าละลังว่าจะทำอย่างไรดี เขาเป็นห่วงทั้งสองแต่อีกคนก็เอาแต่ใจตนเอง เร่งเดินเข้าไปไม่รออีกคนที่เพิ่งเดินมาถึง หญิงสาวมองเห็นแผ่นหลังของจินปู๋ก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง อย่างน้อยเขาก็ตัวโตจนนางมองเห็นได้ชัดถนัดตาไม่ต้องกลัวหลง คราวก่อนที่เข้าป่ามาหาเม็ดบัวไปต้มเป็นยาบำรุงให้ท่านน้าลู่อู๋ นางก็ใช้วิธีนี้ทำให้ไม่พลัดหลงกับเขา หญิงสาวรวบชายกระโปรงแล้วเดินไปตามทางเส้นเล็กๆ คนที่นี่คงเข้าป่ามาสักการะเทพภูเขาอยู่บ่อยๆ เพราะเส้นทางที่เดินคล้ายกับเดินจนเป็นรอยทางเดินไปแล้ว เพราะตั้งใจไปหาเม็ดบัวให้ลู่อู๋ ทำให้ครั้งนั้นนางพบโจวฟู่หรงโดยบังเอิญ ในคราวนั้นนางไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ชายร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ เส้นสายบนใบหน้าดูกระด้างทว่าแววตาแน่วแน่เด็ดเดี่ยว กลิ่นอายของเขาเหมือนราชสีห์ที่เพียงแค่สบตาสัตว์น้อยใหญ่ก็พากันหวาดกลัวตัวสั่น ทว่า... นางกลับรู้สึกว่านั่นเป็นเพียงเกราะที่เขาสร้างขึ้นเพื่อมิให้ผู้ใดเข้าใกล้ แท้จริงแล้ว เขาเป็นคนที่ห่วงใยผู้อื่นที่สุด ครั้งนี้ที่บาดเจ็บก็เพราะตนเองไปปกป้องลูกน้อง นางไม่ได้กลัวเขา ที่ผ่านมาเขาออกจะมีเมตตากับนางไม่น้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 75.  เรื่องเป็นเช่นนี้เอง

    ซุนเย่ผิงหันหลังให้ นางเดินไปหยิบตะกร้าที่ถือติดมือมาด้วย หยิบขวดสุราออกมาแล้วตั้งบนก้อนหินขนาดใหญ่ เตรียมเครื่องบูชา นางไม่ได้มีความรู้ด้านการรักษาเหมือนอิงฮวาแต่นางก็เชื่อมั่นว่าความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของนางจะทำให้เทพเจ้าประทานพรให้นางเป็นแน่ นางเพียงรอแค่จินปู๋เก็บดอกไม้สำหรับบูชามาให้ ก็จะได้ร่ายคำบูชาและขอพรเสียงสวบสาบและกอหญ้าสูงขยับไหวทำให้สองหญิงสาวหันไปมอง เพียงพริบตาหมาป่าตัวใหญ่ย่างเท้าออกมาจากพุ่มไม้ อิงฮวารู้สึกตัวได้ก่อนก็รีบก้าวไปยืนด้านหน้าซุนเย่ผิง“ทำไมมีหมาป่า”ซุนเย่ผิงงึมงำ หมาป่าเพิ่งถูกต้อนให้เข้าไปในป่าลึกกว่านี้ไม่ใช่เหรอ นางได้สติก็ยกมือขึ้นชักมีดสั้นที่เหน็บเอวออกมา ทันใดนั้นชายสี่ห้าคนก็เดินออกมาจากพุ่มไม้พร้อมรอยยิ้มเหี้ยมบนใบหน้าที่มีรอยแผลเป็น ซุนเย่ผิงสะกดกลั้นความกลัวที่แล่นขึ้นมาจุกคอ พอกวาดตามองก็พบว่าทั้งสองตกอยู่ในวงล้อมของชายฉกรรจ์นับสิบที่แต่งกายปกคลุมตัวเองด้วยหนังสัตว์ บนใบหน้าที่แก้มข้างขวาของแต่ละคนมีรอยแดงสามขีดเป็นสัญลักษณ์ของเผ่าเสือดำ“พวกเจ้าเป็นใคร อย่าเข้ามานะ” อิงฮวาเองก็หวาดกลัวไม่แพ้กัน กลิ่นไออำมหิตทำให้นางแทบหมดสติด้วยความหวาดกลัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 76. เรื่องเป็นเช่นนี้

    “เรื่องเป็นเช่นนี้เอง” มิน่าเล่า คนกลุ่มนั้นจึงมักมาก่อกวนแล้วก็กลับขึ้นเขาอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ว่าโจวฟู่หรงจะไม่มีวันติดตามขึ้นไปแน่“กลับไปข้าจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับท่านพ่อ จะหาทางจัดการเรื่องนี้ให้ได้อย่างเด็ดขาด” คราวที่แล้วเขาอยู่ในเหตุการณ์ซุ่มโจมตี ได้เห็นความโหดเหี้ยมอำมหิตของเผ่าเสือดำที่ดุร้ายปานปีศาจมาแล้ว“เจ้าจะกลับแล้วรึ” หมอผู้เฒ่าเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม จ้าวจิ่นสือพยักหน้ารับเล็กน้อย “บิดาข้าส่งจดหมายเรียกตัวกลับ เมืองซูโจวฝนตกหนักประสบภัยน้ำท่วม บิดาต้องการให้ข้านำทหารไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน” หมอผู้เฒ่าลูบหนวดสีขาวของตนเองพลางพยักหน้ารับรู้ “แล้วแม่นางอิงฮวาล่ะ” “ข้าจะพานางกลับพร้อมกัน” “เจ้าจะเดินทางเมื่อใดกัน” “ความจริงข้าอยากเดินทางกลับเสียวันนี้ แต่ข้องใจเรื่องเผ่าเสือดำจึงรั้งอยู่ต่อเพื่อขอคำปรึกษากับหมอผู้เฒ่า มาบัดนี้เข้าใจแจ่มแจ้งดีแล้ว คิดว่าพรุ่งนี้จะเดินทางกลับ” “เช่นนั้น เจ้าไปพาอิงฮวามาพบข้าหน่อยเถิด ข้ามีบางอย่างจะฝากไปให้บิดาของนางด้วย” “ได้ นางอยู่บ้านจินปู๋ ข้าจะไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 77. พวกนางอยู่ไหน

    “ย่อมเป็นเช่นนั้น” นางยืนยันแล้วหันไปทางซุนเย่ผิง กระตุกมือนางเบาๆ เหมือนเรียกสติ แล้วพยักหน้าเป็นเชิงให้นางพยักหน้าตาม ซุนเย่ผิงที่ทั้งหวาดกลัวและงุนงงจึงได้แต่พยักหน้าหงึกๆอิงฮวาโล่งใจที่เห็นซุนเย่ผิงคล้อยตาม นางหันไปทางหัวหน้าเผ่าเสือดำแล้วยื่นมือข้างที่ว่าง ใช้นิ้วชี้แตะที่หน้าอกของอีกฝ่ายอย่างเย้ายวน“ท่านใช้กำลังกับนางก็ได้เพียงร่างกาย หากท่านได้ใจนาง ท่านจะได้ความภักดีไปชั่วชีวิต” หญิงสาวใจชื้นที่เห็นหัวหน้าเผ่าคล้อยตาม แน่นอนว่าทั้งนางและซุนเย่ผิงไม่อาจสู้รบตบมือกับคนเหล่านี้ได้ ขนาดจินปู๋ยังถูกทำร้ายสาหัสเช่นนั้น แล้วผู้หญิงไร้วรยุทธ์อย่างนางจะไปทำอะไรได้ “แทนที่ท่านจะใช้กำลังจับพวกเราไป มิสู้ท่านเอ่ยปากเชิญเราไปไม่ดีกว่ารึ แล้วท่านก็ปล่อยเจ้ายักษ์สมองถั่วไว้ที่นี่เถิด เห็นไหม พวกท่านต้องเหนื่อยเสียแรงเกินความจำเป็นจริงๆ”“เจ้าจะยอมไปกับข้าดีๆ เรอะ!”“หากท่านเชิญ พวกข้าย่อมยินดี” นางรู้ว่าเขาเพียงแค่ใช้เสียงข่มขู่ เมื่อเห็นนางไม่มีท่าทางหวาดกลัว อีกฝ่ายจึงผ่อนคลายวางความระมัดระวังลง“ดี! ถ้าเช่นนั้นก็ตามข้ามา!” “อืม” อิงฮวาหันไปทางซุนเย่ผิง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาทำทีเป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 78. เสียงกระดูกข้อมือลั่น

    พูดจบนางก็มองไปทางหัวหน้าเผ่าเสือดำแล้วร้องเสียงหลงก่อนจะทรุดลงนั่งพับเพียบลงไปกับพื้น บุรุษร่างสูงหนาราวกับหมีป่าชะงักแล้วหันกลับมามองด้วยสายตาเกียจคร้าน มองหญิงสาวที่พูดมากนั่งลูบเท้าตัวเองป้อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นเดินต่อไปง่ายๆ เขาจึงจำใจหมุนตัวเดินย้อนกลับมาดูนาง “เป็นอะไร” “ข้อเท้าแพลงเจ้าค่ะ” อิงฮวาลูบเท้าไปก็แสร้งทำเป็นเช็ดหางตา “ข้าน้อยไม่เคยเดินขึ้นเขา เผลอเดินสะดุดก้อนหินเข้าจนเท้าอยู่ในสภาพนี้” หัวหน้าเผ่าเสือดำทำเสียงรำคาญในลำคอ เขาไม่มีทางลดเกียรติมาอุ้มผู้หญิงเป็นแน่ กวาดตามองลูกน้องที่เดินประกบอยู่ แต่ละคนก็ไม่มีใครจะยอมมาอุ้มผู้หญิงให้เสียมือ “ต้องขออภัยด้วย ข้าน้อยขอนั่งพักสักครู่เถิด ท่านหญิงเองก็เหน็ดเหนื่อยเช่นกัน” หัวหน้าเผ่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเอ่ยตอบ “ก็ได้ ครู่เดียวนะ” “เจ้าค่ะ” แสดงกิริยาอ่อนน้อมจนอีกฝ่ายตายใจ ยอมให้นางรั้งเวลาอีกหน่อย นางเชื่อสุดใจว่าถ้าเขาเห็นว่านางยังไม่กลับไป จะต้องออกมาตามหาอย่างแน่นอน ขณะหาที่นั่งพักบนหญ้านุ่ม นางก็ลอบมองไปรอบๆ มีคนติดตามเพียงสิบกว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 79. ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน

    “เป็นเจ้าที่ร้องขอความตายจากกระบี่ของข้า!!”เขาหันกลับเพียงนิดเดียวก็ตวัดกระบี่ปะทะกับดาบของหัวหน้าเผ่าเสือดำ ด้วยกำลังภายในที่ส่งผ่านทำให้ดาบเล่มโตหัก แรงสั่นสะเทือนทำให้เจ้าของดาบไม่อาจจับด้ามดาบไว้ได้มั่น พลิ้วตัวอีกครั้งกระบี่ของเขาก็แทงทะลุตัดขั้วหัวใจทันทีจ้าวจิ่นสือหมุนตัวกลับ ไม่รอดูร่างใหญ่ที่โงนเงนส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มตึงลงไป เหล่าลูกน้องคนสนิทเห็นเข้าก็ทำอะไรไม่ถูก เข้าไปรุมล้อมร่างหัวหน้าเผ่า เฝ้ามองจนลมหายใจหมดไปแล้วจึงแหงนหน้าส่งเสียงร้องโหยหวนเจ็บปวด พากันหามร่างของหัวหน้าเผ่าหายไปในป่าราวกับไม่เคยมีการนองเลือดเกิดขึ้นที่นี่“ท่านหญิง ท่านบาดเจ็บหรือไม่” จินปู๋คลายวงแขนออก เขากอดนางเหมือนแม่ไก่ที่กางปีกปกป้องลูกไก่ ซุนเย่ผิงส่ายหน้าเร็วๆ แต่ใบหน้ายังซีดด้วยความตกใจ“อิงฮวา” นางเป็นห่วงหญิงสาวอีกคน “เจ้ารีบไปตามหานางเร็วเข้า”จินปู๋พยักหน้ารับ แต่พอลุกขึ้นยืนและหันหลังให้ ซุนเย่ผิงถึงกับกรีดร้องด้วยความตกใจ แผ่นหลังของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือด ซ้ำยังมีมีดปักอยู่อีกด้วยจ้าวจิ่นสือใช้วิชาตัวเบาแทบจะเหาะเหินเหยียบยอดไม้แล้วลงไปหาหญิงสาว เขาตะโกนเรียกแต่ไร้เสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 80. เสียงหัวเราะเยาะ

    เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของเขาทำให้นางโกรธจนคิดอะไรไม่ออก ไม่ดิ้นรนก็จะกลายเป็นเต็มอกเต็มใจ พอดิ้นรนก็กลายเป็นยั่วยวนอีกฝ่าย นางอยู่มาสิบหกปีไม่เคยมีชายใดทำกับนางอย่างนี้มาก่อน แม้จะเป็นหมอหญิงถูกสายตาดูถูกดูแคลนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยมีใครกล่าวหาว่าร้ายนางให้เสียเกียรติเช่นนี้ นางโกรธเขาแต่โกรธตัวเองมากกว่าที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางคิดเสมอว่าตัวเองนั้นเก่งกาจสามารถดูแลตัวเองและท่านพ่อได้ ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกว่าแท้จริงแล้วนางอ่อนแอเกินไป ไม่รู้วิธีรับมือเหตุการณ์เช่นนี้เลยด้วยซ้ำชายหนุ่มเห็นนางเริ่มนิ่งไป พอก้มลงมองก็เห็นเพียงนางก้มหน้าอยู่ จึงปล่อยนางออกจากวงแขนแล้วยกมือขึ้นประคองใบหน้าเล็กให้เงยหน้าขึ้น เพียงชั่วพริบตานางกลับจับมือใหญ่ของเขาแล้วงับเข้าไปเต็มแรง“โอ๊ย!” จ้าวจิ่นสือถึงกับร้องเสียงหลง อาศัยจังหวะที่เขาปล่อยนาง รีบผละออก หมุนตัวรีบก้าวเร็วๆ จะออกไปจากห้องนี้ ทว่า ข้อมือถูกกระชากไว้พร้อมกับร่างของนางที่ถูกหมุนกลับไป รวดเร็วจนไม่ทันกะพริบตา ริมฝีปากของนางก็ถูกประกบด้วยริมฝีปากของเขา ดวงตาสีนิลเบิกกว้างอย่างตกใจ ร่างเล็กถูกรวบมากอดแน่น แต่กระนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  130. น้อยใจ

    “เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” “ข้าหายดีแล้ว จะไปหาฟางเหนียง” เขาควรรีบไปอธิบายกับนาง เมื่อวานส่งจดหมายแจ้งให้ท่านพ่อทราบเรื่องภารกิจลับเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับพร้อมรับมู่ฟางเหนียงไปด้วยเลย โธ่! ยังมิทันไรก็เป็นพวก ‘เกรงใจภรรยา’ เสียแล้ว เหวินเฮ่าหลันได้แต่คลี่พัดโบกไปมา ปกปิดสีหน้าระอาใจ เป็นบุรุษองอาจ ไฉนต้องมาพะวักพะวนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “เจ้ารออยู่นี่แหละ เดี๋ยวนางก็มาแล้ว” “เฮ่ย!” “เจ้าจะร้องอะไร” เหวินเฮ่าหลันเห็นอาการของสหายแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะไปมา ได้ยินมาจากเคอหลิ่งหลินว่าจ้าวจิ่นสือบาดเจ็บแต่ไม่ให้เรียกมู่ฟางเหนียงมาทำแผลเพราะเกรงใจที่เป็นเวลาพักผ่อนของนางแล้ว อย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาอยู่แล้ว หน้าที่ภรรยาดูแลสามีก็ถูกแล้ว จะค่ำหรือสว่างจะเป็นไรไป เดือดร้อนต้องไปตามหมอผู้อื่นมารักษาให้ แม้จะไม่ใช่บาดแผลสาหัสก็เถอะ “ข้ายังไม่ได้อธิบายกับนาง นางมาเจอข้าแบบนี้...” “เจ้านี่! เป็นถึงรองแม่ทัพ! อย่ามาทำตัวกลัวเมียให้เสียชื่อหน่อยเลย!” เหวินเฮ่าหลันกดเสียงต่ำ เรื่องแบบนี้พ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 129. อย่าได้แบกความโกรธแค้นไว้เลย

    เคอหลิ่งหลินก็เห็นหญิงสาวในชุดแดงหน้าตาซีดเซียว นางมาไม่ทันจึงไม่รู้ว่าหญิงนางนี้มีเรื่องแค้นใดกับจ้าวจิ่นสือ แต่ด้วยความสงสารในท่าทีสับสนและดูเคว้งคว้างของนางจึงเดินเข้าไปใกล้ หมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ“แม่นาง อย่างไรแล้วค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถิด เจ้ามีบาดแผล ให้ข้าดูหน่อยจะเป็นไร” เคอหลิ่งหลินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทำให้ร่างของหญิงสาวในชุดแดงแข็งทื่อ กวาดตาจ้องมองคนทั้งหมด คนพวกนี้พูดคุยเหมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่นางนั้นเล่า ไร้ผู้ใดไม่มีใครอีกแล้ว ความเศร้าหมองและหดหู่กัดกินจิตใจ มือบางกำด้ามกริชแน่นขึ้น หมายมั่นจะเอาชีวิตของจ้าวจิ่นสือให้ได้ นางพุ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดหวาดกลัวและไม่สนใจว่านางอาจถูกฝ่ามือซัดกลับจนถึงแก่ชีวิตช่างปะไร นางจะได้ไม่ต้องเดียวดายอีกแล้ว“จิ่นสือ!” เป็นเสียงเคอหลิ่งหลินที่หวีดร้องอย่างตกใจ น้องชายนางกลับไม่หลบยืนนิ่งปล่อยให้หญิงนางนั้นแทงกริชเข้าชายโครงด้านซ้ายของเขา เพราะคิดว่าจ้าวจิ่นสือจะหลบหลีกหรือตอบโต้ได้ จึงไม่มีใครขวางหรือเข้าไปช่วย ทุกคนจึงตื่นตะลึง แม้แต่หญิงผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ“เจ้า! ไยไม่หลบข้า!” หญิงสาวในชุดแดงปล

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 128. ไม่ลดความพยายาม

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่ลดความพยายาม เตรียมพุ่งกริชเล่มเดิมนั้นใส่จ้าวจิ่นสืออีก นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่นางต้องการชีวิต ร่างบางง้างมือขึ้นแต่ยังไม่ทันไร แสงวาบหนึ่งก็พุ่งผ่านเฉียดมือนางไปเล็กน้อย แต่ก็กรีดผิวเรียกเลือดสีเข้มกระเซ็นออกมา หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแต่ไม่ยอมทิ้งกริชเพียงแค่ยกมือกุมบาดแผลแล้วมองมีดสั้นที่ปักบนผนังห้องก่อนจะตวัดสายตามองไปทางหน้าต่าง ผู้มาใหม่กระโจนเข้ามา ใบหน้ามีหน้ากากอสูรปกปิดครึ่งหน้าด้านบน แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่เห็นนาง คราวนี้จ้าวจิ่นสือจับกระบี่ขึ้นมา แต่หัตถ์เทวะกลับยกมือโบกไปมาคล้ายไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ แล้วเดินวนเวียนรอบกายหญิงสาว ดวงตาคู่งามนั้นไร้แววหวาดกลัวแต่กลับวาวโรจน์ดุจแมวป่า ‘ช่างน่าสนใจนัก!’ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป็นจ้าวจิ่นสือที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เห็นชัดว่าชายผู้นั้นไม่ได้รู้จักหญิงสาวในชุดสีแดง “เป็นข้าควรถามเจ้ามากกว่า” หัตถ์เทวะหันมาทางจ้าวจิ่นสือ “ข้านึกว่าเรามีเรื่องสนทนากันตามลำพัง” “เจ้าไม่ได้ส่งนางผู้นี้มาทำร้ายข้าหรอกหรือ” ฝีมืออย่างนาง... จ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status