“เจ้าค่ะสวีหมัวมัว / เจ้าค่ะสวีหมัวมัว” หลี่เมิ่งเหยาส่งสายตาให้นกน้อย บินไปสำรวจในเรือนล่วงหน้า ส่วนนางก็ทำเป็นอยากเข้าห้องสุขาก่อน นางกำนัลไม่อาจปฏิเสธได้ เดินนำหน้าพาทั้งคู่ไปยังห้องสุขาด้านหลัง นางใช้เวลาทำธุระส่วนตัวนานเป็นพิเศษ ให้นางกำนัลทั้งสองกับเซี่ยโหวหลิ่งจือ รออย
85 : ใครทำลายพรหมจรรย์ของข้ารึ ! เสี่ยวไฉรู้สึกขนลุกชันหลังได้ยิน นึกอยากถอนตัวหันหลังกลับ ทว่าผลอิงหลิวที่หลี่เมิ่งเหยายื่นมาตรงปาก ทำมันลืมความตั้งใจแรกไปจนสิ้น เซี่ยโหวหลิ่งจือเห็นนางกลับมาแล้วก็โล่งอก พวกนางพากันนั่งเล่นอยู่ศาลาริมน้ำแห่งนี้ไปพลาง ๆ “พี่เมิ่งเ
บนเตียงนอนมีบุรุษผู้หนึ่งกำลังลุกขึ้นนั่ง ด้านบนไร้อาภรณ์สวมใส่ มีเพียงกางเกงนอนสีขาวตัวเดียว ผมเผ้าเขายุ่งเหยิงและกำลังตกใจ กับเสียงกรีดร้องของเหล่าสตรี ด้านหลังของเขาเป็นแผ่นหลังเปลือยขาวนวล โผล่พ้นผ้าห่มออกมาเล็กน้อย เส้นผมสีดำสลวยพาดยาวลงมา เพียะ ! “เดรัจฉาน !
86 : ว่าแต่คนบนเตียงนั่นเป็นใครกันล่ะ หลี่เมิ่งเหยาหันมามองจางห้าวเหยี่ยน ก่อนหันไปทางฮู่กุ้ยเฟยอีกครั้ง “เหตุใดห้องเปลี่ยนชุดสตรีในตำหนักของฮู่กุ้ยเฟย ถึงได้มีบุรุษเข้ามานอนอยู่ในนี้ได้ล่ะเพคะ หากหม่อมฉันกับจือจือเปลี่ยนชุดไปแล้ว เขาผู้นี้เปิดประตูเข้ามาเห็นเรือนร่างของพวกเร
เฉินอวิ้นหยางให้ท้ายบุตรสาว เพราะนางเองก็แค้นใจ ที่ถูกแย่งชิงตำแหน่งองค์หญิงไปเหมือนกัน หากไม่จัดการอะไรสักอย่าง นางคงนอนตายตาไม่หลับ “ท่านแม่ท่านมีแผนดี ๆ หรือเจ้าคะ” นางยกฝ่ามือลูบศีรษะบุตรสาวเบา ๆ “เจ้าว่าสตรีพิการหรือใบหน้าเสียโฉม จะยังมีใครต้องการอยู่หรือไม่”
87 : แมวก็คือแมว เจ้ามองยังไงว่ามันโกรธ เซี่ยโหวหานเฟิงอยากพูดอะไรออกมาอีก แต่เขายังไม่มั่นใจ ไม่ช้ารถม้าก็จอดอยู่หน้าจวนองค์หญิง เขาไม่ได้เข้าไปส่งด้านใน ทำเพียงยืนส่งนางที่หน้าประตู แล้วกลับไปยังจวนของตนเอง นึกด่าทอตนเองในอดีต ไม่น่ายื่นมือเข้าไปช่วยเหลือฮู่อวิ้นเซียน ที่กำลังถูกรถม้าข
“นางก็แค่นอนกลางวันแปลกตรงไหน” แม่ทัพเซี่ยโหวมองเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ สตรีสูงศักดิ์บางคนยังชื่นชอบการนอนกลางวัน “น่าเสียดายข้าว่าจะชวนพี่เมิ่งเหยาไปวัดฝูอันด้วย” เซี่ยโหวหลิ่งจือทำหน้าเศร้าเล็กน้อย “จือจือเจ้าได้เข้าไปหานางที่เรือนไหม” คนเป็นพี่ชายเอ่ยขึ้นบ้าง
88 : เสี่ยวไฉก็เหมือนคนในครอบครัวของเรา หลิวอี๋เฉินจึงอธิบายให้นางเข้าใจ “ได้ยินว่าเมืองอื่น ๆ ประสบภัยหนาว ชาวบ้านจึงลี้ภัยมาเรื่อย ๆ บางส่วนก็ทยอยเข้าเมืองหลวงมาเพคะ ส่วนคนที่เข้าไม่ทันประตูเมืองหลวงปิด ก็ต้องตกค้างอยู่ข้างนอกกำแพง” “เหตุใดไม่เปิดเป็นกรณีฉุกเฉิน
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว