แชร์

Chapter 52. ต้มยา

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-29 14:24:54

“ต้มยา ให้ใครต้มก็ได้” หมอผู้เฒ่าพูดตัดบท “เจ้าไปพักได้แล้ว”

“ขอรับ” เป็นจ้าวจิ่นสือที่เอ่ยแทนมู่ฟางเหนียง เขาวางตะเกียงลงแล้วประคองร่างเล็กไปที่อ่างล้างมือ ช่วยนางล้างคราบเลือดออกแล้วซับด้วยผ้าแห้ง

พ่อบ้านเข้ามาอย่างรู้หน้าที่ ชายหนุ่มทั้งสองมองตากันก็เข้าใจความหมาย เขาจึงพยุงอิงฮวาเดินออกไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้โจวฟู่หรงจัดการสั่งงานลูกน้องของตนเอง

ถ้านางรู้ว่าคืนนี้ต้องทำแผลให้คนบาดเจ็บหนัก นางคงไม่เอาพลังงานไปทำงานในครัวจนหมดสิ้นสภาพ พอออกมาจากห้องของโจวฟู่หรง ร่างบางก็ปะทะลมเย็นจนต้องห่อตัวและเพิ่งนึกได้ว่าลืมหยิบเสื้อคลุมออกมาด้วย เพียงพริบตาร่างเล็กก็ถูกช้อนตัวอุ้มขึ้น หญิงสาวตกใจรีบยกมือขึ้นคล้องคอของเขาไว้ เผลอกอดแน่นเมื่อเขากระโดดอุ้มนางตัวลอย หญิงสาวหลับตาปี๋ไม่รู้ว่าเขาพานางเหาะเหินมาอย่างไร ก็ต่อเมื่อเขาหยุดนิ่งแล้ว นางจึงลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าของเขามีรอยยิ้มอ่อนโยนจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว นางหลบสายตาคู่นั้นมองไปทางอื่น จึงรู้ว่าเขาใช้วิชาตัวเบาพานางกลับมาที่หน้าห้องตัวเอง

เขาปล่อยให้นางยืนแล้วจึงเอื้อมมือไปเปิดประตูให้

“ไม่ต้องเข้ามานะ” นางห้ามไว้ก่อน แล้วก็ยกมือปิดปากที่อ้าหาวด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 53. อย่ากินข้าเลย ข้าไม่อร่อยหรอก

    เพราะยุ่งอยู่จึงไม่ได้สนใจใคร่ถามอะไรมาก อิงฮวาเร่งเท้าเดินกลับไปทางเก่า ตามเส้นทางที่คนผู้นั้นผูกผ้าไว้ให้นางไม่หลงทาง พอเดินมาผ่านศาลาหกเหลี่ยมก็พอจะจำได้ว่าเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึงเรือนพักของจ้าวจิ่นสือ อากาศใกล้รุ่งนี่ช่างหนาวเย็นนัก คนตัวเล็กรีบเดินเร็วๆ เกือบจะกลายเป็นวิ่งไปจนสุดทางเดิน นางหอบหายใจทางปาก พ่นเอาควันสีขาวออกมา นางหยุดที่บานประตู ไม่เห็นวี่แววความเคลื่อนไหวใดๆ จึงเรียกเขาเสียงไม่ดังนัก“จ้าวจิ่นสือ...”ไม่รู้เขาอ่อนเพลียหลับลึกหรือว่าบาดเจ็บล้มป่วย นางรออย่างกระสับกระส่าย ไม่เห็นผู้ใดมาเปิดประตูให้ นางเรียกซ้ำอีกหลายครั้งแต่ก็เงียบไร้เสียงตอบกลับ มือเรียวจึงผลักบานประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย เรือนพักของเขาคล้ายเรือนพักของนาง เพียงแค่อยู่คนละฝั่งกัน หญิงสาวเดินดุ่มๆ เดาทิศทางของห้องนอน“จ้าวจิ่นสือ ท่านเป็นอะไรหรือไม่” ด้วยความเป็นห่วงจึงร้อนรน รีบเข้าไปผลักม่านที่เตียงของเขาออก ทว่ามือข้างนั้นกลับถูกกระชากอย่างแรงและรวดเร็วจนหญิงสาวไม่ทันเปล่งเสียง เพียงพริบตาร่างเล็กก็ถูกเหวี่ยงขึ้นเตียงและถูกตรึงให้นอนหงายอยู่เบื้องล่างร่างกายใหญ่โตของเขา ดวงตาคมวาวดุจคมกระบี่จ้องมอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 54. รสหวานละมุนจากกายนาง

    จ้าวจิ่นสืออยากจะรั้งนางไว้ หยิบเสื้อคลุมให้นางก่อน แต่นางก็วิ่งออกไปแล้ว เขาได้แต่ส่ายหน้าไปมา นางเหมือนกระต่ายป่าปราดเปรียว เห็นทีว่ากลับไปครั้งนี้เขาคงต้องหาตะกร้าใบใหญ่ๆ ขังนางไว้ไม่ให้หนีหายไปไหนอีก ‘อย่ากินข้าเลยนะ ข้า..ข้าไม่อร่อยหรอก’พลันคิดถึงคำพูดของนาง เขาก็หัวเราะออกมา ยกนิ้วโป้งขึ้นแตะริมฝีปากของตนเอง คิดถึงรสหวานละมุนจากเรือนกายของนางใครบอกเนื้อของนางไม่อร่อย มันแสนจะหวานล้ำ ชวนให้แทะเล็มละเลียดกินทีละคำก่อนกลืนกินนางทั้งเป็นหญิงสาววิ่งกลับไปที่ครัวอีกครั้งก็สว่างมากแล้ว หลายคนทยอยเข้ามาช่วยงานในครัว ปาน่าเงยหน้ามาเห็นนางก็รีบกวักมือเรียก“เมื่อครู่พ่อบ้านให้เด็กมาบอกว่ายกยาไปให้หัวหน้าโจวได้แล้ว”“เจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับ “โจ๊กเสร็จแล้ว ข้าจะยกไปพร้อมกันเลย”เพราะไม่ต้องการให้ใครสงสัย นางจึงให้เด็กรับใช้ยกโจ๊กไปพร้อมกับอิงฮวาที่ยกถ้วยยา เมื่อไปถึงห้องของโจวฟู่หรง เขาก็นั่งอยู่ก่อนแล้ว สวมเสื้อคลุมหลวมๆ ท่วงท่าสง่างามไม่เหมือนคนบาดเจ็บหนักเลยสักนิด พ่อบ้านไล่เด็กรับใช้ออกไปแล้ว อิงฮวาก็เดินเข้าไปยื่นถ้วยยาให้เขาดื่ม หญิงสาวสังเกตแขนขวาที่ทิ้งข้างตัวนิ่งคล้ายเขาจะขยับไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 55. ดูแลคนป่วย

    “ไหนบอกว่าหิว ทำไมกินนิดเดียว” เขาบ่นพึมพำที่เห็นนางกินคำเล็กๆ แม้เขาจะเคยถูกเลี้ยงดูในวังหลวง แต่เมื่อใช้ชีวิตในกองทัพก็กินอยู่ง่ายๆ ไม่เรื่องมาก เขาคีบเนื้อปลาวางไว้บนถ้วยข้าวของนาง“กระเพาะข้าเล็ก กินแค่พออิ่มก็อยู่ได้” นางขึงตาใส่ แต่เขากลับเห็นเป็นเรื่องขบขัน คงเพราะเมื่อเช้าเขาแกล้งนางแรงไปนิด นางจึงยังเคืองเขาอยู่บ้าง “แต่กับของอร่อย กินยังไงก็ไม่อิ่ม” การจงใจพูดของเขาทำให้นางชะงักไป พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นแววตาหยอกล้อ หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาคู่นั้นคนบ้า! นางตั้งใจจะลืมเรื่องนั้นไปแล้วแท้ๆ มาสะกิดให้นางคิดทำไมนะ!จ้าวจิ่นสือเห็นนางเดือดดาลแต่โต้กลับไม่ได้ก็กลั้นหัวเราะ อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ตั้งใจยุติการก่อกวนของตนเองแล้วจัดการกินมื้อเช้าจนเสร็จเรียบร้อยพอกินมื้อเช้าเสร็จ อิงฮวาตั้งใจจะหมกตัวเองในครัว แต่จ้าวจิ่นสือไม่ยอมห่างนาง ปาน่าเห็นแล้วแสนจะรำคาญจึงออกปากไล่คนทั้งสองออกจากครัวของนาง“เจ้าสองคนนี้ไปเล่นที่อื่นไป!”แทนที่จ้าวจิ่นสือจะหน้าเสีย เขากลับหัวเราะในลำคอดุจแผนการของตนเองลุล่วง เขาจับข้อมือนางกึ่งลากกึ่งจูงออกไป“จะพาข้าไปไหน”“ไม่ไปไหนหรอก อยู่แถวนี้แหละ รอใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 56.  อวดดี

    เจ้ากระต่ายน้อยทำอวดดี แต่จริงๆ ก็กลัวถูกเขาจับกินเสียแล้ว เพราะหยุดพักและเดินทางไม่รีบเร่ง ทำให้ใช้เวลากว่าสองชั่วยาม จ้าวจิ่นสือก็พาอิงฮวามาถึงหมู่บ้านธารจันทร์ ชนเผ่าขนาดเล็ก มีผู้คนอาศัยอยู่ราวห้าร้อยชีวิต บ้านเรือนเป็นลักษณะกระโจม อยู่เรียงรายใกล้แม่น้ำ เขาควบม้าไปยังกระโจมของผู้เฒ่าเจี่ยน ผู้เฒ่าที่ได้รับความนับถือของหมู่บ้าน เขาลงจากม้าแล้วจึงยื่นมือไปประคองให้นางลงมา ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นนางทำหน้าขรึม แววตาของเขาเต็มไปด้วยคำถาม เขาทำอะไรผิดไปละนี่! “พวกเจ้ามาแล้วรึ” ผู้เฒ่าเจี่ยนร้องทัก “ขอรับ” จ้าวจิ่นสือพยักหน้าอย่างนอบน้อม แล้วเอื้อมมือดันแผ่นหลังของหญิงสาวตัวเล็กให้ก้าวมาข้างหน้า นางดูประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะย่อตัวคารวะผู้เฒ่าเจี่ยน “ข้าน้อยอิงฮวาเจ้าค่ะ” ผู้เฒ่าเจี่ยนเพียงแค่พยักหน้ารับแต่ไม่พูดหรือถามอะไร หมุนตัวหันหลังให้ เดินโดยมีไม้เท้าช่วยพยุง แต่กระนั้นก็ยังดูกระฉับกระเฉงยิ่งนัก สองหนุ่มสาวเดินตามผู้เฒ่าเจี่ยนไปยังกระโจมใหญ่หลังหนึ่งที่ตั้งห่างจากกระโจมอื่นอยู่พอสมควร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 57. ริมแม่น้ำ

    “ไม่ถูกต้อง แบบนี้ไม่ถูกต้อง” นางถอนหายใจหนักหน่วง“ไม่ถูกต้องอย่างไร”“ก็ข้าเคยถามท่านว่า ข้ากับท่านเป็นอะไรกัน ท่านก็ไม่เคยตอบ แล้วท่านก็ไม่มีทั้งภรรยา คู่หมั้น หรือคนรัก แล้วใครกันที่ว่าร้ายประหนึ่งว่าข้าได้แย่งของรักของผู้อื่นมาเล่า!”ชายหนุ่มก็จนปัญญา เขาไม่ถนัดปลอบใจผู้อื่นเสียด้วย“หรือเป็นผู้อื่น” นางพยายามเค้นสมองจนยกมือขึ้นกุมขมับทั้งสองข้าง“มู่ฟางเหนียง” เขาจับมือสองข้างของนาง สายตาทอดมองอย่างอ่อนโยน ทำให้นางหยุดความคิดของตนเองแล้วดำดิ่งในดวงตาคมวาวของเขาได้ “เชื่อข้าสักครั้งเถิด เจ้าไม่ใช่ผู้หญิงเช่นนั้น”น่าแปลกที่นางกลับสงบใจกับถ้อยคำที่ราวกับให้สัตย์สาบานของเขา หัวใจของนางจึงสงบลง เขาเห็นท่าทางของนางแล้วก็ยอมปล่อยมือของตนออก หญิงสาวสูดลมหายใจลึกก่อนพยักหน้าช้าๆ“ก็ได้ ข้าจะเชื่อท่านสักครั้ง”“หลายครั้งก็ได้”“ชิ!” นางแยกเขี้ยวใส่ คนผู้นี้ช่างเกิดมาเป็นดาวมารประจำตัวนางโดยแท้ แต่เขากลับยิ้มด้วยแววตา ทำให้นางไม่เอ่ยปากโต้เถียงกับเขา หญิงสาวรู้สึกสงบใจได้แล้วก็ทบทวนอาการคนป่วยที่เห็นเมื่อครู่“คนป่วยเหล่านั้นเจ็บป่วยมากี่วันแล้ว” “ราวๆ สิบวันเห็นจะได้” เขาตอบไปตามตรง “เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 58. โรคระบาด

    “ฟางเหนียง” น้ำเสียงเรียกเหมือนปราม ทำให้หญิงสาวหันไปมองใบหน้าคนตัวสูงที่จ้องเขม็งมองหน้านาง แล้วนางก็หัวเราะคิกคักออกมา ทำให้เขาต้องเอ่ยปากถามว่านางหัวเราะเรื่องใดกัน “ข้าไม่ได้หัวเราะท่าน แค่รู้สึกเหมือนว่ามีใครบางคนชอบใช้น้ำเสียงแบบนี้กับข้าบ่อยๆ” นางยิ้ม “ข้าต้องเป็นเด็กดื้อที่ทำให้ท่านพ่อปวดหัวเป็นแน่” “ข้าเชื่อว่าพ่อของเจ้าจะปลอดภัย” หญิงสาวพยักหน้ารับ นางหวังใจให้เป็นเช่นนั้น ปลอบใจตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่านมากเกินไป “อากาศยามค่ำที่นี่จะหนาวเย็นมาก เจ้ารีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยกินข้าวจะดีกว่า” เขาอดเป็นห่วงนางไม่ได้ “ค่อยๆ หาทางรักษาเถิด” “ข้าก็คิดเช่นนั้น” นางรู้ดีว่าร่างกายตัวเองไม่ทนกับอากาศหนาวเย็นนัก หากล้มป่วยเป็นอะไรไปจะกลายเป็นภาระของผู้อื่น “ท่านหมอผู้เฒ่าก็ยังมาไม่ถึง ข้าจะปรึกษาผู้ใดได้เล่า” มีเพียงการถอนหายใจหนักๆ ที่ระบายความกลัดกลุ้มในอกได้ จ้าวจิ่นสือพานางเดินไปยังกระโจมที่พักที่อยู่ห่างจากกระโจมของผู้ป่วยไกลสักเล็กน้อย นางหยุดยืนแล้วกวาดตามองไปรอบๆ คล้ายกระโจมที่นางเคยอาศัย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 59. รีบออกมาได้แล้ว

    “ฟางเหนียง ...มู่ฟางเหนียง” เขาเรียกนางซ้ำหลายครั้ง ยื่นมือลงไปจุ่มน้ำ น้ำอุ่นเปลี่ยนเป็นน้ำเย็นแล้ว นางหลับในอ่างน้ำแบบนี้จะได้กลายเป็นคนป่วยเสียเอง เขาเรียกนางซ้ำอีกสองสามครั้ง หากนางไม่ขยับเขาคงต้องอุ้มนางขึ้นมา“ฮือ” หญิงสาวครางรับออกมา น้ำเสียงเกียจคร้าน ภาพในฝันเลือนหาย ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่นางเห็นคือดวงตาคมที่จ้องมองอย่างห่วงใย นางหลับตาลงอีกครั้ง ตั้งสติก่อนลืมตาอีกทีก็เห็นว่าเขายังอยู่ แต่แววตามีรอยตำหนินางชัดเจนจนนางขมวดคิ้ว‘นางทำอะไรผิดอีกล่ะ’อิงฮวารู้สึกตัวก็ตกใจ นางยังอยู่ในอ่างอาบน้ำ! เขาเข้ามาได้อย่างไรกัน!“ท่านเข้ามาได้อย่างไร! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” นางตวาดเสียงสั่น แล้วเลื่อนตัวลงไปในน้ำจนปริ่มปลายคาง“จะไปได้อย่างไร เจ้าอยู่สภาพนี้นานเท่าไหร่แล้ว!” เขาโกรธควันแทบออกหู “จะอย่างไรท่านก็ออกไปก่อน!” นางอายจนตัวแดงไปหมด นางยกมือขึ้นปิดทรวงอกสล้างจ้าวจิ่นสือได้แต่สะบัดหน้าแล้วหันหลังให้ ยกมือขึ้นกอดอกขบฟันจนแทบกลายเป็นสันนูน“รีบออกมาได้แล้ว”“ท่านจะมายืนอะไรตรงนี้ ออกไปสิ” นางตวาดเขาแล้วก็เผลอจามออกมา นี่นางเผลอหลับไปนานเพียงใดแล้ว น้ำในอ่างเย็นหมดแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 60. รักษาโรคประหลาด

    เหนื่อยล้ามาทั้งวัน นางจึงผล็อยหลับไปในที่สุด ไม่รู้ว่าคนตัวสูงที่แกล้งหลับไปนั้นลุกขึ้นมาเดินมาดูใบหน้านางยามหลับ เป็นครั้งแรกที่เขาปรนนิบัติผู้อื่น แต่เพราะเห็นนางเหนื่อยทั้งวัน เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่สิ่งที่รบกวนจิตใจของเขาคือความรู้สึกที่อยากดูแลนางตลอดไปนั้น มันคืออะไรกันล่วงเข้าสู่วันที่สาม แม้มู่ฟางเหนียงจะรั้งชีวิตคนไว้ได้แต่คนป่วยก็ยังมีเพิ่มขึ้น คนไหนที่อาการดีขึ้นนางก็ให้แยกกลับไปพักที่บ้านได้ แต่นางยังแวะเวียนไปตรวจดูอาการอย่างสม่ำเสมอ จ้าวจิ่นสือลอบถอนหายใจ มีเพียงแผ่นหลังของบิดาที่เขาเดินตามเท่านั้น ใครเลยจะรู้ว่าสองสามวันมานี้เขาต้องเดินตามแผ่นหลังของมู่ฟางเหนียง กว่าจะรู้ตัวเขาก็เข้าใจกระจ่างว่าเหตุใดหญิงสาวจึงมักหลงทิศหลงทางอยู่เป็นประจำ เพียงเพราะนางมีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา เขาต้องคอยแตะข้อศอกหรือไม่ก็จูงมือนางไม่ให้เดินเลยไปในทิศทางที่ต้องไป เคยคิดว่าเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่บุรุษต้องมาใส่ใจ แต่เมื่อเอาเข้าจริง เขากลับไม่รู้สึกรำคาญหรือเบื่อหน่าย หากไม่มีเขาอยู่ นางก็คงดูแลตัวเองได้อย่างที่เคยเป็นมา แต่เขาจะอยู่อย่างไร หัวใจเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  130. น้อยใจ

    “เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” “ข้าหายดีแล้ว จะไปหาฟางเหนียง” เขาควรรีบไปอธิบายกับนาง เมื่อวานส่งจดหมายแจ้งให้ท่านพ่อทราบเรื่องภารกิจลับเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับพร้อมรับมู่ฟางเหนียงไปด้วยเลย โธ่! ยังมิทันไรก็เป็นพวก ‘เกรงใจภรรยา’ เสียแล้ว เหวินเฮ่าหลันได้แต่คลี่พัดโบกไปมา ปกปิดสีหน้าระอาใจ เป็นบุรุษองอาจ ไฉนต้องมาพะวักพะวนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “เจ้ารออยู่นี่แหละ เดี๋ยวนางก็มาแล้ว” “เฮ่ย!” “เจ้าจะร้องอะไร” เหวินเฮ่าหลันเห็นอาการของสหายแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะไปมา ได้ยินมาจากเคอหลิ่งหลินว่าจ้าวจิ่นสือบาดเจ็บแต่ไม่ให้เรียกมู่ฟางเหนียงมาทำแผลเพราะเกรงใจที่เป็นเวลาพักผ่อนของนางแล้ว อย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาอยู่แล้ว หน้าที่ภรรยาดูแลสามีก็ถูกแล้ว จะค่ำหรือสว่างจะเป็นไรไป เดือดร้อนต้องไปตามหมอผู้อื่นมารักษาให้ แม้จะไม่ใช่บาดแผลสาหัสก็เถอะ “ข้ายังไม่ได้อธิบายกับนาง นางมาเจอข้าแบบนี้...” “เจ้านี่! เป็นถึงรองแม่ทัพ! อย่ามาทำตัวกลัวเมียให้เสียชื่อหน่อยเลย!” เหวินเฮ่าหลันกดเสียงต่ำ เรื่องแบบนี้พ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 129. อย่าได้แบกความโกรธแค้นไว้เลย

    เคอหลิ่งหลินก็เห็นหญิงสาวในชุดแดงหน้าตาซีดเซียว นางมาไม่ทันจึงไม่รู้ว่าหญิงนางนี้มีเรื่องแค้นใดกับจ้าวจิ่นสือ แต่ด้วยความสงสารในท่าทีสับสนและดูเคว้งคว้างของนางจึงเดินเข้าไปใกล้ หมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ“แม่นาง อย่างไรแล้วค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถิด เจ้ามีบาดแผล ให้ข้าดูหน่อยจะเป็นไร” เคอหลิ่งหลินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทำให้ร่างของหญิงสาวในชุดแดงแข็งทื่อ กวาดตาจ้องมองคนทั้งหมด คนพวกนี้พูดคุยเหมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่นางนั้นเล่า ไร้ผู้ใดไม่มีใครอีกแล้ว ความเศร้าหมองและหดหู่กัดกินจิตใจ มือบางกำด้ามกริชแน่นขึ้น หมายมั่นจะเอาชีวิตของจ้าวจิ่นสือให้ได้ นางพุ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดหวาดกลัวและไม่สนใจว่านางอาจถูกฝ่ามือซัดกลับจนถึงแก่ชีวิตช่างปะไร นางจะได้ไม่ต้องเดียวดายอีกแล้ว“จิ่นสือ!” เป็นเสียงเคอหลิ่งหลินที่หวีดร้องอย่างตกใจ น้องชายนางกลับไม่หลบยืนนิ่งปล่อยให้หญิงนางนั้นแทงกริชเข้าชายโครงด้านซ้ายของเขา เพราะคิดว่าจ้าวจิ่นสือจะหลบหลีกหรือตอบโต้ได้ จึงไม่มีใครขวางหรือเข้าไปช่วย ทุกคนจึงตื่นตะลึง แม้แต่หญิงผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ“เจ้า! ไยไม่หลบข้า!” หญิงสาวในชุดแดงปล

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 128. ไม่ลดความพยายาม

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่ลดความพยายาม เตรียมพุ่งกริชเล่มเดิมนั้นใส่จ้าวจิ่นสืออีก นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่นางต้องการชีวิต ร่างบางง้างมือขึ้นแต่ยังไม่ทันไร แสงวาบหนึ่งก็พุ่งผ่านเฉียดมือนางไปเล็กน้อย แต่ก็กรีดผิวเรียกเลือดสีเข้มกระเซ็นออกมา หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแต่ไม่ยอมทิ้งกริชเพียงแค่ยกมือกุมบาดแผลแล้วมองมีดสั้นที่ปักบนผนังห้องก่อนจะตวัดสายตามองไปทางหน้าต่าง ผู้มาใหม่กระโจนเข้ามา ใบหน้ามีหน้ากากอสูรปกปิดครึ่งหน้าด้านบน แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่เห็นนาง คราวนี้จ้าวจิ่นสือจับกระบี่ขึ้นมา แต่หัตถ์เทวะกลับยกมือโบกไปมาคล้ายไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ แล้วเดินวนเวียนรอบกายหญิงสาว ดวงตาคู่งามนั้นไร้แววหวาดกลัวแต่กลับวาวโรจน์ดุจแมวป่า ‘ช่างน่าสนใจนัก!’ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป็นจ้าวจิ่นสือที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เห็นชัดว่าชายผู้นั้นไม่ได้รู้จักหญิงสาวในชุดสีแดง “เป็นข้าควรถามเจ้ามากกว่า” หัตถ์เทวะหันมาทางจ้าวจิ่นสือ “ข้านึกว่าเรามีเรื่องสนทนากันตามลำพัง” “เจ้าไม่ได้ส่งนางผู้นี้มาทำร้ายข้าหรอกหรือ” ฝีมืออย่างนาง... จ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status