นางเล่าสั้น ๆ กระชับและได้ใจความ และไม่ต้องคิดถามไถ่เรื่องอื่นต่อ “แม่เจ้าไม่มาด้วยรึ” หลี่หย่วนเจ๋อยังถามต่อ “ข้าถามนางก่อนมาแล้ว ท่านแม่บอกว่าเลิกรากันแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องพบเจอกันอีก” หลี่เมิ่งเหยาตอบตามจริง หลี่หย่วนเจ๋อทำหน้าโกรธขึ้งขึ้นมา อยากตำหนินางกับม
78 : เจ้าไม่ต้องมาเหน็บแนมข้า เซี่ยโหวหานฟิงยกหลังมือปิดปาก เขาดึงอารมณ์กลับแทบไม่ทัน สองพี่น้องคู่น้องช่างตลกเสียจริง “เมิ่งเหยาข้าเห็นฝีเท้าเจ้า ตอนกระโดดขึ้นหลังคา ไม่ใช่ธรรมดาเลย เจ้าไปฝึกมาจากไหน” เขาพลันนึกเรื่องนี้ขึ้นได้ “ข้าก็ฝึกมาจากคนแถว ๆ บ้านนั่นแหละ”
หลิวอี๋เฉินย่อกายลง จากนั้นก็เดินไปยังห้องครัว จัดเตรียมของแห้งใส่ห่อให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เช้าจะได้นำขึ้นไปไว้บนรถม้า คันที่เสี้ยนจู่ให้คนซื้อมาใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลี่เมิ่งเหยากลับไปถึงเรือนของตนเอง นางหยิบกระดาษออกมาเขียนจดหมาย เพื่อส่งมอบให้ลุงจงได้รู้ข่าวคราว กระทั่งเรื่องกำหนดการแต่
79 : เจ้าไปร่ำรวยมาจากไหน หัวหน้าอู๋รับซองเงินมาถือไว้ เขามีความสงสัยเต็มไปหมด อยากถามนางให้กระจ่าง แต่อีกฝ่ายกลับหันหลัง เดินจากไปหาคนแซ่หลี่แล้ว หัวหน้าอู๋เก็บจดหมายใส่อกเสื้อ แกะซองเงินที่หลี่เมิ่งเหยาให้มา สินน้ำใจเล็กน้อยของนางช่างไม่ธรรมดา มีราคาตั้งสามร้อยตำลึง การเดิน
“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เองว่าเสี่ยวหยวนมีความสามารถถึงหรือไม่ ทำไงได้นางไม่เคยสอบวัดระดับความรู้เขาเปรียบเทียบกับผู้อื่น เน้นให้เขาได้กินได้เล่นอย่างเต็มที่ ขณะที่พวกเขาเดินทางไปสำนักศึกษา ขบวนรถม้าของหัวหน้าอู๋ ได้ผ่านด่านประตูเมืองหลวงผิงอานออกไป จี้ชิวหรงยังไม่ลืมเรื่อง
80 : ข้ากลัวท่านแล้ว แต่พอเข้าไปจริงแล้ว อาจารย์ของสำนักศึกษากลับปฏิเสธพวกเขาทันที บอกว่าสำนักศึกษาไม่มีนโยบายรับเด็กระหว่างเทอม เพราะจะทำให้เรียนตามผู้อื่นไม่ทัน อย่างไรต้องรอให้เปิดการศึกษาใหม่เสียก่อน ซึ่งต้องรออีกสามเดือน เซี่ยโหวหานเฟิงเห็นว่าไหน ๆ ก็มาแล้ว จึงขอให้เสี่ย
“เอ่อ พ่ะย่ะค่ะ” ใบหูของเซี่ยโหวหานเฟิงค่อย ๆ แดงระเรื่อขึ้นมา ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยเรื่องงานแต่งออกมา “ข้าไปส่งท่านเอง” เกรงว่ามารดาจะเอ่ยคำพูดเหลวไหลออกมาอีก หลี่เมิ่งเหยาจึงรีบลุกขึ้น เดินนำหน้าเขาออกจากห้องโถงไป “กระหม่อมทูลลาพ่ะย่ะค่ะ” เซี่ยโหวหานเฟิงแทบจะวิ
81 : ข้าเห็นสุนัขจิ้งจอกวิ่งบนหลังคาจริง ๆ นะ เหลือแค่หลังม่านน้ำตกที่นางยังไม่ได้ดู คิดได้เช่นนั้นก็พุ่งเข้าไปในม่านน้ำตกทันที ด้านในเป็นถ้ำค่อนข้างมืด นางคลำผนังถ้ำเดินไปสักพักก็เจอแสงสว่าง พบว่าตรงกลางถ้ำเป็นโถงโล่ง ที่สำคัญมีต้นไม้ต้นหนึ่ง ยืนต้นอยู่ตรงนี้ เงยหน้าขึ้นด้าน
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว