หน้าหลัก / โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter  101.  เจ้าจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่

แชร์

Chapter  101.  เจ้าจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 02:07:03

“ท่าน... ต้าซื่อ” นางทักชายผู้นั้น มู่ฟางเหนียงรู้เพียงว่าเขาเป็นผู้อารักขาคุณชายเฉินที่บิดาเคยตรวจรักษา และก่อนหน้านี้คุณชายเฉินถูกพิษจนดวงตาเกือบบอด แต่ก็รอดมาได้เพราะมีผู้นำไข่มุกหมื่นราตรีมาถอนพิษและเดินทางกลับเมืองหลวงไป แต่นางไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคุณชายเฉินที่นางกับพ่อรู้จักเป็นถึงองค์ชายไท่หยาง พระโอรสองค์โตของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

จ้าวจิ่นสือขมวดคิ้ว แต่ไม่เอ่ยอะไร

“ดีจริงได้เจอแม่นางมู่อีกครั้ง ข้ามาเรียนเชิญท่านหมอมู่ไปรักษาคนอยู่พอดี”

“มีผู้ใดเป็นอะไรรึ” นางอดถามไม่ได้

ต้าซื่อมองดูแล้วว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่มีผู้อื่น เรื่องสำคัญก็จริง แต่คนเบื้องหน้าก็คือคุณชายจ้าวจิ่นสือที่เป็นพี่น้องกับแม่นางเคอหลิ่งหลิน แม่นางมู่ก็เป็นบุตรสาวท่านหมอมู่หยางซัว ส่วนพ่อบ้านตู้นั้นก็คนคุ้นเคย เก็บเรื่องลับได้ดีอยู่แล้ว เขาจึงเอ่ยตอบมู่ฟางเหนียงไปตามตรง

“แม่นางเคอได้รับพิษจากที่ไปนำไข่มุกหมื่นราตรีมารักษาองค์ชายไท่หยาง แม้จะถูกขับออกมาแล้ว แต่พิษนั้นยังหลงเหลืออยู่ จำเป็นต้องใช้วิชาเข็มเงินของท่านหมอมู่ฝังเข็มช่วยขับลิ่มเลือดเพื่อให้กลับฟื้นร่างกายใช้กำลังภายในได้ดั่งเดิม”

“ท่านพ่อต้องเดินทางไปกั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 102. เขาเป็นบ้าไปแล้ว  

    แล้วนางล่ะ นางจะกลายเป็นแบบจิวฉิงหรือไม่ นางไม่ได้ใฝ่สูง แต่นางไม่รู้ว่าตนเองจะใจกว้างพอที่ใช้สามีร่วมกับผู้อื่นหรือไม่ หญิงสาวเหม่อลอยทิ้งตัวนั่งบนเตียงนอน หวาดกลัวกับความคิดของตนเอง เสียงกรีดร้องของจิวฉิงยังดังในหัวของนาง ประตูห้องนอนถูกเปิดออกอีกครั้ง นางเงยหน้าขึ้น เห็นจ้าวจิ่นสือเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง “พ่อของเจ้าออกไปกับองครักษ์ผู้นั้นแล้ว”“อืม” นางพยักหน้ารับ“ดูท่าทางเจ้าสนิทสนมกับเขาดีนะ”“เขาเป็นผู้อารักขาคุณชายเฉิน แล้วคุณชายเฉินก็เป็นคนป่วยที่ท่านพ่อรักษาอยู่ตั้งสองปี ข้าเลยพลอยรู้จักต้าซื่อไปด้วย”“เขาชื่อต้าซื่อเรอะ”“อืม ก็ข้าพูดไปแล้วนี่”นางจ้องหน้าเขา เห็นแววตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ นางก็ขมวดคิ้วทบทวนว่าตนเองพูดอะไรผิดไป แล้วนางก็ยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง กรุ่นไอโทสะจากตัวเขาทำให้นางเลิ่กลั่กหาทางหนี เขายืนประจันหน้านางอยู่ ทำให้ร่างเล็กปีนขึ้นเตียงแล้วหาทางหลบหนี แต่มือใหญ่กระตุกเท้าของนางไว้แล้วปีนขึ้นมาคร่อมร่างกักขังนางไว้“ตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาพยายามข่มโทสะไม่ให้นางหวาดกลัว แต่ดูท่าจะไม่ทันเสียแล้ว “เจ้าจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!”เพราะน้ำเสียงดุดันของเขาทำให้นางไม่กล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 103. แทบขาดใจ   

    เขากระซิบถาม เนื้อตัวเปียกราวกับตากฝน แต่เป็นเหงื่อร้อนจากการปรนเปรอทรมานนาง ไม่ใช่เพียงแค่นางหรอก ตัวเขาเองก็เช่นกัน แต่เพราะอยากได้ยินเสียงวิงวอน เขาจึงต้องสู้รบกับนาง แม้จะเป็นการสู้รบบนเตียงนอนเล็กๆนี่ ก็เถอะ“จิ่นสือ...” นางแทบขาดใจอยู่แล้ว “ข้า....”“ขอร้องข้าสิ” เขากระซิบ มือหนึ่งบีบเคล้นทรวงอกของนาง อีกมือก็ไล้วนจุดอ่อนไหวเล็กๆ ที่กึ่งกลางอิสตรี แต่นางก็ยังปากแข็งไม่ยอมพูดออกมา เบือนหน้าหลบ มีแต่ทรวงอกที่สะท้อนขึ้นลงอย่างรุนแรง เขาถอนนิ้วเรียวออกแล้วขยับสะโพกบดเบียดนางอย่างเย้ายวน แท่งศิลาร้อนปัดผ่านกลีบดอกไม้ที่ฉ่ำน้ำหวานทำไมเขาไม่ฆ่านางเสีย! ทรมานนางเช่นนี้เท่ากับตายทั้งเป็นอยู่แล้ว!“ข้า...” “ว่าอย่างไร” เขาพูดเสียงพร่า แทบจะกลั้นใจไม่ไหวอยู่แล้ว“ข้า... ต้องการท่าน ข้าขอร้องท่าน”นางพูดเสียงเบาหวิว แต่กลับแจ่มชัด ทำให้อีกฝ่ายแทรกแก่นกายลงไปอย่างรวดเร็ว นางหวีดร้อง แต่เขาก้มลงมาประกบริมฝีปาก ดูดกลืนเสียงนางจนสิ้น นางต้องการเขา ต้องการชายผู้นี้ เรียวลิ้นนุ่มแลกกันอย่างดุเดือด มือใหญ่จับเอวนางเพื่อรองการสอดใส่รวดเร็ว ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำด้วยความซ่านเสียว แผ่นหลังกว้างราวก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  104.  เจ้าจะอยากรู้ไปทำไมกัน

    แม้แพทย์ทหารจะมากันหลายสิบคน ทว่าแต่ละคนก็มีคนเจ็บคนป่วยต้องดูแลงานล้นมือ “ไม่ต้อง ข้าทนได้ ท่านหมอจัดการได้เลย” นายทหารคนเจ็บร้องบอก ทั้งที่ตัวเองก็เจ็บจนหน้าซีดแล้ว เด็กหนุ่มสูดลมหายใจลึก แล้วยื่นผ้าขาวให้เขากัด“อย่างไรก็ป้องกันไว้ก่อน ข้าจำเป็นต้องบิดกระดูกคืนรูปเดิมซึ่งจะเจ็บมาก เกรงว่าท่านจะเผลอกัดลิ้นตัวเอง” เขาบังคับกลายๆ ทำให้อีกฝ่ายยอมกัดผ้าที่เขาส่งให้ เจียเจี้ยนเลยเข้ามาช่วยจับขาให้“ให้ข้าจับอย่างไร”เด็กหนุ่มแปลกใจเล็กน้อย แต่ไม่เอ่ยปากถามไป เป็นหมอทหารอย่างไรกัน แค่นี้กลับถามออกมาได้ แต่เขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียหน้า อีกฝ่ายอาจจะแค่ตื่นตระหนกจนลืมวิธีการไปก็ได้ “ท่านจับเหนือแผล ใช้สองมือประคอง ข้าจะจับท่อนล่าง” เขาเห็นเจียเจี้ยนทำตามที่บอกได้แล้ว ก็หันไปบอกคนเจ็บ “ข้าจะนับถึงสาม เอาละนะ หนึ่ง สอง สาม!”รวดเร็วจนคนเจ็บไม่ทันตั้งตัว กระดูกก็ถูกดึงกลับเข้ามาตามเดิม เด็กหนุ่มถอนหายใจโล่งอก หยิบตลับยามาทาบริเวณที่บวมแดง ก่อนจะใช้ไม้ที่เตรียมไว้ประกบขาของเขาแล้วพันผ้าเอาไว้“พยายามอย่าลงน้ำหนักขาข้างที่เจ็บมากนัก หาไม้พยุงช่วยเดินไปก่อน บาดแผลท่านไม่สาหัส ไม่เกินสิบห้าวันจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  105.  เจ้าคิดเจ้าแค้น

    เอาเถอะ เดินไปดูหน่อยก็แล้วกัน อาฟางหรือมู่ฟางเหนียงเดินไปทิศทางที่ตนเองคาดเดาว่าเป็นกระโจมของคนผู้นั้น หลังจากคืนนั้นที่เขาเคี่ยวกรำนาง หวังให้นางหมดเรี่ยวแรง เขากำชับนางนักหนา ทั้งขู่ทั้งปลอบไม่ให้นางติดตามมาด้วย นางก็แสร้งทำเป็นเออออไปอย่างนั้น พอเขาออกไปจากห้องแล้ว นางก็ดีดตัวลุกขึ้นจัดเตรียมเสื้อผ้าที่จะปลอมตัวเป็น ‘อาฟาง’ หนุ่มน้อยหน้าหวานเดินไปถึงกระโจมของรองแม่ทัพ แต่นางยังไม่ทันเดินไปถึงก็เห็นร่างสูงเดินออกมาก่อน ทหารทำความเคารพเขาแล้ว เขาก็ก้าวยาวๆ เดินออกไป “จะไปไหนล่ะ” นางบ่นแล้วแอบเดินตามไป หลายวันมานี้ แม้จะเห็นเขาอยู่ไกลๆ แต่ก็รู้ว่าเขาทำงานหนักมากแค่ไหน เขาไม่ใช่ประเภทที่เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง แต่กระโจนลงไปทำด้วยตนเอง และแม้นางจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็ได้ยินเสียงผู้คนกล่าวขานถึงเขาอย่างชื่นชม และนางก็เผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวทุกครั้งไป ขายาวของเขาพาตัวเองเดินออกไปพ้นเขตหมู่บ้าน เหมือนจะเดินเข้าไปในชายป่า หญิงสาวยกมือยันต้นไม้แล้วหอบหายใจแรง จะเรียกเขาก็ไม่กล้า ตอนนี้เหงื่อนางออกท่วมตัวแล้ว นางร้องก่นด่าเขาในใจ ยกมือขึ้นโบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  106 .  ประคอง

    เขาพูดแล้วส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม ประคองมือนางให้เดินตามเขามา พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับเหลี่ยมเขา เขาพานางเดินไปที่ชะง่อนหินผาที่สามารถมองเห็นหมู่บ้านเบื้องล่างได้ชัดเจน เมื่ออยู่บนที่สูงก็ทำให้มองเห็นความเสียหายด้านล่างได้ชัดเจน นางไม่เคยมาซูโจว แต่จากที่เห็น เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยงามไม่น้อย“ตอนนี้ข้าเร่งแก้ไขเรื่องสะพานที่ชำรุดเสียหาย เพื่อจะได้ลำเลียงเสบียงอาหารเข้าเมืองได้โดยสะดวก” จ้าวจิ่นสือวางมือบนไหล่มนของนาง “ครั้งนี้ถือว่าเสียหายไม่มาก ทั้งทหารของข้าและกับที่ทางเมืองหลวงส่งมา ระดมแรงคนอย่างเร็วก็ยี่สิบวัน”“แต่กว่าจะฟื้นฟูได้เช่นเดิมคงต้องใช้เวลามากกว่านั้น” มู่ฟางเหนียงพยักหน้ารับ “แล้วท่านพ่อข้าจะมาถึงเมื่อใดกัน”“น่าจะพรุ่งนี้” เขายิ้มแล้วยกมือขึ้นบีบจมูกของนาง “อย่าคิดว่าพ่อเจ้ามาแล้วข้าจะไม่ทำอะไรเจ้านะ”“ท่านกล้าเรอะ!” นางเชิดหน้าท้าทาย เพียงพริบตาเขาก็ฉกจูบนางไปเร็วๆ ทำเอาหญิงสาวได้แต่ทำตาปริบๆ พอรู้สึกตัวก็กำหมัดทำท่าจะทุบเขา แต่พอนึกถึงแผงอกแข็งแกร่งนั้นแล้ว ทุบไปก็เจ็บมือเปล่า จึงทำได้เพียงกัดริมฝีปากอย่างโมโห “ไหนๆ เจ้าก็เปิดตัวเป็นฝ่ายมาหาข้าก่อนแบบนี้แล้ว คืนน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 107. นี่เป็นคำสั่งรึ

    นางแปลกใจที่เขาไม่ห้ามปราม นั่นนับว่าเป็นเรื่องดี นางจึงพยักหน้ารับ ไม่นานอาหารก็ถูกยกเข้ามา เขายังคงกินอาหารเรียบง่าย ดูไม่ยุ่งยาก มือนางเองก็ไม่เจ็บอะไรนัก เขาไม่จำเป็นต้องช่วยป้อนข้าวให้นางอีก เพียงแต่ยังคีบกับข้าววางในชามของนางให้เหมือนที่เคยเป็นมา “เจ้าว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร” นางเงยหน้ามองเขาเล็กน้อย กลืนอาหารในปากลงคอไปแล้วจึงเอ่ยขึ้น “ในส่วนที่ข้าทำอยู่ก็เห็นว่ายังไม่น่าหวาดวิตกอันใด คนเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ คนป่วยก็เจ็บป่วยด้วยโรคหวัด ยังไม่มีวี่แววจะเกิดโรคระบาด แต่กระนั้นเราก็ยังวางใจมิได้ เรื่องแบบนี้ป้องกันได้ก็ควรป้องกัน อากาศเย็นชื้น ผู้คนจะป่วยง่าย อาหารการกินควรสะอาด สุกใหม่ ให้ร่างกายอบอุ่น” “หัวหน้าแพทย์ทหารก็พูดคล้ายๆกับเจ้า” เขายกน้ำชาขึ้นดื่ม “ทหารจากวังหลวงรายงานมา อีกสองวันขบวนขององค์ชายไท่หยางจะเสด็จมาถึง ข้าจำเป็นต้องย้ายเข้าไปอยู่ในจวนผู้ว่า ต้องรับผิดชอบความปลอดภัยขององค์ชาย เจ้าก็ติดตามข้าไปด้วย” “นี่คำสั่งรึ” นางเอียงคอมองหน้าเขา “อยู่ที่นี่เจ้าเป็นอาฟาง เพราะฉะนั้นคำพูด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  108. สะพานถล่ม

    กว่าหมอมู่หยางซัวจะมาถึงก็บ่ายคล้อย ต้าซื่อมาส่งด้วยตนเองถึงจวนผู้ว่าอิ่น ผู้ว่าอิ่นพอรู้ว่าเป็นองครักษ์ประจำองค์ชายไท่หยางมาถึง ก็รีบออกมาต้อนรับ “ร่างกายขององค์ชายไท่หยางทรงอ่อนแอ เดินทางช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย ข้ามาตรวจดูความปลอดภัยล่วงหน้าก่อน” ต้าซื่อเอ่ยบอกกับผู้ว่าอิ่นง่ายๆ “ข้าน้อยเตรียมห้องหับรับรองแล้ว แต่ด้วยสภาพบ้านเมืองเช่นนี้ อาจทำการต้อนรับได้ไม่เต็มที่” “เรื่องนั้นอย่าได้ใส่ใจ ไม่ทราบว่ารองแม่ทัพจ้าวจิ่นสืออยู่ที่ใด” “รองแม่ทัพจ้าวคุมทหารซ่อมสะพานอยู่ขอรับ” ต้าซื่อเพียงพยักหน้ารับแล้วหันไปทางหมอมู่หยางซัว “ท่านอยากพักผ่อนก่อนหรือไม่” “ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าอยากเจอลูกสาวก่อน” ต้าซื่อพยักหน้ารับ หันไปถามผู้ว่าเรื่องจุดที่แพทย์ทหารทำการตั้งกระโจมรักษาคนเจ็บป่วย แล้วจึงพาท่านหมอเดินไปพร้อมกัน เขาไม่ขัดความต้องการของท่านหมอมู่ แต่ไหนแต่ไรก็รู้อยู่แล้วว่าคนผู้นี้รักและหวงลูกสาวคนเดียวมากเพียงใด ระหว่างทางได้พูดคุยกันเขา จึงเพิ่งทราบเรื่องที่มู่ฟางเหนียงกับท่านหมอมู่ถูกลอบทำร้ายจนกระทั่งพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  109. นางไม่เหมือนผู้ใด

    มู่ฟางเหนียงตรวจดูคนเจ็บคร่าวๆ แล้วหันไปสั่งผู้อื่นให้ทำแบบเดียวกันกับคนเจ็บที่กำลังถูกลำเลียงขึ้นมา นางมองเลยไปยังจ้าวจิ่นสือ เห็นเจียเจี้ยนเข้าไปช่วยดันคานไม้นั้นแล้วก็จริง แต่หัวใจของนางก็เต้นแรงด้วยความกังวล จนคนเจ็บคนสุดท้ายถูกดึงออกมาแล้ว จ้าวจิ่นสือให้สัญญาณแล้วกระโจนออกมา ปล่อยให้คานไม้นั้นถล่มลง หญิงสาวถอนหายใจโล่งอกที่เขาไม่เป็นอะไร แล้วก็หันมาสนใจคนเจ็บที่นางเผลอละสายตาไป แพทย์ทหารที่เพิ่งมาถึง กรูเข้ามาช่วยอาฟางหรือมู่ฟางเหนียง นางจึงขอให้รีบพาคนเจ็บไปที่กระโจมจะดีกว่ามู่หยางซัวยืนมองลูกสาวที่ทำงานอย่างคล่องแคล่ว ไม่ใช่เพราะนางสวมเสื้อผ้าปลอมตัวเป็นบุรุษ แต่เป็นการควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ให้ตื่นตระหนกตกใจ ซ้ำยังออกคำสั่งกับผู้อื่นไม่มีติดขัด มือเรียวเล็กนั้นก็เคลื่อนไหวรวดเร็ว แม้เขาจะรู้ดีว่าลูกสาวคนนี้เก่งกาจเพียงใด แต่ครั้งนี้ประจักษ์แก่ใจว่านางนั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย มู่ฟางเหนียงเงยหน้าจากคนเจ็บ เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าของนางก็ปรากฏรอยยิ้มดีใจออกมา“ท่านพ่อ ท่านมาแล้ว” “ไม่ต้องสนใจพ่อ ดูคนเจ็บก่อน” มู่หยางซัวพยักพเยิดไปทางคนเจ็บ มีคนกระดูกหักหลายคน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12

บทล่าสุด

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  130. น้อยใจ

    “เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” “ข้าหายดีแล้ว จะไปหาฟางเหนียง” เขาควรรีบไปอธิบายกับนาง เมื่อวานส่งจดหมายแจ้งให้ท่านพ่อทราบเรื่องภารกิจลับเรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางกลับพร้อมรับมู่ฟางเหนียงไปด้วยเลย โธ่! ยังมิทันไรก็เป็นพวก ‘เกรงใจภรรยา’ เสียแล้ว เหวินเฮ่าหลันได้แต่คลี่พัดโบกไปมา ปกปิดสีหน้าระอาใจ เป็นบุรุษองอาจ ไฉนต้องมาพะวักพะวนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “เจ้ารออยู่นี่แหละ เดี๋ยวนางก็มาแล้ว” “เฮ่ย!” “เจ้าจะร้องอะไร” เหวินเฮ่าหลันเห็นอาการของสหายแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะไปมา ได้ยินมาจากเคอหลิ่งหลินว่าจ้าวจิ่นสือบาดเจ็บแต่ไม่ให้เรียกมู่ฟางเหนียงมาทำแผลเพราะเกรงใจที่เป็นเวลาพักผ่อนของนางแล้ว อย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาอยู่แล้ว หน้าที่ภรรยาดูแลสามีก็ถูกแล้ว จะค่ำหรือสว่างจะเป็นไรไป เดือดร้อนต้องไปตามหมอผู้อื่นมารักษาให้ แม้จะไม่ใช่บาดแผลสาหัสก็เถอะ “ข้ายังไม่ได้อธิบายกับนาง นางมาเจอข้าแบบนี้...” “เจ้านี่! เป็นถึงรองแม่ทัพ! อย่ามาทำตัวกลัวเมียให้เสียชื่อหน่อยเลย!” เหวินเฮ่าหลันกดเสียงต่ำ เรื่องแบบนี้พ

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 129. อย่าได้แบกความโกรธแค้นไว้เลย

    เคอหลิ่งหลินก็เห็นหญิงสาวในชุดแดงหน้าตาซีดเซียว นางมาไม่ทันจึงไม่รู้ว่าหญิงนางนี้มีเรื่องแค้นใดกับจ้าวจิ่นสือ แต่ด้วยความสงสารในท่าทีสับสนและดูเคว้งคว้างของนางจึงเดินเข้าไปใกล้ หมายจะปลอบประโลมให้สงบใจ“แม่นาง อย่างไรแล้วค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันเถิด เจ้ามีบาดแผล ให้ข้าดูหน่อยจะเป็นไร” เคอหลิ่งหลินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทำให้ร่างของหญิงสาวในชุดแดงแข็งทื่อ กวาดตาจ้องมองคนทั้งหมด คนพวกนี้พูดคุยเหมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่นางนั้นเล่า ไร้ผู้ใดไม่มีใครอีกแล้ว ความเศร้าหมองและหดหู่กัดกินจิตใจ มือบางกำด้ามกริชแน่นขึ้น หมายมั่นจะเอาชีวิตของจ้าวจิ่นสือให้ได้ นางพุ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดหวาดกลัวและไม่สนใจว่านางอาจถูกฝ่ามือซัดกลับจนถึงแก่ชีวิตช่างปะไร นางจะได้ไม่ต้องเดียวดายอีกแล้ว“จิ่นสือ!” เป็นเสียงเคอหลิ่งหลินที่หวีดร้องอย่างตกใจ น้องชายนางกลับไม่หลบยืนนิ่งปล่อยให้หญิงนางนั้นแทงกริชเข้าชายโครงด้านซ้ายของเขา เพราะคิดว่าจ้าวจิ่นสือจะหลบหลีกหรือตอบโต้ได้ จึงไม่มีใครขวางหรือเข้าไปช่วย ทุกคนจึงตื่นตะลึง แม้แต่หญิงผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ“เจ้า! ไยไม่หลบข้า!” หญิงสาวในชุดแดงปล

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 128. ไม่ลดความพยายาม

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่ลดความพยายาม เตรียมพุ่งกริชเล่มเดิมนั้นใส่จ้าวจิ่นสืออีก นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่นางต้องการชีวิต ร่างบางง้างมือขึ้นแต่ยังไม่ทันไร แสงวาบหนึ่งก็พุ่งผ่านเฉียดมือนางไปเล็กน้อย แต่ก็กรีดผิวเรียกเลือดสีเข้มกระเซ็นออกมา หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแต่ไม่ยอมทิ้งกริชเพียงแค่ยกมือกุมบาดแผลแล้วมองมีดสั้นที่ปักบนผนังห้องก่อนจะตวัดสายตามองไปทางหน้าต่าง ผู้มาใหม่กระโจนเข้ามา ใบหน้ามีหน้ากากอสูรปกปิดครึ่งหน้าด้านบน แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่เห็นนาง คราวนี้จ้าวจิ่นสือจับกระบี่ขึ้นมา แต่หัตถ์เทวะกลับยกมือโบกไปมาคล้ายไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ แล้วเดินวนเวียนรอบกายหญิงสาว ดวงตาคู่งามนั้นไร้แววหวาดกลัวแต่กลับวาวโรจน์ดุจแมวป่า ‘ช่างน่าสนใจนัก!’ “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” เป็นจ้าวจิ่นสือที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เห็นชัดว่าชายผู้นั้นไม่ได้รู้จักหญิงสาวในชุดสีแดง “เป็นข้าควรถามเจ้ามากกว่า” หัตถ์เทวะหันมาทางจ้าวจิ่นสือ “ข้านึกว่าเรามีเรื่องสนทนากันตามลำพัง” “เจ้าไม่ได้ส่งนางผู้นี้มาทำร้ายข้าหรอกหรือ” ฝีมืออย่างนาง... จ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status