Home / แฟนตาซี / บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ / บทที่​40 สิ้นสุดการประลองเวทย์

Share

บทที่​40 สิ้นสุดการประลองเวทย์

การมอบรางวัลสำหรับผู้ฝึกตนในการประลองเวทย์ครั้งที่แปดสิบแปด (88) ที่ทางแคว้นเต่าดำได้รับเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประลองเวทย์ในครั้งนี้ กล่าวได้ว่าดอกผลที่ได้รับจากงานประลองนับได้ว่ามากมายมหาศาลเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงของแคว้นที่เพิ่มขึ้นจากการปรากฎตัวผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่มากไปด้วยพรสวรรค์

การปรากฏตัวของสัตว์อสูรนภาที่ว่ากันว่ายากนักที่จะสามารถครอบครอง รวมไปถึงสัตว์อสูรสังกัดปราณธาตุพฤกษาที่มีบันทึกอยู่ในตำราหอบรรพชนเก่าแก่ของเเต่ละตระกูลนั้นหาใช่เป็นเพียงนิทานเรื่องเล่าเท่านั้น เพราะได้ถูกครอบครองโดยผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์คนหนึ่งที่มีพรสวรรค์เหนือชั้นกว่ารุ่นเดียวกันซึ่งผู้ฝึกตนที่ผ่านเข้ามาถึงรอบประลองเวทย์สิบคนสุดท้ายนั้นจะได้รางวัลซึ่งก็คือเหรียญทองหนึ่งพันเหรียญและได้รับบทเวทย์ป้องกันและบทเวทย์โจมตีระดับสูงคนละหนึ่งบทเวทย์นับได้ว่าเป็นผลตอบเเทนที่คุ้มค่ากับการประลองครั้งนี้ยิ่งนัก

สำหรับห้าอันดับแรกหรือเสาหลักเเห่งยุทธภพรุ่นเยาว์ของทวีปบูรพานั้นมีรายชื่อดังต่อไปนี้...

อันดับที่ห้าคุณชายโม่เหรินจากตระกูลโม่แห่งแคว้นเสือขาว รางวัลที่ได้รับนับว่าไม่สามัญทั่วไปอย่างแน่นอนตามศักดิ์ฐานะของหนึ่งในเสาหลักแห่งยุทธภพรุ่นเยาว์ รางวัลอย่างเเรกนั่นเหรียญทองจำนวนสามพันเหรียญ สิ่งที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเพื่อมอบให้สำหรับรุ่นเยาว์มากความสามารถเช่นนี้ได้แก่บทเวทย์ป้องกันและบทเวทย์โจมตีระดับสูงอีกอย่างละหนึ่งบทเวทย์ นับว่าคุณชายโม่เหรินนั้นได้รับทรัพยากรส่งเสริมในเส้นทางของผู้ฝึกตนได้อย่างน่ายินดี

อันดับที่สี่นั่นคือคุณชายจงเสวียนคุณจากตระกูลจงแห่งแคว้นมังกรเขียว หนึ่งในสองผู้ฝึกตนที่ต่างถูกคาดเดาว่าเป็นสุดยอดของรุ่นเยาว์ที่สามารถช่วงชิงตำแหน่งเจ้ายุทธภพได้เเต่ในครั้งนี้กลับพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย เเต่ถึงอย่างไรนั้นรางวัลที่ได้รับก็ไม่ด้อยค่าไปสักเท่าใดนัก

รางวัลที่ได้อย่างเเรกนั่นก็คือเหรียญทองห้าพันเหรียญบทเวทย์ป้องกันและบทเวทย์โจมตีระดับสูงอีกอย่างละหนึ่งบทเวทย์ บทเวทย์ป้องกันและบทเวทย์โจมตีระดับกลางอย่างละสองบทเวทย์ ในสายตาของผู้รับชมการประลองนั้นต่างคิดว่าเพียงได้รับบทเวทย์ระดับสูงนั่นก็คุ้มค่ายิ่งนักกับการประลองในครั้งนี้

อันดับที่สามคือสุดยอดรุ่นเยาว์ที่ทุกคนกล่าวว่าเขานั้นสามารถครอบครองตำแหน่งจ้าวยุทธภพครั้งนี้ได้เช่นกัน นั่นก็คือคุณชายหลิวอี้จากตระกูลหลิวแห่งแคว้นสิงโตเพลิง ถึงแม้ว่าผลของการประลองครั้งนี้จะอยู่ในอันดับที่สามผิดจากที่ทุกคนคาดคิดไปบ้าง เเต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าคมคายหล่อเหลาอันโดดเด่นของตระกูลหลิวของอีกฝ่ายยังคงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในอันดับการประลองของตนครั้งนี้

รางวัลจากการประลองที่ได้รับนั่นคือเหรียญทองเจ็ดพันเหรียญบทเวทย์ป้องกันเเละบทเวทย์โจมตีระดับสูงอีกอย่างละหนึ่งบทเวทย์ บทเวทย์ป้องกันและบทเวทย์โจมตีระดับกลางอย่างละสามบทเวทย์ ผลตอบเเทนที่คุณชายหลิวท่านนี้ได้รับย่อมทำให้ฐานะของว่าที่ประมุขตระกูลหลิวของอีกฝ่ายนั้นคงมั่นคงขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว

อันดับที่สองคือคุณชายลู่ซีแห่งแคว้นเต่าดำ สุดยอดผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่มีพลังวิญญาณระดับขุนนางวิญญาณเพียงผู้เดียวในห้าคนสุดท้ายของการประลองเวทย์ในครั้งนี้ ด้วยพรสวรรค์อันโดดเด่นและสัตว์อสูรนภาในการครอบครองนั้นทำให้อีกฝ่ายสามารถคว้าอันดับที่สองของการประลองครั้งนี้มาได้อย่างสมศักดิ์ศรี กล่าวคือเป็นรองเพียงเเค่หนึ่งเเต่ยืนเหนือผู้คนนับพันอย่างเเท้จริง

ในส่วนของรางวัลของผู้ชนะอันดับที่สองนับว่าล้ำค่าไปไม่น้อยเช่นกันนั่นคือเหรียญทองหนึ่งหมื่นเหรียญ บทเวทย์ป้องกันและบทเวทย์โจมตีระดับเทอย่างละหนึ่งบทเวทย์ บทเวทย์ป้องกันและบทเวทย์โจมตีระดับสูงอย่างละหนึ่งบทเวทย์เช่นกัน ด้วยฐานะของผู้ชนะอันดับที่สองของการประลอง และเป็นหนึ่งในเสาหลักแห่งยุทธภพของทวีปบูรพานั้นย่อมทำให้อีกฝ่ายเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากที่จะชักชวนให้อีกฝ่ายเข้าร่วมในกลุ่มอิทธิพลของตน

ดูเหมือนกับว่าคุณชายลู่ท่านนี้ยังมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลหวังที่ในตอนนี้ยังไม่กระจ่างเท่าไหร่นักเเต่การที่ผู้ฝึกตนมากฝีมือมีความสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่ของแคว้นนับว่าไม่สามารถดูเบาได้

สุดท้ายนั่นคือผู้ที่มีชัยชนะสูงสุดในการประลองครั้งนี้ ตัวตนที่น่ายกย่องนับถือที่ถูกเรียกขานในนามของเจ้ายุทธภพรุ่นเยาว์เเห่งทวีปบูรพา ซึ่งก็คือคุณชายหวังหนิงอ้ายจากตระกูลหวังแห่งแคว้นเต่าดำ ชัยชนะครั้งนี้สามารถลบคำปรามาสที่เคยถูกเรียกขานว่าสวะไร้ค่าในกาลก่อนได้จนหมดสิ้นเพราะด้วยพลังฝีมือที่โดดเด่นเป็นประจักษ์และขุมพลังหนุนหลังอันยิ่งใหญ่อย่างตระกูลหวังที่เป็นถึงหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของแคว้นย่อมทำให้ฐานะของอีกฝ่ายนั้นราวกับพยัคฆ์ติดปีกเสียด้วยซ้ำ

ในส่วนของรางวัลที่ได้รับนับได้มากมายและล้ำค่ามหาศาลเลยทีเดียว อย่างเเรกนั่นคือเหรียญทองสองหมื่นเหรียญ เเต่ทว่าสิ่งที่ทำเอาผู้คนโดยรอบสนามประลองที่ได้ยินต่างรู้สึกอิจฉาในวาสนาครั้งนี้ของคุณชายหนิงอ้ายผู้นี้นั่นคือบทเวทย์ป้องกันละบทเวทย์โจมตีระดับสวรรค์อย่างละหนึ่งบทเวทย์ บทเวทย์ป้องกันและบทเวทย์โจมตีระดับเทวะอย่างละหนึ่งบทเวทย์รวมไปถึงบทเวทย์ป้องกันเเละบทเวทย์โจมตีระดับสูงอีกอย่างละสามบทเวทย์เช่นกันเลยทีเดียว

สำหรับผู้ชนะอันดับที่หกถึงสิบจะได้รับบทเวทย์ป้องกันและบทเวทย์โจมตีระดับสูงอีกอย่างละหนึ่งบทเวทย์และเหรียญทองจำนวนสองพันเหรียญ นับว่าไม่มากไม่น้อยคุ้มค่ากับการลงแรงในวันนี้

หลังพิธีจบงานประลองเวทย์ครั้งนี้ ผู้คนในสนามประลองต่างส่งเสียงร้องดังไปทั่วเเสดงความยินดีกับผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ทุกคนที่เข้าร่วมการประลองเวทย์ครั้งนี้ที่ได้สร้างชื่อเสียงแก่ตนเองและตระกูลได้อย่างยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ทุกคนต่างก็รับรู้แล้วเช่นกันว่าคุณชายลู่ซีนั้นเเท้ที่จริงคือบุตรบุญธรรมของท่านหญิงเยว่ซินมีศักดิ์เป็นพี่ชายของคุณชายหนิงอ้าย ซึ

เท่ากับว่าตอนนี้ฐานะของคุณชายลู่ซีคือคุณชายใหญ่ของตระกูลหวังเเห่งแคว้นเต่าดำ ด้วยความสามารถของคุณชายตระกูลหวังทั้งสองคนที่อายุยังน้อยเเต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์เหนือรุ่นเยาว์เดียวกันดังนั้นหลังจากนี้อีกไม่กี่ปีในมหาทวีปบูรพาต่างมีสมญานามเเทนคุณชายทั้งสองว่า หยกคู่สกุลหวัง ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นและเป็นแรงบันดาลใจในการเข้าสู่วิถีฝึกตนให้กับรุ่นเยาว์อีกมากมาย

นอกจากนี้เเล้วนั้นหนิงอ้ายยังได้รับป้ายหยกยืนยันตัวตนที่เเสดงถึงศักดิ์ฐานะของจ้าวยุทธภพรุ่นเยาว์เเห่งทวีปบูรพาและได้รับของรางวัลจากทางราชวงศ์เต่าดำนับได้ว่าคุ้มค่ากับการลงประลองครั้งนี้ ถือว่าเป็นรางวัลที่มากที่สุดตั้งเเต่เคยมีการจัดการประลองเวทย์ขึ้นมาบนมหายุทธภพแห่งนี้ ความล้ำค่านั้นหาใช่เหรียญทองที่ได้รับหรือบทเวทย์ต่าง ๆ ระดับสูงเเต่นั่นคือการที่ราชวงศ์เต่าดำถึงกับมอบบทเวทย์ระดับเซียนให้แก่ผู้ชนะการประลองอันดับหนึ่งด้วย นั่นย่อมเเสดงถึงความนัยว่าแท้ที่จริงเเล้วแคว้นเต่าดำนั่นมีความมั่งคั่งมากเพียงใด

หากทอดสายตาไปทั่วยุทธภพหากจะกล่าวว่าบทเวทย์ระดับสูงมีมากมายเท่าเม็ดผักกาดก็คงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงไปเท่าใดนัก หรือแม้กระทั่งบทเวทย์ระดับเทวะนั้นต่อให้เป็นแคว้นที่มีความเป็นมาที่ยาวนานและมีขุมพลังที่ยิ่งใหญ่เพียงใดก็กล่าวได้มีอยู่ในการครอบครองไม่มากนักแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงบทเวทย์ระดับสวรรค์ที่ตอนนี้ปรากฎอยู่ในยุทธภพเพียงเเค่หยิบมือเท่านั้น ความล้ำค่าหายากของบทเวทย์ระดับสวรรค์สำหรับผู้ที่ได้ครอบครองนั้นสามารถชักพามาซึ่งกลิ่นฝนคาวเลือดได้เลยเสียด้วยซ้ำ เเต่นี่ทางแคว้นเต่าดำกลับมอบบทเวทย์ระดับสวรรค์ถึงสองบทให้แก่ผู้ชนะประลองอันดับหนึ่งในครั้งนี้แก่ผู้ครอบครองฐานะผู้ชนะอันดับหนึ่งของการประลอง นับได้ว่าเป็นการโอ้อวดที่ชวนให้รู้สึกบางอย่างอยู่ในที

"ยินดีด้วยอีกครั้งคุณชายหวังหนิงอ้าย..." ผู้อาวุโสที่ดำเนินการประลองเอ่ยขึ้นกับหนิงอ้ายความยินดีและชื่นชมในฝีมืออันโดดเด่นของอีกฝ่ายในฐานะผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์

"ขอบคุณขอรับผู้อาวุโส..." หนิงอ้ายยกมือขึ้นประสานพร้อมกับโค้งตัวคำนับอย่างนอบน้อม สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้อาวุโสดังกล่าวและผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

"หากวันหน้าเจ้าต้องการความช่วยเหลืออย่างไรสามารถติดต่อข้าได้ทุกเมื่อ..." ผู้อาวุโสเอ่ยขึ้นอีกครั้งเพราะว่าตัวเขานั้นถูกใจในอีกฝ่ายเป็นอย่างมากและรู้สึกเอ็นดูอีกฝ่ายราวกับเป็นบุตรหลานของตน

"ขอบคุณอีกครั้งขอรับ..." หนิงอ้ายยิ้มรับเล็กน้อยก่อนที่จะโค้งตัวคำนับอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากสนามประลองไปพร้อมกับเสียงเชียร์ดังก้องไปทั่ว

ตระกูลจาง

ทางฝั่งที่นั่งของตระกูลจางเเห่งแคว้นหงส์เเดงนั้นต่างพากันเงียบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายเมื่อสองบทเวทย์มหากาลเมื่อครู่ที่ประทะกันได้จบลงไป

แน่นอนว่าผู้อาวุโสในตระกูล อาจารย์สำนักศึกษาระดับสูง รวมไปถึงหลายคนที่เป็นศิษย์ของสำนักศึกษาผิงอานทั้งฝ่ายใน ฝ่ายนอก หรือรวมไปถึงบรรดาศิษย์ผู้สืบทอดนั้นต่างพากันตกตะลึงยิ่งนัก ส่วนมากทุกคนในที่นี้ล้วนได้อยู่ในเหตุการณ์เมื่อครั้งที่คุณชายหนิงอ้ายในวัยเจ็ดขวบปีที่ตอนนั้นไม่สามารถปลุกพลังวิญญาณได้

หลังจากนั้นไม่นานข่าวลือที่ว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงคุณชายใหญ่เเต่ในนามเป็นจุดด่างพร้อยเปรียบดั่งสวะของตระกูลแม้จะกำเนิดในตระกูลใหญ่เเต่กลับไม่สามารถปลุกพลังวิญญาณเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตนได้นับว่าสร้างความอับอายแก่ตระกูลจางและสำนักศึกษาผิงอานยิ่งนัก

เเต่ในวันนี้ภาพที่พวกเขาทุกคนได้เห็นอยู่ตรงหน้าตั้งเเต่เริ่มการประลองจนผลออกมาอย่างเอกฉันท์ในชัยชนะของอีกฝ่าย ไม่ว่าจะด้วยพรสวรรค์ฝีมือต่อสู้ที่โดดเด่น ความสามารถในการร่ายบทเวทย์พร้อมกันถึงสองบทได้อย่างล้ำลึกพิสดาร ยังรวมไปถึงการสามารถครอบครองสัตว์อสูรสังกัดปราณธาตุพฤกษาได้ เพียงเท่านี้คุณชายหนิงอ้ายผู้นี้ก็สามารถยืนอยู่แถวหน้าในนามของอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของยุทธภพได้อย่างง่ายดายเเล้ว

กระทั่งศิษย์ผู้สืบทอดหรือแม้กระทั่งสิบทำเนียบสวรรค์ตัวตนระดับสูงในสำนักศึกษาผิงอานก็ไม่อาจเทียบเคียงได้เสียด้วยซ้ำ นามของคุณชายสวะของตระกูลถูกลบออกไปด้วยฐานะของจ้าวยุทธภพรุ่นเยาว์อย่างสมศักดิ์ศรีที่เเท้จริง แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้จะชื่นชมอีกฝ่ายเเต่ไหนเเต่ก็ไม่กล้าเเสดงความยินดีออกไปด้วยเพราะรู้สึกอับอายในใจของตนนั่นเอง

หวงลู่เอินนั้นแม้ว่านางจะโกรธเกลียดหนิงอ้ายมากเเค่ไหน เเต่ตอนนี้นางทำได้เพียงเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจเพื่อรอวันเอาคืนอย่างสาสม นางรู้สึกขัดใจเป็นอย่างมากที่ในตอนนี้ดูเหมือนว่ามันนั้นได้รับการยอมรับจากทุกคนไปเสียเเล้วไม่ว่าจะเป็นสามีของนาง ผู้อาวุโสประจำตระกูล อาจารย์ระดับสูงในสำนักศึกษาหรือแม้กระทั่งบรรดาศิษย์ที่เข้าร่วมในการประลองครั้งนี้ต่างยอมรับฐานะของมันด้วยความเต็มใจ หลังจากนี้นางคงต้องวางเเผนใหม่อีกครั้งให้รัดกุมรอบคอบกว่าเดิมเสียแล้วกระมัง

ชัยชนะของคุณชายหวังหนิงอ้ายนั้นได้สร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นอย่างมาก ไม่มีผู้ใดในทวีปบูรพาที่จะไม่รู้จักนามของคุณชายหวังหนิงอ้าย หลานชายคนเล็กของตระกูลหวังสายหลักเเห่งแคว้นเต่าดำ ฉายาสวะไร้ค่าในวันวานที่ผู้คนต่างพากันหัวเราะเยาะบัดนี้ตัวตนของหนิงอ้ายนั้นถูกยกย่องว่าเป็นรุ่นเยาว์ผู้เปี่ยมล้นไปด้วยพรสวรรค์มากความสามารถที่โดดเด่นและมีชื่อเรียกนำหน้าชื่อนั่นคือเจ้ายุทธภพรุ่นเยาว์ ที่ทอดสายตาไปทั่วทั่งมหาทวีปบูรพานั้นต่างเป็นตัวตนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้ง่ายดายอย่าแน่นอน

บรรยากาศของงานประลองเวทย์ครั้งที่แปดสิบแปด (88) นี้ถูกจัดขึ้นได้ยิ่งใหญ่อย่างตระการตาสมศักดิ์ศรีทั่วทั้งเมืองหลวงนั้นเต็มไปด้วยการตกแต่งที่งดงามตราตรึงใจยิ่งนักตรงบริเวณใจกลางมหานครแห่งแคว้นเต่าดำศูนย์กลางของความเจริญรุ่งเรืองและการเเลกเปลี่ยนที่เลื่องชื่อ นับว่ากลางมหานครแห่งนี้ต่างเต็มไปด้วยผู้ที่เดินทางมาเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการประชันฝีมือของรุ่นเยาว์จากทั่วทุกสารทิศในมหาทวีปบูรพาแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนที่มีชื่อเสียงในยุทธภพสังกัดตระกูลใหญ่ของเเต่ละแคว้นหรือผู้ฝึกตนอาวุโสมากไปด้วยชื่อเสียงอีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของนิสัยแปลกประหลาดชอบเร้นกายลึกลับในยามปกติ รวมไปถึงผู้ฝึกตนหลากหลายทั้งช่วงอายุและระดับพลังวิญญาณ หรือแม้กระทั่งประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าสู่วิถีของผู้ฝึกตนต่างหลั่งไหลกันมาอย่างคึกคักเลยทีเดียว

ดูเหมือนว่าเป้าหมายของการจัดงานประลองเวทย์นั้นจะเป็นเพียงเเค่การเเลกเปลี่ยนประชันฝีมือความสามารถทั้งในเชิงยุทธ์ พลังวิญญาณหรืออาจเป็นเพียงการเฟ้นหาต้นกล้ารุ่นเยาว์จากแคว้นต่าง ๆ ที่มากไปด้วยพรสวรรค์เพื่อขึ้นตรงกับวิหารเทพยุทธ์อันเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่สูงสุดในมหาทวีปบูรพาที่มีไว้สำหรับคอยสอดส่องดูเเลความเป็นไปต่าง ๆ และให้ความช่วยเหลือผู้คนอย่างเท่าเทียม อีกทั้งด้วยตำแหน่งผู้ชนะอันดับหนึ่งของการประลองเวทย์ในเเต่ละครั้งนั้นจะได้มาซึ่งฐานะจ้าวเเห่งยุทธภพที่เปรียบดั่งหัวหน้าผู้คุมกฎรุ่นเยาว์ ยังมีผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์อีกสี่คนที่อยู่ภายใต้การปกครองดูเเลในนามของเสาหลักเเห่งยุทธภพรุ่นเยาว์ของทวีปบูรพาแห่งนี้

สำหรับตัวตนของรุ่นเยาว์ทั้งห้าคนนี้ต่างอยู่ในฐานะที่อาจกล่าวได้ไม่ว่าจะราชวงศ์ประจำแคว้นปกครองสำนักศึกษาน้อยใหญ่ในมหาทวีปตระกูลใหญ่หรือตระกูลลำดับหนึ่งของแคว้นหรือแม้กระทั่งกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ไม่เปิดเผยตัวตนพวกเขาเหล่านี้นั้นไม่สามารถล่วงเกินสมาชิกในเสาหลักเเห่งยุทธภพรุ่นเยาว์ของทวีปบูรพาได้ง่ายดายนักเนื่องจากว่าเบื้องหลังของผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์เหล่านี้คือวิหารเทพยุทธ์ดังนั้นหากจะทำสิ่งใดควรคิดให้ถี่ถ้วนอีกทั้งต้องไว้หน้ากลุ่มรุ่นเยาว์เหล่านี้ไปถึงสามสี่ส่วนเลยทีเดียวหากตระกูลใดที่มีบุตรหลานสามารถเป็นหนึ่งในเสาหลักเเห่งยุทธภพรุ่นเยาว์ได้นั้น อาจไม่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงที่เห็นได้ชัดเเต่รับรองได้เลยว่าผลตอบเเทนในทางอ้อมนั้นไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงของตระกูลหรือเส้นสายต่าง ๆ และการสนับสนุนจากกลุ่มที่มีอิทธิพลนั้นแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถดูเบาได้เลยแม้เเต่น้อย

ฉากหน้าจะดูเหมือนว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คือผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่สามารถถือครองฐานะอำนาจที่มากล้นมาเป็นของตนได้ เเต่ความจริงเเล้วนั้นยังมีจุดหมายอันซ่อนเร้นไม่ปรากฎให้ตัวตนระดับทั่วไปได้ทราบว่าในการจัดงานประลองเวทย์ที่เกิดขึ้นเเต่ครั้งนั่นคือการหยั่งเชิงถึงขุมพลังอำนาจบ่มเพาะของเเต่ละตระกูลของเเต่ละแคว้น เพื่อหาผู้ที่คาดว่าอาจจะเป็นอันตรายร้ายเเรงต่อตัวตนของวิหารเทพยุทธ์ในวันข้างหน้า หากพบว่ายอดฝีมือเหล่านั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตใจกล้าหาญและบริสุทธิ์สามารถขัดเกลาได้นั่นย่อมหมายถึงการที่ขุมกำลังของวิหารเทพยุทธ์ก็จะมั่นคงขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก

เเต่ในทางกลับกันหากว่ารุ่นเยาว์มากฝีมือเหล่านั้นมีจิตใจที่ทะเยอทะยานฝักใฝ่ในด้านที่ผิดส่อไปในทางคุกคามผู้คนส่วนมากในยุทธภพในวันข้างหน้า แน่นอนว่าเพื่อตัดไฟเเต่ต้นลมรุ่นเยาว์เหล่านั้นต่างค่อย ๆ หายไปจากตระกูลเดิมของตนและถูกลบไปจากหน้าประวัติศาสตร์การประลองในครั้งนั้นๆ ราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกนี้

อาจจะดูโหดร้ายไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่นักก็จริงเเต่หากปล่อยกลุ่มคนเหล่านี้ให้เติบโตต่อไปอาจจะเลวร้ายถึงขั้นไหนก็สุดจะหยั่งรู้ เช่นกันว่าสำหรับรุ่นเยาว์ที่ถูกผู้อาวุโสระดับสูงสุดของวิหารเทพยุทธ์สองในสามเสียงเห็นว่าผู้นั้นไม่ได้เป็นหน่อเนื้อของความร้ายกาจในวันข้างหน้าหรือไม่ได้เป็นตัวตนอันตรายต่อคนในหมู่มากหากเป็นดังนั้นเเล้ว ทรัพยากรในการฝึกตนอันล้ำค่าที่มีอยู่อย่างมากมายมหาศาลในการครอบครองของวิหารเทพยุทธ์นั้นจะถูกส่งเสริมให้รุ่นเยาว์เหล่านี้เข้าสู่เส้นทางผู้ฝึกตนที่มีชื่อเสียงในวันข้างหน้า

ความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่ได้บ่มเพาะรากฐานการฝึกตนเเต่ในละระดับพลังวิญญาณอย่างหนักหน่วงกว่าจะสามารถก้าวข้ามมาเป็นผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่มากฝีมือเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์เช่นนี้ใช่ว่าจะได้รับมาโดยง่ายพวกเขาต้องฟันฝ่าอุปสรรคและความท้อเเท้หมดกำลังใจมาอย่างนับไม่ถ้วน

ดังนั้นไม่ว่าในวันนี้พวกเขาจะไม่สามารถเป็นผู้ชนะหรือไม่สามารถแย่งชิงตำแหน่งเสาหลักเเห่งยุทธภพได้ เเต่ถึงอย่างนั้นหากมีฝีมือที่โดดเด่นน่าจับตามอง บรรดาเหล่าสำนักศึกษาน้อยใหญ่ต่าง ๆ คงได้ยื่นข้อเสนอชักนำให้เข้าร่วมสังกัดของการดูเเลของตนอย่างแน่นอน ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นที่มาอยู่รวมกันในสนามประลองเวทย์แห่งนี้นั้น จุดรวมสายตาที่ทุกคนต่างให้ความสนใจอย่างเป็นที่สุดนั้นก็คือทางที่นั่งฝั่งตระกูลหวังของแคว้นเต่าดำที่ตอนนี้ต่างมีผู้คนจำนวนมากมายเข้ามารุมล้อมโดยรอบตัวของคุณชายหนิงอ้ายและคุณชายลู่ซีอย่างหนาเเน่น

เพราะหลังจากที่คุณชายทั้งสองคนได้ขึ้นรับรางวัลของการประลองเวทย์ครั้งนี้ จากผู้อาวุโสตัวแทนของราชวงศ์เต่าดำเสร็จเเล้วทั้งคู่ต่างทะยานตัวด้วยวิชาตัวเบาไปยังฝั่งของตระกูลหวังทันที ภาพที่ทุกคนอดที่จะตกตะลึงไม่ได้นั้นคือการที่ประมุขตระกูลหวังหรือหวังจิ่งหลงนั้นรวบเอาเด็กหนุ่มทั้งสองคนเข้าไปในอ้อมกอดและเอ่ยขึ้นว่าหลานของข้าทั้งสองคนเก่งที่สุดโดยที่ด้านข้างกันนั้นฮูหยินเหมยฮวาเข้ามาลูบหัวคุณชายทั้งสองคนด้วยความรักใคร่ และหลังจากนั้นทั้งสองคนนั้นต่างเข้าไปกอดท่านหญิงเยว่ซินพลางออดอ้อนเรียกท่านเเม่ชวนน่าเอ็นดูยิ่งนัก...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่​41 เพียงคนแปลกหน้าเพียงเท่านั้น

    ตอนนี้ทุกคนได้รับรู้เเล้วว่าคุณชายทั้งสองคนนั้นมีความสัมพันธ์อย่างไรกับตระกูลหวัง แน่นอนว่าคุณชายหนิงอ้ายเป็นที่รู้จักกันดีในนามของอดีตคุณชายใหญ่ตระกูลจางเเห่งแคว้นหงส์เเดง ด้วยเพราะทั้งสองแคว้นนั้นอยู่ติดกันไม่ต่างจากเมื่องพี่เมืองน้อง ดังนั้นข่าวคราวในแวดวงที่ว่าคุณชายหนิงอ้ายเปรียบดั่งสวะของตระกุลจาง ผู้คนต่างรับรู้กันทั่วเพียงเเต่ไม่ได้มีการพูดคุยให้เห็นชัดด้วยเกรงกลัวอำนาจตระกูลใหญ่อย่างเช่นตระกูลจางและตระกูลหวัง กระทั่งข่าวที่ว่าท่านหญิงเยว่ซินได้หย่าขาดกับประมุขจางเลี่ยงหวงน ม้เหตุการณ์จะผ่านมาได้เพียงไม่กี่วัน เเต่ว่าหอข่าวที่มีสายลับแฝงตัวอยู่ทุกแคว้นต่างรายงานความเป็นไปที่เกิดขึ้นท่ามกลางความยินดีที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าตระกูลหวังเเห่งแคว้นเต่าดำต่างเป็นที่จับจ้องมากขึ้น ด้วยเพราะว่าผู้ชนะอันดับหนึ่งและอันดับสองในการประลองเวทย์ครั้งนี้ต่างมีความข้องเกี่ยวโดยตรงกับตระกูลหวัง แม้ว่าจะเป็นตระกูลที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียงไม่กี่ร้อยปีเเต่กลับยืนหยัดในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของแคว้นเต่าดำ ยิ่งกับวันนี้รุ่นเยาว์ในตระกูลหวังกลับสร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลไปอีกไม่น้อยด้วยฐานะของเจ้ายุทธภพแล

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่​42 หอตำราและคลังยุทธ์ตระกูลหวัง

    ห้องโถงรับรองของเรือนหลักตระกูลหวังเครื่องใช้ภายในเรือนทั้งหมดนั้นทำขึ้นจากหยกเขียวอ่อนแกะสลักที่มีความงดงามอ่อนช้อย อีกทั้งยังประดับตกแต่งไปด้วยสิ่งของมีค่ามากมายบางชิ้นถึงกับมีอายุยาวนานหลายร้อยปีเลยทีเดียว ของทุกอย่างเหล่านี้ต่างเเสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของตระกูลหวังสายหลักได้เป็นอย่างดี"ได้ยินว่าหนิงเอ๋อร์กับลู่เอ๋อร์จะทำการทดสอบเข้าร่วมสำนักศึกษาในอีกไม่กี่วันเช่นนั้นรึ?" หวังจิ่งหลงถามขึ้นมองไปทางฝั่งของหลานชายของตนทั้งสอง"ขอรับท่านตา เพียงเเต่ว่าข้ากับลู่เกอยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าร่วมสำนักศึกษาใด..." หนิงอ้ายตอบกลับผู้เป็นตาของตนไป"การเลือกสำนักศึกษามีความสำคัญไปไม่น้อย ด้วยความแตกต่างของเเต่ละสำนักไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งของสำนักที่เอื้อต่อการฝึกฝนตามพลังธาตุในร่างกายและทรัพยากรล้ำค่าที่จำเป็นในการเลื่อนระดับพลังวิญญาณรวมไปถึงวิสัยทัศน์ของเจ้าสำนัก สิ่งต่างๆ เหล่านี้นั้นล้วนมีผลในการบ่มเพาะทั้งสิ้น...""สำนักศึกษาในมหาทวีปบูรพานี้นับได้ว่ามีอยู่มากมายไม่น้อย เพียงเเต่สำนักใหญ่ที่มีชื่อเสียงและผู้คนในโลกยุทธภพให้การยอมรับมีเพียงห้าสำนักเท่านั้น นั่นคือสำนักศึกษาเวหาธาราสวรรค์ สำนั

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่43 ข้าคือเจ้า...เจ้าคือข้า

    หนิงอ้ายกับลู่ซีใช้เวลาอยู่ในหอตำราเพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้นตามที่ได้ตกลงกันไว้เมื่อถึงเวลาก็มาตรงจุดนับพบโดยทันที ซึ่งทางฝั่งของหนิงอ้ายนั้นได้เลือกตำรามานับสิบกว่าเล่มเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานทั้งหมดเพื่อที่จะไปศึกษาเพิ่มเติม ทางฝั่งของลู่ซีนั้นได้เลือกตำราเกี่ยวกับพลังธาตุน้ำและเคล็ดวิชาระดับสูงอีกสองสามบทในการศึกษาเพิ่มเติม ด้วยเพราะรู้ตัวว่าฝีมือของเขาในตอนนี้ยังไม่เพียงพอที่จะปกป้องหนิงอ้ายได้ ดังนั้นเขาต้องฝึกฝนให้มากที่สุดเมื่อแจ้งจำนวนตำราที่นำออกจากหอตระกูลหวังกับผู้อาวุโสท่านเดิมเสร็จเเล้วนั้น เมื่อถึงเรือนพักเเล้วทั้งสองคนจึงเเยกย้ายกลับห้องของตนเพื่อศึกษาตำราต่อนั่นเองหนิงอ้ายใช้เวลาทั้งวันไปกับการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพลังลมปราณ พลังวิญญาณและพลังปราณธาตุที่เป็นความรู้พื้นฐานทั้งหมด เมื่ออ่านจบเเล้วทำให้เขานั้นมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น เมื่อเดินพลังลมปราณและปรับการหมุนเวียนของร่างกายให้มั่นคงสมดุลชักนำลมปราณฟ้าดินเข้ามากักเก็บเป็นพลังวิญญาณในร่างกายให้เเข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นหลายเท่าเคล็ดวิชาสยบอัสนีเมฆานั้นนอกจากจะเป็นวิชาตัวเบาที่ขึ้นชื่อเเล้วเเต่สิ่งที่แฝงตามมาจากเคล็ดวิชา

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่​44 สายเลือดที่เข้มข้น

    เช้าวันรุ่งขึ้นบ่าวในจวนตระกูลหวังค่อนข้างที่จะวุ่นวายในการจัดเตรียมหลายสิ่งอย่างอยู่บ้างเเต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกำหนดการที่คาดเอาไว้ นอกจากนี้ทางตระกูลหวังได้มีการส่งสารให้บรรดาตระกูลหวังสายรองและสายย่อยที่อยู่ไปทั่วทั้งแคว้นเต่าดำให้มายังจวนตระกูลหวังสายหลักในวันนี้เพื่อเป็นสักขีพยานสำหรับพิธีการนำรายชื่อของหนิงอ้ายกับลู่ซีเข้าสู่ผังทำเนียบตระกูลหวังสายหลักตามประเพณีสืบทอดของตระกูลที่มีมาอย่างยาวนานหากเป็นการนำรายชื่อคุณชายหนิงอ้ายเข้าในแผนผังตระกูลหวังสายหลักนั้นกล่าวได้นับสมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเพราะคุณชายหนิงอ้ายนั้นเกิดจากท่านหญิงเยว่ซินซึ่งเป็นบุตรีเพียงหนึ่งเดียวของประมุขหวังจิ่งหลงและฮูหยินเหมยฮวาแห่งตระกูลหวังสายหลักดังนั้นฐานะของเด็กหนุ่มนั้นคือหลานชายสายตรงของตระกูลที่มีสิทธิในตำแหน่งว่าที่ประมุขตระกูลหวังสายหลักคนต่อไป ด้วยฐานะทางสายเลือดชาติกำเนิดอันสูงส่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เเล้วนั้น คุณชายหนิงอ้ายผู้นี้ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยฝีมือพรสวรรค์ที่โดดเด่นกว่ารุ่นเยาว์ในวัยเดียวกันยิ่งนักในการประลองเวทย์ที่พึ่งจบไป อีกฝ่ายได้เเสดงให้เห็นถึงทักษะกา

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่​45 ราชันย์วิหคอัคคีมายา

    ต้องบอกก่อนว่าผู้อาวุโสทุกคนที่หวังจิ่งหลงได้เรียกเข้ามาพูดคุยในครั้งนี้นั้นต่างมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญในตระกูลหวังเป็นอย่างยิ่ง ผู้อาวุโสเหล่านี้ต่างเป็นบุคลที่เปรียบดั่งเสาหลักอันเเข็งแกร่งที่ค้ำจุนตระกูลหวังให้ยืนหยัดมั่นคงมายาวนานหลายร้อยปีเลยทีเดียวบางคนนั้นก็เป็นถึงหนึ่งในอดีตว่าที่ประมุขของตระกูลเมื่อครั้งนานมาเเล้ว บ้างก็เป็นตาเฒ่าประหลาดที่มีพลังวิญญาณระดับครึ่งเซียน บ้างก็เป็นเชื้อสายตระกูลหวังที่มีความโดดเด่นด้วยพรสวรรค์ที่มาพร้อมกับความเข้มข้นของสายเลือดมากกว่าคนทั่วไปในตระกูล ถึงแม้ว่าสายเลือดจะไม่เข้มข้นเท่ากับหนิงอ้ายก็จริง เเต่ในวันข้างหน้าหากสามารถยกระดับสายเลือดได้นั้นย่อมหมายถึงว่ากลุ่มคนเหล่านี้ ก็สามารถที่จะปลุกพลังสายเลือดของพญาหงส์แดงอัคคีสุริยะมหาสวรรค์ได้อย่างแน่นอนด้วยฐานะที่พวกเขาทั้งหลายต่างถือครองอยู่ในตระกูลหวังนับว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญและเป็นที่นับหน้าถือตาเป็นอย่างมาก ดังนั้น ผู้อาวุโสเหล่านี้ย่อมเคยอ่านบันทึกและรับรู้ถึงความเป็นมาของ ตระกูลหวังเป็นอย่างดี ว่าเเท้ที่จริงเเล้วว่าตระกูลหวังนั้นมีต้นกำเนิดความเป็นมาเช่นไร แม้ในเนื้อหาจะไม่ปรากฎสาเหตุของควา

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่​46 เริ่มออกเดินทาง

    ภายในห้วงจิตเหนือทะเลลมปราณของหนิงอ้ายพลันปรากฏเป็นเงาร่างของราชันย์วิหคอัคคีมายาขนาดเท่าตัวจริงที่มีเปลงเพลิงสีแดงลุกท่วมไปทั้งตัวที่เเสดงอาการดุร้ายอาฆาตพร้อมที่จะเข้ามาโจมตีเขาในทุกเมื่อ เเต่ชั่วพริบตาเดียวเงาร่างของอสรพิษเหมันต์บรรพกาลใหญ่โตน่าเกรงขามที่แผ่กลิ่นอายความเย็นเยือกออกมาโดยรอบพลันปรากฎขึ้น เงาร่างของพญาหงส์แดงอัคคีสุริยะมหาสวรรค์ก็ปรากฏอยู่ตรงด้านข้างแม้ว่าตอนนี้จะมีรูปลักษณ์เป็นเพียงหงส์แดงอัคคีสุริยะมหาสวรรค์ตัวน้อยเเต่ทว่าเปลวเพลิงสุริยะธาตุอันเป็นต้นกำเนิดเเห่งธาตุไฟบริสุทธิ์ที่เเผ่พุ่งออกมารอบตัวนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันพิศดารที่ไม่สามารถดูเเคลนอันใดได้ไม่ต้องให้หนิงอ้ายเอ่ยสิ่งใดทั้งสิ้นเงาร่างของสัตว์อสูรทั้งสองนั้นต่างพุ่งเข้าโจมตีและกัดกินจิตอาฆาตของอสูรราชันย์วิหคอัคคีมายาในทันที เเสงสีฟ้าอันเกิดจากอสรพิษเหมันต์บรรพกาล เเสงสีเเดงทองอันเกิดจากพญาหงส์แดงอัคคีสุริยะมหาสวรรค์ได้ประสานหล่อหลอมเป็นกรงกักขังสามสีขนาดใหญ่มีดวงจิตของราชันย์วิหคอัคคีมายาไว้ด้านใน เปลวเพลิงแห่งอัคคีและพิษเหมันต์ต่างเข้าโรมรันโจมตีอย่างต่อเนื่องเพียงชั่วครู่เดียวดวงจิตอาฆาตของราชันย

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่​47 ใครให้ความกล้าพวกเจ้า

    พื้นที่โดยรอบในรัศมีสองลี้ ปรากฎเป็นโดมอัคคีสีขาวคลอบคลุมบริเวณโดยรอบเอาไว้อย่างแน่นหนา ม่านปราการของเขตแดนปราการอัคคีเหมันต์นี้มีความเเข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังปิดกันการรับรู้และปกปิดสายตาของผู้ที่อยู่ภายนอกได้ทั้งสิ้น มากไปกว่านั้นบทเวทย์เขตแดนนี้ยังส่งผลให้ผู้ฝึกตนที่มีพลังปราณธาตุน้ำ ที่เป็นฝั่งศัตรูตรงข้ามนั้นต่างได้รับผลกระทบ โดยที่พลังวิญญาณจะลดลงครึ่งหนึ่งทำให้เกิดความได้เปรียบยิ่งนักกับสถานการณ์เช่นนี้เป็นอย่างมากบทเวทย์เขตแดนนี้แม้จะเต็มเปี่ยมไปด้วยข้อดีที่ได้เปรียบเป็นอย่างมากก็จริง ถึงอย่างไรนั้นข้อเสียของบทเวทย์เขตแดนนี้คือผู้ที่ร่ายบทเวทย์จะสูญเสียพลังลมปราณเป็นอย่างมาก หนิงอ้ายที่ตอนนี้แม้จะเป็นผู้ฝึกตนราชทินนามจักรพรรดิวิญญาณขั้นสูงที่มีรากฐานบ่มเพาะเเข็งแกร่ง เเต่ด้วยความแตกต่างของพลังวิญญาณและระดับของบทเวทย์ก็ทำให้หนิงอ้ายนั้นถูกดูดพลังวิญญาณออกไปจนสามารถเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าเลยทีเดียว"ทำให้ข้าเห็นว่าพวกเจ้ามีความสามารถฝ่าเขตแดนของข้าออกไปได้อย่างไร?? " หนิงอ้ายเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกกระบี่วารีหมอกรุ้งพิสุทธิ์เหมันต์พุ่งเข้าโจมตีอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เมื่อเป็นเช่นนั

    Last Updated : 2025-03-06
  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่48 การยกระดับของเจียวซิ่น

    "เป็นอย่างไรบ้างเจียวซิ่น รับรางวัลของเจ้าได้แล้ว..." หนิงอ้ายใช้ฝ่ามือลูบไปยังส่วนที่คล้ายกับลำต้นไปเบา ๆ พร้อมกับผายมือไปทางฝั่งของร่างไร้วิญญาณของเหล่านักฆ่าสังหารที่ถูกรวบรวมไว้ตรงจุดเดียวกันตรงด้านหน้า รยางค์สีเขียวน้ำตาลเข้มนับร้อยเส้นได้พุ่งเข้าจับร่างไร้วิญญาณเหล่านี้อย่างแน่นหนา ก่อนจะถูกดึงเข้าสู่กับดักบุปผามรณะที่ตอนนี้กำลังชูช่อเบ่งบานอยู่โดยรอบ กลิ่นหอมเย้ายวนล่องรอยตามสายลมชวนให้ผ่อนคลายจิตใจแก่ผู้พบเห็น ถึงแม้ว่าหนิงอ้ายกับลู่ซีจะเคยเห็นภาพตรงหน้านี้แล้วหลายครั้งยังอดที่จะชื่นชมไม่ได้แต่สำหรับองครักษ์ทั้งสี่คนต่างถูกมอมเมาด้วยภาพตรงหน้าและกลิ่นหอมอันเย้ายวนชวนหลงไหลจนยากที่จะต้านทานได้ของกับดักดอกไม้มรณะของเจียวซิ่น เเต่ถึงอย่างนั้นทุกคนในที่นี้ต่างเป็นผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงและมีจิตสัมผัสที่ดีเยี่ยมจากการฝึกฝนอย่างหนักของตระกูลหวังดังนั้นเพียงชั่วครู่ทุกคนต่างรู้สึกตัวและรับรู้ได้ว่าภาพตรงหน้านี้ไม่ต่างไปจากความงดงามที่อันตรายยิ่ง"ดูเหมือนว่าร่างไร้วิญญาณของนักฆ่าเหล่านี้จะช่วยพัฒนาและยกระดับพลังของอสูรพฤกษาของคุณชายเล็กได้ใช่หรือไม่ขอรับ?? "ชายหนุ่มที่เป็นหัว

    Last Updated : 2025-03-06

Latest chapter

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   ( -จบเล่ม ปฐมบท 3.2- ) บทที่ 174 ความวุ่นวายที่สิ้นสุดลง

    ความกังวลแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของทุกคนขณะที่พวกเขาเฝ้าดูการเผชิญหน้ากับอสูรมารจางหมิ่นที่เทียบเท่ากับราชทินนามเทพสวรรค์วิญญาณขั้นสูง พวกเขารู้ดีว่าผู้อาวุโสหนุ่มผู้นี้เป็นราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณที่แข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ แต่อย่างไรคู่ต่อสู้ของเขานั้นก็ทรงพลังอย่างหาที่เปรียบมิได้เช่นกัน ยามนี้จางหมิ่นในสภาพอสูรมารนั้นมีพละกำลังมหาศาลมีความเร็วที่เหลือเชื่อและความสามารถในการฟื้นฟูที่น่าทึ่งทั้งยังสามารถทนทานต่อการโจมตีได้อย่างไม่เพลี่ยงพล้ำ และการโจมตีของเขานั้นรุนแรงพอที่จะสังหารราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณที่อ่อนด้อยได้อย่างไม่ยากนักแม้จะต้องเผชิญกับอสูรมารที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับราชทินนามเทพสวรรค์วิญญาณขั้นสูงแต่หนิงอ้ายกลับไร้ซึ่งความหวาดหลัวแต่อย่างใด สิ่งนี้กลับชวนให้เขาหวนคิดไปถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแห่งการสังหารในครั้งนั้น แก่นแท้แห่งการต่อสู้ จิตสังหารที่ดิบเถือนบ้าคลั่งที่เคยสะกดไว้คล้ายกำลังถูกปลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องร้องขอกลิ่นอายอหังการที่แข็งแกร่งไม่ธรรมดาของราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณขั้นกลางที่มีรากฐานบ่มเพาะลึกล้ำชวนให้ผู้ที่เคยกังขาถึงความเป็นมาและความสามารถของผู

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 173 สมบัติเทพมารจุติ

    ท่ามกลางความมืดมิดแห่งอนธการที่ได้ปกคลุมทั่วทั้งสนามประลอง บริเวณโดยรอบต่างอัดแน่นไปด้วยความชั่วร้ายและความสิ้นหวัง ม่านพลังพิสดารสายนี้ส่องประกายสีดำม่วงเข้มประกายริ้วคลื่นแผ่กระจายทั้งยังก่อตัวเป็นกำแพงหนาที่ไม่อาจมองทะลุผ่านได้ มากไปกว่านั้นม่านพลังผืนนี้ยังดูดกลืนพลังปราณฟ้าดินโดยรอบเข้ามาเสริมแกร่งอีกด้วย แม้ว่าบรรดาผู้อาวุโสหลายคนจะพยายามโจมตีหรือใช้สมบัติวิเศษเข้าขัดขวางการทำงานแต่ก็ไร้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้"สมบัติเทพมารจุติอย่างนั้นรึ? เป็นไปได้อย่างไรกัน!!!" กุ้ยเจินหรือเจ้าตำหนักศาสตร์แห่งค่ายกลเอ่ยด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ไม่คิดว่าจางหมิ่นที่เป็นผู้ขายวิญญาณนั้นจะครอบครองสมบัติมารระดับสูงเช่นนี้ได้"มันคือสิ่งใดกันสมบัติเทพมารจุติที่เจ้าเอ่ยถึง..." รุ่ยเหอผู้เป็นรองเจ้าสำนักศึกษาและเจ้าตำหนักศาสตร์แห่งการต่อสู้เอ่ยถามด้วยความสงสัย"สมบัติเทพมารจุติเป็นที่เล่าขานกล่าวกันว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่เกิดจากการหลอมรวมพลังของเทพและมารเข้าด้วยกันจึงทำให้สมบัติวิเศษชิ้นนี้มีพลังอำนาจมหาศาลสามารถบันดาลสิ่งที่ปรารถนาได้ทุกประการ โดยเชื่อกันว่าเมื่อครั้งอดีตกาลมีมหาเทพเทพสองตนที่ทรงพลังยิ่ง

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 172 การปรากฎตัวของผู้ขายวิญญาณ

    คราแรกที่ลู่ซีได้ยินว่าศิษย์ใหม่นามว่าจางหมิ่นนั้นเอ่ยวาจาส่อเสียดหนิงอ้ายเขาก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขารู้ดีว่าหนิงอ้ายไม่ได้ปรากฎตัวในสำนักนับเป็นเวลาสิบปีแล้วจึงไม่มีผู้ใดคุ้นเคยหรือพบเห็นหน้ามาก่อน ยิ่งการกลับมาครั้งนี้รูปลักษณ์ของเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งหนิงอ้ายยังเป็นผู้ร้องขอว่ายามนี้ควรปกปิดตัวตนของเขาไปเสียก่อน ด้วยเพราะไม่ล่วงรู้ว่าบรรดาศิษย์ใหม่ที่ผ่านการทดสอบในปีนี้ได้มีผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่เป็นสายข่าวของเผ่าพันธ์มารปีศาจที่ถูกส่งตัวมาหรือไม่ แม้ความลับนี้อาจจะเก็บไว้ได้ไม่นานแต่อย่างน้อยท่ามกลางการทดสอบฝีมือเพื่อคัดเลือกเข้าตำหนักนี้ย่อมสามารถสังเกตุอาการพิรุจผิดปกติจากที่ควรจะเป็นได้“ป้ายหยกชั่วคราวลำดับที่เจ็ด ข้าต้องการประลองกับผู้อาวุโสท่านนั้นขอรับ!!” เสียงของศิษย์ใหม่คนหนึ่งดังขึ้นเรียกความสนใจจากบรรดาศิษย์สืบทอดและศิษย์หลักของตำหนักทั้งสี่ที่ยืนเรียงอยู่ด้านหน้าเพื่อรอเข้าทดสอบเป็นคู่ประลองกับเหล่าศิษย์ใหม่ แม้คำกล่าวนี้จะไม่ได้เอ่ยชื่อแต่ทุกคนในที่นี้ย่อมกระจ่างใจดีว่าถ้อยคำนี้เจาะจงถึงผู้ใด“กฎเกณฑ์เงื่อนไขในการทดสอบคัดเลือกเข้าสังกัดต

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 171 ผู้ท้าทายที่กล้าหาญ

    การทดสอบศิษย์ใหม่ในปีนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกฎเกณฑ์การทดสอบกล่าวว่าเป็นที่น่าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย บรรดารุ่นเยาว์ชายหญิงเหล่านี้ต่างตั้งตารอที่จะได้ประลองกับศิษย์ผู้สืบทอดหรือศิษย์หลักของตำหนักทั้งสี่ด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม พวกเขารู้ดีว่าการประลองครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้แสดงความสามารถของตนเองและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าพวกเขาคู่ควรที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสำนักศึกษาแห่งนี้ แม้ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของการทดสอบจะออกมายอดเยี่ยมมากเพียงใดแต่สิ่งหนึ่งที่คาดเดาได้นั่นคือการประลองครั้งนี้จะต้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความท้าทายอย่างแน่นอนศิษย์ใหม่ประจำปีการศึกษาจำนวนห้าคนแรกที่ต้องทำการประลองแสดงฝีมือนั้นถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะยามที่ได้ยินเสียงเรียกหมายเลขของป้ายหยกที่พวกเขาถือครองอยู่ ด้วยเพราะไม่เตรียมใจว่าจะได้ลงทดสอบรวดเร็วถึงเพียงนี้ จากนั้นบรรดาสหายและผู้ที่อยู่ใกล้เคียงต่างได้เข้าไปอวยพรให้พวกเขาทำให้ดีที่สุด จากนั้นพวกเขาจึงได้ก้าวเท้ามุ่งตรงไปยังลานประลองที่มีศิษย์สืบทอดและศิษย์หลักทั้งสี่ที่ยืนเรียงเฝ้ารอคอยว่าพวกเขานั้นจะเลือกใครในการทดสอบความสามารถครั้งนี้แน่นอนว่าศิษย์

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 170 กฎเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

    หนิงอ้ายได้เล่าถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านไท่หลุนเมื่อสิบปีก่อนอย่างละเอียด ทุกคนในสำนักศึกษาต่างตั้งใจฟังด้วยความสนใจและตกใจไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเผ่าพันธุ์มารปีศาจได้วางแผนการชั่วร้ายเช่นนี้มานานหลายปีเช่นนี้ ยิ่งเมื่อหนิงอ้ายเล่าถึงแผนการลับของเผ่าพันธุ์มารปีศาจที่ได้ยินแม่ทัพมารเอ่ยถึงในครั้งนั้น บางเหตุการณ์ก็ตรงกับข้อมูลที่หน่วยสืบข่าวของสำนักศึกษาสืบค้นได้เจ้าสำนักและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ต่างก็กังวลใจเป็นอย่างมาก พวกเขารู้ดีว่าหากเผ่าพันธุ์มารปีศาจประสบความสำเร็จในแผนการแล้ว โลกยุทธภพแห่งนี้คงจะต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตามทุกคนต่างชื่นชมในความกล้าหาญและความเสียสละของชายหนุ่มตรงหน้า เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ส่งผลให้หนิงอ้ายกลายเป็นวีรบุรุษและถูกเลื่อนระดับเป็นผู้อาวุโสสายในของสำนักศึกษาด้วยความเห็นชอบจากเจ้าสำนัก รองเจ้าสำนัก เจ้าตำหนักทั้งสี่รวมไปถึงบรรดาผู้อาวุโสต่าง ๆ ล้วนเห็นด้วยทั้งสิ้นจากนั้นหนิงอ้ายได้เล่าถึงเรื่องราวการหวนคืนกลับมามีกายเนื้อนี้อีกครั้งให้ทุกคนได้รับรู้แต่ก็ปกปิดบางส่วนที่เขาคิดว่าสมควร

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 169 ผู้ผ่านการทดสอบ

    ท่ามกลางหุบเขาน้อยใหญ่สูงเสียดฟ้าที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาและหิมะสีขาวบริสุทธิ์โปรยปรายอันเป็นลักษณะภูมิศาสตร์ที่โดดเด่นของสำนักศึกษาเหมันต์พันตะศักดิ์สิทธิ์ บรรดาอาคารสิ่งก่อสร้างในสำนักศึกษาต่างถูกตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงรวมไปถึงพื้นที่โดยรอบต่างประดับประดาด้วยโคมไฟเวทย์หลากสีสันที่ส่องสว่างไสวให้ความรู้สึกอลังการเพื่อเป็นการต้อนรับเหล่าบรรดาผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์จากทั่วทุกสารทิศที่หลั่งไหลเข้ามาร่วมการทดสอบพร้อมกับความหวังและความฝันที่จะก้าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสำนักศึกษาอันทรงเกียรติแห่งนี้ซุ้มประตูสำนักที่ถูกสร้างขึ้นจากแร่ผลึกอัมพรสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอันเป็นวัสดุสินแร่หายากในยุทธภพนี้ได้ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงได้เปิดออกกว้างเพื่อต้อนรับผู้มาเยือนที่หลังจากนี้ย่อมกลายเป็นส่วนหนึ่งเดียวกันโดยมีผู้อาวุโสและศิษย์รุ่นพี่ที่ยืนคอยต้อนรับด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น เมื่อการทดสอบสิ้นสุดลงบรรดาศิษย์ใหม่ที่พึ่งผ่านการทดสอบต่างก้าวเดินเข้ามาด้วยความตื่นเต้นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความประหม่าหลังจากบรรดาผู้ผ่านการทดสอบทั้งหมดได้เข้ามาโดยพร้อมเพรียงแล้ว บริเวณลานกว้างหน้าสำนักศึกษายามนี้ต่างคลาคล่ำไปด้วยผู้ฝึกต

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 168 เดินทางกลับสำนักศึกษา

    มหาพิภพพิสดารแห่งนี้ประกอบไปด้วยสามพิภพ สี่มหาสมุทร แปดมหาทวีป โดยที่สามพิภพนั้นจะแบ่งเป็นดินแดนพิภพระดับสูง ดินแดนพิภพระดับกลางและพิภพระดับล่าง โดยมีสี่ทะเลมหาสมุทรตั้งอยู่ 4 ทิศล้อมรอบที่เชื่อว่าเป็นที่พักพิงของเทพบรรพกาลสูงสุดทั้งสาม และแปดมหาทวีปที่ได้มีการแบ่งการปกครองตามทิศทั้งแปดของดินแดนพิภพระดับกลาง ด้วยเพราะต่างมีผู้ปกครองดินแดนอันเป็นตัวตนที่ไม่ธรรมดาสามัญทั้งสิ้น ดังนั้นการเดินทางข้ามผ่านแต่ละเขตดินแดนจึงจำเป็นต้องมีเงื่อนไขกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันไปสำหรับการเดินทางข้ามเขตแดนทั้งสามพิภพโดยเฉพาะดินแดนพิภพระดับสูงและดินแดนพิภพระดับกลางนั้น เงื่อนไขสำคัญคือผู้ฝึกตนที่บ่มเพาะพลังปราณในดินแดนพิภพระดับกลาง หากไม่สามารถเลื่อนระดับเป็นราชทินนามอัครพรหมยุทธ์วิญญาณหรือครอบครองพลังวิญญาณในระดับที่101ได้ย่อมไม่อาจก้าวล้ำมายังดินแดนพิภพระดับสูงนี้ได้ด้วยขีดจำกัดของกายเนื้อที่ไม่สามารถรองรับพลังปราณฟ้าดินบริสุทธิ์เข้มข้นที่ไหลเวียนหล่อเลี้ยงทั่วทั้งมหาพิภพ เพราะหากไร้ซึ่งความแข็งแกร่งของสายโลหิตและพลังปราณที่ล้ำลึกที่เพียงพอ ไม่กี่ชั่วลมหายใจร่างกายและจิตวิญญาณย่อมถูกบดขยี้ไปสิ้นแต่ในทางก

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 167 การเลื่อนระดับที่เหนือล้ำ

    ไม่น่าเชื่อว่าเพียงหนึ่งราตรีที่ผ่านพ้น สำนักหมาป่าทมิฬจะถูกฆ่าล้างสำนักจนไม่เหลือแม้แต่ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว การจู่โจมโดยไม่อาจตั้งตัวนั้นได้ส่งผลให้เหล่าสมาชิกในสำนักต้องสังเวยชีวิตอย่างน่าสลดใจ สิ่งนี้กล่าวว่าได้สร้างความตื่นตะลึงแก่กลุ่มอิทธิพลมืดในยุทธภพอยู่ไม่น้อย แม้ว่าสำนักหมาป่าทมิฬจะเป็นสำนักที่พึ่งก่อตั้งได้ไม่กี่สิบปีแต่ก็มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านความโหดเหี้ยมและไร้ความปรานี การล่มสลายของสำนักในครั้งนี้จึงกลายเป็นปริศนาที่ยากจะคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นสิ่งที่น่าตื่นตะลึงนั่นคืออดีตผู้ก่อตั้งสำนักนั้นเป็นถึงราชทินนามเทพสวรรค์วิญญาณที่มีรากฐานบ่มเพาะไม่ธรรมดาสามัญรวมไปถึงเจ้าสำนักคนปัจจุบันนั้นก็เป็นราชทินนามเทพยุทธ์วิญญาณขั้นสูงที่มากไปด้วยความสามารถไม่อ่อนด้อยแม้จะขึ้นชื่อในเรื่องของความวิปริตมากกว่าก็ตาม ไม่นับรวมถึงบรรดาผู้อาวุโสที่ล้วนต่างเป็นราชทินนามระดับสูงที่ไม่อาจดูแคลนได้ทั้งสถานที่ตั้งยังรายล้อมไปด้วยมหาค่ายกลเขตแดนธรรมชาติที่ใช่ว่าจะสามารถบุกฝ่าทะลวงไปได้โดยง่าย ข่าวการกวาดล้างสำนักหมาป่าทมิฬได้แพร่สะพัดออกไปราวกับไฟลามทุ่ง ไม่รู้ว่าทางสำนักได้ไปรับภารกิจหรือได้ล

  • บุปผากลางใจจอมจักรพรรดิ   บทที่ 166 ความร่วมมือ

    ท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดและเศษซากร่างไร้วิญญาณของศัตรูที่พ่ายแพ้ หนิงอ้ายเรียกใช้พลังปราณตวัดเอาแหวนมิติและสมบัติวิเศษประจำตัวของผู้ตกตายทั้งหมดย้ายเข้ามาในแหวนมิติของตนอย่างไรสิ่งเหล่านี้ย่อมสามารถทำประโยชน์ได้อยู่ไม่น้อย ในใจเขาไม่นึกรังเกียจเลยเพียงนิด การเข่นฆ่าสังหารแล้วช่วงชิงสิ่งของของผู้ที่ตกตายไปนั้นเป็นสิ่งที่พบเจอได้ทั่วไปในยุทธภพจากนั้นหนิงอ้ายได้ระดมเรียกเปลวเพลิงบริสุทธิ์จากปราณทิวาธาตุเข้าแผดเผาเศษซากชิ้นเนื้อรวมไปถึงจิตวิญญาณของบรรดานักฆ่าเหล่านี้ให้สูญสลายโดยไม่อาจหวนคืนในวัฏจักรสังขารได้อีก จากเศษเสี้ยวความทรงจำที่เขาสัมผัสได้นั้นคนกลุ่มนี้หาใช่เป็นคนดีแต่อย่างใด ตลอดช่วงอายุที่ผ่านมาก็ล้วนแต่กระทำต่ำช้า สังหารผู้บริสุทธิ์มาไม่น้อย เพียงเท่านี้ย่อมไม่อาจชดเชยได้เสียด้วยซ้ำไม่ถึงครึ่งเค่อให้หลัง ห้วงมิติที่ถูกผนึกไว้เมื่อไร้ซึ่งผู้บัญชาการยามนี้ม่านพลังประหลาดดังกล่าวจึงได้ซ่านสลายไปในที่สุด เผยให้เห็นหมู่เมฆาที่ล่องลอยประดับเหนือท้องฟ้า เสียงแมลงน้อยใหญ่ดังขึ้นทั่วทั้งผืนป่าโดยรอบขับขานบรรเลงสอดประสานเป็นท่วงทำนองเสนาะหู แสงไฟเวทย์จากอาคารบ้านเรือน เสียงโหวกเหวกโวยวาย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status